รีวิวซีรีส์เกาหลี “เกมโกหก” เกมฆาตกรรม อำพรางการเมือง

เกมโกหก The Lies Within ซีรีส์เกาหลีเรื่องใหม่ที่ลง Netflix อาทิตย์ละ 2 ตอนทุกคืนวันเสาร์กับอาทิตย์สามทุ่มครึ่งไป (กดรับชมได้ที่นี่) เรื่องราวเกี่ยวกับการตามสืบคดีฆาตกรรมต่อเนื่องที่ตอนแรกดูเหมือนเป็นแค่อุบัติเหตุที่เกิดกับผู้ลงสมัครแข่งขันชิงประธานาธิบดีเกาหลีใต้ แต่กลายเป็นว่ายิ่งเวลาผ่านไปคดียิ่งประหลาดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งล้วนแล้วแต่เกี่ยวข้องกับ “คิมซอฮี” ที่เป็นลูกสาวคนสุดท้องของผู้ลงสมัครชิงประธานาธิบดีนั่นเอง

ตัวอย่างซีรีส์เกาหลี เกมโกหก The Lies Within (มีซับไทยกดเลือกภาษา)

*หมายเหตุรีวิวช่วงแรกมาจาก 4 ตอนแรกเท่านั้น แต่จะมีอัพเดทต่อไปเรื่อยๆ 

เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นกับคดีหญิงสาวกระโดดตึกฆ่าตัวตาย ที่ดูเหมือนปกติไม่มีอะไร  ซึ่งพระเอก “โจแทชิก” ตำรวจฝ่ายสืบสวนที่กำลังจะย้ายตัวเองจากเมืองหลวงไปอยู่ชนบทบ้านเกิดกับยายต้องมารับคดีนี้ไปทำ แต่แล้วนี่กลับไปใช่คดีสุดท้ายของเขาที่นี่ กลายเป็นว่าต้องมารับคดีอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่เกิดกับนักการเมืองดัง “คิมซึงชอล” และลามไปกลายเป็นการสืบสวนคดีที่ใหญ่โตขึ้นเรื่อยๆ โดยที่มีศูนย์กลางอยู่ที่ “คิมซอฮี” ลูกสาวของคิมซึงชอล ที่ลงสมัครชิงตำแหน่งทางการเมืองที่ว่างลงไปจากพ่อ ซึ่งเป็นนักการเมืองที่ดูใสสะอาด มีฐานคะแนนนิยมสูงและเป็นที่รักของประชาชนในเมือง

นี่เป็นหนังแนวทริลเลอร์ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องราวการเมือง ฆาตกรรม ที่ซับซ้อนผูกปมหลายอย่างเข้ามามากมาย จากที่เหมือนคดีธรรมดาแต่กลับมีพิรุธเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ กับการตายไปของนักการเมืองดังระดับประเทศ หนังไม่ได้รอช้าเลยที่จะเผยตัวว่านี่เป็นหนังฆาตกรรมที่มีการวางแผนเชื่อมโยงกับการเมือง โดยที่เรายังไม่ได้เข้าใจอะไรนัก เพราะหนังพึ่งเริ่มเข้าสู่เรื่องราวการเมือง แต่จากที่ดูในไตเติลและชื่อเรื่องทั้งไทยทั้ง ENG ที่เกี่ยวกับคำว่า “โกหก” แถมเน้นย้ำด้วยตัวเขียนเกาหลี 거짓말 ที่พลิกเส้นที่เขียนนิดหน่อย ก็กลายเป็นคำว่าโกหก รวมถึงตัวนักแสดงที่เล่นบท “คิมซอฮี” ก็แสดงให้เห็นสีหน้าท่าทางเหมือนใช่คนบริสุทธิ์ปกติธรรมดา จึงเดาว่าหนังไม่น่าจะใช่เรื่องราวแค่คดีฆาตกรรมหรือการเมืองตรงไปตรงมานัก ถ้าตามสูตรแนวๆ นี้ก็คือหนังที่เล่นบทฉลาดๆ คาดเดาไม่ได้กับคนวางแผนแนว “จอมบงการ (Mastermind)” ซึ่งก็น่าติดตามว่าจะโดนสับขาหลอกจากไตเติลที่เห็นหรือไม่

