playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว Gentefied ฝันไล่ฝัน ชุมชนเม็กซิกันที่ต้องพบกับความเปลี่ยนแปลงของโลก

Gentefied

สรุป

ซีรีส์ทำออกมาได้ดีกับประเด็นความคิดธุรกิจใหม่ๆ ในชุมชนเล็กๆ ที่ต้องพบเจอกับปัญหาต่างๆ กับคนในชุมชนด้วยกันเอง แต่ด้วยความที่สเกลของเรื่องเล็ก ก็เลยทำให้เรื่องราวไม่หวือหวา ออกแนวดราม่ากึ่งๆ ตลกซิทคอมเล็กๆ กับการดำเนินชีวิตผู้คนในชุมชนเม็กซิกัน ตั้งแต่ต้นไปจนจบ แต่กลับเคลียร์เรื่องราวไม่หมดและไปต่อซีซั่น 2 ซึ่งกลายเป็นจุดบอดใหญ่สุดของซีรีส์ที่ไม่น่าค้างไว้หลายอย่าง ทั้งๆ ที่สามารถจบและเปิดเรื่องราวใหม่ได้แท้ๆ แต่กลับไม่ทำ

Overall
7/10
7/10
Sending
User Review
5 (1 vote)
Comments Rating 0 (0 reviews)

Pros

  • ตลกกึ่งซิทคอมเม็กซิกันที่เราคนไทยก็ขำได้
  • เรื่องราวการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจในชุมชน
  • สตรีทอาร์ทและศิลปะชุมชนในเรื่องทำได้สวยงาม
  • มีเรื่องราว LGTB เป็นส่วนสำคัญในเรื่อง

Cons

  • เรื่องราวเล็กๆ เรียบๆ ไม่หวือหวา
  • เปิดแล้วไม่ปิดประเด็นที่ควรให้จบในซีซั่นแรก
  • ไม่ลงรายละเอียดในเรื่องขั้นตอนการทำตลาด
  • ตอนแทรกเรื่องหลักเยอะไปจนทำให้เรื่องไม่ค่อยเดินหน้า

Gentefied เจนทิไฟด์ ฝันไล่ฝัน ซีรีส์ Original Netflix แนวดราม่าคอมเมดี้ของครอบครัวเม็กซิกันที่เปิดร้านขายอาหารมาตั้งแต่รุ่นปู่ ต้องร่วมกันหาทางช่วยร้านให้อยู่รอดต่อไปจากการเปลี่ยนแปลงไปเมืองเล็กๆ แห่งนี้ ที่ซึ่งกำลังถูกนายทุนอสังหารุกเข้ามาเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตดั้งเดิมของพวกเขา

 Gentefied (2020) on IMDb
คะแนนเฉลี่ย IMDB

ตัวอย่าง Gentefied เจนทิไฟด์ ฝันไล่ฝัน

ซีรีส์เม็กซิกันเรื่องราวของชุมชนที่มีความผูกพันกับย่านที่อยู่อาศัยมาช้านาน ชุมชนที่ทำมาหาเช้ากินค่ำจากอาชีพดั้งเดิมกำลังพบกับความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ จากธุรกิจใหม่ที่รุกเข้ามาในวิถีชีวิตดั้งเดิมของพวกเขา ซึ่งก็คงไม่แตกต่างอะไรจากที่ทั่วโลกเป็นอยู่ในตอนนี้ แต่ซีรีส์เรื่องนี้จะมีความเป็นเม็กซิกันสูง เล่นกับเชื้อชาติ สีผิว วัฒนธรรม รวมถึงอาหารที่ชนชาติเม็กซิกันนิยมอย่าง “ทาโก” (Taco) ที่เป็นแป้งกรอบห่อห่อไส้ต่างๆ (คล้ายๆ ขนมเบื้อง) ซึ่งมีประวัติศาสตร์การต่อสู้มายาวนานก่อนจะได้รับความนิยมเป็นอาหารแบบเม็กซิกันอเมริกัน (อ่านรายละเอียดประวัติศาสตร์ทาโกเพิ่มได้ที่นี่)

