playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว Bitter Daisies แกะรอยปีศาจ SS1-2 (ไม่มีสปอยล์)

  • Season 1 - 7/10
    7/10
  • Season 2 - 8/10
    8/10

สรุป

SS1

นี่เป็นซีรีส์ที่พล็อตเรื่องอาจจะดูธรรมดา ตัวละครหลักไม่เด่น ดำเนินเรื่องช้าในช่วงแรก มีความอิหยังวะในเรื่องบ้าง แต่องค์รวมของเรื่องและประเด็นที่เขาพยายามจะสื่อผ่านคดีการค้าประเวณีเด็กที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ เริ่มจากธรรมดา จนเฉลยในตอนหลังที่ทำออกมาได้เข้มข้น ปูทางไปยังซีซั่นสองที่เหมือนจะขยายสเกลเรื่องราวให้ใหญ่ขึ้น และทำให้ตัวละครหลักมันเริ่มเด่นขึ้นมาจริงๆ ทำให้เรื่องนี้มันมีเสน่ห์ที่ถ่ายทอดความเป็นแคว้นกาลิเซียออกมาได้ค่อนข้างดีและน่าติดตาม ที่สำคัญเลย ซีรีส์เรื่องนี้ไม่ได้ดูยาก แม้มีหักมุมแต่ก็ไม่ได้ชวนให้คิดตามจนปวดหัวขนาดนั้น หากใครกำลังมองหาซีรีส์แนวสืบสวนที่ดูเพลิน เรื่องนี้ก็เป็นอีกตัวเลือกที่ดี

 

SS 2

ข้อเสียของภาคก่อนๆ อย่างฉากที่ไม่จำเป็น เนื้อเรื่องดราม่าของตัวละครในชุมชนต่างๆ ถูกตัดออกไป และขยายสเกลเรื่องให้ใหญ่ขึ้น น่าติดตามมากขึ้น ไม่มีช่วงที่เนื้อเรื่องยืดเยื้อ หรือดราม่าที่ไม่จำเป็นนอกจากของตัวละครหลักเลย ในส่วนของช่วงหักมุมหรือช่วงพีคนี่คือสุดยอดมาก วางปม ขมวดปมและเฉลยได้จังหวะ งานภาพก็อัพเกรดขึ้นจากภาคก่อนอย่างเห็นได้ชัด เหมือน Netflix ได้ทุ่มทุนสร้างภาคต่อ จนทำให้ซีรีส์ที่มาจากกาลิเซีย แคว้นการปกครองตนเองของสเปนเรื่องนี้น่าจับตามอง และเมื่อซีซั่นสามมา เราจะไม่ยอมพลาดเรื่องนี้แน่นอน

Overall
7.5/10
7.5/10
Sending
User Review
5 (1 vote)

Pros

SS1

  • หักมุมเซอร์ไพรส์คนดูแบบไม่ทันตั้งตัว
  • การเล่าเรื่องโดยรวมทำออกมาได้ดี
  • แม้จะมีฉากหักมุมแต่ดูไม่ยาก และน่าติดตาม

SS2

  • การดำเนินเรื่องเข้มข้น จุดหักมุมและตอนท้ายพีคมาก
  • การพัฒนาตัวละครหลักที่ขัดเจนและน่าติดตาม
  • เนื้อเรื่องคาดเดายาก ขยายสเกลเรื่องใหญ่ขึ้น

Cons

SS1

  • ตัวละครหลักไม่เด่นเลย (ในช่วงแรก)
  • มีโมเมนต์ชวน Cringe บ้าง
  • ช่วงแรกดำเนินเรื่องช้า

SS 2

  • ปมเกี่ยวกับฆาตกรต่อเนื่องไม่เฉลย ทำให้ชวนสงสัยตั้งแต่ภาคแรก แต่ไม่ค่อยมีการสานต่อตรงนี้มาก

ADBRO

Bitter Daisies แกะรอยปีศาจ Original Netflix แนวสืบสวนจากแคว้นกาลิเซีย ประเทศสเปน กับเรื่องราวของตำรวจหญิงจากเมืองหลวง เข้ามาสืบสาวหาการหายตัวไปของเด็กคนหนึ่ง แต่นั่นกลายเป็นว่าเธอได้พบกับปริศนาที่อาจจะเกี่ยวข้องกับความลับดำมืดของเมืองที่ดูเงียบสงบแห่งนี้
 O sabor das margaridas (2018) on IMDb

