รีวิว Little Women สี่ดรุณี หนึ่งในหนังชิงออสการ์ 2020 ที่ห้ามพลาด!

วรรณกรรมคลาสสิค หนึ่งในสิ่งที่อยู่คู่กับชีวิตเรามาตั้งแต่สมัยวัยเยาว์ จากนิทานก่อนนอน รวมถึงเป็นหนังสืออ่านนอกเวลาในการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ วรรณกรรมคลาสสิคเหล่านี้มีการดัดแปลงในรูปแบบภาพยนตร์ ละครเวที การ์ตูน และเป็นสัญลักษณ์ของยุคสมัยอยู่เสมอ อาทิเช่น Dracula, Frankenstein, The Three Musketeers และ Alice In The Wonderland เป็นต้น แต่ครั้งนี้เราไม่ได้มากล่าวถึงเรื่องเหล่านั้น เราจะมาพูดถึงเรื่องของสี่สาวพี่น้องตระกูลมาร์ชกับเรื่อง Little Women – สี่ดรุณี อีกหนึ่งวรรณกรรมคลาสสิคของโลกนี้ ในภาพยนตร์จะมีการกล่าวถึงพวกเธอทั้งสี่ว่ามีชีวิตอย่างไรบ้าง การให้เห็นความ Family, Feminist และ ความ Coming of age อันเป็นภาพยนตร์ที่มีความหลากหลายสูง งานนี้รับประกันคุณภาพโดย Greta Gerwig ผู้กำกับสาวเจ้าของผลงานชั้นเยี่ยมเมื่อปี 2017 อย่าง Lady Bird อีกทั้งยังมีนักแสดงสาวแห่งยุคอย่าง Saoirse Ronan จาก Lady Bird และ Brooklyn ส่วนอีกหนึ่งนักแสดงนำที่เป็นน่าสนใจของแฟนคลับอย่าง Emma Watson จาก Beauty and the Beast และ Harry Potter เรามาดูกันดูกว่า…ในภาพยนตร์เรื่อง Little Women จะเป็นอย่างไร มาดูกันเถอะครับ

ตัวอย่างหนัง Little Women สี่ดรุณี 2019

สำหรับความคิดของผมนะครับ พบว่า…มันเป็นรสภาพยนตร์ที่อร่อยและสนุกมาก ผมรู้สึกมีความสุขตลอดการรับชมภาพยนตร์ แม้ภาพยนตร์จะมีความยาวกว่า 2 ชั่วโมง แต่มันไม่มีช่วงไหนที่น่าเบื่อเลยแม้แต่น้อย ต้องยอมรับจริง ๆ ว่า Greta Gerwig เป็นผู้กำกับสาวมากพรสวรรค์ เธอสามารถเล่าเรื่องวรรณกรรมคลาสสิคได้อย่างน่าสนใจ มีความสมูธจนดูเพลินตลอดทั้งเรื่อง รวมถึงการเล่าเรื่องที่ไม่ล้าสมัยอีกด้วย เป็นเรื่องยากนะครับในการเล่าวรรณกรรมคลาสสิคให้ดูร่วมสมัย หรือรู้สึกให้ดูไม่เป็นหนังสมัยก่อน ซึ่งสิ่งนี้เป็นสิ่งที่เธอสอบผ่านเป็นอย่างมาก โทนภาพยนตร์และบทภาพยนตร์ที่มีการตัดสลับช่วงเวลาอดีตกับปัจจุบันมีอย่างต่อเนื่อง แม้จะมีการเล่นของช่วงเวลาในการเล่าเรื่อง แต่ทุกสิ่งได้เชื่อมต่อกันราวกับเป็นจิ๊กซอว์ ส่งผลให้เรื่องราวออกมาอย่างสมบูรณ์ราวกับภาพที่ได้ต่อจิ๊กซอว์ครบถ้วน หากจะบอกว่าเป็นบทภาพยนตร์ที่เล่นท่ายาก แต่ย่อยง่ายคงไม่เกินไปนัก

