รีวิว สปอย Kingdom ss2 การกลับมาของซอมบี้เกาหลียุคโชชอน มีจุดหักมุม ปูทางซีซัน3
Kingdom ss2
สรุป
ซีรีส์ ซอมบี้เกาหลี+ย้อนยุค ที่ทำออกมาได้ดี โปรดักชั่นเยี่ยม ดูสนุกและชวนให้ลุ้น ถึงเนื้อเรื่องจะไม่ได้มีอะไรมากนัก แต่ก็หาทางสร้างปมต่อได้ดีในระดับหนึ่ง เป็นเรื่องที่สามารถดึงคนดูที่ชอบแนวเกาหลี ย้อนยุค ซอมบี้ สำหรับ Netflix ได้ไม่ยาก
Overall
9/10User Review
( votes)Pros
- เนื้อเรื่องไม่ค่อยมีอะไรก็จริง แต่วิธีการเล่าเรื่องทำให้เดาทางหลายฉากยาก มีจุดหักเหให้ลุ้นเยอะ
- โปรดักชั่นดีเยี่ยม อลังการ
- ตัวละครแสดงดีมาก ทั้งตัวเอก ตัวรอง ตัวร้าย
- แฝงการจิกกัดสังคมเกาหลีไว้พอสมควร แต่ก็อยู่ที่คนดูจะตีความด้วย
- เสียงพากย์ไทยทำได้ดี
- เป็นซีรีส์ที่มาได้ถูกจังหวะกับสถานการณ์ของโลก
Cons
- พยายามลากเนื้อเรื่องให้มีอะไรต่อ จนดูจงใจสร้างดราม่าไปหน่อย
- ตัวเอกและตัวร้ายแทบไม่มีมิติอะไรมาก ตัวเอกคือสีขาว ตัวร้ายคือสีดำสนิท
- ตัวละครหลักที่ถูกสร้างมาในเรื่องมีจำกัด จึงการันตีได้ว่าพวกตัวหลักในฝั่งพระเอกไม่ตายแน่ๆ
- ฉากหนีตายจากซอมบี้ บางฉากบทจะหนีรอดก็ง่ายไปหน่อย ถ้าเทียบกับซีซันแรก
Kingdom ss2 Netflix รีวิว สปอย ผีดิบคลั่งบัลลังก์เดือด เกาหลีย้อนยุค + ซอมบี้ + ชิงอำนาจ แอ็กชั่น ดราม่า ปนจิกกัดชนชั้นและสะท้อนโครงสร้างทางสังคมในเกาหลี ความเห็นแก่ตัวของมนุษย์
Kingdom SS2 ถือว่าเป็นซีรีส์เกาหลีย้อนยุค + ซอมบี้ ที่อาจจะมาได้ในเวลาที่อิงกับสถานการณ์ในโลกความเป็นจริงอย่างไม่น่าเชื่อ หลังจากความหวาดกลัวเรื่องการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ก็อาจจะเทียบเคียงได้กับสถานการณ์ในเรื่องนี้ก็เป็นได้
Kingdom ss2 Trailer ตัวอย่าง
Kingdom ss2 ตัวละคร
รัชทายาทอีชาง (แสดงโดย Joo Jihun) ตัวเอกของเรื่อง รัชทายาทแห่งโชชอน ผู้ซึ่งไม่ได้มีอำนาจอะไรในมือ แล้วด้วยสถานการณ์ที่บีบคั้นจากในซีซันแรก ทำให้เขาต้องวิ่งหนีการไล่ตามจากคนที่ถูกทำให้กลายเป็นซอมบี้ แล้วรวบรวมกำลังคนเพื่อป้องกันไม่ให้พวกซอมบี้บุกเข้ามาในพื้นที่ของประชาชนไปมากกว่านี้
ในซีซันสอง เขาได้ตัดสินใจนำคนกลับไปต่อสู้ชิงอำนาจจากโจฮักจู แล้วยังต้องสังหารบิดาตนเองที่กลายเป็นซอมบี้ไปแล้ว ซึ่งก็ทำให้เขาชิงอำนาจกลับคืนมาได้ แต่ก็ยังต้องพบปัญหาอีกมากมายที่รอทดสอบอยู่
