รวมข้อมูลทั้งหมดของคนเหล็กภาคใหม่ Terminator: Dark Fate พร้อมย้อนความจำถึงเรื่องราวในตำนาน
เรื่องย่อ Terminator: Dark Fate คนเหล็ก: วิกฤตชะตาโลก
กว่า 2 ทศวรรษ หลังจากที่ ซาราห์ คอนเนอร์สามารถช่วยโลกไว้ได้ด้วยการทำลายหุ่นเหล็กทั้งหมดและหยุดวันตัดสิน หรือ Judgment Day (อ่านเรื่องราวเพิ่มเติมได้ที่ท้ายบทความ) ดานิ รามอส (์Natalia Reyes ) ซึ่งอาศัยอยู่กับพี่ชาย (Diego Boneta) ในเม็กซิโกก่อนที่หุ่นเหล็กสังหารตัวใหม่โค๊ดเนม Rev-9 (Gabriel Luna) จะถูกส่งมาจากโลกอนาคตเพื่อฆ่าเธอ โดยเธอได้รับการช่วยเหลือจาก 2 นักรบ Grace (Mackenzie Davis) มนุษย์กึ่งจักรกลจากอนาคต ที่มีภารกิจปกป้องเธอ และหญิงเหล็ก ซาราห์ คอนเนอร์ พร้อมทั้งการกลับมาช่วยเหลือของ T-800 อีกครั้ง
เว็บไซต์ที่มาข้อมูลเรื่องย่อ
อัพเดทล่าสุด รีวิว Terminator: Dark Fate คลิกอ่านได้เลย
หนังตัวอย่างฉบับพิเศษ Terminator: Dark Fate
หนังตัวอย่างฉบับปกติ Terminator: Dark Fate
James Cameron กลับมาล้างอาถรรพ์หนัง คนเหล็ก ไม่ให้เจ๊ง!
The Terminator หรือ คนเหล็ก คือหนังที่แจ้งเกิดผู้กำกับ
รายได้ของหนังคนเหล็กทุกภาค
- 1. The Terminator (1984) รายได้ 78 ล้านเหรียญสหรัฐ (ทุนสร้าง 6.4 ล้านเหรียญสหรัฐ) กำกับโดย: James Cameron ค่ายจัดจำหน่าย: Orion Pictures
- 2.Terminator 2: Judgment Day (1991) รายได้ 520 ล้านเหรียญสหรัฐ (ทุนสร้าง 102 ล้านเหรียญสหรัฐ) กำกับโดย: James Cameron ค่ายจัดจำหน่าย: TriStar Pictures
- 3.Terminator 3: Rise of the Machines (2003) รายได้ 433 ล้านเหรียญสหรัฐ (ทุนสร้าง 200 ล้านเหรียญสหรัฐ) กำกับโดย: Jonathan Mostow ค่ายจัดจำหน่าย: Sony Pictures (ทั่วโลก) และ Warner Bros.(เฉพาะสหรัฐอเมริกา)
- 4.Terminator: Salvation (2009) รายได้ 371 ล้านเหรียญสหรัฐ (ทุนสร้าง 200 ล้านเหรียญสหรัฐ) กำกับโดย: McG ค่ายจัดจำหน่าย: Sony Pictures (ทั่วโลก) และ Warner Bros.(เฉพาะสหรัฐอเมริกา)
- 5.Terminator: Genisys (2015) รายได้ 440 ล้านเหรียญสหรัฐ (ทุนสร้าง 155 ล้านเหรียญสหรัฐ) กำกับโดย: Alan Taylor ค่ายจัดจำหน่าย: Paramount Pictures
คะแนนวิจารณ์ภาคหลังสุด Terminator: Genisys ดิ่งเหว แม้ทำรายได้มีกำไรไปพอสมควร แต่เป็นรายได้จากประเทศจีนเป็นหลัก ในขณะที่อเมริกาคว่ำไม่เป็นท่า ทำรายได้ไปเพียง 89 ล้านเหรียญสหรัฐ
