playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว Voice สัมผัสเสียงมรณะ งานรีเมคจากเกาหลีที่ดิบเถื่อนเลือดสาดไม่แพ้กัน

รีวิว Voice สัมผัสเสียงมรณะ

สรุป

ผลงานรีเมคจากเกาหลีที่ทำออกมาได้โหดดิบไม่แพ้กัน งานสร้างถอดแบบเรื่องราวมาแทบทุกอย่าง แต่ที่ด้อยกว่าคือการเก็บรายละเอียดบกพร่องขาดความเนี๊ยบไปหลายจุดพอสมควร กับนักแสดงไทยที่ยังเล่นได้ไม่สมบทบาทเข้าขั้นสวมวิญญาณตัวละครแบบเกาหลี

เวอร์ชั่นเกาหลีผู้เขียนให้ 9/10 ของไทยให้ 7.5/10 แต่ก็ยังแนะนำว่าให้ลองดู เพราะของไทยก็ทำออกมาได้อารมณ์ที่คนไทยอินได้หลายจุดมากกว่าเกาหลี

Overall
7.5/10
7.5/10
Sending
User Review
4.5 (2 votes)
Comments Rating 0 (0 reviews)

Pros

  • โหดดิบไม่แพ้ต้นฉบับ
  • มุมกล้องการถ่ายทำดี
  • บทพูดดิบๆ แบบไทยๆ

Cons

  • นักแสดงหลายคนยังเล่นไม่อินกับบทมากพอ
  • รายละเอียดสำคัญหลายจุดไม่เนียน
  • งบสร้างน้อยกว่าเลยต้องตัดบางฉากที่ลงทุนสูงตามต้นฉบับออก
  • ดนตรีประกอบยังไม่ได้อารมณ์เท่าต้นฉบับ

Voice สัมผัสเสียงมรณะ ซีรีส์ไทยที่รีเมคมาจากเกาหลีในชื่อเดียวกัน ที่ความโหดขึ้นชื่อว่าโหดติดเรตที่สุดของซีรีส์เกาหลีที่เคยมีมา เรื่องราวของนางเอกตำรวจหน่วยรับแจ้งเหตุฉุกเฉิน 112 ที่มีสัมผัสพิเศษทางการได้ยินดีกว่าคนปกติ เธอได้ยินเสียงฆาตกรโรคจิตที่ฆ่าพ่อของเธอ และยังฆ่าภรรยาของพระเอกที่เป็นของตํารวจสายสืบฝีมือดีในเวลาเดียวกัน แต่ก็ไม่สามารถตามจับฆาตกรตัวจริงได้ และก็ไม่มีใครเชื่อว่าเธอได้ยินเสียงฆาตกรจริงๆ เธอจึงไปเรียนอเมริกาด้านแยกแยะเสียง ก่อนกลับมาไทยที่หน่วยเดิมและก่อตั้งทีม Golden Time โดยมีพระเอกเข้าร่วมทีมเพื่อหยุดคดีเร่งด่วนต่างๆ พร้อมทั้งสืบหาฆาตกรที่ฆ่าพ่อของเธอและภรรยาของพระเอกไปพร้อมกัน 

Voice รีวิว สัมผัสเสียงมรณะ
ฆาตกรลูกตุ้มเหล็กสุดโหด

Voice ของเกาหลีจัดว่าเป็นผลงานซีรีส์ที่เรียกว่าเทพมากๆ เรตติ้งขึ้นอันดับ 1 ของช่อง OCN ตอนนี้มีถึง 3 ซีซั่น จุดเด่นคือบทระทึกขวัญต่อเนื่องกันทั้งเรื่อง แบบไม่ใช่แค่ต่อตอนจบ แต่เหมือนเป็นหนังยาวๆ เรื่องหนึ่งที่ทุกตอนพระเอกนางเอกแทบไม่ได้พักกับคดีสายด่วนที่เข้ามาจิตวิปริตทุกเคส ความรุนแรงก็ขึ้นชื่อว่าโหดที่สุดที่เกาหลีเคยสร้างมาเลย มีการเปลี่ยนเรตติ้งให้สูงขึ้นในตอนหลังๆ เพื่อไม่ต้องตัดทอนฉากรุนแรงออก แถมหนังเก็บรายละเอียดทุกอย่างเนี๊ยบมาก แม้แต่เสียงที่ใช้ในเรื่องซึ่งถูกบันทึกออกมาเป็น 3D สมจริงให้คนดูได้ยินเหมือนนางเอกในเรื่องที่มีสัมผัสพิเศษ ดูเวอร์ชั่นเกาหลีแบบถูกลิขสิทธิ์ผ่าน Viu ได้ที่นี่ (เดือนแรกฟรี)