ซอบี (แสดงโดย Bae Doona) หญิงสาวที่เป็นผู้ช่วยดีตหมอที่เคยเข้าไปทำการรักษาจักรพรรดิ เป็นคค้นพบความลับเรื่องพืชสมุนไพรวิเศษที่สามารถปลุกชีพคนตายให้ฟื้นคืนได้จากบันทึกของอาจารย์ และรู้กระบวนการใช้งานสมุนไพร อีกทั้งยังค้นพบความลับของพวกซอมบี้ด้วยว่าแท้จริงแล้วไม่เคลื่อนไหวตอนอากาศหนาวเย็น และไม่ได้แพ้แสงอาทิตย์
ซอบียังเป็นตัวละครสำคัญที่ช่วยรัชทายาทในการวางแผนโค่นล้มอำนาจของโจฮักจู รวมถึงหาทางรับมือกับการบุกของเหล่าซอมบี้ในเรื่องด้วย
ยงชิน อดีตทหารมากฝีมือ ที่กลายมาเป็นคนเร่ร่อน มีความแค้นกับพวกฮักจูที่ทำให้ครอบครัวตนเสียชีวิต มีฝีมือและไหวพริบในการต่อสู้ การยิงปืนสูงมาก หลังจากผ่านเรื่องราวมากมาย ในี่สุดก็ยอมติดตามรัชทายาทอีชาง โดยหวังว่าอีกฝ่ายจะทำให้แผ่นดินเข้าสู่ความสงบ
โจฮักจู เสนาบดีผู้ทะเยอทะยาน เป็นคนอยู่เบื้องหลังแผนการมากมาย ทั้งการใช้สมุนไพรเพื่อคืนชีพให้พระราชา การนำสมุนไพรมาใช้เป็นครั้งแรกเพื่อการทหาร แต่สุดท้ายก็มาพลาด ถูกลูกสาวของตนเองวางยาจนเสียชีวิต
มูยง องครักษ์ของรัชทายาทอีชาง คอยติดตามดูแลรัชทายาทมาจนพบเรื่องราวของพวกซอมบี้ ภรรยาที่ตั้งท้องแก่ของเขาถูกนำไปเป็นตัวประกัน จึงต้องเป็นสายลับให้ฮักจูคอยรายงานความเคลื่อนไหวของอีชาง
บัมพัล ญาติของฮักจูและมเหสี ถูกแต่งตั้งให้ไปอยู่เมืองทงเร โดยเนื้อแท้เป็นคนจิตใจดี แม้ว่าจะเป็นคนของฝั่งฮักจูก็ตาม หลงรักซอบีจึงตามตื้ออีกฝ่ายมาตลอด ภายหลังเพราะเห็นแก่มนุษยธรรม จึงตัดสินใจเข้าฝ่ายรัชทายาทอีชาง
อานฮยอง อดีตแม่ทัพคนสำคัญของราชวงศ์โชชอน และเป็นพระอาจารย์ของรัชทายาทมาก่อน เขาเคยเผชิญหน้ากับคนตายที่คืนชีพมาแล้ว ซึ่งเรื่องราวได้เผยว่า เขาเคยร่วมมือกับฮักจูในการใช้ประโยชน์จากคนตายเพื่อต้านทหารญี่ปุ่น แต่ก็เป็นการทำลายหมู่บ้านของคนเกาหลีจนสิ้นไป เรื่องนี้จึงเป็นความรู้สึกผิดของเขามาตลอด
มเหสีโจ ลูกสาวของฮักจู และเป็นพระมเหสีองค์ปัจจุบัน เนื่องจากไม่สามารถตั้งท้องเองได้ จึงวางแผนหาหญิงท้องแก่ใกล้คลอดเพื่อเอาทารกมาอุปโลกน์ขึ้น แต่ฮักจูรู้เข้าก็ไม่พอใจมาก นางจึงสังหารบิดาตนเอง และเตรียมไพ่ตายไว้ต้อนรับพวกของอีชาง
Kingdom ss2 ผีดิบคลั่งบัลลังก์เดือด สรุป เนื้อเรื่อง
