รีวิว The Last Kingdom ss4 Netflix ซีซันที่สนุกที่สุดของ อูเทร็ด สงครามรวมประเทศอังกฤษ
The Last Kingdom ss4
สรุป
ซีรีส์อิงประวัติศาสตร์ สงคราม อังกฤษปะทะไวกิ้ง ที่สนุกขึ้นเรื่อยๆ เดินเรื่องกระชับ ฉากต่อสู้ทำสงครามเยอะขึ้น ตัวเอกในซีซัน 4 มีการกระทำน่าขัดใจน้อยลงมาก ตัวร้ายในซีซันนี้มีมิติน่าสนใจที่สุดในทุกภาค และวางบทให้ตัวเอกเพื่อปูไปซีซันใหม่ได้น่าติดตามดี
Overall
9/10User Review
( votes)Pros
- บทของเรื่อง ที่ดูแล้วขัดใจน้อยกว่าทุกซีซัน ตัวเอกมีวุฒิภาวะสูงขึ้นมาก
- ฉากสงครามและฉากต่อสู้มีเยอะ เดินเรื่องสนุก
- ยังคงมีฉากดราม่าเรื่องความเชื่อทางศาสนาระหว่างอูเทร็ดและกษัตริย์อังกฤษ แต่ความสัมพันธ์ไม่ตึงเครียดเท่าสามซีซันแรก
- เล่าเรื่องอิงประวัติศาสตร์ได้ดี ทำให้คนอยากไปค้นคว้าต่อได้ว่าเรื่องไหนจริง ไม่จริง เสริมแต่งเอง
- ตัวละครใหม่ๆในซีซันนี้น่าสนใจมาก วางบทเพื่อปูทางไปซีซันใหม่ได้ดี โดยเฉพาะบทของพระเอก
Cons
- ดราม่าบางเรื่องเหมือนจงใจยัดเข้ามาเพื่อให้เรื่องเดินหน้าต่อได้มากไปหน่อย
- เส้นเรื่องเกี่ยวกับการชิงแบบเบนเบิร์กกลับมาเหมือนโดนนักเขียนและทีมสร้างหาเรื่องลากออกไปเรื่อยๆ
- ฉากสงครามตอนท้ายเล่นง่ายไปหน่อย
The Last Kingdom ss4 รีวิว Netflix รีวิว ซีรีส์อิงประวัติศาสตร์ สงคราม อังกฤษปะทะไวกิ้ง เรื่องราวของ อูเทร็ด ดัดแปลงจากนิยายขายดีของ Bernard Cornwell จากชุด The Saxon Stories ที่ว่าด้วย กำเนิดประเทศอังกฤษ
The Last Kingdom ss4 สำหรับเรื่องนี้เป็นซีรีส์แนวแอ็กชั่นดราม่าอิงประวัติศาสตร์ ที่บอกเล่าเรื่องราวผ่านทางตัวละครเอกของเรื่องคือ อูเทร็ด เด็กหนุ่มชาวแซกซัน ทายาทของผู้ปกครองที่ชอบธรรมแห่งแบบเบนเบิร์ก ที่ถูกชาวเดนส์หรือไวกิงพรากจากบ้านเกิดแล้วนำไปเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ ในขณะที่ป้อมแบบเบนเบิร์กก็ถูกอาของเขายึดครองไป แล้วจากนั้นเขาก็ใช้ชีวิตตามวิถีทางแบบชาวเดนส์ ปฏิเสธวิถีทางของชาวคริสต์และสายเลือดแซกซันในตัว แต่ด้วยโชคชะตาทำให้เขาต้องกลับมาช่วยเหลือชาวแซกซัน ทำสงครามต่อสู้กับชาวเดนส์เพื่อปกป้อง เวสเซก (Wessex) อาณาจักรสุดท้ายของชาวแซกซัน ที่มี “พระเจ้าอัลเฟรดมหาราช” (Alfred the Great) กษัตริย์ผู้ชาญฉลาด ที่ต่อมาได้ชื่อว่าเป็นมหาราชองค์แรกและองค์เดียวของอังกฤษ เป็นผู้ปกครองอยู่
สำหรับรีวิวและตัวละครใน 3 ซีซันแรก อ่านได้ที่
The Last Kingdom ss4 Netflix Trailer
The Last Kingdom ss4 เรื่องย่อ