voice ซีรีส์เกาหลี
voice เวอร์ชั่นเกาหลี

ด้วยความที่เป็นงานรีเมคแบบร่วมทุนของทรูกับเกาหลี (TRUE CJ CREATIONS) แทบทุกอย่างในเรื่องนี้ก็เลยเป็นการถอดบท จังหวะ มุมกล้อง แทบทุกอย่างของเกาหลีมาเป็นไทย เปลี่ยนแค่ตัวแสดงกับฉากของเรื่องมาเป็นกรุงเทพฯ เท่านั้น ซึ่งผมดูงานของค่ายนี้มาอย่าง “ผีป่วนชวนมารัก” ที่รึเมคมาจาก Oh My Ghost ของเกาหลี ซึ่งก็ทำออกมาแบบเดียวกัน และทำออกมาได้ดีมากๆ รีเมคออกมาเป็นไทยได้เนียนตาหลายอย่าง นางเอกหนูนาก็เล่นได้ดีไม่แพ้ต้นฉบับ ยกเว้นพระเอกที่เล่นโดยเป้อาจจะดรอปลงไปหน่อยเมื่อเทียบกับเกาหลี ซึ่งถ้าใครไม่เคยดูก็แนะนำเลยครับ ดูผ่าน Netflix ได้เช่นกัน (คลิกที่นี่) เผื่อใครคิดว่าหนังรักเลี่ยนๆ แต่ที่จริงเรื่องนี้เป็นหนังตามล่าฆาตกรต่อเนื่อง แถมโรคจิตไม่แพ้กันด้วย (ส่วน Tunnel ผลงานรีเมคต่อมาของทรูยังไม่ได้ดูเลยเทียบไม่ได้ครับ)

ห้องคอนโทรลของไทย

ด้วยความที่เคยดูผลงานที่ผ่านการรีเมคจากเกาหลีมาได้ดี จึงคาดหวังว่า Voice ของไทยก็น่าจะทำได้ใกล้เคียงกันในหลายๆ ด้าน แต่ก็พบว่ายังมีส่วนที่เป็นข้อบกพร่องมากกว่าต้นฉบับหลายอย่างอยู่เหมือนกัน ซึ่งหลักๆ ส่วนหนึ่งเกิดจากงบประมาณที่ของไทยคงไม่เท่าเกาหลีเลยต้องมีการปรับบทลดต้นทุน อย่างฉากรถโดนชนเละแบบเกาหลีอันนี้คงไม่มี ตรงนี้พอเข้าใจได้ แต่ที่เห็นแล้วต้องตำหนิเลยคือ ความไม่เนี๊ยบในส่วนรายละเอียด ที่ดูแบบไม่คิดอะไรก็อาจจะมองข้ามไปได้ แต่ด้วยความที่เกาหลีเนี๊ยบมาก่อน พอของไทยนำมาแปลงแล้วหลุดแบบสะเพร่าไม่เนี๊ยบนี่แหละ ก็ต้องว่ากันตรงๆ ครับ เพื่อให้เห็นภาพขอยกมาเป็นฉากๆ เทียบกัน

