รีวิว The Mess You Leave Behind ซีรีส์จากผู้สร้าง Elite แนวอีโรติกทริลเลอร์ “ครูกับนักเรียน” (ไม่สปอยล์)
The Mess You Leave Behind
สรุป
ซีรีส์จากผู้สร้าง Elite ที่ยังคงเล่าเรื่องราวในแบบเดียวกัน ทั้งเรื่องคดีการตายปริศนาในโรงเรียนที่คาดเดาได้ยาก เรื่องฉาวคาว SEX ของวัยรุ่น ประเด็นครูกับนักเรียน แต่การเล่าเรื่องเน้นดราม่าที่ละเมียดละไมกว่า ซึ่งทำให้เรื่องดูเนิบๆ ไม่รวดเร็วนัก แต่เรื่องทำมาจบเลยเพราะเป็นลิมิเต็ดซีรีส์ 8 ตอนจบเท่านั้นครับ
Overall
7.5/10User Review
( votes)Pros
- เรื่องฉาวดราม่าของครูกับนักเรียน
- คดีการตายปริศนาในเรื่องคาดเดาได้ยาก
- ปมปัญหาชีวิตครอบครัวของตัวละครนำทั้งคู่ที่มีเบื้องหลังลึกลับกว่าที่เห็น
- ฉาก SEX ติดเรตโป๊เปลือยทางเพศค่อนข้างเยอะ
- เคลียร์ปมปริศนาได้ดีลงตัวทั้งหมด
Cons
- การตัดสลับเล่าเรื่องราวสองตัวเอกในตอน 1 ทำให้คนดูงงได้ในทันที (แต่ถ้าผ่านตอนแรกไปจะเริ่มชิน)
- ตัวเรื่องเล่าแบบค่อยเป็นค่อยไปเรื่อยๆ ไม่รีบร้อนมากจนดูเนือยๆ
- ช่วงกลางเรื่องไปมักจบตอนด้วยการสับขาหลอก แต่พอตอนต่อมาก็เฉลยทันทีซึ่งไวไปหน่อย
The Mess You Leave Behind สิ่งที่ทิ้งไว้ข้างหลัง ลิมิเต็ดซีรีส์ Netflix 8 ตอนจบจากสเปน เรื่องราวของครูสาวหน้าใหม่ที่มาสอนแทนครูที่ฆ่าตัวตาย จากการคุกคามของนักเรียน และพบว่าเธอกำลังกลายเป็นเหยื่อในคดีนี้คนต่อไป
ตัวอย่าง The Mess You Leave Behind สิ่งที่ทิ้งไว้ข้างหลัง
รีวิวมีสปอลย์บางจุดเบาๆ แต่ไม่ใช่ส่วนปมหลักทั้งหมดของเรื่อง
ซีรีส์จากผู้สร้างและเขียนบท Elite ที๋โด่งดังของ Netflix ซึ่งก็ยังคงเป็นเรื่องราวในโรงเรียนมัธยมปลายเช่นเดิม เหมือน Carlos Montero จะติดใจหรือถนัดการหยิบยกเรื่องในโรงเรียนมาก็ไม่ทราบได้ แต่ซีรีส์เรื่องนี้มีเรื่องราวเมนหลักที่เหมือนกันเลยคือ เปิดเรื่องด้วยคดีการตายปริศนาในโรงเรียน เหมือน Elite แล้วเรื่องก็ค่อยๆ เล่าย้อนความเป็นมาว่าเกิดอะไรขึ้นในรูปแบบเดียวกัน ซึ่งก็เต็มไปด้วยเรื่องฉาวสารพัดในโรงเรียน แต่มาคราวนี้ตัวเอกหลักคือครูกับนักเรียนกลุ่มนึง ที่มีเบื้องลึกลงไปหลายชั้นมาก
เรื่องเปิดด้วยการตัดสลับช่วงเวลา 2 เหตุการณ์ของ “บิรูกา” ครูสาวหน้าใหม่ที่มาสอนวิชาวรรณกรรมให้กับนักเรียน ซึ่งก็ต้องพบกับความท้าทายจากนักเรียนที่พยายามกลั่นแกล้งเธอ แต่บิรูกากลับเอาชนะในจุดนี้ได้ และก็กลายเป็นครูขวัญใจนักเรียนในเวลาต่อ