สำหรับเรื่องราวใน 3 ซีซันที่ผ่านมา อูเทร็ด พระเอกของเรื่องมีความสัมพันธ์กับกษัตริย์อัลเฟรด ในแบบผู้ที่ใช้ประโยชน์ต่อกัน เขาได้ช่วยกอบกู้อาณาจักรสุดท้ายของชาวแซกซันไว้หลายครั้ง ในขณะที่อัลเฟรดก็ยังคงใช้ประโยชน์จากเขาเรื่อยมาเช่นกัน
กษิตริย์อัลเฟรดมีความฝันที่จะสร้างประเทศอังกฤษที่มีกษัตริย์องค์เดียว นับถือพระเจ้าองค์เดียว เขาจึงต้องทำทุกอย่างเพื่อขับไล่ชาวเดนส์กลับไป แล้วรวมทุกอาณาจักรของชาวแซกซันให้เป็นประเทศอังกฤษเพียงหนึ่งเดียวให้ได้ แต่แล้วอัลเฟรดก็ล้มป่วยแล้วสิ้นพระชนม์ไปก่อนที่ความฝันจะเป็นจริง ก่อนตายเขาได้เปิดใจกับอูเทร็ด วางความบาดหมางทั้งหมดที่เคยมีต่อกัน แล้วขอร้องให้อูเทร็ดช่วยเหลือโอรสของเขาคือเอ็ดเวิร์ด ปกป้องอาณาจักรนี้ต่อไป
ด้านอูเทร็ดที่ได้ช่วยกษัตริย์หนุ่มที่เพิ่งขึ้นครองราชย์อย่างเอ็ดเวิร์ด ทำสงครามใหญ่กับกองทัพพันธมิตรชาวเดนส์ที่มีกองกำลังกบฏบางส่วนมาร่วมด้วย หลังจากศึกในซีซัน 3 จบลง ด้วยชัยชนะของกษัตริย์เอ็ดเวิร์ด แต่เป้าหมายสูงสุดของอูเทร็ดที่จะทวงบ้านเกิดของเขาอย่างแบบเบนเบิร์กกลับมาก็ยังไม่เป็นจริง เขาก็ต้องเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเป้าหมายการสร้างประเทศของกษัตริย์เอ็ดเวิร์ดที่รับสืบทอดภารกิจจากบิดาอีกครั้ง
The Last Kingdom ss4 ตัวละคร
ฝ่ายแซกซัน อังกฤษ
อูเทร็ด หลังจากทำศึกมาค่อนชีวิต เขากลายเป็นยอดนักรบอันดับหนึ่งของชาวแซกซัน ซึ่งเขาได้รับฉายาว่า “เพชรฆาตเดนส์” (Dens’s Slayer) อูเทร็ดช่วยเหลืออาณาจักรเวสเซกและพระเจ้าอัลเฟรดหลายครั้ง แม้ว่าทั้งสองจะไม่ค่อยลงรอยกันนักก็ตาม โดยเฉพาะทัศนคติในเรื่อศาสนาของทั้งสองคนที่แตกต่างกันอย่างสุดขั้ว แต่ก่อนที่อัลเฟรดจะสิ้นพระชนม์ (ในซีซัน 3) ทั้งสองได้ยอมเปิดใจและวางความบาดหมางต่อกัน อัลเฟรดได้ขอร้องให้อูเทร็ดช่วยเหลือเอ็ดเวิร์ดต่อไป ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้ปฏิญาณตนว่าจะภักดีต่อเอ็ดเวิร์ดก็ตาม
ในซีซัน 4 อูเทร็ดอยู่ในช่วงพีคสุดขีดทั้งด้านฝีมือการรบและชื่อเสียง เขากลายเป็นที่เคารพนับถือของนักรบแซกซัน และเป็นที่ยำเกรงของนักรบเดนส์ เขาจึงวางแผนจะขอยืมกำลังทหารจากกษัตริย์เอ็ดเวิร์ดไปชิงเอาแบบเบนเบิร์กกลับมา แล้วยังเสนอแผนการว่าการยึดป้อมแห่งนี้จะได้ประโยชน์ต่อการรวมประเทศและทำศึกกับชาวเดนส์ยังไงต่อไปในอนาคต แต่เอ็ดเวิร์ดไม่อยากให้ไพร่พลบอบช้ำ และต้องการเลี่ยงสงครามใดๆ อีกทั้งในราชสำนักของเอ็ดเวิร์ดก็มีอิทธิพลของเอเทลโฮลด์ที่เป็นพ่อตาอยู่ อูเทร็ดจึงไปรวบรวมทหารของตนเองไปออกศึกเอง แต่กลายเป็นว่าศึกที่ควรจะชนะอย่างง่ายๆ กลับนำไปสู่การสูญเสียครั้งใหญ่ และนำไปสู่ศึกใหญ่ที่จะตามมาอีกหลายครั้งในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน
อูเทร็ดเป็นคนที่มีบุคลิกนิสัยเลือดร้อน โผงผาง ไม่เกรงกลัวใคร แต่ในซีซัน 4 ด้วยอายุมากที่ขึ้น เขากลายเป็นคนเจ้าความคิดมากขึ้น เขายังมีความเข้าใจในกลยุทธ์การทำศึกของพวกไวกิงอย่างดี แล้วนำกลยุทธ์ของพวกไวกิงโดยเฉพาะกำแพงโล่ห์มาฝึกฝนให้กับทหารชาวแซกซัน ส่วนในด้านฝีมือดาบนั้น เขาจัดว่าเป็นนักดาบฝีมือเยี่ยมอันดับต้นๆในเรื่องเลยทีเดียว
ด้านความรัก อูเทร็ดยังมีชีวิตรักพัวพันกับผู้หญิงในเรื่องอีกหลายคน เขามีบุตรชายและบุตรีอย่างละคนที่เกิดจากกีเซล่า ภรรยาชาวคนที่สามที่เสียชีวิตไป ส่วนในซีซัน 4 เขาได้มีความรักกับ เลดี้เอเทลเฟลด์ ท่านหญิงแห่งเมอร์เซีย แต่ก็ไม่สามารถอยู่ด้วยกันได้เพราะเหตุผลทางการเมือง
อูเทร็ดยังเป็นคนที่มีอิทธิพลต่อผู้คนมากมาย เขามีคนสนิทที่ร่วมติดตามทำศึกมาด้วยกันในสามซีซันที่ผ่านมา ซึ่งแต่คนละคนมีพื้นเพที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แต่ทุกคนยังมีบทบาทสำคัญในซีซัน 4 คือ ฟีแนน ซิทริก ออสเฟิร์ส แล้วในซีซันนี้ เขายังได้รับบทบาทสำคัญในการดูแลเด็กน้อยที่โอรสนอกสมรสของกษัตริย์เอ็ดเวิร์ด คือ อเธลสแตน ซึ่งภายหลังจะกลายเป็นกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ของอังกฤษในหน้าประวัติศาสตร์
เอเทลเฟลด์ Aethelflaed lady of the Mercians
ธิดาสุดรักของอัลเฟรดและเอลสวิท เป็นพี่สาวของเอ็ดเวิร์ด เธอเติบโตมาพร้อมกับฟังวีรกรรมของอูเทร็ด จึงรู้สึกปลื้มในเรื่องราวความกล้าหาญของเขามานาน อัลเฟรดส่งเธอไปแต่งงานกับกษัตริย์เอลเทเร็ดแห่งเมอร์เซีย เพื่อผูกสัมพันธ์ แต่เอลเทลเฟลด์กลับไปตกหลุมรักอูเทร็ด ทั้งสองจึงกลายเป็นชู้รักกันอยู่หลายปี
เอเทลเฟลด์เป็นหญิงสาวสวย จิตใจแข็งแกร่ง มีสติปัญญาและความกล้าหาญมาก กล้าที่จะออกไปสู้รบในแนวหน้า เธอยังสามารถชนะใจผู้คนในเมอร์เซียได้ยิ่งกว่าสามีของตนเอง
ภายหลัง อูเทร็ด ซึ่งถูกเลือกจาเอ็ดเวิร์ดให้ปกครองเมอร์เซีย เขานั่งบัลลังก์เพียงไม่กี่วินาที ก่อนที่จะเสนอชื่อเอเทลเฟลด์ให้ขึ้นเป็นผู้ปกครองหญิงห่งเมอร์เซียหลังจากเอเทลเรดสิ้นชีพ (ตามประวัติศาสตร์)
