รีวิว ไทบ้าน X BNK48 จากใจผู้สาวคนนี้
สรุป
เปิดปี 2020 ด้วยภาพยนตร์ เปิดประตูรับสิ่งใหม่ บทและการตัดต่อไม่ได้สมบูรณ์แบบ ตัดต่ออาจแย่บ้าง แต่ความเป็นธรรมชาติของตัวละครที่หนังพยายามสื่อ ก็ทำให้ดูเพลิน ๆ และน้ำตาซึมได้จนจบ
Overall
7/10User Review
( vote)Pros
- นักแสดงแสดงได้ดี
- ความเป็นธรรมชาติในการแสดง
- มีฮาดราม่าจริงจังช่วยเสริมความเข้มข้น
- ประเด็นเรื่องน่าสนใจแม้จะไปไม่สุด
- เพลงประกอบเพราะมาก ๆ
Cons
- ตัดต่อขั้นย่ำแย่
- บทง่ายไปหน่อย และค่อนข้างไม่มีเหตุไม่มีผล
- ไม่สร้างความเข้าใจพอให้คนที่ไม่เคยดูหรือรู้จักทั้งไทบ้านและบีเอ็นเค อาจจะเกิดความรำคาญหรืออคติได้ทั้งสองฝั่ง
รีวิว ไทบ้าน X BNK48 จากใจผู้สาวคนนี้
ข้างนอกคือสิ่งใหม่ที่เราต้องเรียนรู้
ไทบ้าน X BNK48 จากใจผู้สาวคนนี้ คือภาพยนตร์แนวเซอร์เรียล คอเมดี้ ดราม่า เป็นภาพยนตร์ลำดับที่ 4 เดินเรื่องต่อจาก ไทบ้านเดอะซีรีส์ 2.2 เพื่อการเปิดจักรวาลไทบ้าน ภาพยนตร์แนวคอเมดี้ ดราม่า ไทย-อีสาน กำกับโดย สุรศักดิ์ ป้องศร, ธิติ ศรีนวล เป็นภาพยนตร์ที่เป็นภาคเสริมของไทบ้าน โดยการร่วมมือกันระหว่าง ไอแอมฟิลม์ ค่ายภาพยนตร์ที่เคยสร้าง Where We Belong ที่ตรงนั้น มีฉันหรือเปล่า ที่สร้างความประทับใจให้กับคอหนังหลายคน รวมทั้งผมด้วย และเซิ้ง โปรดักชั่น แอนด์ ออแกไนเซอร์ ผู้สร้างไทบ้านเดอะซีรีส์ ซึ่งผมไม่ค่อยทราบรายละเอียดที่เอามาเล่าได้กับหนัง เพราะงั้น ผมจะขอใช้มุมมองของความเป็นหนังเดี่ยว ๆ ดีกว่าเพราะเอาเข้าจริง ๆ หนังก็ไม่ได้มีผลกับไทบ้านมากนัก แต่ก็จะทำให้เข้าใจคร่าว ๆ ล่ะกัน
ไทบ้านเดอะซีรีส์เกิดขึ้นจากทุนที่มีไม่มาก โดยกลุ่มคนไม่กี่คน ผู้กำกับที่เป็นวัยรุ่น แต่ด้วยความธรรมชาติไม่ปรุงแต่ง และแฝงถึงชีวิตของคน ซึ่งมีการไล่ระดับเรื่องราวขึ้นจากการเล่าเรื่องระดับปัจเจกบุคคลอย่างภาคแรกที่เน้นถึงความรักของจ่าลอด จนไปถึงภาคล่าสุดที่เล่าเรื่องของตัวละครแวดล้อมที่กว้างขึ้นจนทำรายได้ดีมาก ๆ ในฐานะหนังที่ไม่ได้มาจากค่ายดัง โดยหนังทั้งสามภาคที่คุณอาจจะอยากไปดู ก็จะมี ไทบ้านเดอะซีรีย์ ไทบ้านเดอะซีรีส์ 2.1 และ 2.2 และหนังในจักรวาลที่มีแผนอีกมากมายพอ ๆ กับมาร์เวลเลยล่ะครับ5555 เอาล่ะ ผมพูดมาแค่นี้ ทุกคนอาจจะทราบถึงกระแสคำวิจารณ์ที่ออกไปทางกลาง ๆ ลงไปทางแย่ ของผมจะเป็นเช่นนั้นหรือเปล่า
ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นการมาเจอกันของโลกที่ต่างกัน ระหว่างไอดอล และไทบ้านที่ฟังดูไม่น่าจะเข้ากันได้เลย ทั้งวิถีชีวิตและสไตล์ที่แตกต่าง ผมเลยคิดว่านี่น่าจะเป็นหนังที่จะเป็นการเปิดประตูให้คนนอกได้เห็นความสามารถ และความเป็น BNK48 ของนักแสดงน้องใหม่ทั้ง 8 คนด้วย โดยเฉพาะเนยอ๊บ ๆ ที่ผมให้ความสนใจ รวมทั้งเพลงโดดดิด่งของที่ตอนนี้กำลังโดดไปทั่ว เรียกว่าแมสกว่าที่คิด ยิ่งมีสาว ๆ มากวักมือชวนไปเบิ่ง ยิ่งต้องไปเบิ่ง แต่ก่อนอื่น ต้องไปอ่านเรื่องย่อกันก่อน ซึ่งเป็นความตั้งใจของผู้สร้างที่อยากจะทำภาพยนตร์ที่จะทำให้วงลงไปถึงใจของคนดูฝั่งไทบ้าน และชาวอีสาน ซึ่งมันจะสำเร็จเสร็จสิ้นสมบูรณ์ได้ตามความตั้งใจหรือเปล่านั้น มาอ่านเรื่องย่อกันก่อน
” ไทบ้าน X BNK48 จากใจผู้สาวคนนี้ บอกเล่าเรื่องราวของโลกคู่ขนาน (โลกภาพยนตร์ไทบ้าน) วงบีเอ็นเคฟอร์ตี้เอตประสบปัญหาขาลงกับเพลงแปลที่เคยทำมา ผนวกกับเพลงลูกทุ่งได้รับความนิยมอย่างมาก ทำให้ทางผู้บริหารตัดสินใจ ติดต่อ เจ๊ก้อง ห้วยไร่ นักร้อง โปรดิวเซอร์ ให้มาช่วยทำเพลงลูกทุ่งอีสานให้กับวง โดยให้เป็นโปรเจกต์ลับ ห้ามให้ใครรู้ แน่นอนว่าการเดินทางสู่เส้นทางดนตรีลูกทุ่งนั่นไม่ง่ายเลย เมื่อสมาชิกทั้งหมดที่ถูกคัดเลือกให้นั่น ไม่เคยเจอสภาพแบบชนบทมาก่อน และนั่นเองที่นำมาสู่ความวุ่นวาย และปัญหาต่าง ๆ มากมายที่เกิดขึ้น ที่สมาชิกในวงอาจจะต้องเผชิญหน้ากับความผิดหวังครั้งหนึ่งในชีวิต”
ภาพที่ถูกสร้างขึ้นใหม่
อยากให้ทุกคนที่ได้ดูหรือกำลังจะดู ไทบ้าน X BNK48 จากใจผู้สาวคนนี้ ทำความเข้าใจก่อนว่า ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์ลำดับที่ 4 ในจักรวาลไทบ้านเดอะซีรีส์ ซึ่งเดินเรื่องต่อจาก ไทบ้าน เดอะซีรีส์ 2.2 แต่ไม่ต้องดูก็พอเข้าใจได้อยู่ แต่หนังจะไม่ปูอะไรเลยทั้งกับไทบ้านและบีเอ็นเค หนังจะปาฉากที่เหมือนแนะนำตัวแค่ผิว ๆ ก่อนจะใส่ประเด็นของเรื่องนั่นคือการทำเพลงอีสาน โดยการเดินทางไปที่ไทบ้านอาศัยอยู่ นั่นคือศรีษะเกษ จากนั้นก็จะปาฉากที่ทุกตัวละครพากันมีช่วงเวลาร่วมกัน บางตัวละครอาจจะมีเรื่องราวหน่อย ๆ เหมือนสารคดีปลอม ๆ ที่ถ่ายทอดเรื่องราวออกมาให้คนได้เห็นการทำงาน เพราะตัวละครในเรื่องนั้น ก็คือตัวละครของหนัง ไม่ใช่ตัวเอง ซึ่งการกระทำของตัวละครมันก็จะขัดใจคนดูก่อนเพื่อสร้างคอนฟลิกซ์และพัฒนาการเข้าไปทีหลัง หนังสร้างภาพลักษณ์ของตัวละครซ้อนทับเข้าไปใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการให้ก้อง ห้วยไร่ เป็นกะเทย ให้เนย กานต์ธีรา เล่นเป็นคนเคร่งขรึม ตั้งใจ ซึ่งแท้จริงเธอเป็นคนร่าเริง เป็นต้น
