รีวิว Age of Samurai: Battle for Japan (Netflix) ยุคแห่งซามูไร ศึกชิงญี่ปุ่น มินิซีรีส์สารคดีที่ต้องดู
Age of Samurai: Battle for Japan
สรุป
สารคดีกึ่งมินิซีรีส์ชั้นเยี่ยม 6 ตอนจบ บอกเล่าเรื่องราวของผู้นำและไดเมียวในสงครามยุคเซ็นโกคุ โดยเฉพาะ โนบุนากะ ฮิเดโยชิ อิเอยาสึ และ มาซามุเนะ มีผู้บรรยายชื่อดังคือ Stephen Turnbull จัดเต็มเรื่องรายละเอียดสงคราม ยุทธวิธี แล้วยังนำเสนอเรื่องของนินจา ชิโนบิ พระนักรบ เรียกว่าครบเครื่อง ฉากสงครามสร้างดีมาก
Overall
9/10User Review
( votes)Pros
- โปรดักชั่น งานสร้าง ทุนสูง จริงจัง เข้มข้น เดินเรื่องเร็วมาก
- เน้นฉากสงคราม ยุทธวิธีเป็นหลัก อธิบายได้เข้าใจง่ายด้วย
- โฟกัสผ่านเรื่องของสามผู้นำและอีกหนึ่งไดเมียวสำคัญเป็นหลัก ซึ่งคนชอบญี่ปุ่นยุคนี้ไม่ควรพลาด
- ผู้บรรยายชื่อดังในวงการของเรื่องนี้มาร่วมด้วย ข้อมูลจึงเป็นเชิงลึกมาก
- นำเรื่องของพวกนินจา พระนักรบ ซึ่งคนพวกนี้มีบทบาทจริงๆในยุคนั้น
- แคสติ้งนักแสดงเล่นตามบทได้ดี ถ้าไม่สนความสมเหตุผลของอายุบางบท เช่น อิเอยาสึที่ดันหล่อและหนุ่มเกินไป
- ความสมจริงและความรุนแรงระดับเรต 18+
Cons
- แคสติ้งนักแสดงบางบทผิดจากบริบทและช่วงอายุ
- ข้ามพาร์ทชิงอำนาจในเกียวโตของโนบุนากะ อาจทำให้คนงงกับช่วงกุมอำนาจ
- เพราะเวลาจำกัด ทำให้บุคคลสำคัญบางคนถูกตัดบทออก
- ฉากวัดฮอนโนจิทำออกมาแปลกๆ น่าเสียดายมาก
Age of Samurai: Battle for Japan Netflix รีวิว ยุคแห่งซามูไร ศึกชิงญี่ปุ่น สารคดีสงครามยุคเซ็นโกคุ บอกเล่าเรื่องราวการไต่เต้าสู่อำนาจของ โอดะ โนบุนากะ โทโยโทมิ ฮิเดโยชิ โทกุงาวะ อิเอยาสึ สามผู้นำที่รวมแผ่นดินญี่ปุ่น รวมถึงเรื่องของ ดาเตะ มาซามุเนะ ฉายามังกรตาเดียว
ผลงานชุดนี้เป็นสารคดีเข้มข้นเต็มขั้น อิงประวัติศาสตร์ บอกเล่าเรื่องราวการทำสงคราม การใช้ กลยุทธ์ และ ยุทธวิธี ในแต่ละศึกสำคัญอย่างละเอียด แล้วยังมีมิติของผู้คนในโลกมืดของญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็น นินจา มือสังหาร คุโนอิจิ พระนักรบ โดยมีนักวิชาการ นักเขียน ชื่อดังเป็นคนคอยบอกเล่าเรื่องราวแทรกตลอดเรื่อง หนึ่งในผู้บรรยายเหล่านั้นก็คือ Stephen Turnbull นักเขียนชื่อดังที่ทำให้เรื่องของยุคเซ็นโกคุเป็นที่รู้จักในความสนใจของคนตะวันตก
Netflix ฉายแล้วทั้งหมด 6 ตอนจบ ตอนละ 42 นาที สามารถรับชมได้เลยครับ