ในอีกด้านคือเรื่องราวของ “ราเกล” ครูสาววรรณกรรมที่กำลังมีปัญหาส่วนตัวจากแม่ที่จากไป และเธอเองก็ติดยาระงับประสาทจนเห็นภาพหลอนแม่กลับมาในชีวิต ด้านชีวิตคู่ก็กำลังมีปัญหาระหองระแหงกับสามี ก่อนที่ทั้งคู่จะตัดสินใจกลับมาใช้ชีวิตในเมืองบ้านเกิดเล็กๆ ของสามี ที่เธอมาสมัครสอนแทนครูบิรูกาที่พึ่งเสียชีวิตไป โดยที่เธอไม่รู้เลยว่า กำลังเดินตามรอยเหตุการณ์ที่บิรูกาเผชิญหน้ามาก่อนจบชีวิตลงแบบเป็นปริศนา
ซีรีส์เล่าเรื่องตัวเอกครูทั้งสองคนตัดสลับไปมาตลอดเวลา ซึ่งในการดูตอน 1 ผู้ชมคงงงกับการตัดสลับนี้ว่าเพื่ออะไร เพราะเรื่องทั้งสองเหตุการณ์ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันเลย และตัวละครในเรื่องก็จัดว่าเยอะมาก แถมตัวเอกราเกลยังเห็นภาพหลอนอยู่หลายครั้ง จนไม่แน่ใจว่าจริงๆ แล้วเรื่องพยายามเล่าอะไรกันแน่ ซึ่งอาจจะเป็นจุดบอดใหญ่เลยที่เปิดเรื่องมาด้วยลำดับเวลาที่ไม่แน่ชัด แถมในส่วนของบิรูกายังกระโดดข้ามไปมาตั้งแต่แรกเข้าสอนจนถึงช่วงมีปัญหาแบบตัดมาเล่นนิดๆ หน่อยๆ ให้คนดูงงว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอกันแน่ และนักเรียนเกเรอย่าง “ยาโก” (เล่นโดยนักแสดงคนเดียวกับที่เล่นบท Ander ใน Elite) มาเกี่ยวข้องกับครูบิรูกาได้ยังไง ซึ่งในตอนจบของตอนแรก เราถึงได้รู้ว่าเหตุการณ์ที่ได้ดูไปคือหนังม้วนเดิมที่กำลังจะซ้ำรอยอีกครั้ง โดยมีราเกลครูสาวคนใหม่มาเป็นตัวหลักในเรื่องปัจจุบัน และบิรูกาคือเรื่องราวในอดีตก่อนหน้านี้ไม่นาน
หลังจากจบตอนแรก เราจะได้รู้แล้วว่าซีรีส์เลือกเล่าเหตุการณ์ปัจจุบันในช่วงคดีบิรูกายังปิดไม่สนิท งานศพก็ยังไม่ได้จัด นักเรียนก็ยังเศร้าเสียใจกับการจากไปของครูขวัญใจ และราเกลเองก็ต้องพบกับการต่อต้านจากนักเรียน เมื่อเธอเองไม่ใช่บิรูกา และก็ไม่ได้สอนในแนวทางเดียวกันจนทำให้เกิดการไม่ยอมรับ และกลายเป็นเรื่องราวการกลั่นแกล้งตามมาจากนักเรียนลึกลับ ที่เหมือนรู้เรื่องฉาวในอดีตที่ซ่อนไว้ของราเกลหลายอย่าง จนเธอเชื่อว่ากำลังถูกแฮ็กเกอร์ตามรังควาน และก็พยายามสืบหาว่าใครเป็นคนทำ ซึ่งก็เชื่อมโยงกับบิรูกาโดยบังเอิญ และในตอนนี้เองที่เรื่องราวอีกด้านของบิรูกาจะค่อยๆ เผยออกมาว่าตัวตนที่แท้จริงของเธอไม่ได้เป็นอย่างที่เห็น
ในเรื่องนี้เต็มไปด้วยเรื่องฉาวในโรงเรียน แนวครูกับนักเรียนมีสัมพันธ์ลึกซึ้ง หรือเรื่องของราเกลเองก็ไม่ได้เหมือนอย่างที่เห็นในตอนแรก ซีรีส์มีหลายฉากจัดว่าเป็นแนวอีโรติกเลยก็ว่าได้ หลายฉากติดเรต 18+ แบบดูแล้วก็คิดว่านี่คงกลายเป็นลายเซ็นต์เฉพาะตัวของผู้สร้าง Carlos Montero ไปแล้วแน่ๆ อย่างฉากนักเรียนสำเร็จความใคร่ต่อรูปวาดครู เอาน้ำรักฉีดใส่ปากในภาพแล้วเหลือไว้ให้ครูดู เพื่อให้เกิดอารมณ์อย่างว่า ตัวเอกของเรื่องทั้งสองคนมีฉากเปลือยอยู่หลายครั้ง แต่เรื่องก็มีเหตุผลในการใส่ฉากพวกนี้มา ซึ่งไม่ได้เป็นปัญหาแต่อย่างใด