ซึ่งเป็นเหตุผลหลักที่ทางพาราเมาท์ระงับการสร้างคนเหล็กไตรภาคใหม่ต่อจาก Genisys และให้ James Cameron กลับมาเป็นผู้อำนวยการสร้างพิเศษร่วมกับ ทิม มิลเลอร์ จาก Dead Pool ในตำแหน่งผู้กำกับ ซึ่งในภาค Dark Fate นี้ ผู้กำกับได้ออกมาให้สัมภาษณ์เอาไว้ว่าคนเหล็กภาคนี้จะเป็นภาพยนตร์ที่มาเพื่อลบรอยด่างพร้อยที่เกิดขึ้นกับเฟรนไชส์ โดยเขาพูดไว้ว่า…
“ผมคิดว่าเฟรนไชส์นี้มันมีรอยด่างพร้อยอยู่นะครับ ผมไม่ได้จะดูหมิ่นหนังเรื่องอื่น ๆ นะครับ บางเรื่องนั้นน่าสนใจมากเลย แต่ผมรู้สึกว่าพวกเขาแค่อยากจะเป็นส่วนหนึ่งในโลกของ The Terminator เท่านั้นเอง มันต่างออกไปนะครับ
…ใน Terminator 2 มันมีหลายเหตุการณ์เกิดขึ้นที่พร้อมจะแตกย่อยไปอีกมากมาย เป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่อยู่ในความทรงจำของใครหลายคน…”
นอกจากนี้เจมส์ คาเมรอนยังบอกว่าไว้ว่าไม่ได้มาเพื่อแค่ทำภาคนี้ภาคเดียว แต่วางแผนทำไตรภาค! เพียงแต่ต้องรอผลลัพธ์รายได้ที่เกิดขึ้นซะก่อน ซึ่งก็ต้องรอลุ้นกันต่อไปว่า Terminator: Dark Fate หลังเจมส์กลับมาคุมงานสร้างเอง จะล้างอาถรรพ์คนเหล็กจากภาคหลังที่เขาไม่ได้มีส่วนร่วมได้หรือไม่!
หนังคนเหล็กที่ขาดอาร์โนลด์ไม่ได้
เมื่อพูดถึง “คนเหล็ก” เชื่อว่าจุดขายที่ทุกคนจะนึกถึงเป็นอันดับแรกคือ ดาราตัวพ่ออย่าง Arnold Schwarzenegger นั่นเอง เรียกว่าภาคไหนไม่มีเขานั่นไม่น่าจะใช่คนเหล็กของแท้แน่นอน ซึ่งแน่นอนภาคใหม่ 2019 นี้ก็ย่อมขาดเขาไปไม่ได้ ถึงแม้ปัจจุบันนี้ อาร์โนลด์จะอายุ 72 ปีแล้วก็ตาม (อาร์โนล์ดเกิด 30 กรกฎาคมเจมส์ก็ยังต้องดึงคุณปู่คนเหล็กกลับมาเป็นตัวชูโรงอยู่ดี
โดยในภาคนี้ Arnold Schwarzenegger กลับมารับบทหุ่นเหล็ก T-800 ซึ่งการปรากฎตัวของเขายังเป็นปริศนาอยู่ เพราะหลังจากภาค 2 เราทุกคนเห็นแล้วว่า ซาราห์นั้นได้ส่ง T- 800 ลงไปในบ่อหลอมละลายแล้ว แล้วเขากลับมาได้ยังไง??? อีกทั้งสภาพพร่างกายยังเหี่ยวย่นและแก่ตามกาลเวลา นอกจากนั้นยังแสดงสีหน้ามีอารมณ์ความรู้สึกเหมือนมนุษย์ รวมถึงการตัดสินใจทำสิ่งต่างๆ ด้วยตัวเองโดยไม่ต้องมีคำสั่งโปรแกรมไว้อีกต่อไป ซึ่งจากตัวอย่างซาร่าเองก็ไม่เชื่อนักว่านี่จะเป็นหุ่นที่ช่วยฝ่ายมนุษย์เหมือนกับที่ภาค 2 Judgment Day ทำเอาเราน้ำตาไหลไปกับจุดจบของ T-800 ที่ยอมสละชีพตนเองลงไปในบ่อหลอมโลหะตามหลังหุ่นสังหาร T-1000 หลังรับรู้อารมณ์ความรู้สึกของมนุษย์จาก “จอห์น คอนเนอร์” ในวัยเด็กที่ออกคำสั่งไม่ยอมให้เขาเสียสละตัวเอง ซึ่งซาร่าในตอนจบภาคนั้นเริ่มมีความหวังหลังจากเหตุการณ์นี้ว่า อาจจะมีอนาคตที่หุ่นจักรกลเรียนรู้การร่วมอยู่กับมนุษย์ได้
นอกจากภาคหนังโรงแล้วอาร์โนลด์ยังเคยไปปรากฎตัวในหนังลงยูทูบให้กับแฟนๆ ที่สร้างคนเหล็กภาคแฟนฟิคเพิ่มอีกด้วย