เพราะงั้นบทของ ไทบ้าน X BNK48 จากใจผู้สาวคนนี้ จะออกแนวเป็นภาพยนตร์เซอร์เรียลกึ่งสารคดีแบบปลอม ๆ ดูไปก็อาจจะแหม่ง ๆ ในบางส่วน หรือดูไม่เมคเซนส์ โดยเฉพาะด้านของวง เหมือนเป็นการเขียนภาพบางอย่างที่ไม่มีในความเป็นจริง และคิดว่าคงเป็นไปไม่ได้ในชีวิตจริง โดยเฉพาะสถานการณ์ในเรื่อง บทของภาพยนตร์ก็เป็นไปตามเรื่องย่อแต่อาจจะมีพล็อตเสริมของตัวละครอื่น ๆ เข้ามาเพื่อทำให้หนังไม่เบาโหวงมากเกินไป ประเด็นของเรื่องที่ใช้ได้ในฐานะหนังที่พยายามจะสร้างความขัดแย้งให้กับตัวละคร
การอยากจะร้องเพลงที่ตั้งใจทำให้ฟัง อุตส่าห์ได้ทำลงยูทูป แต่พอจะร้องสด กลับถูกห้ามไม่ได้ร้องออกมา เพราะเงื่อนไขทางต้นสังกัดของญี่ปุ่นที่เป็นผู้ตัดสินว่าเพลงจะสามารถร้องได้หรือไม่ แม้จะพยายามพร่ำบอกว่า อย่าให้เสียงในใจของคนอื่นมากลบเสียงในใจของเรา แต่สุดท้ายแล้วทุกคนก็ต้องกล้ำกลืนที่จะเก็บเพลงนี้ไว้ในใจ และในความทรงจำ เป็นเหมือนความฝัน และยอมให้เสียงที่ใหญ่กว่ากลบไปอย่างขมขื่น
ส่วนหนึ่งก็เข้าใจทางญี่ปุ่น เพราะสิ่งที่ทางบริษัทBNK ทำมันก็เหมือนจะหาเรื่องให้โดนฟ้องนั่นล่ะ ซึ่งภาวนาอย่าให้ทุกคนในวงต้อง
เป็นแบบนัเลย ซึ่งถ้าใครดูไทบ้านมาจะเข้าใจว่านี่แหล่ะบทสรุปแบบไทบ้านที่ไม่ได้สวยหรู ออกจะขมขื่น และต้องเดินหน้าใช้ชีวิตต่อไป
ความดื้อของสมาชิกที่ไม่เข้าใจความเป็นอีสาน และติดการทำตัวแบบไอดอล ต่อมาค่อย ๆ รู้จักจ่าลอดที่เข้ามาเหมือนทำให้ลดอีโก้บางอย่างลงบ้าง โดยเฉพาะการที่ถูกก้องที่ว่า ตอนไม่ตั้งใจซ้อมว่า ถ้าได้แค่นี้ มันก็เปล่าประโยชน์ นี่คิดว่าวงคงโดนด่าแบบนี้มาตั้งแต่เริ่มตั้งวงแล้ว และคิดว่าวงก็คงจะรู้ดีถึงเรื่องดี ทำให้นี่เป็นจุดสำคัญที่ทำให้นิสัยของวงดีขึ้น น่ารักขึ้นมาหน่อย
ประเด็นหมอปลาวาฬกับจ่าลอด เรื่องความสัมพันธ์ที่จะมีในหนังแยกเดี่ยว
หรือเรื่องที่สมาชิกในวงเสียใจเรื่องที่ไม่ได้ร้องเพลงหลังเรื่องที่เกิดขึ้น แต่แล้วก็กลับไปใช้ชีวิตเหมือนนเดิม
ประเด็นเนยกับจ่าลอดที่เหมือนจะเป็นเพื่อนปรับทุกข์มากกว่า แต่หนังก็ทำให้เราอินไม่สุด