อีกสิ่งหนึ่งที่น่าชื่นชมคงไม่หนีนักแสดงอย่าง Saoire Ronan ที่รับบทเป็น Jo March พี่สาวคนโตของสี่พี่น้องตระกูล March เธอแสดงออกถึงเด็กสาวที่ได้พบเจอกับเรื่องราวมากมายได้เป็นอย่างดี ตลอดการชมภาพยนตร์เราได้เห็นราวกับเรากำลังดูชีวิตของ Jo March เราไม่ได้ดูว่าเป็นการแสดง รวมถึงการที่มีบทภาพยนตร์ที่เฉียบคม ทำให้เราได้เห็นสองช่วงเวลาของเด็กสาวคนหนึ่งทั้งอดีตและปัจจุบัน การที่เราได้เห็นเช่นนั้นเหมือนการเห็นการเปรียบเทียบ บอกเรื่องราวที่เป็นเรื่องตัวตนเราในอดีตปัจจุบันแตกต่างอย่างไรบ้าง บริบทที่เปลี่ยนแปลงไปเมื่อเราได้พบเรื่องราวเดียวกันแต่ต่างช่วงเวลา สิ่งนี้บ่งบอกความ Coming of age ได้เป็นอย่างดี ไม่ใช่การให้เห็นเราในช่วงเวลาที่แตกต่าง แต่ยังเป็นการเทียบกันราวกับความคิดของเด็กวัยรุ่นและวัยผู้ใหญ่ หรือการพบเจอเรื่องราวที่เปลี่ยนแปลงความคิดไปเมื่อผ่านช่วงเวลาดังกล่าว

นอกจาก Saoire Ronan จะมอบการแสดงอันยอดเยี่ยมบนจอภาพยนตร์ ยังมีอีกหนึ่งนักแสดงที่โดดเด่นไม่แพ้กันอย่าง Florence Pugh นักแสดงดาวรุ่งผู้รับบทเป็น Amy March พี่น้องลำดับที่ 3 ของสี่สาว ตัวละครที่เธอรับบทอย่าง Amy March ขโมยซีนภาพยนตร์อย่างแท้จริง เธอทำให้บรรดานักแสดงคนอื่นดรอปลงอย่างเห็นได้ชัด ความเฉพาะตัวจนเรารู้สึกว่านี่เป็นหนึ่งในตัวละครที่ความเติบโตสูงที่สุดในภาพยนตร์เรื่องนี้ จากเด็กสาวอารมณ์ร้อนตามประสาวัยรุ่น กลายเป็นหญิงสาวที่มีความเป็นศิลปินและดูนิ่งสงบสูง กาลเวลาและประสบการณ์ทำให้คนหนึ่งกลายเป็นคนอีกคนหนึ่ง ผมคิดว่าไม่น่าพลาดหากเธอจะได้เข้าชิงรางวัลออสการ์ สาขาสมทบหญิงยอดเยี่ยม อีกทั้งเธอยังได้ฝากการแสดงที่น่าจดจำในภาพยนตร์สยองขวัญที่มีความแปลกตาไปใน Midsommar และหนังนักมวยปล้ำอย่าง Fighting with My Family จึงนับได้ว่าปี 2019 เป็นปีแจ้งเกิดเธออย่างแท้จริง

