playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว Warrior ss2 HBO Go การกลับมาของซีรีส์ กังฟู+แก๊งสเตอร์ ขยายสเกลกว่าเดิม (อัพเดท 10 ตอนจบ)

สรุป

การกลับมาของ ซีรีส์จากไอเดียดั้งเดิมของ บรู๊ซ ลี ยังคงเป็น กังฟู+แก็งสเตอร์ แต่ขยายสเกลเรื่องทางการเมืองเพิ่ม ฉากบู๊ยังคงทำได้ดี ตัวละครมีมิติหลากหลายเพิ่มขึ้น น่าติดตามและสร้างได้อีกยาวๆ

Overall
9/10
9/10
Sending
User Review
0 (0 votes)

Pros

  • ซีซันสอง ฉากแอ็กชั่นด้วยวิชากังฟูยังคงทำได้ดี แม้ว่าจะมีน้อยลง
  • นักแสดงเล่นดีเกือบทุกคน
  • บทของอาซามเริ่มใช้สมองมากขึ้น ไม่เอาแต่บ้าเลือดเหมือนก่อน
  • ขยายสเกลเรื่องและตัวละครเพิ่ม ทำให้มิติมากขึ้น
  • ชูบทเฟมินิสต์และ LGBT ได้แนบเนียนดี
  • ครึ่งหลังฉากต่อสู้กลับมาทำได้สนุกมากอีกครั้ง
  • ท้ายเรื่อง ปูบทของอาซามที่กำลังจะกลายเป็นนักรบอย่างแท้จริงได้ดีมาก รอติดตามในซีซันสาม

Cons

  • ฉากแอ็กชั่นด้วยกังฟูน้อยลง เพราะต้องไปขยายบทฝั่งการเมืองเพิ่มขึ้นเยอะ
  • ตัวละครรองๆที่น่าสนใจมากบางคนที่ปูพื้นไว้ตั้งแต่ซีซันแรกยังมีบทน้อยไปหน่อย
  • บทตัวละครกระจายมากเกินไป เส้นเรื่องของตัวเอกอาซามดรอปลงมาก กว่าจะกลับมาโดดเด่นก็ต้องครึ่งเรื่องหลังไปแล้ว

ADBRO

Warrior ss2 HBO Go รีวิว การกลับมาของสุดยอดซีรีส์จีนแนวกังฟูผสมแก๊งค์สเตอร์ ที่สร้างจากไอเดียดั้งเดิมของ บูร๊ซ ลี ผู้นำกังฟูจีนเข้ามาสู่โลกฮอลลีวูด เรื่องนี้จึงเป็นซีรีส์จีนที่สร้างแล้วฉายในสหรัฐอย่างเต็มตัวเรื่องแรก

สำหรับการกลับมาในซีซันสอง ก็ยังคงเรื่องราวในสไตล์เดิมจากซีซันแรก เน้นการผสมผสานระหว่าง กังฟู + แก๊งสเตอร์ กับเรื่องแนวอาชญากรรมในไชน่าทาวน์ ซึ่งในซีซันสองจะขยายสเกลเรื่องไปฝั่งการเมืองและปัญหาในวงการตำรวจและกลุ่มหัวรุนแรงชาวไอริชเพิ่มขึ้น

ในส่วนของการต่อสู้ด้วยกังฟูและวิชาต่อสู้ต่างๆในเรื่องนี้ จะเป็นแนวเน้นความสมจริง ดิบเถื่อน ต่อยเตะอัดกันเลือดทะลักให้เห็น ซึ่งตัวเอกในเรื่องนี้คือ อาซาม ก็เป็นตัวละครที่จะใช้วิชากังฟูในสไตล์เดียวกับของ บรู๊ซ ลี ซึ่งในอดีตเคยเอาวิชากังฟูโบราณมาตัดท่าฟุ่มเฟือยออก เรียกว่า จิตคุนโต ดังนั้นคนที่เป็นแฟนหนังกังฟูแบบคลาสสิก เน้นเตะต่อยแบบไม่โอเวอร์เกินมนุษย์ โดยเฉพาะหนังกังฟูของชอว์บราเธอร์สและจากฮ่องกงสไตล์หนังหวงเฟยหงของพวกฉีเคอะยุค 60-90 รับรองว่าชอบเรื่องนี้แน่นอน