ตัวอย่าง Bitter Daisies แกะรอยปีศาจ SS1

รีวิว Bitter Daisies แกะรอยปีศาจ SS1

Bitter Daisies Rosaโรซ่า วาร์กาส ตำรวจสืบสวนหญิงจากส่วนกลาง ได้เดินทางมายังเมืองเล็กๆ ของแคว้นกาลิเซีย เพื่อสืบหาการหายตัวไปของเด็กสาวคนหนึ่ง แต่แล้วเธอก็ได้ค้นพบว่าเบื้องหลังการหายตัวไปธรรมดาๆ อาจจะเกี่ยวเนื่องกับคดีฆาตกรรมของฆาตกรต่อเนื่อง ภายในเมืองที่ฉากหน้าดูเงียบสงบ

เธอได้จับคู่กับ เมาโร นายตำรวจสืบสวนประจำเมืองที่สนิทสนมและคุ้นเคย รู้จักคนในชุมชนเป็นอย่างดี แต่ตัวเขาเองก็สังเกตเห็นท่าทีแปลกๆ ของนายตำรวจหญิงคนนี้จึงไม่ค่อยไว้ใจเธอสักเท่าไหร่ เหมือนตัวเธออาจจะมีเรื่องราวอะไรปิดบังไว้

ในการตามหาเด็กสาวนั้น เบาะแสต่างๆ มันจะเชื่อมโยงกับเหล่าผู้คนในเมือง ทั้งเด็กวัดที่เคร่งศาสนา มีน้องชายสติไม่สมประกอบ หรือเหล่าโสเภณีกับเจ้าของสถานค้ากามในเมืองที่น่าสงสัย ซึ่งในช่วงแรกคดีมันจะเกี่ยวกับการค้าประเวณีของเด็กสาวภายในเมือง และนั่นมันก็เชื่อมโยงไปยังลูกสาวของนายตำรวจเมาโร ทำให้คนร้ายในคดีเหล่านี้อาจจะอยู่ใกล้ตัวกว่าที่ทุกคนคิด อาจจะเป็นอาจารย์ที่ชอบกามวิตถารกับเครื่องแบบนักเรียน และรายละเอียดต่างๆ ที่มันเชื่อมโยงกันทั้งเมือง

พล็อตเรื่องตำรวจสืบสวนจากเมืองใหญ่ สืบคดีในเมืองเล็กที่เรื่องราวของคดีมันไม่เล็กนั้น เป็นพล็อตที่เราเห็นได้ทั่วไปและเป็นมาตรฐานมากๆ ทำให้เรื่องนี้อาจจะไม่ได้แปลกใหม่ หรือแตกต่างจากซีรีส์เรื่องอื่นสักเท่าไหร่นัก แต่จุดเด่นของเรื่องราวแนวนี้มันจะโฟกัสไปที่ความสัมพันธ์ของเหล่าตัวละครในเมือง ที่อาจจะโผล่มาไม่มาก แต่ก็มีความสำคัญเชื่อมโยงกับเนื้อเรื่องหลักอย่างคาดไม่ถึง ตรงจุดนี้ตัวซีรีส์นำเสนอออกมาได้ค่อนข้างดี ทำให้เรื่องราวโดยรวมนั้นคงความน่าติดตาม

ตัวเอกของเรื่องอย่างโรซ่า วาร์กาส ในตอนแรกนั้นเธอดูเป็นตัวละครที่จืดจางอย่างมาก จนเราไม่แน่ใจว่านี่เป็นตัวละครหลักดำเนินเรื่องเท่าไหร่ เพราะตัวเธอมันไม่ได้มีความน่าดึงดูด หรืออะไรที่บ่งบอกถึงความเป็นตัวเอกของเรื่องเท่าไหร่นัก แต่พอกลางๆ เรื่องที่เธอต้องสืบคดี ปลอมตัว เราก็จะเริ่มเห็นบทบาทของเธอมันเด่นชัดขึ้น พร้อมกับเรื่องราวที่มันจะค่อยๆ เฉลยปมในอดีตของตัวเอก ที่จะไปหักมุมในตอนท้ายในแบบที่เราไม่ทันตั้งตัว ตรงนี้ก็เป็นอะไรที่เซอร์ไพรส์และทำให้เรื่องราวในซีรีส์ช่วงท้ายสนุกมาก