ในเรื่องนี้ร้านทาโกของกลุ่มตัวเอกที่ประกอบไปด้วยคุณปู่ “ป๊อบ” คนเก่าแก่ชื่อดังในชุมชน กับหลานชาย “เอริกกับคริส” และหลานสาว “อานา” ต้องมาเป็นแกนกลางความเปลี่ยนแปลงที่ชุมชนนี้กำลังพบเจอ โดยเริ่มจากร้านของป๊อบที่ถูกขึ้นค่าเช่า ทำให้ต้องหนทางธุรกิจใหม่ๆ เข้ามาในชุมชน โดยการทดลองทำอะไรหลายๆ อย่าง แต่กลายเป็นว่าสิ่งที่พวกเขาคิดทำกลับทำให้คนในชุมชนเดิมบางส่วนต่อต้าน และคิดว่าพวกเขากำลังทำลายวิถีชีวิตดั้งเดิมเหล่านี้ไป ซึ่งกลุ่มคนที่ต่อต้านก็ไม่ใช่ใครที่ไหน กลับเป็นเหล่าขาประจำของร้านเอง

ซีรีส์เรื่องนี้มีแก่นเรื่องอยู่ที่ร้านทาโกแห่งนี้ และก็นำเสนอเรื่องราวการปรับปรุงธุรกิจให้เอาตัวรอดได้ในยุคปัจจุบัน ซึ่งคุณปู่ป๊อบเองเป็นคนอยากเปลี่ยนแปลงเพื่อรักษาร้านของเขาเอาไว้ แต่ก็ยังไม่ยอมวางมือให้รุ่นหลานอย่างเอริก ที่ทำงานที่นี่มานานจนชีวิตไม่ได้ก้าวหน้าไปไหน แม้เขาจะต้องเป็นพ่อคนในไม่ช้า แต่ก็ไม่ได้คิดจะขอแต่งงานกับแฟนสาวคนบ้านใกล้ในเมืองเดียวกันเพราะไม่เคยมีทรัพย์สินเป็นของตัวเอง นั่นทำให้เอริกกลายเป็นตัวเอกลูสเซอร์ในเรื่อง และก็เกือบๆ จะเป็นพระเอกในเรื่องนี้เพราะเรื่องราวหลักๆ ตั้งแต่ต้นจนจบเราจะได้เห็นพัฒนาการชีวิตของตัวเอริกตั้งแต่ยังดูไม่มีอะไรจนกลายมาเป็นพ่อคนที่มีความรับผิดชอบมากขึ้น ซึ่งซีรีส์ก็นำเสนอจุดเปลี่ยนผ่านของชีวิตเอริกเข้ามาทีละน้อย ควบคู่ไปกับการพัฒนาธุรกิจของร้านทาโกให้ปู่ป๊อบ ซึ่งป๊อบเองก็ไม่ค่อยเชื่อใจอะไรเขานักเพราะถูกมองว่าเรียนหนังสือมาน้อยและยังดูแลชีวิตตัวเองไม่ได้ แต่กลับไปไว้ใจคริส ญาติของเอริกที่บ้านรวยส่งเสียเขามาเป็นเรียนเป็นเชฟ แต่กลับตกอับต้องมาทำงานในร้านทาโกของป๊อบนี้ด้วยเช่นกัน ซึ่งคริสเองเป็นคนนอกที่เข้ามาอาศัยในเมืองนี้ ทำให้มุมมองทางธุรกิจของเขาแตกต่างจากเอริกคนละขั้ว ในเรื่องนี้จึงเป็นการงัดข้อไอเดียธุรกิจของเอริกกับคริสตั้งแต่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ในร้าน ไปจนถึงเรื่องใหญ่ๆ ที่เริ่มกระทบกับชุมชนเก่าแก่ โดยมีป๊อบเป็นตัวแทรกเรื่องราวในร้านที่กำลังถูกเปลี่ยนแปลงไปจากไอเดียของหลานทั้งสองคน

ในระหว่างการเดินเรื่องราวหลักนี้เอง ก็จะมีตัวละครลูกค้าขาประจำของร้านแทรกเข้ามาเป็นตอนพิเศษอยู่เป็นระยะๆ ซึ่งไม่ใช่แค่ว่าป๊อบที่กำลังเจอความเปลี่ยนแปลงของโลกใหม่ แต่เหล่าลูกค้าของเขาเองก็กำลังเจอปัญหาเดียวกันแต่ต่างสถานะอาชีพ อย่าง นักดนตรีที่เล่นแต่เพลงเก่าๆ ไม่มีใครฟัง ต้องยอมเปลี่ยนแปลงมาลองเล่นเพลงใหม่ๆ ที่คน Gen หลังนิยมมากกว่า หรือร้านมินิมาร์ทบ้านๆ ที่ถูกนายทุนเจ้าของที่ต้องการปรับโฉมใหม่ไปในทางศิลปะสตรีทอาร์ทดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเข้ามา แต่กลับต้องเสียลูกค้าขาประจำไปเพราะรับไม่ได้กับเรื่องสมัยใหม่พวกนี้