ตัวอย่าง Age of Samurai: Battle for Japan
Age of Samurai: Battle for Japan เรื่องย่อ
มินิซีรีส์สารคดีประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น จับความเล่าเรื่องราวการรวมแผ่นดินญี่ปุ่นที่แตกแยกเป็นแว่นแคว้นให้กลับมาเป็นหนึ่งเดียวอีกครั้งในยุคสงคราม “เซ็นโกคุ” ซึ่งจัดว่าเป็นหนึ่งในช่วงเวลาของหน้าประวัติศาสตร์ยุคสงครามของญี่ปุ่นที่โด่งดังและแพร่หลายมากที่สุดไปทั่วโลก โดยมีการนำเสนอและบอกเล่า ดัดแปลงไปตามสื่อต่างๆ มากมาย ทั้งแบบการ์ตูน ภาพยนตร์ เกม แม้แกระทั่งการเป็นสถานที่ท่องเที่ยวและจุดขายของญี่ปุ่น
ส่วนสาเหตุที่หลักทำให้เซ็นโกคุเป็นยุคสมัยที่โด่งดัง เนื่องจากเป็นช่วงเวลาสำคัญในยุคสงครามระหว่างแคว้นที่มีการเปลี่ยนแปลงจนถึงขึ้นพลิกโฉมหน้าของการปกครองและการทำสงครามในญี่ปุ่นไปตลอดกาล
เหตุผลอีกข้อคือ นี่ยังเป็นยุคสมัยที่เกิดบรรดาผู้นำที่มากความสามารถ เฉลียวฉลาด โหดเหี้ยม เหล่านักรบและซามูไรที่เก่งกล้าได้ผงาดสร้างชื่อเสียงขึ้นมา แม้กระทั่งผู้ที่ไต่เต้ามาจากชาวนาที่ยากไร้ ไปจนถึง พระสงฆ์ นินจา มือสังหาร แม้แต่บรรดาผู้หญิงซึ่งเป็นปกติแล้วมักจะไม่ค่อยได้รับการบันทึกชื่อไว้ในประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่น ซึ่งบุคคลทั้งหมดนี้ได้ลุกขึ้นมาสร้างวีรกรรมและมีบทบาทมากมายในยุคนี้อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
ในสารคดีชุดนี้จะเริ่มต้นจากการเล่าเรื่องราววีรกรรมในการทำสงครามและความโหดเหี้ยมของ โอดะ โนบุนากะ ผู้นำที่ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการรวมแผ่นดินญี่ปุ่น ตามด้วยผู้นำสำคัญอีกสองคนที่รับภารกิจต่อมาคือ โทโยโทมิ ฮิเดโยชิ และ โทกุงาวะ อิเอยาสึ แล้วเป็นอันปิดฉากยุคสงครามเซ็นโกคุ ในการรวมแผ่นดินญี่ปุ่นให้กลับมาเป็นหนึ่งเดียวอีกครั้งภายใต้ระบอบโชกุน
ตัวสารคดีจะใช้วิธีการบอกเล่าเรื่องราวที่มีบันทึกในประวัติศาสตร์ และตำนานต่างๆที่โด่งดังแล้วได้รับการยอมรับกัน โดยมีนักประวัติศาสตร์ชื่อดังที่ศึกษาเรื่องในยุคเซ็นโกคุ มาบอกเล่าเรื่องราว ซึ่งหนึ่งในวิทยากรที่มีชื่อเสียงจากการเป็นผู้เขียนหนังสือเจาะลึกเกี่ยวกับผู้นำและสงครามในยุคเซ็นโกคุเป็นภาษาอังกฤษแล้วแพร่หลายทั่วโลก คือ Stephen Turnbull โดยเขาถือว่าเป็นตัวหลักในการเล่าเรื่อง