ตัวซีรีส์จะเล่าเรื่องการสืบสวนของโรซ่า ตัดสลับกับชาวเมืองต่างๆ ที่ใช้ชีวิตและกระทำการบางอย่าง ทำให้เราเห็นเรื่องราวของหลายตัวละครพร้อมๆ กันทำให้ช่วยคิดวิเคราะห์ไปกับเรื่อง เช่นดราม่าเรื่องของเรเบก้า ลูกสาวเมาโร ที่แฟนหนุ่มของเธอไปเกี่ยวข้องกับเด็กสาวที่หายตัวไป ดราม่าเรื่องครอบครัวของเมาโร เรื่องราวของเซเวียกับน้องชายเบอนาบาสที่สติไม่สมประกอบ แต่เขาอาจจะกุมความลับบางอย่าง และคนที่ดูเหมือนจะเป็นฆาตกรที่สุดในเรื่อง คนที่มีกามวิตถารแบบแปลกๆ ก็จะโผล่มาให้เราเห็น ทำให้เราเดาไม่ได้เลยว่าใคร ที่เป็นคนร้ายตัวจริง ลักพาเด็กสาวไปซ่อน และในตอนจบเรื่องราวมันก็จะซับซ้อน ขมวดปมขึ้นเรื่อยๆ จนในตอนท้ายก็มีหักมุมเซอร์ไพรส์คนดูในแบบไม่ธรรมดา แถมมีเรื่องราวให้สานต่อไปยังซีซั่นที่สองอีกด้วย

แต่หลายช่วงในซีรีส์ มันอาจจะมีโมเม้นต์ที่ครินจ์ๆ หน่อย หรือบางอย่างก็ไม่สมเหตุสมผล เช่น มีคนจะลักพาเด็กสาว คุณครูประจำชั้นเลยมาช่วยไว้ด้วยการถือ “ปืนลูกซอง” ยิงขึ้นฟ้า 1 ที ซึ่งเรื่องก็ไม่ได้เฉลย และไม่ได้บอกว่าครูคนนั้นมาอยู่ตรงนั้นได้ยังไง แล้วยิงปืนขึ้นฟ้าแบบนั้นชาวเมืองไม่แตกตื่นอะไรหน่อยเหรอ ซึ่งมันจะมีอะไรแบบนี้ในเรื่องหลายอย่างมาก อารมณ์แบบ ตัวละครในเรื่องทำในสิ่งที่คนปกติไม่น่าทำกันจนเกิดโมเม้นต์อิหยังวะ แต่ถ้ามองข้ามตรงนั้นไปได้ก็จะโอเคกับเรื่อง ไม่ได้สลักสำคัญอะไรเท่าไหร่

อีกอย่างที่เป็นปัญหาก็คือตัวเอกของเรื่องนี้ บทบาทของเธอมันไม่ Stand Out ออกมาอย่างชัดเจน จนเราไม่ค่อยที่จะอินหรืออยากเอาใจช่วยเธอเท่าไหร่ จนกว่าเราจะรู้ความจริงในตอนสุดท้าย เราถึงรู้ว่า ทำไมเรื่องราวมันถึงมาโฟกัสกับนายตำรวจสืบสวนหญิงคนนี้ การดำเนินเรื่องแบบนี้มันหักมุมตอนท้ายเซอร์ไพรส์ก็จริง แต่มันก็เป็นดาบสองคม ทำให้ผู้ชมไม่อินไปกับตัวละคร และไม่เข้าใจตัวละครหลักมากเท่าที่ควร เช่น ท่าทางตั้งแต่ทีแรกเธอเป็นคนไม่ค่อยยิ้ม เท่ๆ คูลๆ แต่บางโมเม้นต์จู่ๆ ก็เป็นสาวหวานขัดกับบุคลิกที่แสดงออกตั้งแต่แรก ทำให้เราตามไม่ค่อยทัน ไม่เข้าใจตัวละครเท่าไหร่ แถมตอนดราม่าก็ยังระเบิดเป็นสาวขี้วีนอีกซะงั้น ลุคเท่ๆ คูลๆ หายไปแล้ว แต่นั่นมันก็จะไปเฉลยในตอนจบ