เพื่อให้ทุกฝ่ายยอมรับ นางปฏิญาณตนว่าจะไม่แต่งงานใหม่อีกเพื่อให้สิทธิ์การปกครองไม่เปลี่ยนไปอยู่กับสามีใหม่ ทำให้สองอาณาจักรระหว่างเวสเซกและเมอร์เซียกลายเป็นพันธมิตรกันอย่างเต็มตัว และอยู่ภายใต้การปกครองของสายเลือดของอัลเฟรด ซึ่งถือว่าเป็นก้าวสำคัญในการรวมแผ่นดิน
ในประวัติศาสตร์จริง เอเทลเฟลด์เป็นท่านหญิงแห่งเมอร์เซียที่ปกครองดินแดนนี้หลายปี แล้วมีส่วนสำคัญที่ช่วยเอ็ดเวิร์ดรบกับชาวเดนส์และปูทางไปสู่การรวมแผ่นดินอังกฤษ
กษัตริย์เอ็ดเวิร์ด Edward the Elder
กษัตริย์หนุ่มแห่งเวสเซก ที่ขึ้นครองราชย์ต่อจากอัลเฟรดผู้เป็นบิดา อัลเฟรดกังวลเกี่ยวกับอนาคตของเขามาก จึงต้องการสร้างความมั่นคงให้บัลลังก์ของเขา ก่อนสิ้นพระชนม์ อัลเฟรดจึงวางแผนที่จะให้อูเทร็ดปฏิญาณตนเองต่อเอ็ดเวิร์ด ถึงแม้ว่าอูเทร็ดจะปฏิเสธ แต่อูเทร็ดก็ยอมช่วยเหลืองานใหญ่ของเอ็ดเวิร์ดต่อตามเจตจำนงของอัลเฟรดจนได้
ในภาพรวม เอ็ดเวิร์ด เป็นกษัตริย์หนุ่มที่รักสงบ ไม่อยากก่อสงครามถ้ไม่จำเป็น ทำให้เขาไม่ยอมส่งทหารให้อูเทร็ดไปชิงแบบเบนเบิร์กกลับมา แต่เมื่อถึงคราวจำเป็นที่เขาต้องไปช่วยเอเทลเฟลด์รบที่เมอร์เซีย เขาก็นำทัพไปด้วยตนเอง
เอ็ดเวิร์ดยังมีปมปัญหาใหญ่คือ อำนาจของเขาในราชสำนักส่วนหนึ่งอยู่ที่พ่อตาอย่างเอเทลโฮลด์ ในขณะที่โอรสจากภรรยาคนแรกของเขาคือ อเธลสแตน ก็ถูกเลี้ยงดูในสำนักชี ซึ่งสุดท้ายแล้วเขากลัวว่าจะทำให้เกิดศึกสายเลือดในภายหลัง
เอลสวิต
ราชินีของเวสเซก ภรรยาของพระเจ้าอัลเฟรด เป็นแม่ของเอเทลเฟลด์และเอ็ดเวิร์ด เธอเป็นเคร่งครัดในคริสต์ศาสนา คอยหนุนหลังอัลเฟรดอยู่เสมอ แต่เธอไม่ชอบและไม่เชื่อใจอูเทร็ดซึ่งเป็นคนนอกศาสนาเลย จึงขัดแย้งกับอัลเฟรดในเรื่องนี้มาตลอด จนถึงสมัยของเอ็ดเวิร์ด
ในซีซัน 4 เอลสวิตเริ่มเข้าใจมากขึ้นว่าตนเคยทำผิดพลาดมากมายในอดีต ทั้งการเลือกคู่ครองให้ลูกทั้งสองคนที่เป็นการเลือกเพื่อผูกพันธมิตร แต่ผลออกมาคือปัญหามากมายที่ตามมา เธอยังคงไม่ชอบอูเทร็ด แต่ก็เริมเข้าใจแล้วว่าทำไมอัลเฟรดถึงได้ฝากฝังเรื่องราวต่างๆไว้กับชายผู้นี้
เบอ็อคคา
บาทหลวง และที่ปรึกษาของอัลเฟรด เดิมเขาเคยเป็นบาทหลวงอยู่ที่แบบเบนเบิร์ก จึงมีความสนิทสนมกับอูเทร็ดในสมัยเด็กก่อนที่เขาจะถูกไวกิงจับตัวไปอย่างมาก
เบอ็อคคาเป็นบาทหลวงที่มีนิสัยไม่ค่อยจะเหมือนบาทหลวงทั่วไปเท่าไหร่ ทำให้เขาเข้ากับอูเทร็ดได้ดี แม้จะเป็นบาทหลวงแต่ก็พร้อมจะถือดาบเข้าร่วมรบในสมรภูมิได้ทุกเมื่อถ้าจำเป็น เบอ็อคคาเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่ไม่เคยทอดทิ้งอูเทร็ดไม่ว่าสถานการณ์ไหน และเป็นคนที่อูเทร็ดให้รักและความเกรงใจเสมอ