อย่างในฉาก EP4 ที่เหยื่อถูกจับขังไว้ในรถ แล้วมีมือถือที่เปิดสายไว้ แต่พูดไม่ได้ ของเกาหลีคือเหยื่อถูกมัดมือไพล่หลังปิดปาก ก็สมเหตุผลที่ทำให้พูดไม่ได้ แต่ของไทยมือถือตกอยู่ด้านหน้า มือถูกมัดไว้ด้านหน้า ยกมือขึ้นลงได้อิสระ แต่กลับจับมือถืออยู่ห่างไปไม่กี่นิ้วไม่ได้ แถมก็ไม่ได้คิดเปิดเทปปิดปากอีก เป็นอะไรที่เห็นแล้วขัดตามากว่า คนเตรียมนักแสดงพลาดได้ยังไงกับเรื่องความสมจริงสำคัญแบบนี้

ซ้ายไทย ขวาเกาหลี

ห้องของนางเอกซึ่งต้นฉบับก็มีบอกไว้ว่าเป็นห้องเก็บเสียง มีวัสดุเป็นฉนวนดักป้องกันไว้หมด ไม่มีหน้าต่าง เพราะนางเอกมีสัมผัสพิเศษแบบนี้ก็เลยต้องทำห้องขึ้นมาเฉพาะเพื่อเป็นห้องพักผ่อนป้องกันเสียงรบกวน แต่ของไทยกลับโล่งโจ่ง ติดหน้าต่างอีกต่างหาก ทำให้เห็นเลยว่าทีมงานกับผู้กำกับไม่ได้ใส่ใจเก็บรายละเอียดตามต้นฉบับ (ซึ่งฉากนี้จะเป็นจุดสำคัญในภายหลังฉากหนึ่งด้วย)

ซ้ายไทย ขวาเกาหลี

หรือกรณียา Midazolam ยากล่อมประสาทใน EP3 ที่พระเอกต้องโดนหลอกให้ดื่ม ซึ่งยานี้ก็คือพวกยาเสียสาวที่นิยมผสมไว้ในน้ำรสเข้มเพื่อกลบรสของมัน แล้วก็นิยมใช้เป็นน้ำเพื่อความง่ายต่อการใช้ ของเกาหลีถูกต้องตามจริงหมดคือเป็นแบบน้ำผสมในน้ำผลไม้ แต่ของไทยกลับเป็นแบบเม็ดผสมในน้ำเปล่าซึ่งแทบเป็นไปไม่ได้ที่จะมาบดยาให้ละลายกับน้ำเปล่าจนไม่รู้รสได้แบบนั้น ซึ่งตรงนี้เป็นไคลแม็กซ์ของ EP3 สำคัญจุดหนึ่งด้วย

ซ้ายไทย ขวาเกาหลี

แถมพวกความน่าเชื่อของตัวละครก็น้อยกว่าเกาหลี อย่างในทีมที่ีแฮ็กเกอร์ก็แฮ็กอะไรได้ง่ายเกินจริง อย่างแฮ็ก FB ดูแชทของผู้ร้ายที่เก่งไซเบอร์ขนาดเปิดเว็บข่มขืนผู้หญิงได้ในทันที (เพียงแค่เห็นว่าไปโพสต์ตอบในโซเชียล) เพื่อจะให้สนับสนุนเหตุผลแรงจูงใจฆาตกรในเรื่อง ซึ่งในเวอร์ชั่นเกาหลีจะไม่มีเกินเลยไปมากแบบนี้ หลักๆ ของเกาหลีเลยก็คือการตามรอยจากประวัติในโซเชียลสาธารณะทั่วไปเท่านั้น (ไม่นับฉากที่จงใจแฮ็กเชิงลึก) ซึ่งก็ไม่รู้ว่าของไทยนึกยังไงทำออกมาแบบนี้ กลายเป็นดูแล้วแฮ็กง่ายจนขัดความจริงมากไป แถมนักแสดงในบทแฮ็กเกอร์นี้ก็เล่นได้ขาดความน่าเชื่อถือมากเล่นลนๆ ในฉากตามหาร่องรอยคนร้าย แต่กลับพูดรายงานเนิบๆ แบบท่องบทแข็งๆ ไม่เหมือนทีมงานสายด่วนที่ต้องกระชับกระเฉงตื่นตัวตลอดเวลา