เบื้องหลัง Terminator Genisys: The YouTube Chronicles
Terminator: Dark Fate คือภาคสุดท้ายของ Sarah Connor
Tim Miller ได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงในตัวของซาราห์ คอร์เนอร์ ที่ทั้งหมดมันมีผลมาจากตอนจบของ T2: Judgement Day ซึ่งเป็นผลกระทบจากการตัดสินใจของซาราห์ที่ตามมาเป็นอนาคตของเรื่องราวในภาค
“ทุกอย่างจะชัดเจนขึ้นในตอนที่คุณได้ดูหนังเรื่องนี้ แต่หนังทั้ง 2 เรื่องก่อนหน้าภาคนี้เล่นเรื่องราวเกี่ยวกับเวลาว่าเป็นเหมือนวังวน สิ่งที่เกิดขึ้นจะยังคงเกิดขึ้นต่อไป และทุกคนก็ต้องเผชิญหน้ากับมันอีกครั้ง แต่เจมส์ คาเมรอนได้เปลี่ยนแปลงมันในตอนจบของ Terminator 2 ในตอนที่ซาราห์ได้ทำลาย Cyberdyne นั่นคือสิ่งแรกที่เปลี่ยนไป และมันจะเปลี่ยนแปลงอนาคต แต่ยังไม่มีใครรู้ว่าจะเปลี่ยนไปยังไง ผมคิดว่าหนังหลายเรื่องที่ตามมาไม่ได้กลับไปค้นหาว่ามันเกิดอะไรขึ้นเหมือนที่เราทำ ด้วยผลกระทบที่แท้จริง และมันจะสมเหตุสมผลมากสำหรับซาราห์ที่จะกลายเป็นคนเดียวที่ต้องเผชิญกับผลกระทบนั้น”
นอกจากนี้แล้ว ลินดา ฮามิลตัน ผู้รับบทซาราห์ คอร์เนอร์เล่าถึงพัฒนาการของตัวละครนี้ที่เกิดขึ้นใน Dark Fate เอาไว้ว่า…
“เธอเป็นผู้หญิงที่ไม่ยึดติดกับอะไรอีกต่อไปแล้ว ภารกิจเดิมของเธอได้เปลี่ยนแปลงไประหว่างบทสรุปพวกนั้น และเธอไม่มีพรรคพวกอีกต่อไป เธอต้องการแค่การแก้แค้น นั่นทำให้เธอโดดเดี่ยวมาก เธอยังเป็นไพ่ตายอยู่ แต่เป็นไพ่ตายที่ไม่มีภารกิจใด ๆ ทำให้เธอเป็นคนที่คาดการณ์ไม่ได้เลยแม้แต่น้อย สำหรับเธอแล้วมันยากมากที่จะค้นหาความเป็นมนุษย์ที่ยังหลงเหลืออยู่ มันเลยเป็นอีกครั้งที่เราจะได้เดินทางไปกับเธอ ค้นลึกลงไปว่ามันเกิดอะไรขึ้นเพื่อค้นหาว่าเธอรอดชีวิตมาได้อย่างไร”
ซึ่งตามที่ผู้กำกับวางไว้ภาค Terminator: Dark Fate นี้จะเป็นภาคสุดท้ายของไตรภาคเรื่องราวของ ซาร่าห์ คอนเนอร์ อีกด้วย
Natalia Reyes กับบท Dani Ramos นางเอกคนใหม่
นาตาเลีย เรย์ส นักแสดงสาวชาวโคลัมเบียจะมารับเป็นอีกหนึ่งตัวเอกของภาคนี้ โดยรับบทเป็น Dani Ramos ฮีโร่หญิงหญิงคนใหม่ของคนเหล็ก มีบุคลลิก ตัวเล็กแต่ใจเด็ด ห้าวหาญ ไม่กลัวใคร เป็นหญิงแกร่งทำงานหนัก อาศัยอยู่แบบเรียบง่ายกับพ่อ พี่ชายและหมาน้อยคู่ใจในเมืองเม็กซิโก ก่อนที่ชะตาชีวิตจะเปลี่ยนไปเพราะถูกหุ่นเหล็กสังหาร Rev-9 จากโลกอนาคตไล่ล่าเอาชีวิตเธอ ซึ่งภาคนี้เธอจะต้องร่วมกับซาราห์และเกรซในการต่อสู้กับคนเหล็กสังหารจากโลกอนาคต และค้นหาความจริงว่าเพราะเหตุใดเธอจึงกลายเป็นเป้าหมายที่หุ่นสังหารต้องย้อนกลับมาในโลกอดีตเพื่อกำจัดเธอทิ้งเพื่อจะเปลี่ยนแปลงอนาคต
