playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว Who Killed Sara? ซีรีส์สืบสวนที่ Netflix การันตีสร้างซีซั่น 2 ต่อเนื่องทันทีตั้งแต่แรก!

Who Killed Sara?

สรุป

ซีรีส์สืบสวนที่อาจจะไม่ถึงกับรู้สึกว่าว้าวยอดเยี่ยมอะไรแบบนั้น แต่มันดูกลับดูสนุกด้วยบทกับแนวเรื่องถูกออกแบบมาดี เล่าเรื่องรวดเร็วฉับไว มีอะไรหลายอย่างมากกว่าแนวสืบสวนทั่วไป แถมตัวเอกยังเป็นอาชญากรไซเบอร์ที่ดูเท่ๆ ไปในตัว แบบที่ผู้ชมส่วนใหญ่ต้องชอบแน่นอน และยังจบแบบฉายตัวอย่างซีซั่น 2 ที่ทำรอไว้เลยอีกด้วย ซึ่งทำได้น่าติดตามมาก เมื่อเรื่องพลิกกลับเหมือนหนังม้วนใหม่ในภาคต่อไป (กำหนดฉายซีซั่น 2 วันที่ 19 พฤษภาคม 2021)
หมายเหตุ อัพเดท SS2 บทแย่ลงมากหลายด้าน แถมยังพยายามยืดเรื่องไปต่อ SS3 อีก หลักๆ คือขาดความสมเหตุผลมากกับพยายามยืดเรื่องไปเรื่อยๆ จนไม่น่าติดตามอีกต่อไปครับ ผู้เขียนขอพักรีวิวเรื่องนี้ไว้ก่อนเพราะไม่ไหวจริงๆ 

Overall
7.5/10
7.5/10
Sending
User Review
3.4 (5 votes)

Pros

  • พระเอกเป็นแฮ็กเกอร์เท่ๆ ที่วางแผนล้างแค้นด้วยอาชญากรรมไซเบอร์
  • ความสลับซับซ้อนของคดีที่มีหลายชั้นมากกว่าแค่ใครฆ่าซาร่าตามชื่อเรื่อง
  • ดราม่าความสัมพันธ์ตัวละครยุ่งเหยิงพัวพันกันไปหมด แต่ดูสนุก
  • ฉาก SEX บ่อยครั้งมาก แถมเปลืองตัวทั้งหญิงทั้งชายไม่มีเซ็นเซอร์กันเลย
  • ตอนจบที่พลิกเรื่องใหม่หมดได้เข้าท่าน่าติดตามมากๆ

Cons

  • ความไม่สมเหตุผลในช่วงแรกๆ ของเรื่องมีหลายจุดจนดูไม่สมเหตุผล (บางอย่างมาเฉลยทีหลังให้พอเข้าใจได้)
  • สกิลแฮ็กเกอร์ของพระเอกยังไม่ถูกอธิบายมาให้แน่ชัดว่าเก่งจากในคุกได้ยังไง
  • ฉาก SEX ที่มีบ่อยแบบไม่มีเหตุผล เกินความจำเป็นในหลายครั้ง

ADBRO

Who Killed Sara? ใครฆ่าซาร่า ซีรีส์ Netflix จากเม็กซิโกแนวสืบสวนการตายของ ซาร่า สาววัยรุ่นที่เข้าไปพัวพันกับอาชญากรรมซ่อนเงื่อนเมื่อ 18 ปีก่อน จนทำให้พี่ชายของเธอต้องมาติดคุก 18 ปี ก่อนจะวางแผนล้างแค้นกลับคืนคนที่ฆ่าน้องสาวของเขาด้วยความสามารถแฮ็กเกอร์เจาะระบบ
 Who Killed Sara? (2021) on IMDb

ตัวอย่าง Who Killed Sara? ใครฆ่าซาร่า

ต้องบอกกันก่อนเลยว่าซีรีส์เรื่องนี้ถูกวางซีซั่น 2 ไว้ตั้งแต่แรกเริ่มงานสร้างแล้ว เหมือนเน็ตฟลิกซ์อาจจะมั่นใจกับบทที่ต้องบอกว่าออกแบบมาดีเลยทีเดียว ถึงได้ไฟเขียวทำตัวอย่างซีซั่น 2 ต่อไว้ในตอนจบของซีซั่นแรก ที่มี 10 ตอนได้เลย ซึ่งเป็นครั้งแรกเลยที่เห็นซีรีส์ Original Netflix มีตัวอย่างซีซั่นต่อทันที เข้าใจว่าทีมสร้างน่าจะถ่ายทำไว้แล้วเหลือแค่ตัดต่อกับทำให้เสร็จเท่านั้น ดังนั้นไม่น่าจะนานเกินไปที่จะได้เห็นซีซั่น 2 ตามมาแน่นอนครับ

ตัวแสดงในเรื่องจะมี 2 ชุดเด็กวัยรุ่นกับผู้ใหญ่ในปัจจุบันควบคู่กันไปตลอดเรื่องจนจบ