ความธรรมชาติ คือไทบ้าน
ตลอดเวลาสองชั่วโมง ใน ไทบ้าน X BNK48 เราจะได้เห็นการเล่าเรื่องแบบเน้นด้นสด ๆ ไม่มีบท บทมีเป็นให้รู้ว่ามี จะเล่าเรื่องอะไร แต่มีบ้างในบางช่วง แต่ส่วนใหญ่ก็เป็นการทำอะไรที่เหมือนสารคดี เช่น การไปสัมผัสชีวิตแบบชนบท การไม่ชินกับสภาพที่ไกลจากที่เคยอยู่ หรือการมีฉากเหมือนตัวละครหัวเราะกับตัวเอง จนบางครั้งทำให้มันทำร้ายฝั่งบีเอ็นเคไปบ้าง โดยเฉพาะการพยายามใส่นิสัยที่แสนจะน่ารำคาญให้ในช่วงแรกของเรื่อง การประสานเสียงโวยวาย ซึ่งเข้าใจเพราะไม่งั้นเด็กพวกนี้จะไม่มีความแตกต่างพอ แต่พอดูไปเรื่อย ๆ เราก็จะเริ่มจะชินกับสิ่งที่หนังพยายามจะนำเสนอ เหมือนกับเรากำลังสำรวจความเป็นไทบ้านและรู้จักบีเอ็นเคไปพร้อม ๆ กัน คำว่า “ข้างนอกสิ่งใหม่ที่เราต้องเรียนรู้” อาจจะเป็นการสื่อถึงคนดูทั้งในฝั่งไทบ้านและบีเอ็นเค ให้เปิดใจมาดูหนังเรื่องนี้ก็เป็นได้
การนำส่วนต่าง ๆ ของตัวละครที่เป็นทั้งข้อเสีย เห็นข้อดี ก่อนที่จะใช้มันขยี้ตัวละครในภายหลัง ซึ่งถือว่าพยายามปิดช่องโหว่ก่อน แล้วก็ดันสร้างมันขึ้นมาใหม่ให้ปมในฉากต่อไป ซึ่งหนังเป็นแบบนี้ไปเรื่อย ๆ จนจบ ไม่แปลกถ้าหนังจะได้รับการมองว่าเป็นหนังที่บทไม่ค่อยดี ซึ่งก็จริง แต่ก็ไม่ได้แย่ขนาดที่ดูไม่ได้นะ เพราะ ไทบ้าน X BNK48 จากใจผู้สาวคนนี้ สามารถหยิบเอาแวดล้อมแบบไทบ้านมาใช้ได้อย่างลงตัว อาจจะไม่เป็นภาพใหญ่เท่าในภาคหลักก็ตาม
อมยิ้มน้อย ๆ น้ำตาซึมทีหลัง
พูดถึงไทบ้านแล้ว ไทบ้าน X BNK48 จะขาดมุกตลกไปก็คงไม่ได้ มุกในเรื่องถือว่ากล้อมแกล้มกำลังดี มีมุกในแบบคนอีสาน กับคำพูดออกมาให้ขำ ไม่มีคำหยาบแบบที่หนังไทยส่วนใหญ่เป็น คำพูดออกมาไม่ขัดหูมาก บางมุกก็ขำเบา ๆ บางมุกก็ขำก๊าก ยิ่งถ้าคนที่ดูไทบ้านมาก่อนจะอิน แต่คนทั่วไปก็พอจะสนุกกับมันได้ แต่อย่างที่รู้กัน ไทบ้านไม่ใช่หนังคอเมดี้ แต่มันยังแฝงด้วยประเด็นที่หนักมากจนจุก โดยเฉพาะดราม่าในช่วงกลางจนท้ายที่แหม่ง ๆ ไปนิด แต่ทำให้อึนพอสมควร ถ้าเป็นหนังของค่ายอื่น มันคงมีทางลงแบบอื่นที่สวยงามกว่า แต่ไม่ใช่กับเรื่องนี้ เพราะมันคือประเด็นที่หนังพยายามจะสื่อว่าไม่มีอะไรที่เป็นไปตามความคาดหวัง ต่อให้มีความหวังมากแค่ไหนก็ตาม หรือแม้แต่การกระทำเพียงเล็ก ๆ สามารถสร้างผลกระทบให้ใหญ่หลวงขนาดไหน หรือ อย่าให้อะไรมาขัดขวางความฝัน หรือสิ่งที่เรารัก
ใครตัดต่อ?
