รีวิวซีรีส์เกาหลี Hyena (ไฮยีนา) เกมกฏหมาย ทนายล่าเนื้อ (อัพเดทจบ 16 ตอน)
Hyena
สรุป
ซีรีส์ที่ค่อนข้างแหวกแนวอยู่พอสมควรกับการเล่นนอกกติกาเกมกฏหมายของทั้งพระเอกนางเอก แต่เรื่องราวไม่ได้นำเสนอแบบดาร์คตามนั้น กลับเป็นแนวตลกผสมดราม่ากับเรื่องรักเบาๆ แถมด้วยการแสดงแบบตั้งใจโอเวอร์แอ็กติ้ง แม้จะทำให้ดูสนุกเพลินๆ แต่ก็รู้สึกเหมือนว่านี่เป็นหนังสูตรสำเร็จเกาหลีอีกเรื่อง ที่แค่พลิกเอาเรื่องสีเทาๆ มาเป็นเรื่องเด่นกับตัวเอกโกงๆ นอกนั้นก็ยังเป็นสูตรเดิมที่พอคาดเดาเรื่องได้ แต่ความสนุกของเรื่องจริงๆ กลับอยู่ที่การลุ้นเรื่องราวความรักของทั้งคู่ ที่หน้าที่การงานต้องมาฉะกันตลอดเวลา ซึ่งเรื่องราวเดินไปแบบโหดมันส์ฮาตลอด แล้วก็ค่อยๆ หยอดเรื่องรักลงไปทีละน้อยๆ ให้คนดูได้ลุ้นสนุกมากกว่าเกมกฎหมายในเรื่องซะอีกครับ
Overall
8/10User Review
( votes)Pros
- เกมกฏหมายแบบเล่นนอกกกติกาชกใต้เข็มขัด
- เรื่องรักน่าลุ้นแบบโหดมันส์ฮาพร้อมโรแมนติกเล็กๆ ไปพร้อมกัน
- เคมีของตัวเอกทั้งคู่เข้ากันดีมาก
- ตลกกับเกมโกงรวมถึงการแสดงโอเวอร์แอ็กติ้งของทุกตัวละครในเรื่อง
Cons
- ไม่มีจุดพีคของเรื่องเท่าไหร่นัก
- ในส่วนเกมของเกมการต่อสู้ทางกฏหมาย อารมณ์ของเรื่องไม่ได้ถูกพาไปให้สุด
- ปมของทั้งพระเอกนางเอกในตอนจบค่อนข้างเคลียร์ง่ายจนไม่ต้องลุ้น
Hyena (ไฮยีนา) เกมกฏหมาย ซีรีส์เกาหลี Original Netflix เรื่องราวของสองทนายคู่ปรับกับลูกความทรงอิทธิพลของพวกเขา ที่พร้อมจะทำทุกวิถีทางเพื่อบรรลุเป้าหมายให้ได้รับชัยชนะในโลกของกฏหมาย
ตัวอย่างซีรีส์ Hyena ไฮยีนา
*หมายเหตุ:รีวิวอัพเดทครบ 16 ตอนจบสมบูรณ์
เรื่องราวของ ‘ยุนฮีแจ’ (รับบทโดย จูจีฮุน พระเอกจาก Kingdom ผีดิบคลั่งบัลลังค์เลือด) ทนายหนุ่มดาวรุ่งผู้มีอนาคตไกลและพกความมั่นใจในตัวเองอย่างมากกว่าไม่เคยว่าความแพ้ใคร เขาทำงานผ่านบริษัททนายยักษ์ใหญ่ ‘ซงแอนด์คิม’ ที่ซึ่งกวาดลูกค้าแวดวงไฮโซไว้ในมือแทบทั้งวงการ แต่แล้ววันหนึ่งเขากลับพลาดท่าแก่ทนายสาวโนเนม ‘จองกึมจา’ (รับบทโดย คิมฮเยซู จาก Signal) ด้วยเล่ห์กลที่หลอกให้เขามาติดกับอย่างคาดไม่ถึง จึงกลายมาเป็นทั้งความแค้นส่วนตัวกับศึกแย่งลูกค้าชนชั้นสูงที่เล่นกันนอกกติกากฏหมาย และก็เดิมพันกันด้วยอนาคตของทั้งคู่ไปพร้อมกัน