ส่วนที่ว่าทำไมเรื่องนี้ถึงดีงามจนมั่นใจทำต่อทันทีได้แบบนี้ ที่จริงเรื่องนี้ก็ไม่ได้ถึงกับยอดเยี่ยมแบบห้ามพลาดสุดๆ อะไรแบบนั้นหรอกครับ แต่ด้วยสไตล์ของเรื่องที่รวดเร็วฉับไว แล้วก็ผสมผสานแนวเรื่องหลายอย่างเข้ามาได้ดี มีความเท่ตรงตัวเอกเป็นแฮ็กเกอร์เจาะระบบที่ถูกตัวร้ายหลอกให้ติดคุก 18 ปี จนเมื่อเขาพ้นโทษก็กลับมาล้างแค้นด้วยแผนการที่วางไว้ในคุกมาอย่างยาวนาน ซึ่งจริงๆ ก็มีความคล้ายบางอย่างกับ Lupin ซีรีส์ที่ยอดรับชมสูงสุดอันดับ 1 ของเน็ตฟลิกซ์ ที่ลูปินเองก็ไม่ได้ยอดเยี่ยมอะไรมากมาย แต่ก็ดูสนุกฉับไว ซึ่งสไตล์กับแนวทางของเรื่องแบบนี้คงคลิ๊กกับคนส่วนมากได้ง่ายๆ ซึ่งเรื่องนี้ก็มาในแนวทางคล้ายๆ แบบนี้เช่นกันครับ

ฉากซาร่าตายจะถูกใส่ย้ำมาตลอดเรื่องจนจบ

ตัวเรื่องมีพล็อตง่ายๆ ตามที่จั่วหัวเรื่องไว้ พระเอกออกจากคุกมาล้างแค้นตระกูลดังที่หลอกเขาไปติดคุกแทนลูกชายตัวเอง ซึ่งแรกเริ่มเรื่องจะย้อนอดีตไปให้เห็นเหตุการณ์ที่ซาร่าพลาดหลุดจาก พาราเซลลิ่ง (Parasailing) กีฬาทางน้ำที่ใช้เรือลากคนให้ลอยขึ้นไปด้วยร่ม ตอนแรกดูเหมือนอุบัติเหตุ แต่เราก็จะได้เห็นความผิดปกติในเวลาต่อมาว่านี่เป็นคดีฆาตกรรมอำพราง ซึ่ง “อเล็กซ์” พี่ชายของซาร่ากลับต้องรับโทษแทนแฟนของซาร่าที่คาดว่ามีส่วนในเรื่องนี้ ก่อนที่เรื่องจะตัดมาที่เวลาผ่านไป 18 ปี อเล็กซ์ออกจากคุกหลังได้รับการลดหย่อนโทษจาก 30 ปีลงมา และเขาก็พร้อมที่จะเดินหน้าแก้แค้นด้วยความสามารถแฮ็กระบบล้วงข้อมูลความลับดำมืดของตระกูล “ลาซกาโน” ที่ในอดีตพี่กับน้องชายก็สนิทเป็นเพื่อนรักกับอเล็กซ์เช่นกัน

ตระกูลลาซกาโนที่มีบาดแผลกับเรื่องเน่าเฟะมากมายซ่อนอยู่

ซีรีส์จะค่อยๆ ฉายภาพย้อนหลังเหตุการณ์ความสัมพันธ์ของพระเอกกับคนในตระกูลนี้จนถึงเหตุวันที่ซาร่าตาย ซึ่งจะค่อยๆ เผยให้เห็นหลายมุมของเหตุการณ์มากขึ้นเรื่อยๆ จนถึงตอนจบสุดท้ายซีซั่นเลยถึงเผยออกมาหมด ซึ่งแน่นอนว่าการดำเนินเรื่องแบบนี้คือเพื่อหลอกล่อคนดูให้เขวก่อนจะหักมุมเป็นระยะเบาๆ ตลอดทาง ซึ่งอาจจะไม่ถึงกับว้าวอะไรมาก แต่ก็ชวนให้ติดตามต่อเนื่องไปเรื่อยๆ คือถึงแม้บางช่วงจะทำให้มั่นใจว่าคนนี้แน่ๆ คือฆาตกรตัวจริง แต่เรื่องก็ไม่ง่ายแบบนั้น เมื่อมีคดีซ้อนในเรื่องอยู่อีกหลายชั้น ไม่ใช่แค่คดีซาร่า พระเอกต้องสู้กับความใหญ่โตของตระกูลมาเฟียนี้ที่ถูกเปิดเผยอาชญากรรมร้ายแรงมากขึ้นเรื่อยๆ แล้วก็มีปมปริศนาเพิ่มอีกจากผู้ช่วยลึกลับที่ติดต่อมาหาพระเอกตั้งแต่ตอนแรก (EP1)โดยเป็นแฮ็กเกอร์เช่นกัน ทำให้คนดูต้องมาคิดอีกว่านอกจากใครฆ่าซาร่า ตัวละครลึกลับนี้คือใครกันแน่ในเรื่อง และผู้ช่วยคนนี้ก็ไม่ได้หวังผลแค่สืบคดีซาร่า แต่กลับหวังให้อเล็กซ์ทำอะไรบางอย่างตามแผนของตนเช่นกัน และยังเป็นตัวละครที่อยู่ในเหตุการณ์ในอดีตครั้งนั้นอีกด้วย