ฟีแนน
นักรบชาวไอริชจอมพลัง เป็นคนสนิทของอูเทร็ดที่ร่วมรบมาด้วยกันตั้งแต่ซีซัน 2 มีควาภักดีต่ออูเทร็ด พร้อมสู้ตายด้วยกันทุกสถานที่
ซิทริก
นักรบชาวเดนส์ที่มาอยู่กับอูเทร็ดในซีซัน 2 เชี่ยวชาญด้านการแทรกซึม และสอดแนม สนิทกับฟีแนน และภักดีต่ออูเทร็ดมาก
ออสเฟิร์ส
ลูกนอกสมรสของกษัตริย์อัลเฟรดที่จับพลัดจับผลูมาอยู่ร่วมกับพวกอูเทร็ดตั้งแต่ซีซัน 3 เป็นอีกหนึ่งนักรบคนสนิทร่วมกับพวกฟีแนน และ ซิทริก
ฮิลด์
แม่ชีสาวแห่งเวสเซก เธอจับพลัดจับผลูมาเข้าร่วมกลุ่มของอูเทร็ดเมื่อครั้งที่เวสเซกถูกกองทัพไวกิงเข้าโจมตี ได้อูเทร็ดช่วยเหลือไว้ ต่อมาก็ติดตามอูเทร็ดเดินทางขึ้นเหนือ เป็นแม่ชีที่มีความห้าวหาญ พูดจาตรงไปตรงมา เธอได้ร่วมทางและช่วยเหลืออูเทร็ดไว้หลายครั้งโดยไม่มีเงื่อนไข
ฮิลด์เป็นคนที่เคยดูแลลูกๆของอูเทร็ดอยู่ระยะหนึ่ง แล้วก็มาประจำอยู่ที่โบสถ์ในคุกส์แลนด์
เพียวริค
บาทหลวงนักสู้ที่รับหน้าที่เป็นผู้ประสานงานคนสำคัญของเอ็ดเวิร์ด เขายังเป็นพระที่ช่วยแนะนำลูกชายของอูเทร็ดด้วย เป็นอีกหนึ่งคนที่ได้รับความไว้วางใจสูงจากอูเทร็ด
อัลด์เฮม
ที่ปรึกษาคนสนิทของเอเทลเรด เดิมในซีซัน 2-3 เขาเป็นจอมวางแผนที่อยู่เบื้องหลังให้เอเทลเรดหาผลประโยชน์สู่เมอร์เซีย แต่หลังจากเอเทลเฟลด์แต่งงานมาอยู่ที่เมอร์เซีย เขากลับมีใจภักดีให้กับนางมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยเหตุผลที่ว่าเขาทำทุกอย่างเพื่อประโยชน์ของบ้านเมืองนี้เป็นหลัก และเขามองเห็นว่านางมีความเป็นผู้นำที่ยอดเยี่ยมกว่าเอเทลเรด
ในซีซัน 4 เขาเปลี่ยนฝั่งมาช่วยเหลือเอเทลเฟลด์เต็มตัว และเป็นไม่กี่คนที่รู้ความสัมพันธ์รักระหว่างนางและอูเทร็ด แล้วเขายังกลายเป็นไม่กี่คนที่เอเทลเฟลด์ไว้วางใจที่สุดด้วย
เอดิท
น้องสาวของ เอิร์ดวูฟ ขุนพลของเมอร์เซีย เธอเป็นภรรยาน้อยของเอเทลเรด เดิมเธอมีความใฝ่หาอำนาจ แต่ก็ไม่ได้ถึงขั้นที่คิดจะทำลายล้างชีวิตใคร เมื่อพบว่าน้องชายของเธอทรยศหักหลังผู้คนและทะเยอทะยานเกินไป เธอจึงตัดสินใจตีจากแล้วมาเข้ากับอูเทร็ดแทน กลายเป็นพันธมิตรคนสำคัญของอูเทร็ดและเอเทลเฟลด์ เธอยังช่วยดูแลเอลเกว็น ลูกสาวของเอเทลเฟลด์ให้ด้วย
เอดิทเป็นตัวละครที่เหมือนจะไม่สำคัญในตอนแรก แต่กลายเป็นตัวละครที่มีบทบาทสำคัญต่อเรื่องราวมากในซีซัน 4 ซึ่งในต้นฉบับนิยาย เอดิทจะกลายเป็นคนรักคนใหม่ของอูเทร็ด แต่ซีรีส์ดูเหมือนจะปรับบทตรงนี้ให้ใหม่
เอิร์ดวูฟ