ซีรีส์เรื่องนี้เป็นแนวดราม่าคอมเมดี้ว่าด้วยการต่อสู้ทางกฏหมายกับคดีความของลูกค้าชนชั้นสูง ที่มักพัวพันกับเรื่องการหย่าร้าง แบ่งแยกทรัพย์สิน และอะไรหลายๆ อย่างที่เป็นเงินเป็นทองรวมถึงชื่อเสียงหน้าตาในสังคมของลูกความเป็นเดิมพัน ซึ่งจะต่างออกไปจากหนังแนวว่าความทั่วไปที่ลูกความมักตกทุกข์ได้ยากมาพึ่งทนายสุดเก่ง แต่เรื่องนี้กลับกันคือ ทนายสุดเก่งสองคนกลับต้องหาทางแย่งลูกค้าไฮโซที่มีเพียงน้อยนิดแต่จ่ายหนักไว้ในมือ ซึ่งลูกความพวกนี้ก็ทรงอิทธิพลและมีอำนาจถึงขั้นกดขี่ทนายของตัวเองได้ แล้วก็ไม่แคร์ที่จะเปลี่ยนย้ายทนายกันได้ทุกเวลา ทำให้สถานะของทนายในเรื่องกลายเป็นเหมือนพวกขายตรงหน้าเงินที่ต้องพยายามพรีเซนต์ตัวเองกันสุดๆ รวมถึงยอมเล่นตุกติกทุกกลเม็ดที่คิดมาได้เพื่อทำให้ฝ่ายตรงข้ามพลาด และได้ลูกค้าของอีกฝ่ายมาไว้ในมือแทน
ด้วยเรื่องราวสีเทาๆ ของเกมกฏหมายทำให้ซีรีเรื่องนี้พระเอก ‘ยุนฮีแจ’ บิดคดีให้ชนะได้โดยไม่ได้สนใจว่าลูกความตัวเองจะผิดจริง แถมยังพอใจที่ตัวเองทำให้คนผิดรอดตัวได้อีกด้วย โดยที่ไม่แคร์สังคมก่นด่าประณามใดๆ ทั้งสิ้น (แถมสนุกที่มีคนมาด่าซะอีก) แต่เหนือฟ้าก็ยังมีฟ้า พระเอกก็ยังต้องมาเจอกับสาวแสบที่โฉดกว่าเหี้ยมกว่าอย่าง ‘จองกึมจา’ ผู้ซึ่งอยู่ในสถานะต่ำต้อยกว่าหมดทั้งบริษัทและครอบครัวที่เติบโตมา (บ้านพระเอกเป็นครอบครัวผู้พิพากษา) ด้วยชีวิตแบบปากกัดตีนถีบต้องเอาตัวรอดให้ได้ ทำให้เธอพุ่งเป้าแย่งลูกค้าไฮโซที่มีเพียงน้อยนิดในกำมือของบริษัทที่พระเอกทำงานอยู่ และการที่จะแย่งมาได้ก็ต้องเล่นนอกเกมไม่ซื่อเอามากๆ ถึงขั้นโดนถอดตั๋วทนายปิดอาชีพนี้ได้เลย แต่เธอก็ยังสนุกไปกับมัน และใช้เล่ห์กลทุกอย่างเข้ามาแย่งชิง โดยไม่แคร์กับความผิดชอบชั่วดีเช่นกัน นั่นทำให้เรื่องนี้เป็นเกมกฏหมายสกปรกไม่ได้ตรงไปตรงมาแม้แต่นิดเดียว ซึ่งจริงๆ แล้วก็มีอยู่จริงในสังคม แค่เรื่องนี้หยิบจับมาตีแผ่ให้เห็นเลยว่าในมุมของทนายสีเทาๆ ที่บิดเบือนคดีจากดำเป็นขาว พวกนี้คิดอ่านทำงานกันยังไงให้อยู่รอดได้ในแวดวงทนายแบบนี้ รวมถึงหาทางประสบความสำเร็จมีชื่อเสียงจากความเสื่อมเสียนี้ด้วยเช่นกัน (อารมณ์แบบยิ่งช่วยฝ่ายผิดคดียากๆ ให้รอดได้ยิ่งดัง ทำให้มีลูกค้าแนวนี้ไหลมาเทมา)