ซีซันสองมีทั้งหมด 10 ตอนจบ ติดตามได้ใน HBO Go

ตัวอย่าง Warrior ss2 HBO Trailer

Warrior ss2 HBO Go รีวิว ซีรีส์ บรู๊ซ ลีWarrior ss2 HBO เรื่องย่อ

เรื่องราวต่อเนื่องจากในซีซันแรก จับเหตุการณ์ภายในไชน่าทาวน์ ณ เมืองซานฟรานซิสโก ในปี ค.ศ. 1878 เรื่องราวของ อาซาม ชายหนุ่ม “นักรบ” ที่เดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลจากจีนแผ่นดินใหญ่มาถึงสหรัฐอเมริกาเพื่อตามหาตัวน้องสาวของเขา แต่แล้วเขาก็พบว่าน้องสาวคือ หม่ายหลิง ได้ตั้งตัวขึ้นเป็นใหญ่ในสงครามระหว่างแก๊งค์ของไชน่าทาวน์ และไม่คิดจะกลับแผ่นดินจีนแล้ว

นั่นทำให้อาซามจำเป็นต้องใช้ชีวิตอยู่ในไชน่าทาวน์ต่อไป รวมถึงค้นหาเส้นทางของ “นักรบ” ที่ต้องต่อสู้กับเหล่ายอดฝีมือเสือซุ่มมังกรซ่อนภายในไชน่าทาวน์ ความขัดแย้งกับคนผิวขาว การปะทะกันระหว่างสามแก๊งค์ใหญ่ กับต่อสู้กลุ่มคนไอริช และความทะเยอทะยานที่จะครอบครองสิ่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการลักลอบทำธุรกิจเถื่อนภายในแก๊งค์ รวมถึงเรื่องความรักต้องห้ามอย่างลับๆกับหญิงสาวที่เป็นคนผิวขาวอย่าง เพนนี ภรรยาของนายกเทศมนตรีที่สองฝ่ายต่างมีใจให้กัน และ ยังมีเรื่องความร่วมมือกับ อาโถ่ว หญิงสาวที่ฉากหน้าคือแม่เล้าครองซ่องใหญ่ แต่เบื้องหลังกลับทำตัวเป็นนักรบศาลเตี้ยยามวิกาลที่ออกไปเล่นงานผิวขาวที่ทำร้ายชาวจีนด้วย

Warrior ss2 HBO Go รีวิว ซีรีส์ บรู๊ซ ลีWarrior ss2 รีวิว

ในซีซันสอง การเดินเรื่องก็ยังคงโฟกัสเรื่องราวของเหล่าตัวละครที่หลากหลายแล้วต้องเข้ามาเกี่ยวพันกันในไชน่าทาวน์เหมือนในซีซันแรก โดยมีอาซามเป็นตัวเอกหลัก

ในส่วนของการเล่าเรื่อง ก็จะมีการแบ่งเป็นเส้นเรื่องที่ตัวละครต่างๆที่ต้องมาเผชิญหน้ากัน แล้วเข้ามามีความสัมพันธ์ที่พัวพันกันหลากหลายรูปแบบ ในแต่ละตอนก็จะมี “ฉากแอ็กชั่นแบบกังฟู” มาเป็นจุดไคลแม็กซ์ของช่วงท้ายประจำแต่ละตอน แล้วในระหว่างนั้นส่วนที่มีความดุเดือดไม่แพ้กันคือ บทการวางแผน เจรจา เชือดเฉือน การวางกลยุทธ์ ไปจนถึงการทรยศหักหลัง ความพยายามช่วงชิงผลประโยชน์จากสถานการณ์ต่างๆที่เปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ รวมถึงศึกทางการเมือง ที่ทุกตัวละครต่างก็มีเป้าหมายที่จะเอาตัวให้รอด ภายใต้ยุคสมัยของเรื่อง

ด้านบทของ อาซาม ตัวเอกหลักของเรื่อง เปิดเรื่องมาในซีซันสอง หลังจากเขาได้ผ่านความพ่ายแพ้ในศึกประลองยุทธ์กับ หลี่ หยง ทำให้อาซามต้องกลับมาหวนคิดถึงเส้นทางของนักรบอีกครั้ง เขาก็เริ่มฟื้นตัวกลับมาอีกครั้งและเริ่มแสวงหาเส้นทางของนักรบที่แตกต่างไปจากเดิม

โดยจุดที่เราเห็นความเปลี่ยนแปลงค่อนข้างมากคือ จากเดิมที่เขาเป็นคนหนุ่มเลือดร้อนหัวรั้น มีความถือดีในฝีมือต่อสู้ของตนเองมาก แม้ว่าหลังจากพ่ายแพ้เขาก็จะยังคงมีความทระนงตัวอยู่ แต่ผลกระทบหลังจากความพ่ายแพ้ครั้งใหญ่ก็ทำให้เขาเริ่มใช้มันสมองมากขึ้นเพื่อหาโอกาสไต่เต้าสร้างตัวด้วยการทำธุรกิจและมีการเจรจากับผู้คนรอบตัวมากขึ้นด้วย