ตัวเรื่องถูกวางบทผูกปมต่างๆ ไว้ดีเลยทีเดียว แต่ช่วงแรกอาจจะมีปัญหาเรื่องความน่าเชื่อถือของตัวละครต่างๆ มากหน่อย เพราะเรื่องเดินแบบฉับไวมาก จู่ๆ นางเอกมาสืบพระเอกก็มีอะไรกันง่ายๆ หรือพระเอกก็ฉลาดเปิดตัวเล่นงานตระกูลลาซกาโนซะใหญ่โต แต่กลับพักอาศัยอยู่บ้านเดิมให้อีกฝ่ายตามมาล้างแค้นง่ายๆ หรือความสามารถแฮ็กเกอร์ของพระเอกมาจากไหน ซึ่งอะไรแบบนี้ช่วงแรกจะรู้สึกว่าบทไม่เนียนเลย แต่พอพ้นช่วงแรกไปสักพัก อะไรบางอย่างที่ตะหงิดติดใจก็จะค่อยๆ ถูกเฉลยภายหลัง แม้อาจจะยังอุดไม่หมด แต่ก็ถือว่าพอให้เข้าใจได้ และเรื่องช่วงหลังก็ดูสนุกแบบมีเหตุผลรองรับไม่ติดใจเหมือนช่วงแรกๆ ของเรื่องอีกต่อไปครับ

นอกจากแนวสืบสวนแล้ว ตัวเรื่องยังผูกปมความสัมพันธ์ยุ่งเหยิงในครอบครัว ลาซกาโน ที่เน่าเฟะสุดๆ แล้วก็มาเกี่ยวพันกับพระเอกในหลายแง่มุมทั้งมิตรภาพเพื่อนรักกับ “โรดอลโฟ” ที่เป็นแฟนกับซาร่า หรือ “เชมา” น้องชายของโรดอลโฟที่แอบหลงรักอเล็กซ์เพราะเป็นเกย์แอบไม่ให้คนในตระกูลรู้  แถม “เอลิซ่า” น้องสาวคนสุดท้องที่อดีต 18 ปีก่อนยังเด็กเกินจะรู้เรื่องราวของอเล็กซ์ แต่เมื่อเธอโตแล้วได้มารู้ว่าครอบครัวมีคดีนี้ เธอจึงตามสืบเรื่องราวของอเล็กซ์และก็กลายมาเป็นคู่รักหรือนางเอกของเรื่อง ซึ่งก็ต้องพบกับความลำบากใจเมื่อความรักของเธอกำลังทำลายครอบครัวเธอด้วยเช่นกัน ซึ่งดราม่าพวกนี้ทำออกมาดี มีส่วนช่วยให้เรื่องราวดูมีความลึกขึ้นมากมาย และก็เป็นตัวหลอกคนดูในบางครั้งด้วย

ส่วนของเกย์ในเรื่องค่อนข้างเยอะพอสมควร แต่ก็ถูกใส่มาแบบมีเหตุผลสำคัญกับเรื่อง

อาจจะเพราะเป็นซีรีส์จากเม็กซิโก ตัวเรื่องจึงขายฉาก SEX กันบ่อยมาก และดารานักแสดงทุกคนก็เปลืองเนื้อตัวกันล่อนจ้อนเห็นนมเห็นก้นกันจะๆ เลย แม้แต่นางเอกของเรื่อง รวมถึงตัวละครเกย์ในเรื่องก็ด้วย ซึ่งจริงๆ ก็ไม่ได้รู้สึกว่าต้องมีขนาดนี้ก็ได้ เพราะบางฉากจู่ๆ ก็เอากันโดยไม่มีเหตุผล แต่ถ้าไม่คิดอะไรก็ถือว่าเป็นเซอร์วิสให้คนดูเป็นระยะๆ ดีเหมือนกันครับ

ซีรีส์จบลงแบบเคลียร์ปมที่ค้างไว้ว่าใครฆ่าซาร่าแล้ว แต่ก็สร้างปมใหม่ที่ใหญ่กว่าเกี่ยวกับซาร่าขึ้นมาในตอนจบไปพร้อมกัน พร้อมกับตัดฉากซีซั่น 2 มาให้ดูกันทันทีเลย ซึ่งก็ถือว่าว้าวเหมือนกันที่เรื่องพลิกมาอีกเส้นทางหนึ่ง ซึ่งเชื่อเลยว่าคนดูคาดไม่ถึงแน่นอน อาจจะเพราะจุดนี้แหละเน็ตฟลิกซ์ถึงกล้าอนุมัติงานสร้างต่อเนื่องกันทันทีแบบนี้ครับ

 

The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!