แม้จะมีฉากอีโรติกอยู่เรื่อยๆ แต่เรื่องก็ไม่ได้เน้นจุดนั้นเป็นหลัก ตัวเรื่องเล่าเรื่องราวการสืบค้นหาสาเหตุการตายของบิรูกา ในแบบเดียวกับ Elite คือ ค่อยๆ เผยด้านมืดของตัวละครทุกตัวออกมาให้คนดูสงสัยหรือหักมุมคิดว่าเป็นคนร้ายในหลายตอน แต่เรื่องราวไม่ได้เดาได้ง่ายเลยว่าคดีจะจบลงยังไง เพราะเรื่องผูกการตายของบิรูกาเข้ากับเหตุการณ์ที่ราเกลกำลังถูกคุกคามจนแทบป็นบ้า บางครั้งเราก็ไม่แน่ใจว่านี่คือสิ่งที่ราเกลเห็นจริงหรือไม่ หรือกำลังถูกคนเขียนบทสับขาหลอกอยู่ก็เป็นได้ ซึ่งถือว่าตัวเรื่องทำสำเร็จเพราะยากที่จะเดาได้จริงๆ ว่าใครเป็นคนร้ายทั้งแฮ็กเกอร์ คดีการตายของบิรูกา และเรื่องของตัวราเกลเองก็มีอดีตลึกลับซ่อนอยู่แบบค่อยๆ เผยมาเรื่อยๆ เหมือนกัน
แต่สิ่งหนึ่งที่ต่างจาก Elite เลยคือเรื่องถ่ายทอดในแบบละเมียดละไมไปเรื่อยๆ ผ่านปมปัญหาดราม่าชีวิตส่วนตัวของบิรูกากับราเกล ที่มีความซ้อนทับเหลื่อมกันบางจุดอย่างทั้งคู่กำลังมีปัญหากับสามี เกือบจะเหมือนกัน แต่ก็ไม่เหมือนกันซะทีเดียว ตัวราเกลเองจากครูไฟแรงต้องมาเจอการเปรียบเทียบครูคนเก่าอย่างบิรูกาที่เพียบพร้อมนักเรียนรัก และสลัดเรื่องของบิรูกาออกจากหัวไม่ได้ ก็กลายเป็นปมปัญหาทางจิตที่แตกต่างออกไป ซึ่งในส่วนนี้เองที่อาจจะทำให้เรื่องนี้ดูเนือยๆ เรื่อยๆ กับเรื่องราวที่เกิดขึ้นมากเกินไปหน่อย จนดูแล้วอาจจะไม่ถึงกับติดแบบดูจบต้องดูต่อ แต่ก็ไม่ได้เป็นเพราะว่าเรื่องเล่าไม่ดี แต่ผู้สร้างเลือกที่จะเล่าเรื่องเย็นๆ เนิบๆ แบบนี้ตั้งแต่ตัวไตเติลแล้ว เพื่อให้คนดูได้ค่อยๆ ดิ่งลึกลงไปยังเบื้องหลังในอดีตของตัวละครหลักทั้งคู่ ตามชื่อเรื่องเลยครับ
The Mess You Leave Behind เป็นซีรีส์ที่ดีพอให้ชื่นชมเลยว่า Carlos Montero ผู้สร้างไม่ได้ฟลุ๊คดังจาก Elite แต่เขามีลายเซ็นต์เฉพาะตัวมากกับเรื่องราวแบบนี้ และก็ทำได้ดีมากด้วย แถมยังไม่ได้เลือกเล่นในแนวทางเดิมซ้ำ แต่ก็ยังคงมีประเด็นหลักหนักแน่นในแนวเดียวกันได้ไม่ตกหล่น ทั้งในส่วนของการตายปริศนาว่าเป็นฆาตกรรมหรือไม่? เรื่องฉาวอีโรติกของวัยรุ่นในโรงเรียน การกลั่นแกล้งบูลลี่ รวมถึงเรื่องของ LGBT ที่ยังคงสำคัญกับเรื่องราวในเรื่องนี้เช่นเดียวกัน และก็ยังใช้บริการนักแสดงจาก Elite อย่าง Arón Piper ในบท Ander ที่คู่กับโอมาน พลิกบทบาทจากแนวหงิมๆ มาเป็นแบดกายสุดเก็บกดได้อย่างน่าชื่นชมครับ