แล้วจึงตามด้วยนักประวัติศาสตร์และนักเขียนคนอื่นๆที่ผลัดกันออกมาบอกเล่าข้อมูลเพิ่มเติมในมิติต่างๆ เช่น หากเป็นช่วงที่ผู้หญิงมีบทบาทมาก ก็จะให้นักเขียนและนักวิชาการผู้หญิงออกมาเป็นคนเล่าเรื่องราวแทน ซึ่งก็ช่วยให้สารคดีชุดนี้มีความเข้มข้น ดูสมจริง มีมิติหลากหลาย ถือว่าเป็นงานโปรดักชั่นใหญ่ที่น่าสนใจสำหรับ Netflix และไม่แน่ว่าต่อไปอาจจะได้มีซีรีส์เกี่ยวกับยุคสงครามในญี่ปุ่นออกมาก็ได้
Age of Samurai: Battle for Japan รีวิว
สำหรับเนื้อหาทั้ง 6 ตอน จะบอกเล่าเรื่องราวตามลำดับ Time Line ในประวัติศาสตร์ โดยโฟกัสผ่านตัวละครสำคัญในช่วงเวลาดังกล่าว ได้แก่
ตอนที่ 1 โนบุนากะ ก้าวสู่อำนาจ
เล่าเรื่องราวการขึ้นสู่อำนาจของ โอดะ โนบุนากะ ทายาทของเจ้าเมืองโอวาริ เมืองเล็กๆที่มีแคว้นใหญ่อยู่รายรอบ โดยเริ่มนับจุดสำคัญของการผงาดในปี ค.ศ. 1551 ที่ทำให้โนบุนากะ ผู้นำหนุ่มที่แหกคอก ฉายาเจ้าโง่แห่งโอวาริ ที่ได้แสดงความทะเยอทะยาน ปราบปรามผู้ต่อต้านในแคว้น สังหารน้องชายและญาติของตน รวมถึงการเปิดศึกใหญ่กับ อิมากาว่า โยชิโมโต้ ซึ่งเป็นเจ้าเมืองแคว้นใหญ่ที่มีกำลังทหารเหนือกว่าหลายเท่า นำไปสู่การศึกที่ช่องเขาโอเกะฮะซะมะ ซึ่งเป็นศึกสำคัญที่ทำให้โนบุนากะใช้ทหารน้อยกว่าสามารถเอาชนะได้ แล้วกลายเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงแห่งยุคสมัยตั้งแต่นั้น แล้วยังเป็นการแนะนำตัวละครสำคัญอีกสองคนคือ โทโยโทมิ ฮิเดโยชิ และ โทกุงาวะ อิเอยาสึ ตอนนี้ยังมีการพูดถึงยุทธวิธีสำคัญของโนบุนางะ คือการใช้ปืนอาร์คิวบัสที่แตกต่างจากกองกำลังอื่นๆ และการฝึกฝนทหารอาชิงารุจากชาวบ้านที่เหนือกว่าแคว้นอื่น
ตอนที่ 2 ศึกชิงอำนาจ
ข้ามมาเล่าในระหว่างปี 1568 หลังจากโนบุนางะทำให้โอวาริอยู่ในความมั่นคงและเข้ากุมอำนาจในเมืองหลวงเกียวโต เขาก็เริ่มเปิดศึกรอบด้านกับบรรดาเจ้าเมืองน้อยใหญ่ แล้วยังสั่งปราบปรามชาวพุทธ โดยเฉพาะกลุ่มพระนักรบติดอาวุธ ที่เรียกว่าพวก อิกโกะ-อิกกิ ซึ่งมีสาวกกระจายตัวอยู่ทั่วประเทศ แต่ด้วยการปราบรามที่รุนแรงทำให้ผู้คนต่อต้าน โดยมี ทาเคดะ ชินเง็น ขุนศึกใหญ่ในยุคนั้นคือศัตรูคนสำคัญ
ตอนที่ 3 จอมมาร