แฮ็ก FB ดูแชทของฆาตกรได้ในพริบตา -สัมผัสเสียงมรณะ

จากที่เห็นคือหนังสอบตกในเรื่องการเก็บรายละเอียดสมจริง โดยไม่เกี่ยวกับงบสร้าง เพราะผู้กำกับ “ปีเตอร์-นพชัย ชัยนาม” ทำงานแบบไม่ละเอียด เหมือนข้ามไม่ตรวจดูความถูกต้อง ขอแค่ถ่ายไปตามฉากเหมือนเกาหลีทำไว้ให้เสร็จไปแค่นั้น ทั้งๆ ที่ถ้าเก็บรายละเอียดตามเกาหลีก็ไม่ผิดพลาดแล้ว รวมถึงการให้นักแสดงไทยอย่างตัวฆาตกรในตอนแรก เล่นบทในแบบที่ดูเหมือนตัวร้ายไทยๆ ที่ติดขี้เล่นเกิน อย่างการผิวปากหรือพูดเย้วๆ สะใจตอนสู้กับพระเอก ซึ่งในเกาหลีเองฆาตกรแต่ละคนนี่คือดิบๆ ไม่มีมาทำอะไรแบบนั้น ไม่รวมที่พระเอกทิ้งปืนมาท้าตัวตัวๆ กับผู้ร้ายซึ่งในเกาหลีไม่มีอะไรแบบนี้ หรืออย่างฉากที่นางเอกถูกจับมัดในถุงเพื่อฝังทั้งเป็นแล้วได้โอกาสสั่งเสีย กลับพูดโต้ตอบกับคนร้ายด้วยลมหายใจแทบจะปกติ ไม่มีอาการตื่นกลัวหรือหอบกระเส่าแบบนางเอกต้นฉบับเกาหลีเก็บรายละเอียดการพูดคุยกับคนร้ายในอารมณ์ที่สมจริงมาก ลองคิดถึงคนกำลังถูกฝังทั้งเป็น น้ำเสียงควรจะเหมือนสนทนาปกติงั้นหรือ?

แต่ที่ว่ามาทั้งหมดไม่ใช่ว่าซีรีส์เรื่องนี้ทำออกมาไม่ดี ของไทยก็ยังถือว่าเป็นงานรีเมคที่ทำออกมาผ่าน ดูสนุก มีความดิบเถื่อนแบบต้นฉบับอยู่ บางฉากก็ทำเพิ่มจากเกาหลีให้ดิบกว่าเดิมด้วยซ้ำ (แต่อาจจะต้องดูตอนหลังๆ เทียบกันอีกเพราะของเกาหลีโหดขึ้นเรื่อยๆ) มุมกล้องของไทยถ่ายทอดออกมาได้น่ากลัวไม่น่าไว้ใจดี หนังปรับเปลี่ยนโลเกชั่นในแต่ละเคสให้ฉากในกรุงเทพฯ ทำให้ดูแล้วคนไทยเข้าถึงได้มากกว่า ดารานักแสดงหลักแพนเค๊กสวยเป๊ะเข้ากับบทตำรวจในเครื่องแบบได้เหมือนนางเอกเวอร์ชั่นเกาหลี แอนดริวเองก็เหมาะกับบทบาทตำรวจเถื่อนๆ ลุคได้เข้ากันดี (แถมหล่อกว่าเกาหลีมามาย) การแสดงของทั้งคู่ไม่ขัดตาอะไร เพียงแต่ยังไม่ถึงขั้นเล่นได้สมบทบาทแบบเกาหลีเท่านั้น ตัวละครสมทบอื่นๆ ก็เล่นได้ดีบ้าง ไม่ดีบ้าง แต่ก็ไม่ถึงขนาดไม่ดีจนดูไม่ได้ ยกเว้นบางคนที่ขัดตามากอย่างแฮ็กเกอร์ในทีมนางเอก หรือพวกฆาตกรบางตอนที่ดูโอเวอร์แอ็กติ้งไป บทสนทนาทีมตำรวจรวมถึงพระเอกก็ยังให้อารมณ์คุยกันดิบๆ มีเรื่องการถกเถียงในการทำงานด้วยบทพูดไทย ที่ได้อารมณ์เข้าถึงมากเกาหลีที่เราฟังไม่ออก ซึ่งตรงนี้จะเป็นส่วนสำคัญที่ปูให้มีบทบาทภายหลังสำคัญมากพอๆ กับการตามหาฆาตกรลูกตุ้มเหล็กที่ตอนนี้ยังไม่เปิดตัวออกมา ซึ่งตรงนี้จะเป็นตัวร้ายที่น่าสะพรึงกลัวมาก ก็คิดว่าคนที่มารับบทก็น่าจะทำได้ เพราะเลือกมาได้ใกล้เคียงเกาหลีมากอยู่