Mackenzie Davis กับบท Grace มนุษย์กึ่งจักรกลจากอนาคต
แม็คเคนซี เดวิส รับบทเกรซ (Grace) ที่บอกกับซาราห์ว่าตัวเองคือมนุษย์ที่อัพเกรดขึ้นมาจนเหนือมนุษย์ ซึ่งความสามารถของเธอมาจากการที่มนุษย์ในอนาคตโขมยเทคโนโลยีขององค์กร Legion ที่เกิดขึ้นมาใหม่แทน Cyberdyneและดัดแปลงตัวเองให้กลายเป็นครึ่งมนุษย์ครึ่งจักรกล และย้อนเวลากลับมาปกป้อง ดานิ รามอส ที่เกรซกล่าวไว้ว่าถ้าเธอตายมนุษย์จะต้องสูญสิ้นไปทั้งหมดด้วย
ความสามารถของเกรซจากที่เห็นในตัวอย่างคือ ร่างกายผสมเครื่องจักร ดวงตาสแกนข้อมูลล็อคเป้าหมายได้แม่นยำ รวมถึงพละกำลังเหนือมนุษย์
แม็คเคนซี เดวิส เป็นนักแสดงชาวแคนาดา วัย 32 ปี เธอเกิดที่เมืองแวนคูเวอร์ รัฐบริติชโคลัมเบีย ประเทศแคนาดา เธอเติบโตมาในครอบครัวที่ประกอบกิจการด้านการดูแลผม โดยแม็คเคน ซีมีผลงานแรกในภาพยนตร์เรื่อง Smashed ก่อนที่จะได้มีบทในภาพยนตร์ระดับบล็อคบัสเตอร์เรื่องแรกคือ The Martian ก่อนจะตามมาด้วย Blade Runner 2049 และตอนนี้เธอกลับมาในบท เกรซ ในภาพยนตร์เรื่อง Terminator: Dark Fate
รายละเอียดนักแสดงจากเว็บไซต์เมเเจอร์ซีนีเพล็ก
Gabriel Luna กับบทหุ่นสังหาร Rev-9 ใน Terminator: Dark Fate
Gabriel Luna หลายคนอาจจะคุ้นหน้าคุ้นตาเพราะเคยรับบทเป็น Ghost Rider ในซีรีส์ Agents of S.H.I.E.L.D มาก่อนแล้ว ส่วนใน Terminator: Dark Fate เขารับบท หุ่นสังหารรุ่นใหม่โค๊ดเนม Rev-9 ที่เกิดจากองค์กรใหม่ Legion ซึ่งก็ยังคงสร้างหุ่นสังหารออกมาไล่ล่ามนุษย์เหมือนเดิม
Rev-9 เป็นส่วนผสมของ T-800 และ T-1000 มีเป้าหมายจัดการ Dani Ramos และทุกอย่างที่ขวางทางเขา โดยมีความสามารถแบ่งร่างได้ เปลี่ยนร่างกายเป็นของมีคม เป็นโลหะเหลวที่คืนสภาพตัวเองได้ เปลี่ยนหน้าตาเป็นใครก็ได้ แต่ก็ยังมีร่างกายเป็นโครงกระดูกเหล็กภายในแบบ T-800 (endoskeleton) ด้วย แต่นี่ยังเป็นความสามารถที่เผยให้เห็นจากตัวอย่างเท่านั้น คาดว่าคงมีความสามารถอื่นเพิ่มมาอีก เนื่องจากวิธีจัดการหุ่นแบบ T-1000 ในภาคหลังก็เหมือนจะง่ายดายแล้ว (อย่างใช้กรดแรงสูงกัดกร่อน)
Edward Furlong กลับรับบท John Connor อีกครั้ง