หลังจากรัชทายาทอีชางต้องหนีออกจากทงเร แล้วมาตั้งมั่นสู้กับทัพซอมบี้ที่แซงจูพร้อมกับอาจารย์อานฮยอง ด้านหมอสาวซอบี ก็ไปค้นพบสมุนไพรลึกลับที่เป็นต้นเหตุของโรคระบาดซอมบี้พร้อมกับโจบัมพัล แล้วเนื่องจากทั้งสองถูกพวกซอมบี้ขวางทางกลับไว้ จึงต้องหาทางลัดไปหลบหนีออกไป แล้วก็ไปพบกับโจฮักจู ที่พาพระราชาเดินทางเพื่อคุมสถานการณ์ แล้วโจฮักจูก็ได้พบว่าซอบีเป็นผู้ช่วยของหมออัลฮึง ที่เคยใช้สมุนไพรคืนชีพให้พระราชามาก่อน ดังนั้นจึงคิดจะเก็บหมอซอบีไว้ใช้งาน
ด้านกองทัพที่แซงจูก็ตั้งมั่นต่อสู้ แต่ก็ต้านพวกซอมบี้ไม่ไหว หลายคนต้องเสียสละชีวิตไป อีชางจึงคิดจะนำกำลังบางส่วนพร้อมกับอาจารย์อานลอบบุกไปโจมตีโจฮักจู แต่ก็สงสัยว่า มูยูล องครักษ์ของตนเป็นสายลับที่แอบบอกข่าวความเคลื่อนไหวของตน
พวกอีชางบุกเข้าโจมตีที่จวนของโจฮักจู แล้วก็อีชางก็พบว่า พระราชา บิดาตนกลายเป็นซอมบี้ไปแล้ว จึงจำใจสังหาร แต่ก็ตกหลุมกับดักของฮักจูที่จัดฉากให้เกิดสถานการณ์นี้ ทำให้เขาถูกหาว่าเป็นกบฎ ส่วนอาจารย์อานก็ถูกยิงสังหาร แต่ก่อนตายก็ได้วางแผนลับไว้กับอีชาง บอกให้เขาใช้สมุนไพรคืนชีพกับตนเอง เพื่อเปิดโปงให้ผู้คนในกองทัพรู้
แล้วเรื่องยังเฉลยย้อนหลังด้วยว่า อาจารย์อานเคยมีส่วนในการใช้สมุนไพรคืนชีพให้กับคนที่ตายไปเพื่อใช้ประโยชน์ในการสู้ศึกกองทัพญี่ปุ่น ที่กำลังบุกเข้ามาทางใต้ของอาณาจักรโชชอน ซึ่งตอนนั้นคนที่เสนอให้ใช้สมุนไพรก็คือฮักจูนี่เอง
จากนั้น อีชางที่กำลังจะถูกประหาร ก็ได้พวกยงชินพานักโทษบางส่วนแหกคุกออกมา เพื่อจะช่วยไว้ แต่พวกยงชินก็ถูกกุมตัวไว้ก่อน แล้วตอนนั้นอาจารย์อานที่คืนชีพเป็นซอมบี้ เพราะหมอซอบีเอาสมุนไพรมารักษาให้ ก็ฟื้นขึ้นมาแล้วอาละวาดแล้วบุกไปกัดฮักจูได้ ทำให้รัชทายาทอีชางได้เปิดโปงความจริง แล้วหมอซอบีก็นำบันทึกของอาจารย์มาเปิดเผยเรื่องราว อีชางจึงได้กองทหารเข้ามาเป็นของตัวเอง แล้วเตรียมจะบุกกลับเข้าเมืองหลวงเพื่อทวงอำนาจคืน
ด้านฮักจูที่ถูกกัดแต่ยังไม่ตาย ได้หมอซอบีดูอาการให้ โดยมีบัมพัลขอร้อง แล้วมูยลก็มาพาทั้งสองขึ้นรถม้าเดินทางไปก่อนโดยอ้างว่าเป็นคำสั่งของอีชาง แล้วเรื่องก็เฉลยว่า มูยลเป็นสายลับจริงๆ เพราะเขาต้องทำเพื่อช่วยเหลือภรรยาที่ตั้งท้องอยู่แล้วถูกจับเป็นตัวประกัน แต่แล้วเขาก็ถูกพวกทหารของฮักจูที่ตามมาช่วยทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัสเจียนตาย จึงได้ขอให้หมอซอบีช่วยสืบหาเรื่องภรรยาของเขา แล้วหมอซอบีก็จำต้องตามบัมพัลกลับไปเมืองหลวง ส่วนมูยลที่ใกล้ตายก็ได้พบอีชางที่ตามมาแล้วได้สารภาพความผิด แล้วก็เสียชีวิต
