รีวิวลิมิเต็ดซีรีส์ Behind Her Eyes (Netflix) ชู้รักจิตวิทยาทริลเลอร์ชวนระทึกผ่านฝันร้าย (ไม่มีสปอยล์)
Behind Her Eyes
สรุป
ลิมิเต็ดซีรีส์ 6 ตอนจบแนวจิตวิทยาทริลเลอร์ ที่มีฉากอีโรติกหลอกล่อคนดูให้เข้าใจว่าเป็นแนวชู้รักแตกหักฆาตกรรม แต่ตัวเรื่องจริงมีความลับซุกซ่อนอยู่ผ่านโลกความฝันเหนือจริงที่หนังนำเสนอออกมาหลากหลายแบบ ซึ่งเป็นอะไรที่ฉีกแนวแตกต่างจากที่เคยมีมาก่อนทั้งหมด ถือว่าซีรีส์เรื่องนี้มีดีซ่อนอยู่ แต่อาจจะต้องอดทนดูให้ถึงจุดเฉลยตอนจบของเรื่องจริงๆ
Overall
7.5/10User Review
( vote)Pros
- แนวจิตวิทยาทริลเลอร์ระทึกขวัญแปลกใหม่
- ฉากอีโรติกโป๊เปลือยค่อนข้างเยอะ
- เรื่องราวหลอกล่อคนดูไปหลายทาง คาดเดายาก
- ฉากแฟนตาซีในฝันร้าย
- ฉากจบที่ตั้งใจทำออกมาเพื่อช็อคคนดูโดยตรง
Cons
- ความเนิบนาบของเรื่องราวในช่วงแรกที่หลอกให้คนดูคิดว่าเป็นแนวเดิมๆ
- บทช่วงท้ายฉีกแนวมากเกินไป จนอาจจะทำให้คนดูรู้สึกว่าเว่อร์เกินจริง
- ฉากจบท้ายสุดของเรื่องดูตั้งใจช็อคคนดูมากไป จนรู้สึกว่าไม่ต้องมีจุดนี้ก็ได้ เพราะฉากจบก่อนนี้ดีพอแล้ว
Behind Her Eyes ปมนัยน์ตา ลิมิเต็ดซีรีส์ Netflix 6 ตอนจบจากอังกฤษ แนวจิตวิทยาทริลเลอร์ สร้างจากนิยายเบสเซลเลอร์ปี 2017 ในเชื่อเดียวกัน เรื่องราวของเลขาสาวผิวดำที่ไปพัวพันกับชีวิตของเจ้านายที่เป็นหมอจิตวิทยากับภรรยาแสนสวยของเขา ที่ล่วงรู้ความเป็นไปทุกอย่างของสามี ผ่านเรื่องราวปมฝันร้ายในอดีตที่เป็นกุญแจไขปริศนาของเรื่องทั้งหมด
ตัวอย่าง Behind Her Eyes ปมนัยน์ตา
ต้องขอบอกก่อนว่าการเขียนรีวิวซีรีส์เรื่องนี้แทบจะไม่สามารถเปิดเผยอะไรได้ไปมากกว่าพล็อตเรื่องคร่าวๆ ที่ว่าด้วย “เดวิด” หนุ่มหล่อหมอจิตวิทยาสุดเปอร์เฟ็กต์นอกใจไปมีกิ๊กกับ “ลูอีส” เลขาสาวผิวดำหม้ายลูกติด ทั้งๆ ที่ “อเดล” ภรรยาของตัวเองก็สวยเปอร์เฟ็กสมกันดีทุกอย่าง โดยที่ภรรยาของหมอเองก็กลายมาเป็นเพื่อนสนิทของชู้รักสามีตัวเอง และก็เหมือนจะระแคะระคายว่าสามีตัวเองนอกใจ แบบที่เคยเป็นมาก่อนย้ายมายังเมืองนี้ ซึ่งพล็อตแบบนี้ไม่ได้แปลกใหม่อะไร แต่สำหรับเรื่องนี้มีความแปลกแตกต่างแบบที่อาจจะพูดได้ว่าฉีกแนวไม่เคยมีมาก่อน แต่ไม่สามารถสปอยล์ให้รู้ได้แม้แค่เบาๆ เพราะจุดนี้คือความลับสำคัญของเรื่องที่ปิดสนิทและตอกไว้ลึกมากจนถึงตอนจบของเรื่องค่อยเฉลย แบบตั้งใจให้ผู้ชมเหวอกันไปเลย