หลังจากผ่านไปสองตอนแรกเข้าสู่ตอนที่ 3-4 เรื่องราวเริ่มโฟกัสไปที่การเมืองซึ่งดูเหมือนเรื่องราวจะใหญ่โตกว่าที่คิด เพราะนอกจากประเด็นทุจริตที่เกี่ยวกับพ่อของนางเอกแล้ว ยังเปิดเรื่องโยงไปถึงการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งต่อไปด้วย ซึ่งดูจะเป็นพล็อตที่ใหญ่เกินกว่าหนังฆาตกรรมทั่วไป ซึ่งก็คล้ายๆ กับ Vagabound ที่ฉายอยู่คู่กันตอนนี้ก็เป็นเรื่องพัวพันกับการเลือกตั้งเช่นกัน (อัพเดท เรื่องราวส่วนของการเมืองจะเข้ามาเกี่ยวข้องในตอนที่ 7 ขึ้นไป ซึ่งไปไกลเกินกว่าคดีสืบสวนฆาตกรรมในตอนแรกมาก จนถึงขั้นสมคบคิดกันทุกฝ่าย)

บทพระเอกสายสืบ “โจแทชิก” หนังได้นักแสดงดัง Lee Min Ki จากเรื่อง The Beauty Inside ที่ป่วยเป็นโรค Prosopagnosia หรือโรคที่อยู่ในภาวะไร้ความสามารถในการจดจำใบหน้าผู้คน (รับชมเรื่องนี้ผ่าน Netflix คลิกที่นี่) มาเรื่องนี้เขาเล่นเป็นนักสืบที่มีความสามารถมองคดีทะลุปรุโปร่งได้อย่างง่ายดาย ซึ่งหนังจะใช้ฉากจำลองความคิดพระเอกมาเปิดเผยให้ผู้ชมเห็นเหตุการณ์ที่หายไป แต่กับคดีนี้ซึ่งดูเหมือนง่ายในตอนแรก ดันซับซ้อนขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งการที่เขาไขคดีไม่ได้ ก็ทำให้เขาวางมือไปจากเมืองนี้ไม่ได้เช่นกัน

ส่วนบทศูนย์กลางของเรื่อง “คิมซอฮี” ได้ Lee Yoo Young ดารานักแสดงที่ไม่ได้รับบทนางเอก แต่เป็นตัวหลักของเรื่องที่น่าจะเป็นปมสำคัญที่สุดว่าเธอรับบทใสๆ หรือมีลับลมคมในกันแน่ ซึ่งช่วงแรกตอนนี้ดูเธอก็จะซื่อๆ ใสๆ พ่อตาย สามีหาย จนเป็นทุกข์ระทม แต่อะไรๆ ก็ไม่แน่นอนเพราะซีรีส์นี้ตั้งชื่อไว้ว่าโกหกแบบนั้น ทำให้บทนี้ยังคาดเดาอะไรไม่ได้ทั้งสิ้น แต่ดูน่าจะแน่นอนว่าเรื่องนี้ไม่มีพล็อตแนวความรักกุ๊กกิ๊กจากคู่พระคู่นางอะไรแบบนั้นแน่ๆ ใครที่หวังจิ้นกับสูตรนี้ก็อาจจะข้ามไปได้เลย 

นอกจากสองคนหลักแล้ว หนังวางบท “จองซังฮุน” สามีของซอฮี เล่นโดยนักแสดงหนุ่มหล่อ Lee Joon Hyuk เป็นเหมือนตัวละครลึกลับที่หายตัวไปและโผล่มาในแฟลชแบ็คเป็นระยะๆ ซึ่งอาจจะเป็นทั้งเหยื่อและผู้อยู่เบื้องหลังก็เป็นได้