ด้านหมอซอบี ถูกพาตัวไปช่วยดูอาการพระมเหสีโจ ซึ่งแผนของนางคือรวบรวมผู้หญิงที่ตั้งท้องเป็นบุตรชายออกมาเพื่อใช้ทารกนั้นเป็นลูกของตน ซึ่งก็คือภรรยาของมูยลนั่นเองที่ได้คลอดเป็นบุตรชาย ฮักจูรู้เรื่องนี้ก็โกรธมาก เพราะไม่ตรงกับความคิดของตนในการสร้างบ้านเมืองที่จะใช้สายเลือดของราชวงศ์อีในการปกครองแผ่นดิน ในที่สุดจึงถูกลูกสาวของตัวเองวางยาสังหารทิ้ง ด้านหมอซอบีที่อยู่ในเหตุการณ์แล้วเห็นทุกอย่าง ก็ถูกพาตัวไปขังในคุกใต้ดินที่มีพวกซอมบี้อยู่ แล้วถูกสั่งให้ศึกษาการใช้สมุนไพรต่อ
อีชาง ยงชิน และคนอื่นๆ พากองทัพบุกกลับมาเมืองหลวง บัมพัลที่ได้คุมทหารองครักษ์ไม่สามารถตัดใจสั่งประหารผู้คนได้ จึงยอมสวามิภักดิ์ต่ออีชาง แล้วทั้งหมดก็คุมทหารบุกเข้าวัง เพื่อทวงอำนาคืนจากพระมเหสี
พระมเหสีจึงใช้ไพ่ตายสุดท้าย ให้คนปล่อยซอมบี้ในคุกใต้ดินออกมา ทำให้เกิดการระบาดไปทั่ววัง อีชางจึงต้องสั่งปิดวัง เพื่อจัดการพวกซอมบี้ในศึกสุดท้าย ด้านพระมเหสีก็กลายเป็นซอมบี้ด้วย อีชางเข้าต่อสู้จนพลาดถูกกัด เขาจึงทิ้งตัวลงน้ำ แต่แล้วก็พบว่ามีพยาธิหลุดออกมาจากแผล แล้วตัวเขาก็ไม่กลายร่างเป็นซอมบี้
แล้วหลังจากผ่านการนองเลือดตลอดคืน อีชางก็คุมสถานการณ์ได้สำเร็จ
หมอซอบีพาทารกไปหลบอยู่ จึงรอดปลอดภัย อีชางพบว่าทารกถูกกัดที่แขน แต่ซอบียืนยันว่าเด็กไม่กลายร่าง เพราะนำไปจุ่มน้ำได้ทัน ทำให้พยาธิที่เป็นต้นเหตุของโรคซอมบี้หลุดออกมาก่อน รวมถึงตัวอีชางที่รอดได้เพราะเอาตัวลงน้ำได้ทันหลังถูกกัด
อีชางตัดสินใจ สละสิทธิการครองบัลลังก์ ปล่อยให้บันทึกประวัติศาสตร์ไปว่าโรคระบาดคร่าชีวิตคนทั้งหมดรวมถึงตัวเขาด้วย แล้วมอบบัลลังก์ให้ทารกน้อย ขอให้พวกเสนาบดีและคนที่เหลือช่วยดูแลราชการต่อ แล้วตนเองก็จากไป
เมื่อเวลา 7 ปีผ่านไป พระราชาน้อยเติบโตขึ้นโดยไม่รู้เรื่องราวที่แท้จริง ที่แขนยังคงมีรอยถูกกัดในอดีต แล้วก็ได้พวกบัมพัลคอยเป็นที่ปรึกษาดูแลให้ ด้านภรรยาของมูยลก็ได้เป็นนางใน คอยแอบเฝ้าดูบุตรชายตัวเองเติบใหญ่