ซีรีส์หยิบจับเอาเรื่องของลูกค้าร้านทาโกมาเล่าแตกย่อยออกเป็นเรื่องหลักเสริมในแต่ละตอน ซึ่งก็ทำออกมาได้น่าสนใจดีตรงเราได้เห็นการดิ้นรนเอาตัวรอดของแต่ละคนในชุมชนเก่าแก่ ซึ่งมีทั้งพวกปรับตัวได้ และไม่พยายามปรับตัว แต่ต้องมาพบเจอใช้ชีวิตร่วมกันในชุมชนที่ใกล้ชิดกันขนาดที่การเปลี่ยนแปลงของคนหนึ่งคน ส่งผลกระทบไปยังอีกคนหรือธุรกิจอื่นในชุมชนอย่างไม่คาดคิด แม้แต่การนำมาซึ่งศิลปะสมัยใหม่ กลับถูกคนหัวเก่าต่อต้าน แต่พวกเขาก็มีมุมมองที่มีเหตุผลแตกต่างออกไปและก็มีความหมายกับชุมชนแห่งนี้เช่นกัน

ตัวซีรีส์ทำออกมาเรื่อยๆ เรียบๆ ตลกเป็นระยะเรียกเสียงฮาได้เรื่อยๆ แต่ไม่ขนาดว่าขำก๊ากอะไรเพราะนี่เป็นซีรีส์ที่สะท้อนความจริงของเรื่องราวการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตชุมชน ที่ตอนนี้คงเป็นเหมือนกันทั้งโลก ที่ซึ่งชุมชนเก่าแก่กำลังถูกทุนนิยมกับวัฒนธรรมใหม่กลืนกินไปเรื่อยๆ ไม่เปลี่ยนแปลงก็ปิดตัวลง แต่ก็ไม่ใช่ว่าทุกคนจะเปลี่ยนแปลงได้เช่นกัน ซึ่งก็เป็นเรื่องเศร้าเล็กๆ ในเรื่องราวนี้ที่หนังนำเสนอแง่มุมต่างๆ ออกมาได้น่าสนใจ และก็เสียดสีนายทุนที่แฝงเข้ามากับศิลปะสตรีทอาร์ทในเรื่อง ซึ่งมีอานาหลานสาวของป๊อบเป็นตัวเดินเรื่องความฝันของเธอที่ต้องการเป็นศิลปินที่ได้รับการยอมรับ แต่แล้วกลับต้องพบว่าศิลปะสตรีทอาร์ทถูกใช้เป็นเครื่องมือการตลาดที่นำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชุมชนด้วยเช่นกัน

ซีรีส์ทำออกมาได้ดีกับประเด็นความคิดธุรกิจใหม่ๆ ในชุมชนเล็กๆ ที่ต้องพบเจอกับปัญหาต่างๆ กับคนในชุมชนด้วยกันเอง แต่ด้วยความที่สเกลของเรื่องเล็ก ก็เลยทำให้เรื่องราวไม่หวือหวา ออกแนวดราม่ากึ่งๆ ตลกซิทคอมเล็กๆ กับการดำเนินชีวิตผู้คนในชุมชนเม็กซิกัน ตั้งแต่ต้นไปจนจบ แต่กลับเคลียร์เรื่องราวไม่หมดและไปต่อซีซั่น 2 ซึ่งกลายเป็นจุดบอดใหญ่สุดของซีรีส์ที่ไม่น่าค้างไว้หลายอย่าง ทั้งๆ ที่สามารถจบและเปิดเรื่องราวใหม่ได้แท้ๆ แต่กลับไม่ทำ (เหมือนเป็นแนวทางของเน็ตฟลิกซ์เองที่ต้องการโญนหินถามทางก่อนทุกเรื่อง)

 

ติดตามรีวิวหนังในเว็บไซต์คลิกที่นี่

Leave a comment
The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!