เน้นเล่าเหตุการณ์หลังจากศึกชนะพวกทาเคดะที่ยุทธการนางาชิโนะ ตั้งแต่ปี 1575 โดยเล่าเหตุการณ์ในช่วงเวลาที่โนบุนางะเริ่มสั่งปราบปรามพวกนินจาอิงะ ตอนนี้ยังเป็นตอนที่มีการตีแผ่เรื่องของนินจาในความหมายดั้งเดิม จากการที่เป็นชาวบ้านที่ฝึกฝนตนเองในหุบเขา จนมีความสามารถหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการเคลื่อนตัวอย่างรวดเร็ว การใช้อาวุธพิสดาร การต่อสู้ การลอบสังหาร แทรกซึมลอบหาข่าวสาร ซึ่งทำให้คนกลุ่มนี้กลายเป็นศัตรูสำคัญของโนบุนากะ ตอนนี้จะเล่ายาวไปจนถึงเหตุการณ์สำคัญที่วัดฮอนโนจิที่ อาเคจิ มิตสึฮิเดะ ตัดสินใจก่อการกบฏ นำไปสู่จุดจบของโนบุนากะ ในฐานะผู้นำที่เก่งกาจแต่ก็มีความเหี้ยมโหดเกินผู้คน แล้วยังเปิดโอกาสให้ฮิเดโยชินผงาดขึ้นมาแทน ด้วยการเปิดศึกกับ มิตสึฮิเดะ
ตอนที่ 4 กุมอำนาจเบ็ดเสร็จ
ตอนนี้จะเน้นเล่าถึงความสำเร็จของ ฮิเดโยชิ ซึ่งถือว่าเป็นผู้นำญี่ปุ่นคนแรกและคนเดียวที่ไต่เต้าขึ้นมาจากชนชั้นชาวนาที่ยากไร้แล้วขึ้นสู่สถานะสูงสุดในสังคมญี่ปุ่น การเป็นพันธมิตรกับ อิเอยาสึ และตอนนี้ยังเป็นการเปิดตัว ดาเตะ มาซามุเนะ ไดเมียวหนุ่มมาแรงในยุคนั้น
ตอนที่ 5 หายนะ
ตอนนี้เล่าถึงจุดเสื่อมถอยของฮิเดโยชิ จากเดิมที่เขาควรจะได้ปกครองประเทศญี่ปุ่นที่รวมแผ่นดินสำเร็จแล้วได้อย่างมั่นคง แต่เพราะความทะเยอทะยานของเขาที่คิดจะยกทัพบุกจีนและเกาหลี ซึ่งได้ทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไป รวมถึงปัญหาผู้สืบทอดของสายเลือดโทโยโทมิ การเสียชีวิตของทหารญี่ปุ่นและเกาหลีไปอย่างเปล่าประโยชน์ ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุทำให้คนเกาหลีเกลียดชังคนญี่ปุ่นด้วย แล้วก็เป็นโอกาสให้ อิเอยาสึ เริ่มสะสมอำนาจขึ้นมาแทน
ตอนที่ 6 กำเนิดราชวงศ์
ศึกสุดท้ายเพื่อชิงอำนาจปกครองญี่ปุ่น ที่อิเอยาสึได้ร่วมมือกับพันธมิตรอย่างมาซามุเนะ นำไปสู่การทำศึกครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นยุคสงคราม ซึ่งเกิดขึ้น ณ ทุ่งเซกิงาฮาระ โดยเป็นการทำศึกกับ อิชิดะ มิตสึนาริ ซึ่งเป็นการนำไปสู่การปิดฉากยุคเซ็นโกคุ แล้วพาญี่ปุ่นเข้าสู่ยุครัฐบาลบากุฟุที่ตระกูลโทกุงาวะขึ้นครองอำนาจปกครองประเทศ แต่ก็ยังมีศึกสุดท้ายรออยู่นั้นคือศึกที่ปราสาทโอซาก้า
ก่อนอื่นต้องบอกว่า เนื่องจากผู้รีวิวเองก็มีงานเขียนหนังสือชุดประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น “เซ็นโกคุ” ที่ได้เรียบเรียงค้นคว้าข้อมูลต่างๆ ออกมาเป็นภาษาไทยคนแรกๆ ในประเทศไทยเลยก็ว่าได้ จึงมีความคาดหวังสูงมากตอนที่ได้ข่าวว่า Netflix จะทำสารคดี Age of Samurai แล้วเมื่อได้รับชมทั้งหมด 6 ตอน ก็ต้องบอกว่าพอใจมากครับ