ด้านยงชิน ได้ออกเดินทางไปพร้อมกับอีชางและซอบีเพื่อค้นหาความลับของสมุนไพรที่เป็นต้นเหตุของโรคซอมบี้ ก็ได้กลับมาเมืองหลวงแล้วมอบบันทึกที่ซอบีเขียนให้บัมพัล พร้อมกับยังเหลือข้อสงสัยบางอย่าง ซึ่งอาจจะเป็นสิ่งที่คาดไม่ถึงยิ่งกว่า ขณะที่พระราชาน้อยที่นอนอยู่ ก็พบว่ามีหนอนชอนไชจากแผลที่แขนแล้วจะเข้าสู่สมอง
ด้านอีชางและซอบี ก็พาคนออกเดินทางไปค้นหาความจริงเรื่องสมุนไพร กระทั่งเริ่มพบว่า สมุนไพรนี้มีที่มาจากต่างแดน และมีคนนำมาปลูกไว้ ภาพสุดท้ายจึงเป็นการปรากฏตัวของ หญิงสาวปริศนา (แสดงโดย จวนจีฮุน) ที่มาพร้อมดาบยักษ์สะพายหลัง และลังไม้ที่กักตัวพวกซอมบี้ไว้ แล้วปูเรื่องราวไปซีซันสามต่อไป
Kingdom ss2 รีวิว สนุกไหม
ที่จริงแล้ว ให้คิดซะว่า ss1-2 คือ ซีซันเดียวกัน เรื่องนี้จะจบเนื้อหาลงในซีซันเดียวได้พอดี คือตอนจบของซีซันสองนี้ มันคือการปูทางไปเนื้อหาบทใหม่แบบ Time Skip
สไตล์การเดินเรื่องเน้นความรวดเร็ว กระชับ ตัวร้ายที่เป็นจอมบงการหลักในซีซันแรก อย่างโจฮักจู ถูกจัดการได้ตั้งแต่ช่วงแรก ซึ่งก็ถือว่าเป็นการเดินเรื่องที่รวดเร็วดี จะมีติดอยู่บ้างตรงที่ลักษณะการเขียนบทในซีรีส์ในช่วงแรกเลือกใช้วิธีการของซีรีส์ย้อนยุคแนวเก่า คือเน้นเรื่องที่ตัวร้ายวางแผนอุบาย สร้างให้เกิดความเข้าใจผิด ใส่ร้ายตัวเอก แถมแผนอุบายเป๊ะมาก ราวกับมองเห็นทุกอย่าง ซึ่งการสร้างสถานการณ์บีบคั้นให้ตัวเอกที่ก็ไม่ค่อยมีอำนาจอะไรอยู่แล้ว ต้องมาเสียความชอบธรรมไปอีกนั้น เป็นแนวทางเก่าของซีรีส์จีนแนวกำลังภายใน กับแนวชิงอำนาจในวัง ตรงนี้ก็ไม่นึกว่า ซีรีส์เกาหลียุคใหม่อย่าง Kingdom ที่เน้นเดินเรื่องกระชับ จะเอาแนวทางนี้กลับมาใช้
แถมบทที่ฝั่งพวกพระเอกจะเอาคืนแล้วคลี่คลายและทำลายแผนของตัวร้ายก็ออกมาง่ายๆ ไม่ได้ซับซ้อนมากนัก แถมดูจะชนะง่ายเกินไปด้วยถ้านึกถึงเรื่องที่ตัวร้ายวางแผนมาอย่างแยบยลตั้งนาน แต่ตรงนี้จะมองว่าเป็นจุดเด่นของเรื่องก็ได้ ที่ตัวซีรีส์เลือกจะจัดการเคลียร์ตัวละครให้หมดไปในสองซีซันนี้ ซึ่งเนื้อหารวมแล้วแค่ 12 ตอน เท่ากับซีรีส์ปกติทั่วไป
สำหรับการเดินเรื่องใน Kingdom ss2 พอจะแบ่งเรื่องออกได้เป็น 2 บทใหญ่ คือตอน 1-3 และ ตอน 4-6