Voice รีวิว สัมผัสเสียงมรณะ
ตัวอย่างฉากนี้ในเกาหลีไม่มี ซึ่งของไทยเพิ่มรายละเอียดให้เห็นมากกว่า

หลายคนที่อ่านรีวิวนี้อาจจะคิดว่าผู้เขียนตบหัวแล้วลูบหลัง หรือจ้องจับผิดมากไป ซึ่งยืนยันว่าไม่ใช่เลย กลับกันผู้เขียนรู้สึกดีที่ทางทรูพยายามสร้างซีรีส์ที่แตกต่างจากช่องทั่วไปมาเรื่อยๆ เป็นแนวดาร์คดิบๆ มากขึ้นซึ่งหาได้ยากในไทย อย่างงานผีป่วนชวนมารักก็ยอมรับเลยว่าทำได้ดีดูแล้วอินเอามากๆ ทั้งในส่วนของความรักกับส่วนของฆาตกรต่อเนื่อง ตัวร้ายก็ทำได้โรคจิตไม่แพ้เกาหลี โหดไม่แพ้กัน แต่ด้วยความที่เรื่องนั้นมีแฟนตาซีกับความรักมาเฉลี่ยไปเยอะ ก็เลยลงลึกดิบๆ แบบ Voice ไม่ได้ ซึ่งจากที่ดูแล้วก็นับว่าใกล้เคียงกล้ามากที่เปิดให้สร้างหนังที่โหด เลือดสาด มีความรุนแรงสูงแบบนี้ในบ้านเรา แต่ถ้ารีเมคมาแบบนี้ควรจะใส่ใจรายละเอียดให้มากกว่านี้แค่นั้น

ตอนนี้ก็ต้องช่วยกันบอกต่อให้ลองดูกัน ซีรีส์โหดเลือดสาดแนวนี้อาจจะไม่ถูกใจผู้ชมวงกว้างในไทยนัก อย่างก่อนหน้านี้มีผลงานของ GMM ทางช่อง One เรื่อง “กาหลมหรทึก” ที่เป็นแนวสืบสวนไล่ล่าฆาตกรต่อเนื่องที่ทำได้ดีมากๆ ในระดับโกอินเตอร์แทบทุกด้านได้เลย ก็ยังแป๊กเรตติ้งต่ำมากเช่นกัน อันนี้ผู้เขียนแนะนำเพิ่มเลยเผื่อใครดู Voice แล้วติดใจแนวนี้แบบไทยแท้ๆ ก็คลิกดูผ่าน Line TV ได้ที่นี่ครับ

ติดตามชมได้ทุกวันจันทร์-อังคาร เวลา 21.15 น. ทาง True4U ช่อง 24 และทาง Netflix ในเวลาติดๆ กัน คลิกรับชมได้ที่นี่ครับ

ความเห็นจากเรา: STREAM IT แม้มีผิดพลาดหลายจุดไม่เท่าต้นฉบับ แต่ก็ดูอินในแบบไทยๆ ได้ดี

ตัวอย่าง Voice สัมผัสเสียงมรณะ

ถ้าใครชอบแนวสืบสวนฆาตกรรมโหดๆ แบบนี้ แนะนำซีรีส์เกาหลีแนวนี้เรื่องล่าสุดใน Netflix ครับ

รีวิวซีรีส์เกาหลี “เกมโกหก” เกมฆาตกรรม อำพรางการเมือง

 

Leave a comment
The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!