ในส่วนของการตัดต่อของ ไทบ้าน X BNK48 จากใจผู้สาวคนนี้ บอกตรง ๆ เลยว่า ไม่ดี ไม่ดีมาก ฉากบางฉากตัดเร็วยังไม่ทันซึมซับอารมณ์ บางฉากก็ยืดซะเหลือเกิน กลายเป็นทำให้หนังที่เรื่อย ๆ อยู่แล้ว กลายเป็นเลื้อยไปเลย ยิ่งบวกกับบทที่ไม่ดีในการเล่าเรื่องแล้ว ยิ่งทำให้หนังลงไปในทางแย่ ดีที่การถ่ายภาพออกมามันสวยสมจริงได้อารมณ์ไทบ้านแบบที่คุ้นเคยเลยช่วยให้ดูอยู่ได้ แต่การตัดต่อนี่ปัญหาใหญ่กว่าบทอีกนะถ้าให้พูดจริง ๆ มันไม่ช่วยดึงอารมณ์ให้เรื่องพอจะอินสำหรับคนบางคน ยิ่งเป็นคนนอก มันจะเป็นหนังที่คุณอาจจะไม่เข้าใจอะไรวงเลย ถ้าเกิดคุณมีอคติอยู่แล้วในระดับนึง แต่ถ้าเกิดขึ้นตั้งใจดูโดยละวางอคติ คุณจะได้เห็นพัฒนาการตัวละครในเรื่องอยู่นะ
เพลงประกอบแบบไทบ้าน
อย่างที่ใครหลายคนได้ติดตามจะรู้ว่าทางบีเอ็นเคได้ปล่อยเพลงประกอบภาพยนตร์ ไทบ้าน X BNK48 ออกมาอย่าง “โดดดิด่ง” จนฮิตติดหู และเรียกคนเข้าไปดูได้บ้าง แต่แทนที่หนังจะทำแบบนั้น หนังกลับใช้มันเพื่อเป็นแค่ส่วนประกอบของเรื่อง โดยไปเน้นเพลงจากใจผู้สาวคนนี้ ทำเอาพลังเพลงของหนังที่ควรจะมีหายไปเลย ทำให้ดูหนังจบไม่ได้ช่วยโปรโมทเพลงเลย เรียกได้ว่ากั๊กเพลง ทางส่วนประกอบดนตรีประกอบไทบ้านนี่ล่ะ ซื่อ ๆ ง่าย ๆ แต่มีเพลงบรรเลงของสองเพลงประกอบอย่าง โดดดิด่ง กับ จากใจผู้สาวคนนี้คลอไป ซึ่งช่วยดึงอารมณ์หนังขึ้นมาให้ดี แม้จะถี่ไปนิดก็เถอะ แต่เสียงร้องของนักแสดงทุกคนคือเพราะจริง ๆ ทั้งแนวหมอลำ ทั้งก้อง ห่วยไร่ และแนวป๊อบของวงบีเอ็นเค ที่ช่วยให้หนังมีความน่าสนใจขึ้น แต่คงต้องรอหน่อย เพราะเพลงจากใจผู้สาวคนนี้จะปล่อยตามหนังทีหลัง แต่คิดว่าคงอีกไม่นาน
การแสดงตามบทบาท กับ ปมของตัวละคร
ผมคงไม่พูดถึงไทบ้าน เพราะกลุ่มนั้นแสดงได้ดีแล้ว ไม่มีอะไรต้องพูด เพราะหนังสามภาคได้แสดงให้เห็นศักยภาพของคนกลุ่มนั้นแล้วเรียบร้อยในด้านของความเป็นธรรมชาติ แต่ผมต้องมาพูดถึงตัวละครใหม่ในจักรวาลอย่างก้อง ห้วยไร่ และสมาชิกของวงบีเอ็นเค ฟอร์ตี้เอต โดยจะไล่เป็นทีละคน