โดยในช่วงแรกของซีซันสองนี้ เราจะพบว่าอาซามเริ่มมีสิ่งที่เรียกว่า “ความทะเยอทะยาน” เขาเริ่มมีความกระตือรือร้นในการสร้างตัวและสร้างธุรกิจของตนเอง ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาไม่เคยคิดจะทำมาก่อนในซีซันแรก โดยเริ่มจากการที่เขาไปเสนอไอเดียลักลอบการค้ากากน้ำตาลให้กับจุนคนลูก โดยการหาติดต่อกับผู้ผลิตในเมืองซานฟรานซิสโกเอง เป้าหมายเพื่อที่จะไม่ต้องผ่านกลุ่มพ่อค้าหลักจากเมืองจีนอีก และเขายังเสนอให้คนของยองจุนไปทำงานคุ้มกันภัยให้กับโรงงานของเพนนีที่กำลังมีปัญหาอยู่ด้วย แต่ถึงจะมุ่งไปที่การสร้างตัว ในขณะเดียวกันเขาก็พยายามลับฝีมือการต่อสู้ให้กลับคืนมาด้วยการไปประลองบนเวทีมวยเถื่อน เพื่อค้นหาว่าอะไรที่เขาขาดไปในฐานะ “นักรบ” ไปในเวลาเดียวกันด้วย

นอกจากบทของอาซามที่มีพัฒนาการชัดเจนแล้ว ยังมีตัวละครสำคัญอีกหลายคนที่มีการเปลี่ยนแปลงในซีซันสอง ไม่ว่าจะเป็น เพนนี จากภรรยาสาวสวยของนายกเทศมนตรี ที่เป็นชู้รักของอาซาม เธอได้กลายมาเป็นเจ้าของโรงงานของพ่อตนเอง และหาทางพิสูจน์ตัวเองว่าผู้หญิงก็สามารถเป็นเข้าของธุรกิจที่เก่งกาจได้ แล้วเธอยังหวนกลับมาสานสัมพันธ์กับอาซามอีกครั้งด้วยการว่าจ้างให้อาซามและกลุ่มของเขามาทำงานคุ้มกันให้โรงงานของเธอ

แล้วในซีซันนี้สองตัวละครหญิงที่มีบทบาทสำคัญมากในเรื่องอย่าง อาโถ่ว และ หม่ายหลิง ในที่สุดก็เพิ่งได้มาเผชิญหน้าตรงๆกันเป็นครั้งแรก ซึ่งก็น่าสนใจว่าแล้วเรื่องราวจะเขียนบทให้หญิงแกร่งทั้งสองคนที่มีจุดยืนแตกต่างกันได้เผชิญหน้ากันในศึกระหว่างแก๊งค์แบบไหน แถมยังเป็นการเชิดชูความเป็นเฟมินิสต์ และบทบาทของผู้หญิงได้ที่ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในสังคมยุคนั้นได้แบบเนียนๆและทำให้เรื่องมันไม่เครียดเกินไปด้วย

ส่วนบรรดาตัวละครใหม่ที่เข้ามามีบทในซีซันสองก็น่าสนใจไมน้อย โดยเฉพาะ โซฟี น้องสาวของเพนนี ที่กลายเป็นคนรักของ เลียรี ผู้นำกลุ่มไอริช ที่ดูเหมือนว่าบทจะพาเขาให้เข้ามาสู่วงการเมืองท้องถิ่นมากขึ้น และอีกคนคือ ฮ่ง นักสู้หน้าใหม่จากเมืองจีนที่ก็ยังตอบไม่ได้ว่าสุดท้ายแล้วจะกลายมาเป็นพันธมิตรหรือศัตรูของอาซามในภายหลัง แถมเจ้าตัวยังเป็นตัวละครสายชายรักชายอีก

อีกหนึ่งตัวละครใหม่ที่เข้ามามีบทบาทสำคัญในเรื่องคือ เนลลี่ สาวชนชั้นสูงที่มีความเห็นใจชาวจีนและผู้อพยพจากเอเชีย ซึ่งเธอยังประทบใจในตัวอาโถ่ว และเข้ามามีความสัมพันธ์กันในเรื่องอย่างคาดไม่ถึงด้วย