โดยในตอน 1-3 คือการเฉลยปมที่ค้างคาจากซีซันแรก ซึ่งก็เฉลยออกมาได้ดี และย้ำอีกรอบเรื่องที่พวกซอมบี้ในเรื่องนี้ไม่ได้แพ้แสงแดด แต่กลัวอากาศหนาวเย็น และเฉลยปมในอดีตว่าเกิดอะไรขึ้น ในเหตุการณ์ซอมบี้อาละวาดครั้งแรกเมื่อ 3 ปีก่อน ซึ่งตัวเรื่องยังโยงเนื้อหาให้ไปเกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์เกาหลีในช่วงที่กองทัพญี่ปุ่นยกทัพข้ามทะเลมาบุกเกาหลีด้วย โดยเรื่องนี้ให้เหตุผลว่า ทำไมทหารเกาหลีที่มีน้อยกว่า ถึงตีโต้ทัพญี่ปุ่นให้ถอยกลับไปได้ ซึ่งสาเหตุก็มาจากการเริ่มใช้กองทัพซอมบี้ให้เป็นอาวุธนี่เอง
ส่วนเรื่องราวในตอน 4-6 จะเป็นช่วงของการชิงบัลลังก์คืนจากพระมเหสีโจ ซึ่งที่ผ่านมาถือว่าเป็นตัวละครที่ในเรื่องพยายามให้แอร์ไทม์เยอะมาก แต่ก็ดูเหมือนจะเยอะมากเกินไปหน่อย แถมบทของตัวละครก็จบด้วยการเป็นตัวร้ายในสไตล์นางอิจฉากระหายอำนาจที่บทลักษณะนี้มีอยู่ให้เห็นเยอะมากในซีรีส์แนววังหลัง แต่เรื่องนี้ก็ถือว่าพยายามทำได้ดีในการหาทางวางบทให้นางเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดฉากแอ็กชั่นตะลุยกับพวกกองทัพซอมบี้ภายในวังหลวง ซึ่งก็นำไปสู่บทสรุปของการชิงบัลลังก์คืนที่น่าประทับใจ
แล้วที่สำคัญคือ ในตอนสุดท้ายได้มีการวางปมที่น่าสนใจและน่าติดตามเอาไว้ในซีซันสามด้วย (เลื่อนลงมาอ่านสปอยตอนจบได้ด้านล่าง)
ด้านการเล่าเรื่อง ถือว่าเป็นจุดเด่นสำคัญอย่างหนึ่งของซีรีส์นี้ เพราะหลายตอนเลือกใช้การเล่าเรื่องแบบเล่าย้อน จากมุมมองของตัวละครในเรื่อง สลับกับเหตุการณ์ปัจจุบัน มากกว่าจะเล่าไปตามเส้นเรื่องปกติ ซึ่งก็ถือว่าทำจุดนี้ได้ดีมากสำหรับมาตรฐานซีรีส์ชั้นแนวหน้า
ด้านโปรดักชั่น เอฟเฟค CG เพลงประกอบ ถือว่าเป็นซีรีส์เกาหลีที่จัดเต็มในเรื่องนี้มาก จนไม่น่าแปลกใจว่าทำไมถึงทยอยทำพาร์ทละ 6 ตอน เพราะใช้งบเยอะมาก แต่ก็ถือว่าแลกมากับการเป็นผลงานที่ช่วยเรียกคนดูให้กับ Netflix ได้อย่างดี โดยเฉพาะคอหนังเอเชียและคนชอบแนวซอมบี้ + แนวย้อนยุคเกาหลี
สำหรับในซีซัน 2 ก็ยังคงแฝงการจิกกัดและสะท้อนโครงสร้างสังคมในเกาหลี และยังมีประเด็นเรื่องการทอดทิ้งเมืองทางใต้ของราชวงศ์โชชอนในสมัยนั้น หรือถ้าจะเปรียบเทียบกับโลกในปัจจุบันก็คล้ายกับรัฐบาลเกาหลีในยุคนี้ที่ให้ความสำคัญกับเมืองใหญ่ จนทำให้เมืองหลักในเกาหลีหลายแห่งกลายเป็นเมืองที่มีประชากรอยู่อาศัยหนาแน่น แต่ยังคงละเลยการให้ความสำคัญกับสังคมส่วนอื่นๆหรือที่เรียกกันว่าชายขอบ ซึ่งเป็นปัญหาเรื่องความเหลื่อมล้ำทางสังคมของเกาหลีในเวลานี้