ด้วยเหตุนี้ การดำเนินเรื่องของซีรีส์ในช่วงแรกมันจะค่อนข้างช้า และบางเรื่องก็ไม่ใช่เรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับเนื้อเรื่องหลักโดยตรง แต่มันจะทำให้เข้าใจภาพรวมของชุมชนได้ดีขึ้น ทำให้อาจจะน่าเบื่อ แต่พอเราเริ่มเข้าใจแต่ละตัวละครว่าใครเป็นใครแล้วก็จะเริ่มเครื่องติด และดูจนจบได้อย่างไม่ยาก แม้ซีรีส์จะมีเพียง 6 ตอน แต่ตอนหนึ่งก็ยาวราวๆ 70 นาทีต่อตอน ทำให้ใช้เวลาดูพอสมควร กว่าจะจบหนึ่งตอน

แม้ตัวละครหลักจะไม่ทำให้เราอินไปกับเรื่องราว แถมตัวโรซ่าเองก็ไม่ใช่ตำรวจที่มีสกิลสืบสวนระดับเทพ ไขคดีได้ เป็นเพียงผู้หญิงธรรมดาๆ แต่องค์รวมของซีรีส์ เรื่องราวโดยรวมของชาวเมืองมันกลับฉุดเราไว้ให้ดูต่อได้ ถ้าพูดง่ายๆ ก็คือการเฉลี่ยบทบาทแล้วเลือกปม และตอนที่จะเฉลยสิ่งต่างๆ ทำออกมาได้ดี แต่ก็ติดใจอย่างหนึ่งที่บางปม หรือบางเรื่องราวเขาใส่มาให้เราเขว แต่ดันไม่เฉลยในตอนจบ ต้องรอต่อซีซั่นสองไปอีก อาจจะทำให้เสียอารมณ์นิดหน่อย

เสริมอีกเล็กน้อยที่ทำให้เรื่องราวในซีรีส์น่าสนใจก็คือ เรื่องนี้ผลิตในแคว้นกาลิเซีย เป็นเขตปกครองตนเองในประเทศสเปนอีกที เหมือนเขาจะมีสื่อมีอะไรแยกออกมา ทำให้บรรยากาศ ฉากต่างๆ รวมถึงโปรดักชั่นมันดึงความสวยงามของเมืองเล็กๆ และภาษาที่ตัวละครพูดได้มีเสน่ห์ มีฉากเซ็กซี่บ้างแต่ไม่ได้โป๊เปลือยเรต R

นี่เป็นซีรีส์ที่พล็อตเรื่องอาจจะดูธรรมดา ตัวละครหลักไม่เด่น ดำเนินเรื่องช้าในช่วงแรก มีความอิหยังวะในเรื่องบ้าง แต่องค์รวมของเรื่องและประเด็นที่เขาพยายามจะสื่อผ่านคดีการค้าประเวณีเด็กที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ เริ่มจากธรรมดา จนเฉลยในตอนหลังที่ทำออกมาได้เข้มข้น ปูทางไปยังซีซั่นสองที่เหมือนจะขยายสเกลเรื่องราวให้ใหญ่ขึ้น และทำให้ตัวละครหลักมันเริ่มเด่นขึ้นมาจริงๆ ทำให้เรื่องนี้มันมีเสน่ห์ที่ถ่ายทอดความเป็นแคว้นกาลิเซียออกมาได้ค่อนข้างดีและน่าติดตาม ที่สำคัญเลย ซีรีส์เรื่องนี้ไม่ได้ดูยาก แม้มีหักมุมแต่ก็ไม่ได้ชวนให้คิดตามจนปวดหัวขนาดนั้น หากใครกำลังมองหาซีรีส์แนวสืบสวนที่ดูเพลิน เรื่องนี้ก็เป็นอีกตัวเลือกที่ดี