ก้อง ห้วยไร่ เล่นได้ไม่ขัดตา เป็นตัวช่วยตบมุก และตัวหลักเล่าเรื่องให้ฝั่งไทบ้านเชื่อมกับบีเอ็นเคได้ ซีนดราม่ามาน้อยแต่ดีมาก ๆ และทรงพลัง เนย กานต์ธีรา วัชรทัศนกุล ต้องสวมบทเป็นคนเคร่งขรึม และอ่อนแอ หนังเอื้อให้เธอได้โชว์ศักยภาพอย่างเต็มที่ ทั้งในบทน่ารัก และบทดราม่าที่ดี
แก้ว ณัฐรุจา ชุติวรรณโสภณ บทนั้นไม่ไกลตัวมากนัก เพราะเป็นพี่ใหญ่ของวง คอยดูแลน้อง ๆ และช่วยในการเดินเรื่องร่วมกับก้อง ห้วยไร่ ออกมาทุกฉากสวยสะกดจอ ฉากดราม่าใช้สายตาสื่ออารมณ์ และปล่อยน้ำตาได้ดีมาก ๆ
โมบายล์ พิมรภัส บทไม่ไกลตัวเช่นกัน เล่นเป็นสาวติดเล่น แต่เมื่อได้รับแรงกระตุ้นก็ลุกขึ้นสู้ และตั้งใจทำงานออกมาให้ดีที่สุด ติดยังพูดไม่ชัด และเก้ ๆ กังบางช่วง เสียดายไม่ค่อยมีซีนอารมณ์
ปูเป้ จิรดาภา อินทจักร ตัวตบมุกของเรื่อง ออกมาเพื่อสร้างเรื่องให้อมยิ้ม ออกแต่ละทีขำตลอด ถือว่าเป็นตัวละครที่ทำให้เรื่องไม่ตึงเครียดไป ไหลลื่นกับตัวละครอื่น ๆ ได้
ไข่มุก วรัทยา ดีสมเลิศ ตัวละครที่เหมือนเป็นภาพสะท้อนเรื่องความจริง ทั้งเรื่องการถูกบูลลี่เพราะความเป็นตัวเอง และความเด๋อไม่รู้ประสีประสาที่อาจจะไม่เปล่งประกายเพราะบท แต่ก็ทำหน้าที่ได้ดี ฉากพูดเกร็งไปหน่อย
น้ำใส พิชญาภา นาถา ตัวสร้างความขัดแย้งของเรื่อง ก่อนจะกลายมาเป็นตัวละครเชื่อมความสัมพันธ์ด้วยความเป็นธรรมชาติและมุกเฉพาะตัว
น้ำหนึ่ง มิลิน ดอกเทียน เซ็นเตอร์เพลงโดดดิด่ง อยู่ตามฉากให้เห็นอิริยาบถ แต่มีความสำคัญกับเรื่องนิดหน่อย แต่นอกจากความสวยสะดุดตาแล้ว ไม่มีอะไรให้เล่นเลย
ตาหวาน อิสราภา ธวัชภักดี น่าสงสารที่สุด ถ้าไม่มีฉากรวมสมาชิก คือจมหายไปจากจอเลย มีเพียงความสวยและธรรมชาติที่กลมกลืนกับผู้คนที่ทำให้เธอยังมีตัวตน
การแสดงของ ไทบ้าน X BNK48 จึงถือว่าไม่ได้มีอะไรว้าวมาก นอกจากตัวหลัก เพราะบทก็ไม่ค่อยมีอะไรอยู่แล้ว แต่ถ้าทั้งหมดไปฝึกการแสดงเพิ่ม คงลงงานแสดงได้แน่นอน แต่เฮียก้อง อยากเห็นเล่นหนังบ่อย ๆ แกมีความเป็นธรรมชาติ สื่ออารมณ์เก่ง อยากให้มีหนังดี ๆ สำหรับแกไว้เล่นเยอะ ส่วนหนังอย่ามองว่าใครมีแอร์ไทม์มากกว่า สมาชิกนี้น้อยกว่า มากกว่า เพราะนี่คือหนังของวง ไม่ใช่ใครคนใดคนหนึ่ง อยู่ที่ว่าใครจะสำคัญกับเรื่องแค่นั้น