และไม่ใช่แค่ทนายที่เป็นพวกเทาๆ จัดว่าเลว ลูกค้าเองก็เป็นพวกที่เลวเข้าขั้นไม่แพ้กันหรืออาจจะเหนือกว่าด้วย เพราะตั้งแต่เปิดเรื่องมาไม่ว่าฝั่งโจทย์หรือจำเลยก็มีบาดแผลเหวอะหวะกันทั้งคู่ อย่าง ติดยา ซ้อมเมีย มีชู้นับไม่ถ้วน แต่ต่างต้องการใช้ทนายว่าความรีดทรัพย์อีกฝ่ายให้ได้มากที่สุดเท่านั้นก็พอ โดยที่ทนายเองก็หาทางรีดตบทรัพย์จากเกมกฏหมายนี้ซ้อนอีกชั้นหากำไรเข้ากระเป๋าตัวเองให้มากที่สุด
แต่ถึงแม้ว่าดูแล้วจะหาคนดีๆ ในเรื่องไม่ได้ แต่ตัวเรื่องก็ไม่ได้ทำออกมาดาร์คหรือไม่มีโมเมนต์ดีๆ ปนอยู่ เราจะได้เห็นว่าชีวิตส่วนตัวของทั้งคู่ก็มีแง่มุมที่เป็นมนุษย์ปุถุชนธรรมดากับเขาเหมือนกัน และก็มีเรื่องการใช้เกมกลยุทธ์ที่คาดไม่ถึงเล่นงานชีวิตส่วนตัวของกันและกันจนแอบดูตลกๆ พ่วงกับการแสดงแบบโอเวอร์แอ็กติ้งเข้ามาให้เรื่องออกเบาๆ ชิลๆ สนุกๆ รวมถึงมีประเด็นเรื่องความรักที่เกิดขึ้นปะปนอยู่ระหว่างตัวเอกทั้งคู่ให้แอบเชียร์ได้บ้าง เพียงแต่พอเข้าสู่โลกของธุรกิจกฏหมายทำให้ต่างคนต่างกลายร่างเหมือนเป็นหมาล่าเนื้อ ‘Hyena (ไฮยีนา)’ ตามชื่อเรื่องนี้ ซึ่งตัวนางเอก ‘จองกึมจา’ ในซีรีส์เองก็พยายามใส่ฉากแอ็กชั่นแบบให้เธอเป็นสายบู๊ตัวจริงที่สู้ยิบตา แล้วก็ใส่ปมที่มาไว้ให้เห็นแวบๆ ตามสูตรว่าอดีตเธอเคยถูกครอบครัวทำร้ายร่างกายมาก่อน ต่างกับปูมหลังของพระเอกที่ดูติดหรูสบายๆ มีแค่การขัดใจกับพี่ที่เป็นผู้พิพากษาตงฉินที่เห็นการกระทำแบบไม่รู้ผิดรู้ชอบของน้องแล้วปวดใจเท่านั้น ซึ่งเป็นปมของเรื่องความขัดแย้งในครอบครัวของพระเอกจะมีบทบาทในช่วงท้ายก่อนจบ แต่เรื่องราวค่อนข้างเคลียร์ง่ายจนน่าผิดหวังไปสักนิดเหมือนกัน (อัพเดทหลังจบ 16 ตอน)
ความสนุกของตัวเรื่องจริงๆ ไม่ได้อยู่ที่เกมกลทางกฏหมาย
แม้ว่าตัวเรื่องจะแบ่งเคสคดีความเป็นตอนๆ ให้ทั้งคู่ต้องมาเจอกัน เล่นทริกที่ต่างคนต่างงัดมาสู้กันนอกเกมกฎหมายแบบชกใต้เข็มขัด ซึ่งก็ดูสนุกได้พลินๆ อยู่ แต่เรื่องราวความสนุกของเรื่องจริงๆ นั้นอยู่ที่เคมีและบทการทะเลาะกันของทั้งคู่ ที่เหมือนไฮยีนากัดกันเองตลอดเวลาไม่มีใครยอมใคร แต่ลึกๆ แล้วต่างฝ่ายต่างก็มีมุมดีๆ ให้กันซ่อนอยู่ จากคู่กันก็ค่อยๆ กลายมาเป็นคู่รักน่าลุ้นให้เราคนดูได้เชียร์ พร้อมกับยังต้องเห็นการกัดกันของทั้งคู่ตลอดเวลาที่ร่วมฉากกัน ซึ่งเคมีของทั้งคู่เข้ากันดีมาก มีความกวนโอ้ยผสมความฮากับโรแมนติกไปพร้อมกัน ซึ่งบอกเลยโหดมันส์ฮาเอามากๆ แม้นางเอกผมสั้นตอนแรกอาจจะดูไม่ค่อยมีเสน่ห์น่าสนใจ แต่พอดูๆ ไปเธอเหมาะกับบทนี้มากๆ เพราะตามบทคือผู้หญิงที่ถูกครอบครัวทำร้ายร่างกายจนเติบโตมาก็เลยเป็นทนายเพื่อปกป้องตัวเอง ซึ่งลุคภายนอกต้องแกร่งเกินหน้าผู้ชาย แต่ลึกๆ แล้วเธอกลับซ่อนความอ่อนแอไว้ภายใน ซึ่งในเรื่องราวจะค่อยๆ เผยออกมาให้พระเอกได้ค้นพบแง่มุมที่น่าเห็นใจตรงนี้ จนค่อยๆ เข้าใจพฤติกรรมแข็งกร้าวที่เธอพยายามสร้างไว้ป้องกันตัวเองจากสังคมที่โหดร้าย กลายเรื่องราวรักๆ ในเรื่องมีความน่าติดตามมากกว่าตัวเรื่องทางกฎหมายจริงๆ ไปซะอีกครับ
ฝันร้ายอดีตที่กลับมาหลอนนางเอก
ช่วงกลางเรื่อง EP8 เราจะได้เห็นว่าอดีตเลวร้ายของนางเอกได้กลับมาแบบตัวเป็นๆ เป็นครั้งแรกที่นางเอกกลายเป็นคนอ่อนแอ ซึ่งเรื่องราวตรงนี้เริ่มเดินคู่ขนานไปกับเรื่องการทำคดีแต่ละเคส และเปิดตัวละครเสริมจากในอดีตที่ร่วมฝันร้ายกับนางเอกเข้ามาอีกหนึ่งคน ซึ่งเป็นคนเดียวที่ล่วงรู้ความลับอันนี้ และเป็นตัวละครที่ทำให้พระเอกได้เข้าใจเรื่องราวทั้งหมดของ “จองกึมจาตัวจริงว่าเป็นใคร” ซึ่งก็กลายเป็นความเห็นใจจนเขาอยากช่วยเหลือเธอ ซึ่งซีรีส์จะเปลี่ยนเป็นแนวโรแมนติกค่อนข้างมากหลังจากนี้ พร้อมกับเปิดตัวร้ายของเรื่องในส่วนของนางเอกมาพร้อมกัน
อัพเดทสรุปรีวิว 16 ตอน
ซีรีส์ที่ค่อนข้างแหวกแนวอยู่พอสมควรกับการเล่นนอกกติกาเกมกฏหมายของทั้งพระเอกนางเอก แต่เรื่องราวไม่ได้นำเสนอแบบดาร์คตามนั้น กลับเป็นแนวตลกผสมดราม่ากับเรื่องรักเบาๆ แถมด้วยการแสดงแบบตั้งใจโอเวอร์แอ็กติ้ง แม้จะทำให้ดูสนุกเพลินๆ แต่ก็รู้สึกเหมือนว่านี่เป็นหนังสูตรสำเร็จเกาหลีอีกเรื่อง ที่แค่พลิกเอาเรื่องสีเทาๆ มาเป็นเรื่องเด่นกับตัวเอกโกงๆ นอกนั้นก็ยังเป็นสูตรเดิมที่พอคาดเดาเรื่องได้ แต่ความสนุกของเรื่องจริงๆ กลับอยู่ที่การลุ้นเรื่องราวความรักของทั้งคู่ ที่หน้าที่การงานต้องมาฉะกันตลอดเวลา ซึ่งเรื่องราวเดินไปแบบโหดมันส์ฮาตลอด แล้วก็ค่อยๆ หยอดเรื่องรักลงไปทีละน้อยๆ ให้คนดูได้ลุ้นสนุกมากกว่าเกมกฎหมายในเรื่องซะอีกครับ
เนื้อเรื่องช่วงก่อนจบค่อนข้างรวบรัดรวมปมฝั่งพระเอกกับนางเอกมาไว้ด้วย แล้วก็เคลียร์ปมไปไว แต่ค่อนข้างง่ายจนเกินไป ทำให้เรื่องช่วงสุดท้ายไม่ค่อยมีลุ้นสักเท่าไหร่ แต่ก็ยังถือว่าเป็นซีรีส์ที่ค่อนข้างจบดีลงตัวในทุกๆ ด้าน เสียแค่ว่ารวบรัดตัดจบปมในเรื่องง่ายไปเท่านั้นครับ
คลิกรับชมซีรีส์เรื่องนี้ผ่าน Netflix ได้ที่นี่ (ฉายทุกวันศุกร์-เสาร์หลังห้าทุ่มไป)
รวมรีวิวซีรีส์เกาหลี Netflix คลิกที่นี่