ตัวอย่าง Bitter Daisies แกะรอยปีศาจ SS2

รีวิว Bitter Daisies แกะรอยปีศาจ SS2

การกลับมาอีกครั้งของผู้หมวดสาว โรซ่า วาการ์ส จากเหตุการณ์ในภาคที่แล้ว เธอได้กลับมาใช้ชื่อจริงของเธอ เอวา มาโย โดยเนื้อเรื่องจะเป็นสองปีให้หลังของซีซั่นแรก ที่เธอได้กลับมาตามสืบหาเรื่องราวขององค์กรลับ ค้าประเวณีเด็ก และตามหาลูกสาวของเมาโรที่ถูกจับตัวไป แต่เรื่องราวก็ซับซ้อนขึ้น เพราะอีกด้านหนึ่ง เธอกำลังถูกตามโดยฆาตกรต่อเนื่องโรคจิตจากภาคที่แล้ว

ซีซั่นที่สองนี้ต้องบอกเลยว่า เป็นการพลิกบทบาท และเสริมให้ตัวเนื้อเรื่องสนุกขึ้นอย่างมาก ด้วยธีมที่แตกต่างจากภาคที่แล้ว เข้มข้น กดดัน น่าติดตามกว่า จากการสืบหาคดีในเมืองเล็กๆ ที่เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ กลายมาเป็นการหาต้นตอเกี่ยวกับองค์กรลับ ที่อาจจะเป็นใครก็ได้ ทั้งผู้พิพากษา ตำรวจ นักข่าว และตัวของเอวา มาโย ก็เป็นตัวละครที่มีมิติมากขึ้น

ในภาคนี้ตัวเอก เธอมีอาการความทรงจำขาดช่วงเพราะเหตุการณ์ที่เกี่ยวเนื่องกับภาคก่อน ทำให้ตอนเธอลงมือตามสืบคดี หรือทำอะไรบางอย่าง จู่ๆ ความทรงจำเธอก็หายไป ในช่วงที่เธอความทรงจำหาย กลับกลายเป็นว่ามีคนที่เกี่ยวข้องกับคดี ตายไปทีละคน และการตายของพวกเขาก็คือการฆ่าอย่างโหดเหี้ยม ตัดลิ้น และยัดดอกเดซี่เพื่อแสดงสัญลักษณ์อะไรบางอย่าง ทำให้ทั้งคนดู และคนที่ช่วยเหลือเอวา ต้องสงสัยในตัวเธอว่า เธอเป็นคนดี หรือฆาตกรกันแน่ เพราะในช่วงที่ความทรงจำหายไป บุคลิกอื่นในจิตใจที่เธอสร้างขึ้นมา อาจจะเป็นคนทำมัน

ด้วยเหตุนี้เอง การดำเนินเรื่องมันจะลุ้น กดดัน และเข้มข้นขึ้นมาก มาพร้อมกับตัวละครใหม่อย่าง ซัลวาโด นายตำรวจชั้นสูงที่ตามสืบหาคดีฆาตกรรมดอกเดซี่ ที่นางเอกของเราอาจจะเป็นคนทำมัน แต่แล้วเขาก็พบความเชื่อมโยงบางอย่าง เดี่ยวกับองค์กรลับค้ามนุษย์ของเหยื่อแต่ละคน ยิ่งเขาตามสืบลึกเท่าไหร่ ชีวิตของเขาก็ไม่ปลอดภัยมากขึ้นเท่านั้น จนอาจจะทำให้คนรอบข้างเดือดร้อนไปด้วย

ภาคก่อน ผู้หมวดโรซ่า วาร์กาส หรือเอวา มาโย เป็นตัวละครที่เราไม่ค่อยรู้จักเธอเท่าไหร่ ไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงมีอาการซึมเศร้าและต้องกินยาตลอด ทำไมเธอถึงแสดงออกแบบนั้น แบบนี้ในเรื่อง จนมันดูงงๆ ไม่ชัดเจน แต่กลับกันในภาคที่สอง เราได้เห็นถึงอดีตของเธอ ภูมิหลังที่เกี่ยวกับน้องสาว พ่อ และแม่ จนทำให้เราเข้าใจตัวละครนี้ และลุ้นเอาใจช่วยเธอ พร้อมทั้งสงสัยในตัวเธอ และตัวเธอเองก็ได้แสดงถึงความเป็น LGBTQ+ ในซีซั่นนี้ด้วย