เปิดใจรับความแตกต่าง
ผมไม่รู้หรอกว่าคนที่ดู ไทบ้าน X BNK48 จบแล้ว ไม่ว่าจะเป็นโอตะ หรือ คนดูทั่วไปจะเกลียดหรือชอบเรื่องนี้หรือไม่ แต่ก็ขอบคุณที่อย่างน้อยก็ไปชม เพราะผมมองว่าคุณได้ข้ามผ่านอคติที่ว่าไทบ้านเข้ากับบีเอ็นเคไม่ได้หรอก จริง ๆ ส่วนหนึ่งที่รู้สึกว่ามันยังไม่นัว กลมกล่อมเท่าที่คิด แต่มันก็ไม่เลวที่ได้ทดลองอะไรใหม่ ๆ เผื่อเรื่องต่อไปจะดีขึ้นกว่านี้ก็ได้ ผมเองก็เข้าใจแหล่ะว่าอะไรในวงมันไม่เอื้อให้หนังสามารถไปได้มาก แต่ก็แอบอยากให้มันดีขึ้นอีกหน่อย แค่นี้ก็ไกลจากที่เป็นมาพอแล้ว เพราะฉะนั้นแล้วในฐานะที่ติดตามบีเอ็นเค และเป็นคนดูหนัง ก็มองว่าหนังยังห่างไกลคำว่าห่วยแบบที่คนว่าไว้มาก ๆ มันยังมีอะไรที่ทำงานกับเราหรือบางคนได้อยู่ ซึ่งผมก็ไม่กล้าแนะนำว่าคุณจะชอบมั้ย แต่ไปดูก็ถือว่าเป็นการเปิดรับปีใหม่อย่างปราศจากอคติและมีความสุขได้ครับ
ตัวอย่างภาพยนตร์ประกอบ รีวิว ไทบ้าน X BNK48 จากใจผู้สาวคนนี้
ซื้อตั๋วไปโดดดิด่งได้แล้วที่ Major และ Sf
ปล. อยากจะขอร้องทุกคนล่ะครับ ไหว้เลยก็ได้ ถ้าดูหนังเรื่องนี้แล้วไม่โอ คุณจะไม่ชอบหนังก็ได้ แต่อย่าไปบูลลี่ ด่าว่าสมาชิกในวงเลย เตือนกันไปหลายรอบ รณรงค์ไปหลายครั้ง คนในวงเขาถ่ายทอดออกมาได้ดีตามที่ได้รับมอบหมายแล้ว ถ้าหากเกิดคุณเปิดใจให้สักนิด หนังเรื่องนี้ก็พอทำให้คุณเข้าใจหัวอกคนทำงานวงการไอดอลบ้าง แม้มันจะบางเบาจนแทบไม่รู้สึกอะไร แต่ก็ดีกว่าไม่รับรู้อะไรเลย แล้วปล่อยให้อคติทำให้คุณเกลียดวงนี้อย่างไม่มีเหตุผล ผมไม่อยากเห็นสมาชิก ต้องเสียใจเพราะเรื่องนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าแล้ว อยากให้เรามีความเห็นใจคนอื่นแบบที่มนุษย์ควรจะเป็น
ขอบคุณครับ จากใจผู้บ่าวคนนี้
- ติดตามเรื่องราวที่น่าสนใจในแวดวงเกม รีวิวภาพยนตร์ ซีรีส์ และ อนิเมะ ได้ ที่นี่
- ติดตามผลงานของผม Thousand Mar ได้ ที่นี่