หลังจากโดดเด่นไปด้วยเรื่องของบทภาพยนตร์, การดำเนินเรื่อง และนักแสดงไปแล้ว งานด้านดนตรีประกอบดีงามเช่นกัน ความรู้สึกมีความคลาสสิคอยู่ในตัว ละมุนละไมไพเราะอ่อนหวานเข้ากับสไตล์ภาพยนตร์และแก่นของภาพยนตร์เป็นอย่างดี เรียกว่า Alexandre Desplat ทำออกมาได้ตามมาตรฐาน จนบางครั้งเรารู้สึกฟังแค่เพลงก็รู้สึกสนุกกับภาพยนตร์แล้ว สารทางด้านดนตรีเป็นเรื่องที่ใช้อารมณ์ในการบอกเล่าอย่างแท้จริง หากปีนี้เขาจะได้เข้าชิงสาขาดนตรีประกอบในเวทีออสการ์อีกปีคงไม่แปลกนัก แม้ผลงานที่ฝากภายในเรื่องนี้จะยังไม่พีคเท่าผลงานที่เคยฝากไว้กับ The Shape of Water หรือ The Grand Budapest Hotel แต่ก็ยังเป็นงานชั้นเยี่ยมของเจ้าตัวอยู่เช่นกัน

ข้อเสียของเรื่อง Little Women – สี่ดรุณี 

สาธยายข้อดีกันไปเยอะแล้ว เราคงต้องมาเริ่มกันที่ข้อเสียของภาพยนตร์เสียที แม้ภาพยนตร์จะมีองค์ประกอบที่มีคุณภาพสูงตลอดทั้งเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นศาสตร์ต่าง ๆ ในโลกภาพยนตร์ จนภาพยนตร์มีคุณภาพพอได้เข้าชิงสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมได้อย่างไม่มีข้อกังขา แต่ข้อเสียของภาพยนตร์เรื่องนี้ที่เห็นได้ชัดคือการลำดับภาพ, นักแสดง และการกำกับอารมณ์ในบางฉากที่เราคิดว่ามันจะออกมาได้สุดมากกว่านี้ ผมขอเริ่มที่การลำดับภาพก่อน แม้ภาพยนตร์จะมีการเชื่อมต่อช่วงเวลาระหว่างอดีตและปัจจุบันได้ดีอย่างไม่มีปัญหาอะไร รวมถึงออกมาดีอีกด้วย ทว่าการตัดสลับเช่นนี้อย่างรวดเร็ว แม้จะได้ความเป็นศิลป์กลับมาให้ผู้ชม แต่อาจทำให้ผู้ชมหลายคนตามไม่ทันในส่วนของเรื่องราว แม้ภาพยนตร์จะมีความฉลาดในการใช้โทนสีในการแบ่งแยกอดีตและปัจจุบัน แต่เชื่อเลยว่าต้องมีผู้ชมจำนวนหนึ่งไม่สามารถตามได้ทันอย่างแน่นอน สิ่งนี้จึงเหมือนเป็นดาบสองคมของภาพยนตร์อย่างแท้จริง แม้จะงดงาม…แต่หากเข้าใจยากเกินไป การแสดงประสิทธิภาพออกมาผ่านภาพจะดรอปลงไปอย่างชัดเจน

ส่วนของนักแสดงอย่าง Emma Watson เธอรับบทเป็น Meg March พี่น้องลำดับที่ 2 ของสี่สาว ผมบอกเลยว่าไม่ใช่แสดงไม่ดี เพียงแต่ความเจิดจรัสและภาพจำกลับถูกนักแสดงคนอื่นภายในเรื่องขโมยซีนไปหมด แม้จะมี Air Time ให้เธอพอสมควรในการสร้างความน่าจดจำแก่ผู้ชม แต่สิ่งที่ได้กลับไม่เป็นอย่างที่คาด Saoire Ronan, Florence Pugh และ Eliza Scanlen ทั้งสามได้กลบความโดดเด่นของเธอเป็นอย่างมาก ทำให้นี่เป็นจุดด้อยหนึ่งที่เราเห็นได้ชัดในภาพยนตร์