ด้านบทของฝั่งตำรวจอย่าง บิล และ ลี ก็เป็นสองตัวละครหลักจากซีซันแรกที่ในซีซันสองนี้ มีเส้นเรื่องที่น่าติดตามมากขึ้น เมื่อลีซึ่งได้รับผลกระทบจากการบาดเจ็บสาหัสในซีซันแรก แล้วก็เริ่มระเบิดความเกรี้ยวกราดออกมา ในขณะที่บิลก็ต้องรับมือกับ ซิง แห่งแก๊งค์ฟังไฮ่ ที่กลายมาเป็นขั้วที่สามของศึกระหว่างแก๊งค์ ฮอปเหว่ย และ หลงซี

ด้วยความที่ซีรีส์วอริเออร์ดูเหมือนจะเลือกให้ความสำคัญกับชีวิตของคาแรคเตอร์ตัวละครต่างๆเป็นอย่างสูง จึงทำให้การเขียนบทมีความหลากหลาย ก็ถือว่าเป็นข้อดีที่ทำให้ไม่จำเจ มีเส้นเรื่องหลายแบบให้น่าติดตาม เพราะทุกคาแรคเตอร์มีความน่าจดจำ และมีความคิดเป็นของตนเองสูงมากด้วย

แต่ในขณะเดียวกันมันก็กลายเป็นจุดด้อยไปในตัวอย่างน่าเสียดายมากๆ เพราะการที่เส้นเรื่องของตัวละครมีความหลากหลายกันมากขึ้น ก็ส่งผลทำให้บทของตัวละครรองๆบางคนที่ถูกปูไว้อย่างน่าสนใจมากในซันแรกกลับต้องถูกลดบทบาทลงไป ในขณะที่บางตัวละครเมื่อยิ่งดำเนินเรื่องไปกลับดูไม่น่าติดตามเท่าไหร่ อีกทั้งในซีซันสองดูเหมือนเรื่องกำลังต้องการขยายสเกลไปที่ด้านการเมืองมากขึ้นไปอีก จึงส่งผลทำให้ฉากแอ็กชั่นประจำตอนลดลงพอสมควร

นอกจากนี้ในด้านบทของบางตัวละคร บางคนก็ดูไม่น่าเอาใจช่วยเท่าไหร่ โดยเฉพาะตัวละครใหม่อย่างโซเฟีย น้องสาวของเพนนี ที่มาแนวเกรียนๆและมีการกระทำที่ไปในทางสร้างความวิบัติมากกว่าน่าเอาใจช่วยด้วยซ้ำ กว่าจะกลายเป็นตัวละครที่น่าเห็นใจก็ช่วงท้ายเรื่องเข้าไปแล้ว

ดังนั้นในภาพรวมของซีซันสอง สำหรับคนที่ชอบดูฉากบู๊ด้วยกังฟูอาจจะรู้สึกว่ามันดรอปลงไปหน่อยโดยเฉพาะในครึ่งแรก แม้ว่าฉากบู๊จะกลับมาทำได้ดีมากๆอีกในช่วงตอน 7-10 เพียงแต่การที่เรื่องนี้ไม่ได้เอาแต่บู๊พร่ำเพรื่อเกินไป แถมยังมีการเพิ่มเติมมิติตัวละครต่างๆให้น่าสนใจมากขึ้น ก็ทำให้เรื่องยังคงน่าติดตามอยู่ แล้ววิชาต่อสู้ในเรื่องก็เริ่มขยายจากการเน้นมือเปล่ามาเป็นสายอาวุธเพิ่มเติมอีก ก็ทำให้น่าติดตามว่า ฉากไคลแมกซ์ที่จะมาตอนท้ายซีซัน จะเป็นอะไรที่น่าติดตามเอามากๆ ว่า ที่สุดแล้วบรรดาตัวละครทั้งหลายในเรื่องนี้จะเอาตัวรอดจากสงครามในไชน่าทาวน์ได้ยังไง 

ตอนนี้ใน HBO Go ฉายซีซันสองจบแล้ว 10 ตอน ซึ่งทิศทางตัวละครเอกอย่างอาซามเริ่มหันเหไปในทางที่น่าติดตามเอามากๆและกำลังเริ่มเข้ากับชื่อเรื่องอย่าง วอริเออร์ หรือนักรบ มากขึ้นไปอีก ซึ่งก็ต้องรอดูซีซันต่อไป

ติดตามบทความทั้งหมดของผู้เขียนคลิกที่นี่

Reference Website

https://www.imdb.com/title/tt5743796/

The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!