แล้วยังมีจุดเล็กๆที่ซีรีส์หยิบยืมไอเดียมาจากประวัติศาสตร์จีน เช่น การเอาประโยคเด็ดๆในจีนสมัยฮั่นมาใช้ ไปจนถึงฉากที่อีชางไปพบกับองค์ชายที่เป็นอาของตนซึ่งถูกเนรเทศกำลังนั่งตกปลาแต่ตกไม่ได้ คล้ายกับตำนานเรื่องที่โจวอู่หวางได้พบกับเจียงไท่กง แล้วเชิญอีกฝ่ายมาเป็นที่ปรึกษา ก็คล้ายกับบทสรุปในเรื่องที่ได้อีกฝ่ายมาเป็นหนึ่งในเสนาบดีช่วยงานพระราชาเด็กต่อไป
Kingdom ss2 ตอนจบ สปอย
เป็นตอนจบที่ทำได้ดีสำหรับบทสรุปของ ซีรีส์ Kingdom ซึ่งเอาจริงๆคือเคลียร์ปมในเรื่องได้จนหมด แล้วให้จบเรื่องไปแค่นี้ก็ยังได้ แต่ทีมสร้างก็ยังพยายามหยิบปมเรื่องสมุนไพรที่เป็นต้นกำเนิดโรคซอมบี้ให้ลึกลงไปอีก ซึ่งตรงนี้ถือว่าทำได้ดี
จากการเฉลยตอนท้ายว่า ที่จริงแล้ว สมุนไพรที่ว่านี้มีที่มาจากแผ่นดินอื่น ซึ่งมีคนนำมาขายแล้วชาวบ้านก็นำมาปลูกหวังจะขาย เท่ากับว่าสมุนไพรนี้อาจจะไม่ได้เกิดเองตามธรรมชาติปกติ เป็นไปได้ว่า ซีซัน 3 อาจจะเล่นพล็อตเรื่องที่ว่า สมุนไพรนี้ถูกนำมาดัดแปลงโดยมนุษย์ เพื่อเป้าหมายบางอย่างก็เป็นได้
ที่สำคัญคือ ตัวหนอนที่อยู่ในสมุนไพรที่เป็นต้นเหตุของโรคซอมบี้ ก็ชอนไชเข้าสู่ร่างกายของราชาเด็กแล้วด้วย ตรงนี้สามารถขยายเรื่องราวได้อีกมาก ว่าราชาเด็กจะกลายเป็นซอมบี้ หรืออาจจะมีสติปัญญาและพละกำลังที่แตกต่างจากมนุษย์ไปเลยหรือเปล่า
ส่วนนักแสดงสาว ซุปเปอร์สตาร์ที่คนไทยรู้จักกันดีอย่าง จวนจีฮุน โผล่ออกมาในตอนจบเพียงแค่ไม่กี่วินาที แต่ถือว่าอิมแพ็คมาก เพราะจากลักษณะการแต่งตัวและบริบทตัวละคร ดูเหมือนจะเป็นการพาซีรีส์นี้ไปไกลยิ่งกว่าเดิมในซีซัน 3 ซึ่งก็ต้องดูว่าจะเป็นยังไงต่อ
สำหรับในอนาคต ถ้าเรื่องนี้จะสร้างเป็น 10 ซีซัน โดยใช้กลยุทธ์แบ่งพาร์ทออกเป็น 6 ตอนต่อซีซัน ก็อาจจะทำได้จริงๆก็ได้ครับ ก็ต้องรอดูว่าเรื่องมันจะยืดเกินไปหรือไม่ แต่ถึงตรงนี้ก็ต้องชมทีมสร้างที่หาทางจบประเด็นหลักลงแล้วสร้างประเด็นใหม่ๆทิ้งท้ายไว้เพื่อปูไปซีซัน 3
สรุปภาพรวม เป็ซีรีส์เกาหลีย้อนยุค + ซอมบี้ ที่ผสมผสานได้ดี แม้ว่าตัวเรื่องยังไม่ได้สมบูรณ์แบบ มีจุดที่น่าขัดใจด้านบทอยู่บ้าง แต่ก็เป็นเรื่องที่ดูสนุก มีการวางปมที่ชวนดึงคนดูเป็นระยะ แล้วจะเป็นอีกหนึ่งซีรีส์เด่นระดับแนะนำใน Netflix ที่น่าจะเรียกคอหนังเกาหลี ย้อนยุค และคอหนังซอมบี้ ให้เข้ามาดูได้อย่างดีครับ
ติดตามบทความทั้งหมดของผู้เขียนคลิกที่นี่
Reference Website