ด้วยความที่ซีรีส์ตั้งใจปิดส่วนนี้ซะมิด ในช่วงครึ่งแรกของเรื่องเลยดูเรียบๆ เรื่อยๆ ไปตามพล็อตแนวชู้รักน้ำตาลใกล้มดอดห้ามใจกันไม่ได้ ซึ่งก็มีฉากอีโรติกแบบโป๊เปลือยเข้ามาเยอะมากพอสมควร และก็ให้ อเดล ภรรยาของหมอเข้ามาเป็นเพื่อนกับลูอีสแบบน่าสงสัย จนทำให้คนที่ดูเข้าใจว่าเรื่องน่าจะเป็นแนวอีโรติกทริลเลอร์ที่ตามสูตรต้องมีปมหักหลักแก้แค้น และก็ต้องมีเรื่องฆาตกรรมมาเกี่ยวข้องด้วยแน่ๆ ซึ่งก็ไม่ใช่การเดาผิดที่ผิด โครงเรื่องจริงๆ ก็เป็นไปในทำนองนั้น แต่มันไม่ใช่ส่วนความลับสำคัญของเรื่องที่ซ่อนอยู่
ตัวเรื่องใส่ความคลุมเคลือไว้ที่ตัวละครทั้ง 3 คนแยกกันไปคนละเรื่อง
ในกรณีของเดวิดคือเราจะได้เห็นว่าตัวละครนี้ทำผิดศีลธรรมแบบชัดเจน แต่เขามีข้ออ้างว่านี่คือความรักที่เขาขาดหายไปนานจากภรรยาที่เขาแสดงออกกับเธอแบบไม่ปกติ เหมือนเธอป่วยทางจิตต้องโดนเขาบังคับกินยาและโทรเช็คทั้งวันว่าอยู่บ้านหรือไม่ ซึ่งจริงๆ แล้วคนที่ไม่ปกติอาจจะเป็นเขามากกว่าด้วยซ้ำ
ส่วนลูอีสชู้รักของหมอที่เป็นนางเอกของเรื่องด้วย ตัวละครนี้แม้จะผิดศีลธรรม แต่เราก็ได้เห็นว่าเธอพยายามห้ามใจแล้ว แต่ก็ไม่สามารถต้านทานความรู้สึกที่เรียกร้องลึกๆ ภายในได้ และเธอก็รู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่ถูกต้องตลอดเวลา ทั้งยังมาเป็นเพื่อนกับอเดลภรรยาของหมอ ซึ่งอเดลเลือกเธอเป็นเพื่อนสนิทที่เปิดเผยทุกอย่างให้ล่วงรู้หมด แม้แต่อดีตของตนที่เคยต้องเข้าไปอยู่ใน รพ.จิตเวช ช่วงเวลาหนึ่ง ซึ่งกลายเป็นเธอต้องโกหกทั้งคู่ไปพร้อมกัน ในขณะที่ฝันร้ายจากการตายของแม่ก็ตามมาหลอกหลอนทุกคืน จนกระทั่งมารู้ว่าอเดลก็เคยมีปมฝันร้าย และก็หลุดออกจากมันด้วยบันทึกของเพื่อนสนิทใน รพ.จิตเวช ซึ่งอเดลก็ส่งต่อให้ลูอีสลองทำตามเช่นกัน
