playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว Navillera (Netflix) มิตรภาพสองวัยในโลกของบัลเลต์มืออาชีพ

Navillera ดั่งผีเสื้อร่ายระบำ

สรุป

เรื่องราวของมิตรภาพคนสองวัยโดยมีบัลเลต์กับความฝันสู่การเป็นมืออาชีพมาเป็นแรงผลักดัน เรื่องราวดูอบอุ่น มีมิตรภาพที่เกิดขึ้นจากคนละ Gen ต่างมุมมองเชื่อมเข้าหากัน แต่ปมรองอื่นๆ ที่ยัดเข้ามามากมาย แล้วยังมีตัวละครหยิบย่อยต่างเส้นเรื่องทำให้เรื่องดูอึดๆ และก็ไม่รู้สึกจูงใจให้ดูเท่ากับเรื่องราวของสองตัวละครหลักในเรื่องที่โฟกัสกับการเล่นบัลเลต์อย่างจริงจัง

Overall
6/10
6/10
Sending
User Review
5 (1 vote)

Pros

  • จับเรื่องราวของคนวัยเกษียนทำตามฝันที่หาไม่ได้ง่ายนักซีรีส์เกาหลี
  • มิตรภาพสองวัยที่เชื่อมหากันด้วยศิลปะบัลเลต์
  • ความงดงามของการแสดงบัลเลต์ที่นักแสดงฝึกซ้อมมาเล่นได้สมบทบาท
  • ไม่มีเรื่องความรักเป็นเส้นเรื่องหลักสำคัญให้วุ่นวาย

 

Cons

  • เรื่องราวของตัวละครเสริมค่อนข้างกินเวลาไปเยอะจนดูอืดๆ
  • ไม่ใช่ซีรีส์แนวรักหวานๆ ถ้าคนติดแนวนี้ต้องข้ามไป
  • เรื่องราวคนสูงวัยเกษียนที่คนดูหนุ่มสาวอาจจะไม่คลิ๊กหรืออินได้

 

ADBRO

Navillera ดั่งผีเสื้อร่ายระบำ ซีรีส์เกาหลี Netflix แนวดราม่าครอบครัว ชายวัย 70 ผู้มีความฝัน และหนุ่มวัย 23 ผู้มีพรสวรรค์ ช่วยเหลือกันและกันจากความจริงอันโหดร้าย สู่ฝันการเป็นนักบัลเลต์อาชีพ

 Navillera (2021) on IMDb

Navillera ดั่งผีเสื้อร่ายระบำ

ซีรีส์เกาหลีเรื่องใหม่บน Netflix มาจากเว็บตูนในชื่อเดียวกัน ที่มีความแปลกแตกต่างจากแนวดราม่าปกติทั่วไป ด้วยการเล่นเรื่องราวของช่วงเวลาชีวิตคนสูงวัยที่เกษียนแล้ว มีครอบครัวลูกหลานสมบูรณ์ ชีวิตแทบจะไม่มีห่วงอะไรอีกต่อไป แต่กลับกลายเป็นความรู้สึกขาดแรงจูงใจในชีวิต จนในที่สุดก็ตัดสินใจเดินตามฝันในอดีต ซึ่งพล็อตเรื่องแบบนี้ก็มาจากชีวิตจริงของผู้สูงวัยหลายคนที่รู้สึกขาดอะไรไปในชีวิตหลังเกษียนเช่นกัน

“อีแชรก” (รับบทโดย ซง คัง) หนุ่มนักบัลเลต์ที่มีอดีตอันขมขื่นจากพ่อติดคุก และปัญหากับเพื่อนร่วมชมรมฟุตบอลในอดีต เจ้าตัวได้หันมาฝึกหัดบัลเลต์กับโค้ชดังที่มองเห็นแววความสำเร็จการเป็นนักบัลเลต์อาชีพ แต่เมื่อเวลาผ่านไปแชรกกลับมีปัญหาส่วนตัวทำให้ไฟมุ่งมั่นในเส้นทางการเป็นนักบัลเลต์อาชีพเลือนลางลง จนวันหนึ่งเขาได้พบกับ “ชิมด็อกชุล” (รับบทโดย พัคอินฮวาน) คุณลุงวัย 70 ปีที่แอบมาดูเขาซ้อมบ่อยๆ จนในที่สุดคุณลองก็ตัดสินใจหอบความกล้าเข้ามาขอสมัครเรียนบัลเลต์ตามฝันในวัยเด็กที่พ่อสั่งห้ามไว้ (สมัยนั้นถูกมองว่าเป็นการแสดงของผู้หญิง) และอีแชรกที่รู้สึกว่าคุณลุงมาวุ่นวายกับเขา กับโดนโค้ชสั่งให้เป็นครูฝึกสอนบัลเลต์ให้คุณลุงแทน โดยให้คุณลุงกลายเป็นผู้จัดการของเขาไปพร้อมกัน