ขุนพลของเมอร์เซีย เป็นพี่ชายของเอดิท เขาเป็นคนทะเยอทะยาน ใฝ่หาอำนาจ ด้วยการกระทำของเขาที่เลือกหักหลังชาวแซกซัน ทำให้ส่งผลกระทบตามมาหลายอย่าง
ฝ่ายเดนส์ ไวกิง
บริดา
หญิงสาวชาวแซกซันที่ถูกพวกเดนส์จับตัวไปตั้งแต่เด็ก เกิดและเติบโตอยู่ในบ้านของแรกนาร์ ร่วมกับ อูเทร็ด ซึ่งถูกจับตัวไปเหมือนกัน ทั้งสองจึงโตมาด้วยกันและรักชอบกันอยู่หลายปี บริดาซึมซับวิถีชีวิตของชาวเดนส์มายิ่งกว่าอูเทร็ด เธอเลือกที่จะต่อสู้ร่วมกับชาวเดนส์มากกว่าจะไปเข้ากับชาวแซกซัน
ในซีซัน 4 บริดาได้เข้าร่วมกุบ คนุท ผู้นำพันธมิตรชาวเดนส์ แต่จากเหตุการณ์ที่กิดขึ้นในซีซันนี้ ทำให้ความสัมพันธ์ที่เคยเป็นฉันมิตรระหว่างเธอและอูเทร็ด เปลี่ยนเป็นความแค้นที่จะส่งผลต่อไปในซีซันถัดไป
คนุท
หนึ่งในผู้นำของพวกไวกิง ญาติของแร็กนาร์ที่เป็นพี่ชายของอูเทร็ด เขาเป็นจอมวางแผนที่อยู่เบื้องหลังการสังหารแร็กนาร์ แต่บริดาไม่รู้เรื่องนี้จึงไปเข้าร่วมกับเขา
ซิกทริกเกอร์
นักรบหน่มชาวเดนส์ ผู้นำของพวกไวกิงที่มาจากไอร์แลนด์ เป็นญาติกับคนุท เขานำทัพบุกตีดินแดนของชาวแซกซันได้หลายแห่ง ต่อมาได้ช่วยเหลือบริดาจากที่กุมขัง นางมีความแค้นกับอูเทร็ด จึงร่วมทัพกับเขาด้วย
ซิกทริกเกอร์ถือว่าเป็นนักรบเดนส์ที่แตกต่างจากศัตรูทั้งหมดที่อูเทร็ดเคยเผชิญหน้าใน 3 ซีซัน ที่ผ่านมา เขาเป็นคนหนุ่มที่เยือกเย็น สุขุม โดยเนื้อแท้แล้วเป็นคนจิตใจดี มีเมตตา พยายามคิดแตกต่างจากบรรพบุรุษชาวเดนส์รุ่นก่อนๆที่เอาแต่บ้าสงคราม จึงหาหนทางที่จะสร้างสันติกับชาวแซกซันและแสวงหาแผ่นดินที่ชาวเดนส์จะตั้งรกรากในเกาะอังกฤษได้ เขายังชอบพอกับ สตอยร่า ลูกสาวของอูเทร็ดด้วย
ในซีรีส์ ดูเหมือนว่าจะมีการเอาผู้นำไวกิงที่มีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์ทีชื่อ ซิกทริกเกอร์ ซึ่งที่จริงแล้วจะเป็นคนที่มีบทบาทในรุ่นถัดมาในสมัยของกษัตริย์อเธลสแตน เอามายำเป็นตัวละครนี้
The Last Kingdom ss4 รีวิว สนุกไหม
ถ้าบอกว่า ซีซัน 4 ของเรื่องนี้ คือซีซันที่สนุกที่สุด อาจจะไม่เกินเลยไป เพราะในซีซันนี้ อูเทร็ด พระเอกของเรื่องมีพัฒนาการมาไกลมากจากตอนแรกที่เป็นนักรบหนุ่มใจร้อน สุดห้าว ทำอะไรไม่คิดหน้าคิดหลัง แล้วก็ต้องพาความลำบากมาให้ตัวเองหลายครั้ง ซึ่งในซีซัน 4 พระเอกของเรื่องก็ยังมีความผิดพลาดอยู่ แต่เป็นความผิดพลาดที่คนดูจะไม่ขัดใจแบบ 3 ซีซันที่ผ่านมา