The Lies Within ถือว่าเป็นซีรีส์เกาหลีใหม่ที่มาเงียบๆ Netflix ไม่ได้โปรโมท แต่รับรองว่าน่าติดตาม เนื้อเรื่องอาจจะเรื่อยๆ แต่ก็ไม่อืดมาก แถมมีความโหดออกแนวดาร์คๆ ตั้งแต่ตอนแรกเลย แต่หนังก็ไม่ได้เครียดไปหมด เพราะลูกทีมของพระเอกก็ออกแนวขำๆ ช่างจิ้นไปไกลกับหลักฐานในคดี ทำให้พระเอกที่ฉลาดมองอะไรทะลุปรุโปร่งต้องคอยตบมุกเบรคลูกทีมไม่ให้จิ้นไปไกลเหมือนนิยาย แต่มีข้อสังเกตุว่าหนังตั้งใจให้รู้เลยว่าต้องมีการสับขาหลอกแบบไม่ปิดบังตั้งแต่ชื่อเรื่อง ไตเติล แถมเป็นซีรีส์ยาวด้วย ต้องคิดกันล่ะว่าหนังจะลากเรื่องราวให้ลึกลับน่าติดตามไปได้ตลอด 16 ตอนไหม อันนี้ต้องรอติดตามกันต่อไป 

ความเห็นจากเรา: STREAM IT 

รีวิวนี้จะมีการอัพเดทเนื้อหาไปเรื่อยๆ ครับ

อัพเดทเรื่องราวในตอนที่ 5-6

คดีคนหายยังวนเวียนไม่ไปไหน แต่หนังวกกลับมาที่บทของจองซังฮุน ซึ่งดูเหมือนจะมีอะไรที่ซับซ้อนกว่าที่เขาเป็นเหยื่อ ซึ่งหนังทำให้ดูเหมือนเขาจะกลายเป็นคนวางแผนเรื่องราวในครั้งนี้ แต่ก็ไม่น่าจะฟันธงได้เพราะหนังยังไม่ถึงครึ่งแรกของซีรีส์เลย ตัวหนังกลับมาสนุกขึ้นหลังจากช่วงตอน 3-5 ค่อนข้างวนเวียนกับเรื่องราวการตามหาเดิมๆ ไม่ไปไหน แต่ก็รู้สึกว่าความสมเหตุผลในการสืบเรื่องราวสู้ช่วงที่เปิดมาตอนแรกไม่ได้ หนังพยายามให้มีมุกตลกยัดเข้ามาเยอะจากตัวละครสมทบที่เป็นลูกมือของพระเอก กลายเป็นซีรีส์เริ่มไม่ได้มีน้ำหนักเข้มข้นแบบที่เปิดมาในตอนแรก

อัพเดทเรื่องราวในตอนที่ 7-8 

ถึงเวลาที่หนังจะวนกลับมาจุดเปิดเรื่องคดีหญิงสาวโดดตึกปริศนาเสียที ซึ่งเรื่องราวก็ผูกโยงกับการหั่นอวัยวะของจองซังฮุนชิ้นล่าสุด หนังกลายมาเป็นแนวสืบสวนที่เริ่มพัวพันถึงตัวละครใกล้ตัว “คิมซอฮี” ทุกคนแล้ว ซึ่งไม่แน่ว่าใครกันแน่ที่เป็นจอมบงการ ก่อนที่หนังจะตัดไปหาจองซังฮุนที่ถูกกักขังไว้ครั้งแรก ดูเหมือนว่าหนังกลายเป็นแนวฆาตกรรมลึกลับอย่างแท้จริงแล้ว

อัพเดทเรื่องราวในตอนที่ 9-10 

เรื่องราวเริ่มกระจ่างว่าไม่ได้เป็นแค่คดีคนหายหรือการฮุบซื้อที่ดินเก็งกำไร แต่เป็นอะไรที่ต้องการปกปิดหลักฐานใหญ่กว่านั้น แถมตัวการที่อยู่เบื้องหลังก็ใหญ่มาก มีอำนาจอิทธิพลอยู่ในกรมตำรวจ และตอนจบของ  EP10 ก็ทำให้เรารู้ว่า หนึ่งในคนร้ายคือคนที่ทีมพระเอกรู้จักดี ก็แน่นอนว่าต้องเป็นตัวละครที่เคยเปิดเผยมาและเกี่ยวข้องกับพระเอกแน่นอน

อ่านรีวิวหนัง Netflix ที่น่าสนใจคลิกที่นี่

รีวิวซีรีส์เกาหลี Vagabond เจาะแผนลับเครือข่ายนรก น่าดูหรือไม่? (ไม่สปอยล์)