แม้ในตัวอย่างหนังและการโปรโมทคนเหล็กภาคใหม่ดูเหมือนจะไม่มีตัวละคร จอห์น คอนเนอร์ ลูกชายคนสำคัญของซาราห์ให้เห็น แต่ข้อมูลล่าสุดที่ได้รับรายงานจากค่าย Paramount ในงาน Comic-Con 2019 ว่า Dark Fate คือการที่ภาคนี้นอกจากจะเป็นการกลับมาของArnold Schwarzenegger และ Linda Hamilton นักแสดงนำจากภาคดั้งเดิมแล้ว ยังจะมีการปรากฏตัวของนักแสดงอย่าง Edward Furlong ที่จะกลับมารับบท John Connor ตัวจริงเสียงจริงในวัยที่โตแล้วอีกด้วย แต่ด้วยเหตุผลกลใดไม่ทราบ จึงไม่มีการแพลมออกมาซักนิดว่าเขาจะกลับมาเป็นอย่างไรในหนังภาคนี้ (นอกจากข่าวลือที่ว่าจะใช้ CG ดึงใบหน้ามาสวมคนอื่น) ซึ่ง Furlong ได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับประเด็นนี้ว่า ตัวเขาไม่ได้รับอนุญาตให้พูดอะไรมากนักเกี่ยวกับหนัง แต่เขาจะบอกว่าเขาดีใจที่ได้รับโอกาสอีกครั้งให้กลับมา แม้จะไม่ใช่บทใหญ่โตอะไร แต่ว่าเขาได้อยู่ในหนังคนเหล็กภาคใหม่นี้ด้วย แค่นี้เขาก็ภูมิใจมากๆ แล้ว ซึ่งจากที่ดูบทอาจจะไม่สำคัญ หรือว่าเป็นความลับสำคัญของเรื่องที่หลุดสปอยล์มาก่อนไม่ได้เลยก็เป็นได้ทั้งคู่
สำหรับคนที่ยังคิดถึงเขาติดตามเพจด้านล่างได้เลยครับ
Edward Furlong จากงาน Comic-Con 2019
ทวนความจำเรื่อง Cyberdyne กับ Skynet
“Cyberdyne” (ชื่อเต็ม Cyberdyne Systems Corporation) คือบริษัทยักษ์ใหญ่ผู้ประดิษฐ์เทคโนโลยีระบบคอมพิวเตอร์เน็ตเวิร์ครายใหญ่ของโลกที่เรียกว่า “Skynet” ซึ่งเป็น AI. ปัญญาประดิษฐ์สุดล้ำยุคที่สุดที่มนุษยชาติเคยมีมา ซึ่งทำให้รัฐบาลและอุตสาหกรรมทั่วโลกหันมามาใช้ Skynet ควบคุมทุกอย่าง จนกลายเป็นปัญหาการแย่งงานจากมนุษย์ ทำให้เกิดกลุ่มประท้วงต่อต้านและพยายามทำลาย Skynet ด้วยการแฮ็กปล่อยไวรัสเข้าไปก่อกวนระบบอย่างต่อเนื่อง
สุดท้ายบริษัท Cyberdyne จึงได้รับอนุมัติจากรัฐบาลทุกประเทศทั่วโลกให้แก้ปัญหาด้วยการ กดปุ่มปลดล็อคปล่อยให้ Skynet เข้าควบคุมระบบคอมพิวเตอร์ทุกๆ เครื่องทั่วโลก (แม้แต่คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล) เพื่อควบคุมปัญหาไวรัสอย่างเด็ดขาด แต่ AI.ของ Skynet กลับตัดสินว่าภัยคุกคามระบบที่แท้จริงคือ “เผ่าพันธ์มนุษย์โลก” มันจึงกำจัดมนุษย์ด้วยการสั่งการยิงนิวเคลียร์เพื่อทำลายล้างเผ่าพันธุ์มนุษย์ให้สิ้นซาก เหตุการณ์วันแรกส่งผลให้คนตายทั่วโลกไปถึง 3 พันล้านคน…จึงเรียกวันนั้นว่า “Judgment Day” แต่ก็ยังมีมนุษย์เหลือรอด Skynet จึงสั่งการโรงงานผลิตเครื่องจักรและโรงงานผลิตอาวุธให้ผลิตหุ่นยนต์พิฆาตที่เรียก “Terminator” รุ่นต่างๆ ขึ้นมาเพื่อใช้ไล่ล่าสังหารมนุษย์โดยเฉพาะ
ส่วนที่มาของเทคโนโลยี Skynet จากบริษัท Cyberdyne มาจากที่นักวิทยาศาสตร์สหรัฐได้พบเศษชิ้นส่วนชิพไมโครโปรเซสเซอร์ที่หลงเหลืออยู่ของหุ่น T-800 และได้นำไปค้นคว้าต่อโดย ดร. ไมล์ เบนเนท ไดสัน นักวิทยาการคอมพิวเตอร์ จนนำมาสร้างเครือข่ายคอมพิวเตอร์ SkyNet ได้สำเร็จ