ในซีรีส์เรื่องนี้ มีจังหวะการเล่าเรื่องบางอย่างที่เป็นแพทเทิร์นมาตลอด คือเนื่องจากตัวเรื่องมีการดัดแปลงจากนิยายชุด The Saxon Stories ซึ่งปัจจุบัน Bernard Cornwell ผู้เขียนก็ยังคงเขียนออกมาเรื่อยๆ โดยลักษณะการดัดแปลงจากนิยายมาเป็นซีรีส์นั้น จะใช้นิยาย 1 เล่ม ต่อเนื้อหาในซีรีส์ 4-5 ตอน นั่นเท่ากับว่าใน 3 ซีซันที่ผ่านมา ซีรีส์นำนิยายมาสร้างแล้วทั้งหมด 6 เล่ม ส่วนในซีซัน 4 ก็ใช้นิยายเล่ม 7-8 เป็น Based ซึ่งพบว่านี่คือเนื้อหาช่วงที่สนุกมากกว่าทั้งสามซีซันรวมกันซะอีก
สำหรับจุดที่ทำให้ซีซัน 4 ทำได้ดีและสนุกว่าสามซีซันแรก หลักๆที่พบได้ชัดเจนคือ
1.บทของเรื่อง ที่ดูแล้วไม่ขัดใจ โดยเฉพาะการตีแผ่ความขัดแย้งด้านทัศนคติทางศาสนาระหว่างอูเทร็ดและกษัตริย์อัลเฟรด ที่ความขัดแย้งตรงนี้วนไปวนมา แทบจะวนลูป มีดราม่าหลอกใช้งาน แล้วก็ทะเลาะกันเองตลอด แต่ในซีซัน 4 เป็นยุคของกษัตริย์หนุ่มเอ็ดเวิร์ด ที่ความสัมพันธ์กับอูเทร็ดดีขึ้นกว่ายุคของอัลเฟรด ถึงแม้จะมีจุดขัดแย้งดราม่ากันอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้รุนแรงเท่ากับที่อูเทร็ดมีกับอัลเฟรดที่จ้องจะฆ่ากันเองอยู่หลายครั้ง
2.วุฒิภาวะตัวละคร โดยเฉพาะของอูเทร็ดที่ดีขึ้นเรื่อยๆทุกซีซัน ซึ่งในซีซันนี้การกระทำชวนน่าขัดใจของเขาแทบไม่มีให้เห็น หรือถึงมีก็พอเข้าใจและชื่อลงว่าทำไมเขาตัดสินใจแบบนั้น
3.ดราม่าทรยศหักหลัง ที่เหมือนภาคบังคับว่าต้องมีทุกซีซัน แล้วส่งผลกระทบต่อชีวิตอูเทร็ดมาก ซีซันนี้ก็มีการทรยศหักหลัง แต่มันไม่ได้ส่งผลร้ายต่ออูเทร็ดเหมือนทุกภาคที่ผ่านมา
4.ดราม่าความสูญเสีย ทุกซีซันที่ผ่านมา ตัวเอกต้องมีเหตุการณ์สูญเสียคนสำคัญตลอดอย่างน้อย 1-2 คน ในครึ่งซีซันแรกนี้ก็มีความสูญเสียครั้งใหญ่รุนแรงที่สุดที่เกิดขึ้นกับอูเทร็ด แต่ด้วยบทของตัวละครที่สูญเสียนั้นเราก็พอจะรับไหว ว่าเป็นเหตุการณ์ที่เป็นไปได้ (สามซีซันที่ผ่านมา อูเทร็ดเจอความสูญเสียแบบไม่น่าเกิดทุกครั้ง)
5.ฉากสงคราม และยุทธวิธีที่ใช้ เป็นจุดแข็งของซีรีส์นี้เลยก็ว่าได้ที่มีหลายฉาก ดูแล้วเชื่อว่า มันเป็นยุทธวิธีที่ใช้งานได้จริง สำหรับฉากสงครามในซีรีส์เรื่องนี้อาจจะไม่ได้ยิ่งใหญ่อลังการมากนัก เพราะจำนวนทหารในเรื่องที่รบกัน ขนาดศึกใหญ่ที่สุดเต็มที่ก็แค่หลักพันกว่า แต่ในความเป็นจริงของอังกฤษยุคนั้นจำนวนคนที่ลงสนามรบก็น่าจะประมาณนี้ บรรดาป้อมค่ายต่างๆมีคนเฝ้าหลักร้อยก็ถือว่าเรื่องปกติด้วยซ้ำ