ในอีกด้าน ทางฝั่งของการสืบสวนของนายตำรวจซัลวาโด ก็สนุกไม่แพ้กัน เพราะเขาเป็นคนหมกมุ่นกับคดีหนึ่งในอดีตมากๆ จนได้เบาะแสจากคดีฆาตกรเดซี่ ทำให้เขามุ่งและดื้อด้านที่จะสืบคดีให้ได้ และมันดันไปขัดแข้งขัดขาพวกคนใหญ่คนโตจนทำให้ตัวเขาเองเดือดร้อน

สิ่งที่น่าติดตามอีกอย่างในซีซันที่สองก็คือ ฆาตกรต่อเนื่องจากภาคก่อน ที่ตัวเขาเองก็ได้พัฒนามาลงมือ และแสดงถึงความโรคจิตมากขึ้น แต่เราก็ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงมาตามติดนางเอก มีเหตุผลอะไร และทั้งซีซั่นนี้ ตัวตนและจิตใจของเขาก็ยังคงลึกลับและไม่เฉลย รอซีซั่นหน้าอีกแล้ว น่าเสียดายนิดๆ ที่เนื้อเรื่องไม่เฉลยอะไรมากเกี่ยวกับชายคนนี้

Bitter Daisies Netflix SS2
Bitter Daisies Netflix SS2

การสืบคดีของนางเอกก็เข้มข้นมาก เราจะได้เห็นว่าแท้จริงแล้วเธอเป็นคนยังไง และเก่งอะไร จนตัวละครของเธอ ค่อยๆ พัฒนาจากนักสืบ กลายเป็นเหมือน Anti-hero ที่คอยยื่นมือช่วยเหลือเด็กสาวที่ถูกจับไปค้าประเวณี ทำให้ในพาร์ทสุดท้ายของซีซั่นสอง ทั้งหักมุม และพีคมาก จนอยากจะดูซีซั่นต่อไปเร็วๆ

ถ้าหากใครชอบเรื่องราวแบบนี้ มันมีซีรีส์ที่พล็อตคล้ายๆ กันในซีซั่นแรก อย่างเรื่อง Capitani ล่ารอยฆาตกร พล็อตเรื่องจะคล้ายๆกับเรื่องนี้ในซีซั่นแรกก็คือนายตำรวจจากเมืองใหญ่ เข้ามาสืบคดีในเมืองเล็กแต่กลายเป็นการลักลอบค้าประเวณีเด็กสาว กับซีซั่นที่สองมันก็จะไปคล้ายๆ กับซีรีส์เรื่อง Marcella ที่จะเป็นเรื่องของนักสืบหญิงที่ดำดิ่งไปในคดีของเธอ จนมีอาการทางจิต ความทรงจำขาดหาย และกลายเป็นเหมือน Anti-hero คอยช่วยเหลือกลุ่มคนในเงามืด ลองไปตามดูสองเรื่องนี้ได้ สนุกไม่แพ้กัน

โดยรวมแล้ว ข้อเสียของภาคก่อนๆ อย่างฉากที่ไม่จำเป็น เนื้อเรื่องดราม่าของตัวละครในชุมชนต่างๆ ถูกตัดออกไป และขยายสเกลเรื่องให้ใหญ่ขึ้น น่าติดตามมากขึ้น ไม่มีช่วงที่เนื้อเรื่องยืดเยื้อ หรือดราม่าที่ไม่จำเป็นนอกจากของตัวละครหลักเลย ในส่วนของช่วงหักมุมหรือช่วงพีคนี่คือสุดยอดมาก วางปม ขมวดปมและเฉลยได้จังหวะ งานภาพก็อัพเกรดขึ้นจากภาคก่อนอย่างเห็นได้ชัด เหมือน Netflix ได้ทุ่มทุนสร้างภาคต่อ จนทำให้ซีรีส์ที่มาจากกาลิเซีย แคว้นการปกครองตนเองของสเปนเรื่องนี้น่าจับตามอง และเมื่อซีซั่นสามมา เราจะไม่ยอมพลาดเรื่องนี้แน่นอน

รับชม Bitter Daisies แกะรอยปีศาจ ทั้งสองซีซั่น ได้ทาง Netflix แล้ววันนี้

อ่านรีวิวหนัง/ซีรีส์เรื่องอื่น ได้ที่นี่

The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!