สนใจหนังสือ ชุดผู้นำในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น ยุคเซ็นโกคุ คลิกดูได้ที่นี่
จุดที่ชอบมากของงานชุดนี้คือ แนวทางการเล่าเรื่องที่เข้มข้น จริงจัง แล้วนักวิชาการที่มาบอกเล่าเรื่องราวและให้ข้อมูลต่างๆ ยังเป็นนักเขียนด้านประวัติศาสตร์ชื่อดังอย่าง Stephen Turnbull ที่มีความเชี่ยวชาญเรื่องยุคเซ็นโกคุอย่างมากด้วย มีการวิเคราะห์และเจาะลึกในเชิงยุทธวิธีการทำสงครามแบบเชิงลึก แนวคิดทางการทหาร กลยุทธ์ ไปจนถึงบุคลิกผู้นำของตัวละครหลักในเรื่อง
ฉากสงคราม ก็เป็นอีกหนึ่งจุดเด่นที่สร้างออกมาได้ดีมาก ชนิดที่ว่าการสร้างฉากสงครามในเรื่องนี้สามารถเอาไปอยู่ในซีรีส์แนวอิงประวัติศาสตร์ชั้นดีได้เลย
การบอกเล่าผ่านตัวละครมากมายที่มีชื่อเสียงในยุคเซ็นโกคุก็ทำได้ดี แล้วไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะมีชื่อของบุคคลสำคัญมากมายที่เกี่ยวข้องภายในเหตุการณ์หนึ่งๆที่มีความสืบเนื่อง สอดคล้องกันอยู่ จากเหตุการณ์เล็กๆสามารถนำไปสู่ชัยชนะหรือพ่ายแพ้ในสงคราม หรืออาจส่งผลกระทบต่อภาพรวมใหญ่ได้เช่นกัน
ยังอีกอีกจุดหนึ่งที่ผู้เขียนชอบและคาดไม่ถึงก็คือ การให้บทาทของตัวละครในโลกมืดของญี่ปุ่น เช่นพวกนินจา ชิโนบิ คุโนอิจิ และอื่นๆ เช่น โมจิสึกิ ชิโยเมะ ซึ่งตามประวัติคือผู้ก่อตั้งองค์กรคุโนอิจิแล้วทำงานให้ตระกูลทาเคดะ หรือกลุ่มนินจาอิงะ ซึ่งเป็นศัตรูคู่อาฆาตของโนบุนากะ นอกจากนี้ยังเป็นเรื่องไม่ง่ายในการบอกเล่าเหตุการณ์บางอย่างที่สำคัญ เนื่องจากบางเรื่องมีข้อมูลที่ยังไม่เป็นที่สรุปแน่ชัด แต่ซีรีส์ก็เลือกที่จะเล่าผ่านปากนักวิชาการถึงตำนานและความน่าจะเป็นตามที่มีบันทึกไว้ ตัวอย่างเช่น ความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนระหว่างโนบุนากะและภรรยาหลวงโนฮิเมะ หรือเหตุการณ์ระหว่างอิอายาสึและภรรยาหลวงสึกิยาม่า
แต่จุดด้อยก็มีอยู่ครับ ซึ่งหนึ่งในเรื่องที่ผู้รีวิวไม่ถูกใจเลยคือ การแคสติ้งนักแสดงมาสวมบทบาทบางตัวละครไม่สอดคล้องกับอายุเลย คือตัวนักแสดงนั้นภาพรวมเล่นดีกันมาก ต้องยอมรับ แต่ปรากฏว่าบางบทกลับเลือกนักแสดงมาหนุ่มเกินไป ไม่ได้ตรงอิมเมจของบุคคลนั้นๆ โดยเฉพาะ โทกุงาวะ อิเอยาสึ และ ชิบาตะ คัตสึอิเอะ ที่สองคนนี้แคสติ้งออกมาได้หนุ่มหล่อเกินไป (อิเอยาสึถูกบรรยายว่ารูปร่างเตี้ย อ้วน ส่วนคัตสึอิเอะตามบรรยายไว้คือรูปร่างถึก ทรงพลังเหมือนยักษ์) แต่ต้องขอยอมรับว่าการแคสติ้ง โทโยโทมิ ฮิเดโยชิ คือหนึ่งในความยอดเยี่ยม เช่นเดียวกับ ดาเตะ มาซามุเนะ