สุดท้ายคงจะเป็นส่วนของการกำกับอารมณ์ แม้ว่า Greta Gerwig จะทำมันออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบตลอดทั้งเรื่อง แต่การขยี้อารมณ์ของเธอในฉากองค์สามที่เหมือนจะเป็นซีนเรียกน้ำตาแก่ผู้ชม จะว่ายังไงละครับ…มันออกมาเป็นฉากที่ดีอีกฉาก อีกทั้งยังน่าจะเป็นหนึ่งในฉากที่น่าจดจำของภาพยนตร์ มันให้ความรู้สึกเศร้าและเจ็บปวด เพียงแต่มันเหมือนการนั่งรถไฟเหาะ เรากำลังจะไต่ถึงจุดสูงสุดแล้ว เรากำลังจะรู้สึกอินแบบเต็ม 100% แต่เมื่อเราขึ้นไปถึงบริเวณประมาณ 80% เรารู้สึกแบบอีกนิดเดียว แต่ภาพยนตร์เลือกที่จะตัดอารมณ์ไปเสียอย่างนั้น ทำให้มันเป็นฉากที่ดี แต่เสียดายที่มันไม่ไปถึงฉากยอดเยี่ยม หรือเป็น Scene Moment of The Year ของปีนี้

คะแนน A- สมบูรณ์แบบทางด้านบทภาพยนตร์+การเล่าเรื่องที่มีความสนุกสนาน+สองนักแสดงนำหลักที่โดดเด่น การบอกเล่าประเด็น Family+Feminist+Coming of Age แฟนคลับสี่ดรุณีจะชื่นชอบจนยกให้เป็นหนังที่ชอบที่สุดในปี 2019 (อันนี้คือเทียบตามปีฉายอเมริกา)

สรุป 

ภาพยนตร์เรื่อง Little Women – สี่ดรุณี 2019 เป็นภาพยนตร์ที่ห้ามพลาดในการรับชม คุณจะได้รับภาพยนตร์ที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพตั้งแต่บทภาพยนตร์ที่เฉียบคม การเล่าเรื่องที่ทำให้ช่วงเวลากว่า 2 ชั่วโมงในโรงภาพยนตร์เพลิดเพลินจนเวลาผ่านไปไว สองนักแสดงนำอย่าง Saoire Ronan และ Florence Pugh สร้างความน่าจดจำให้แก่ภาพยนตร์เป็นอย่างมากจนเราจำภาพทั้งคู่คือ Jo March และ Amy March อย่างแท้จริง การบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับ Family+Feminist+Coming of Age ได้อย่างดีและละเอียดอ่อนอย่างน่าเหลือเชื่อ เราไม่รู้สึกเลยว่าเรื่องราวเหล่านี้ถูกยัดเยียดเข้ามาในภาพยนตร์ แต่เป็นเรื่องธรรมชาติที่ปล่อยไปตามอารมณ์ของภาพยนตร์ ในด้านดนตรีประกอบยังสร้างความน่าจดจำแก่ภาพยนตร์ แม้จะยังไม่ยอดเยี่ยมจนไร้ที่ติ ส่วนข้อเสียของภาพยนตร์คือการลำดับภาพที่อาจจะทำให้ผู้ชมงงกับการตัดสลับเหตุการณ์ระหว่างอดีตกับปัจจุบันได้, การที่นักแสดงเฉิดฉายแตกต่างกันจนเกินไป ทำให้มีนักแสดงดรอปลงกว่าที่ควรจะเป็น ส่งผลให้จากตัวละครที่ควรจะเด่นได้มากกว่านี้กลับดาวน์ลงมา และการกำกับอารมณ์ที่มีฉากหนึ่งกำลังจะกลายเป็น Scene Moment of The Year กลับกลายเป็นฉากที่เหมือนประทับใจได้ 80% แต่เสียดายที่มันน่าจะไปถึง 100% ได้ หากทำได้นี่จะเป็นผลงาน การตอกย้ำว่า Greta Gerwig เหมาะสมกับการได้เข้าชิงผู้กำกับยอดเยี่ยมประจำปีนี้

ระดับการเสียเงิน : ต้องชมในโรงภาพยนตร์ และห้ามพลาด ยิ่งเป็นแฟนคลับสี่ดรุณียิ่งต้องชมเข้าไปใหญ่

ติดตามรีวิวหนังในเว็บไซต์คลิกที่นี่