6.ซีซันนี้มีตัวร้ายที่ฉลาด น่าสนใจ น่าค้นหาที่สุด เนื่องจากที่ผ่านมา ตัวร้ายของซีรีส์เรื่องนี้ที่เป็นนักรบชาวเดนส์ หรือไวกิง มีลักษณะที่คล้ายกันหมดคือ บ้าพลัง รบเก่ง ไม่ก็เป็นตัวละครฝั่งชาวแซกซันหรืออังกฤษเองที่เป็นพวก เจ้าเล่ห์ ทรยศหักหลัง หาผลประโยชน์ หลอกใช้ตัวเอก แต่สำหรับตัวร้ายหลักในครึ่งซีซันคือ ซิกทริกเกอร์ ถือว่าเป็นตัวร้ายที่แตกต่างจากที่ซีรีส์นี้เคยมีมา คือเมื่อเราได้รับชอมแล้ว อาจจะบอกว่าเขาเป็นตัวเอกของฝั่งชาวเดนส์ก็ไม่ผิด แนะนำให้รับชมกันดูเลย
7.อิงประวัติศาสตร์แบบเนียนๆ การใส่ตัวละครในประวัติศาสตร์เข้ามาผสมกับตัวที่ถูกสร้างขึ้น ก็เป็นอีกจุดแข็งหนึ่งที่ทำได้ดีของซีรีส์นี้ ซึ่งในซีซันนี้ก็มีการวางบทบาทตัวละครที่น่าสนใจ โดยเฉพาะบทบาทของตัวเอกอย่างอูเทร็ดที่จะกลายเป็นคนดูแลว่าที่กษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดองค์หนึ่งของอังกฤษ ซึ่งเรื่องราวนี้คงต้องรอดูในซีซัน 5 ต่อไป
สำหรับจุดด้อยก็มีเหมือนกันคือ บทบาทของตัวละครบางคนที่ดูเหมือนจะถูกยัดมาแบบไม่สมเหตุผลเท่าไหร่ ตรงนี้พอเข้าใจได้ว่าเพราะต้องการให้เรื่องราวเดินไปจนถึงเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ บวกกับเป้าหมายหลักของตัวเอกอย่างอูเทร็ดนั่นคือการยึดแบบเบนเบิร์กคืนมา ซึ่งดูเหมือนนักเขียนและทีมสร้างจงใจ “ลากเรื่อง” ให้ยืดออกไปเรื่อยๆ ทำให้เกิดอุปสรรคที่เขาไม่สามารถยึดป้อมที่ว่านี้คืนได้สักที ทั้งที่ว่าตามจริงแล้ว ด้วยศักยภาพของตัวละคร ควรจะทำเสร็จในซีซันนี้แล้วด้วยซ้ำ
สปอย อธิบายตอนจบ
เป็นการพยายามจบให้ใกล้เคียงกับในประวัติศาสตร์ของชาวแองโกลแซกซัน เนื่องจากมีช่วงเวลาที่กษัตริย์เอ็ดเวิร์ดได้ทำสัญญาสงบศึกกับชาวเดนส์ แล้วยกดินแดน อีสต์แองเกลียให้ชาวเดนส์ปกครอง ซึ่งในภาพรวมแล้ว ชาวแซกซันจะปกครองเกาะอังกฤษประมาณ 3 ใน 4 เท่ากับว่าใกล้เคียงต่อการรวมแผ่นดิน
สุดท้ายแล้วภารกิจนี้จะไปสำเร็จในรัชสมัยของกษิตรัย์อเธลสแตน หรือก็คือลูกนอกสมรสของเอ็ดเวิร์ดที่เขาขอให้อูเทร็ดเป็นคนดูแลในตอนจบ
ภาพรวมแล้ว ถือว่าเป็นซีรีส์แนวแอ็กชั่นดราม่าอิงประวัติศาสตร์การรวมแผ่นดินอังกฤษที่มาไกลมากของ Netflix ที่มีทั้งการผสมผสานตัวละครจริงในประวัติศาสตร์ โดยเฉพาะทิศทางของซีซัน 4 ที่ทำออกมาเสมือนการปูทางไปสู่ซีซันถัดไปที่น่าสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ คงต้องรอดูว่า จะสามารถสร้างซีรีส์เรื่องนี้ต่อไปได้อีกกี่ซีซัน
ติดตามบทความทั้งหมดของผู้เขียนคลิกที่นี่
Reference Website
https://the-last-kingdom.fandom.com/wiki/Category:Male_Characters