อเดล ภรรยาสาวสวยผู้ลึกลับที่มีนิสัยแปลกประหลาดคาดเดาการกระทำไม่ได้ แม้จะรักสามีมาก แต่เธอก็ไม่ไว้ใจเขาเช่นกัน และดูเหมือนว่าการย้ายมาลอนดอนเพื่อเริ่มต้นใหม่ จะกลายเป็นการย้อนรอยปัญหาในอดีตที่เดวิดก่อไว้ ซึ่งอเดลเองล่วงรู้ว่าสามีของเธอมักห้ามใจไม่ได้ และเรื่องราวของอเดลเองก็มีแฟลชแบ็คกลับไปสมัยอยู่ รพ.จิตเวช และรู้จักเป็นเพื่อนกับ “ร็อบ” ชายหนุ่มติดยาจนต้องมาบำบัดอาการทางจิต ตัวละครปริศนาอีกตัวที่มาเกี่ยวพันกับเรื่องนี้
เรื่องราวดำเนินไปแบบคลุมเคลือว่าใครกันแน่ที่เหมือนจะเป็นตัวร้ายของเรื่อง เดวิดหรืออเดลกันแน่ที่ผิดปกติ? โดยมีลูอีสที่เริ่มสงสัยในความสัมพันธ์และเรื่องเล่าของทั้งคู่ตามสืบ แต่ก็ไม่อาจจะเปิดเผยได้ว่าตัวเธอเองก็มีความสัมพันธ์ลับๆ ที่ผิดกับทั้งคู่เช่นกัน และเธอก็เองมีฝันร้ายที่พยายามจะรักษาให้หายจากคำแนะนำในบันทึกของร็อบที่อเดลให้มา ซึ่งเป็นการฝึกให้ “ตื่นในฝัน” จนสามารถควบคุมฝันให้เป็นไปตามใจคิดได้ และจุดนี้แหละที่จะเป็นตัวไขปริศนาของเรื่องราวจริงๆ ทั้งหมด
ฉากความฝันในเรื่องนี้คือจะมีของ อเดล ลูอีส ร็อบ เป็นฝันที่แตกต่างกันไป เป็นภาพแนวแฟนตาซีเหนือจริง ฉากที่ครีเอทออกมาถือว่าทำได้ดี ดูลงทุน ซึ่งการพยายามตื่นในฝันของเรื่องเป็นจุดที่จะเชื่อมไปต่อยังความลับอีกชั้นที่ซ่อนไว้ ถือว่าเหนือความคาดหมาย และก็ไม่คิดเลยว่าเรื่องจะโยงแนวอีโรติกจิตวิทยาทริลเลอร์เข้ามายังเรื่องในฝันแบบเหนือจริงได้แบบนี้ ซึ่งเรื่องจะเปิดเผยออกมาช่วงกลาง ก่อนที่จะเก็บความลับไคลแม็กซ์สุดท้ายไว้อีกชั้นในตอนจบ ซึ่งความลับของเรื่องนี้ถ้าคนดูรับได้ก็อาจจะชอบไปเลยที่เรื่องฉีกแตกต่างมาก แต่ถ้าคนดูที่คิดมากรับไม่ได้ ก็อาจจะกลายเป็นเรื่องดูขาดเหตุผลได้เช่นกัน กลายเป็นดาบสองคมที่คนดูคงต้องพิสูจน์ดูและตัดสินเองครับ
หนังถือว่ามีชั้นเชิงในการเล่าเรื่องค่อยๆ เผยออกมาทีละนิดๆ และหลอกล่อคนดูไปคนละทาง ยากแก่การคาดเดา แต่อาจจะไม่ถูกใจคนดูที่อดทนไม่มากพอจนถึงจุดเฉลยเรื่องราวได้ ซึ่งก็ปาเข้าไปตอน 5-6 แล้ว ซึ่งรับรองเลยได้เลยว่าฉีกแนวแตกต่าง อาจจะเซอไพรซ์มากด้วยถ้าใครไม่เคยเห็นฉากจบแนวนี้มาก่อน ซึ่งมีหนังไม่กี่เรื่องทำออกมา จนถ้าบอกชื่อไปก็เป็นการสปอยล์ร้ายแรงเช่นกันครับ แต่ถ้าใครต้องการสปอยล์ก็กดอ่านชื่อเรื่องด้านล่างได้เลยครับ
ตอนจบของเรื่องแบบเดียวกับ The Skeleton Key ที่มีการโอนถ่ายย้ายร่างไปยังอีกฝ่าย