ในขณะที่การแคสติ้งตัวสำคัญอย่าง โอดะ โนบุนากะ ทำออกมาไม่โดนเท่าไหร่ ส่วนแคสติ้งของ อาเคจิ มิตสึฮิเดะ แม้จะดูแก่ไปหน่อย แต่ในความเป็นจริงมิตสึฮิเดะอายุมากกว่าโนบุนากะ 2 ปีด้วยซ้ำ จึงถือว่าโอเคแล้ว
แต่การเล่าเรื่องราวในจุดที่ไม่น่าพลาดคือ ฉากสำคัญในวัดฮอนโนจิ ที่ต้องบอกว่าจัดเซตติ้งออกมาไม่ค่อยดูเหมือนวัด แต่เหมือนอยู่ในป้อมปราการมากกว่า ตรงนี้ไม่เข้าใจว่าเพราะอะไรเหมือนกันถึงทำออกมาแบบนั้น
จุดด้อยอีกข้อคือ การบรรยายของนักวิชาการบางจังหวะ ทำไม่สมูทเท่าไหร่ มีการบรรยายแทรกเยอะมาก แทนที่จะปล่อยให้ตัวหนังได้โอกาสเล่าเรื่องราวของมัน แต่นั่นก็ทำให้งานชิ้นนี้มีความเป็นสารคดีในระดับเข้มข้น เต็มไปด้วยความโหดเหี้ยมของสงคราม ความเผด็จการของผู้นำที่พร้อมสังหารผู้คนเป็นผักปลาเพียงเพื่อสนองความทะเยอทะยานและเป้าหมาย คือถ้าคุณคาดหวังว่าจะดูให้เป็นซีรีส์เพื่อความบันเทิง ที่มีดราม่าของตัวละคร มันไม่ใช่แบบนั้นเลยครับ
นอกจากนี้ในพาร์ทของการเมืองระหว่างแคว้น การยึดอำนาจรัฐบาลของโนบุนากะ ซึ่งเป็นพาร์ทสำคัญที่ควรใส่มา ตัวสารคดีก็เล่าแบบลวกๆ ข้ามไปเน้นที่ฉากสงครามเป็นหลัก ตรงนี้น่าเสียดายนิดหน่อย แต่เข้าใจว่าเป็นเพราะเวลาที่จำกัด และความต้องการที่จะเน้นแต่ฉากสงคราม กับเรื่องของผู้นำทั้งสามคน + ดาเตะ มาซามุเนะ ทำให้การเล่าเรื่องออกมาในลักษณะนี้ไป อีกทั้งยังจำเป็นต้องตัดบทของบุคคลสำคัญในยุคนั้นที่มีผลกระทบต่อสงครามออกไปด้วย
หากสรุปในภาพรวมแล้ว ผลงานชุดนี้เป็นสารคดีกึ่งมินิซีรีส์ชั้นเยี่ยม มีเป้าหมายที่การบอกเล่าเรื่องราวของเหล่าผู้นำ ไดเมียว ซามูไร และการทำสงครามในยุคเซ็นโกคุ ที่ค่อนข้างเจาะลึกในแง่ของยุทธวิธีไว้มากพอสมควร มีการบอกเล่าในหลายมิติ มีหลายจุดที่ผู้เขียนชอบมาก ส่วนจุดด้อยก็มีอยู่เหมือนกัน แต่ถือว่าเป็นหนึ่งในสารคดีอิงประวัติศาสตร์ที่ดีเยี่ยมที่สุดชุดหนึ่งของ Netflix เลยครับ รับชมได้เลย 6 ตอนจบ คนชอบญี่ปุ่น โดยเฉพาะแฟนๆของตัวละครในยุคเซ็นโกคุ ซึ่งรับรองว่าดูแล้วสนุกแน่นอน
ติดตามบทความทั้งหมดของผู้เขียนคลิกที่นี่
Reference Website