ซีรีส์เล่นเรื่องของคนสองวัยไปแบบเท่าเทียมกัน ไม่ใช่อีแชรกจะเป็นพระเอกหน้าใสอยู่คนเดียว แต่บทของคุณลุงชิมด็อกชุลมากกว่าที่มีบทบาทสำคัญในเรื่อง และก็เป็นอะไรที่แปลกใหม่ในวงการซีรีส์เกาหลีพอสมควร เมื่อเรื่องนี้เน้นดารานำชายคู่สองคน สองวัย ไม่ได้ขายนางเอกมาประกบ แม้ในเรื่องจะมีโผล่มาอยู่บ้างกับบทพนักงานเสิร์ฟร้านเดียวกับที่พระเอกทำงานพาร์ทไทม์ ซึ่งเป็นหลานสาวของคุณลุงในเรื่องนี้ชื่อ “อึนโฮ” แต่ก็เป็นบทสมทบมากกว่าจะมาเป็นดารานำในเรื่อง (โปสเตอร์ภาพโปรโมทหลักๆ จะเป็นแค่ซง คัง กับพัคอินฮวาน)

ซึ่งการที่เนื้อเรื่องเล่นกับเรื่องความฝันของตัวละครชายต่างวัยต้องมาอยู่ด้วยกัน ออกแนวมิตรภาพต่างวัยก็โดยไม่มีเลิฟไลน์มาเกี่ยวข้องให้วุ่นวาย ก็เท่ากับว่าเรื่องต้องเน้นเล่าเรื่องอาชีพบัลเลต์จริงจังมากกว่าอย่างอื่น ซึ่งตัวบัลเลต์เองก็เป็นศิลปะการแสดงที่จัดว่าเข้าถึงได้ยาก แม้แต่วงการภาพยนต์หรือซีรีส์เองยังไม่ค่อยมีเจาะลึกบัลเลต์สักเท่าไหร่ (ก่อนนี้มีของเน็ตฟลิกเรื่องเดียวคือ Tiny Pretty Things) ด้วยความยากของการหานักแสดงที่ต้องรูปร่างหน้าตาต้องได้ การเข้าฝึกบัลเลต์จริงๆ ให้พร้อมกับการแสดงก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ซึ่งซงคังก็ผ่านการฝึกมาเกินครึ่งปีเพื่อมารับบทนี้ แต่ไม่ใช่แค่ซงคังที่ต้องฝึก คุณลุงพัคอินฮวานก็เช่นกัน เพราะในเรื่องนี้คือการที่คุณลุงอดีตอาชีพบุรุษไปรษณีย์วัย 70 ต้องมาฝืนสังขารร่างกายฝึกร่างกายให้เล่นบัลเลต์เพื่อแสดงจริงบนเวทีได้ ไม่ใช่แค่การฝึกเล่นๆ ซึ่งการแสดงของทั้งคู่ที่ออกมาก็ดูสมจริงทั้งอีแชรกที่ดูมีพรสวรรค์เก่งอยู่แล้ว กับคุณลุงที่เริ่มไต่เต้าพื้นฐานใหม่ ทำให้คนดูเอาใจช่วยทั้งคู่ได้จริงๆ เรียกว่าสอบผ่านเลยกับความสมจริง และความเข้มของเรื่องราวบัลเลต์ในเรี่องที่ไม่ใช่ง่ายๆ

แม้ในส่วนของพาร์ทบัลเลต์กับมิตรภาพสองวัยจะออกมาดี แต่ในพาร์ทอื่นของเรื่องกลับดูเหมือนพยายามใส่ปมดราม่าเข้ามามากมายจนดูล้นๆ ตั้งแต่การให้พระเอกมีปมปัญหาในอดีตที่ยังไม่ได้เปิดเผยในตอนแรกๆ ทั้งเรื่องพ่อกับเพื่อน และในส่วนของครอบครัวคุณลุงเองก็มีปัญหาหลายอย่างเช่นกัน โดยเฉพาะลูกชายคนเล็กที่แยกขาดออกไปจากครอบครัว อึนโฮนางเอกของเรื่องก็มีปมปัญหาเรื่องการทำความฝันขัดแย้งกับพ่อที่ขีดไว้  ตัวเรื่องใส่ตัวละครสมทบให้มีเส้นเรื่องย่อยๆ เข้ามาในเรื่องเยอะมาก อาจจะเพื่ออุดเนื้อหาของบัลเลต์ที่ยังมีไม่มากพอก็ได้ ซึ่งเรื่องนี้มีแค่ 12 ตอนจบเท่านั้น

เนื้อเรื่องในตอนนี้ยังพึ่งเริ่มต้นออกมาแค่ 2 ตอน เริ่มตั้งแต่ 22 มีนาคม ฉายทุกวันจันทร์อังคาร หลังสามทุ่มไปครับ

 

 

The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!