รีวิว FATMA (Netflix) โศกนาฎกรรมจากแม่บ้านกลายมาเป็นฆาตกรต่อเนื่องที่จำเป็นต้องฆ่า (ไม่สปอยล์)

FATMA จำเป็นต้องฆ่า ซีรีส์ Netflix 6 ตอนจบจากตุรกี บอกเล่าเรื่องราวน่ารันทดหดหู่ของหญิงสาวแม่บ้านทำความสะอาดที่ต้องกลายมาเป็นฆาตกรต่อเนื่องจำเป็น

ตัวอย่าง FATMA จำเป็นต้องฆ่า

รีวิวไม่มีสปอยล์เนื้อหาสำคัญในเรื่อง

ขอยกให้ซีรีส์เรื่องนี้เป็นม้ามืดประจำสัปดาห์นี้ของ Netflix เลย เพราะเป็นซีรีส์จากตุรกีนอกกระแสที่ไม่คุ้นเคยเลยแม้แต่น้อย ถึงพล็อตกับตัวอย่างจะดูน่าสนใจ แต่พอเป็นซีรีส์นอกกระแสของเน็ตฟลิกซ์มักตามมาด้วยบทงั้นๆ ทุนก็ต่ำ ไม่ค่อยมีอะไรแปลกใหม่น่าสนใจได้มาก แต่กับเรื่องนี้ต้องบอกว่าแม้ทุนจะไม่สูงแค่ปานกลาง แต่หลายสิ่งหลายอย่างในเรื่องนี้คือผลงานปราณีตละเอียดใส่ใจ ถ่ายทอดผลงานออกมาได้ดีมาก จนนี่เป็นงานจากตุรกีที่เชื่อได้เลยว่าน่าจะถูกใจผู้ชมทั่วโลกแน่นอน และยังทำให้เห็นว่าซีรีส์นอกกระแสของเน็ตฟลิกซ์ก็ยังพอมีทีมงานที่ดี ตั้งใจทำ ฝีมือถึง ปะปนอยู่ด้วยเหมือนกัน

เนื้อเรื่องเล่าแบบกระชับง่ายๆ ไม่มีสปอยล์อะไรก็คือ ฟัตมา (เสียงอ่านของชื่อเรื่อง FATMA แปลในภาษาตุกีแปลว่า “ร่วงหล่น” ได้ด้วย) นางเอกของเรื่องตามหาสามีของเธอที่ออกจากคุกแล้วหายตัวไป เธอเฝ้าตามหาอย่างไม่ลดละ แม้จะไม่มีความหวัง เพราะตำรวจหรือคนรู้จักเธอก็คิดว่าสามีตั้งใจทิ้งเธอไปมากกว่า แต่แล้ววันหนึ่งเธอกลับได้รู้ว่ามีคนๆ หนึ่งที่อาจจะรู้เรื่องนี้จึงไปหา แต่กลายเป็นการทะเลาะกันอย่างรุนแรงจนเธอพลั้งมือฆ่าไป และก็กลายเป็นชนวนเหตุให้เธอต้องฆ่าคนต่อเนื่องซ้ำแล้วซ้ำเล่าไม่หยุด จากแม่บ้านทำความสะอาดกลายมาเป็นฆาตกรต่อเนื่องที่ใครๆ ก็คาดไม่ถึง

ถึงตัวเรื่องจะชัดเจนว่าเป็นแนวอาชญากรรมฆาตกรต่อเนื่อง แต่เรื่องนี้ไม่ใช่แนวหนังแหวะ โหด ดิบ อะไรทำนองนั้น แม้ฉากฆ่าจะมีโหดเลือดสาดอยู่บ้าง และก็มีการฆ่ากับก่ออาชญากรรมกันทุกตอนต่อเนื่องไม่มีหยุด แต่นั่นไม่ใช่หัวใจหลักของซีรีส์นี้เลย ตัวเรื่องเน้นไปที่ “ความจำเป็นต้องฆ่าของนางเอก” ด้วยบทที่เต็มไปด้วยความกดดันกันถึงที่สุดในแต่ละครั้งจริงๆ นางเอกถึงลงมือ นอกจากเคสแรกที่พลั้งมือพลาดไป กลายเป็นต่อมานางยิ่งนิ่ง ยิ่งใจเย็น ยิ่งวิปริต ยิ่งฉลาด ยิ่งมีพัฒนาการไหวพริบในการฆ่าและเอาตัวรอดได้อย่างน่าทึ่ง (ดวงดีฟลุ๊คๆ รอดด้วย) ซึ่งรับรองเลยว่าจากฉากแรกๆ ที่ดูเป็นแม่บ้านจิตใจอ่อนแอ Burcu Biricik นักแสดงในบทนี้แม้จะเป็นดาราตุรกีที่เราไม่รู้จัก แต่นี่คือการแสดงที่สมจริงมาก ด้วยบทที่มีรายละเอียดเชิงลึกถึงสภาพจิตแปรปรวนตั้งแต่เด็ก ที่เกิดจากคนในหมู่บ้านชนบทร่วมกันตราบาปโยนความผิดให้เธอ ก่อนถูกจับแต่งตั้งแต่เด็ก และก็กลายมาเป็นแม่ของลูกออทิสติกที่สามีทิ้งไป ก่อนมาเป็นฆาตกรในที่สุด เธอเล่นบทที่ซับซ้อนมากๆ นี้ให้เราเชื่อได้อย่างสนิทใจ (แม้เรื่องจะดูโอเว่อร์) แถมยังเอาใจช่วยเธอในฐานะฆาตกรจำเป็น คนดูเองก็คงรู้สึกลึกๆ ว่าเหยื่อที่เธอฆ่าสมควรแล้วเพราะเป็นคนเลวด้วยกันทั้งนั้น และลุ้นให้เธอหนีเอาตัวรอดให้ได้ทุกครั้งจนจบฉากสุดท้ายก็ยังแอบเอาใจช่วยนางเอกในเรื่องนี้ แม้จะรู้ว่าการกระทำของเธอไม่ถูกต้องเอามากๆ แต่ทั้งบทการผูกเรื่องกับดาราที่เอาอยู่ ทำให้องค์ประกอบส่วนนี้ลงตัวแทบไร้ที่ติ และเต็มไปด้วยความสะเทือนใจจนคนดูสงสารและยอมรับการกระทำของนางเอกได้ตั้งแต่เคสแรกๆ ของเรื่องเลย แม้จะรู้ว่าตรกะการฆ่าของนางมาจากจิตที่ไม่ปกติด้วยก็ตาม

อีกส่วนที่ดีงามคือ รายละเอียดเล็กๆ ในเรื่องที่มีมากมายเกินคาดมากๆ ทุกอย่างที่เราเห็นว่าเรื่องใส่มาเล็กๆ น้อยๆ พอเรื่องดำเนินต่อไปกลับเอาพวกนี้ไปเชื่อมกับเรื่องราวหลักได้ทั้งหมด ไม่เว้นแม้แต่ของเล่นของลูกนางเอกที่เป็นรถบรรทุกเด็กเล่นดูเผินๆ เหมือนไม่มีอะไร ก็ยังกลายมาเป็นสิ่งสำคัญกับการเดินทางหลบหนีของนางเอก อาชีพนางเอกที่เป็นแม่บ้านทำความสะอาดหลายบ้าน ก็มีรายละเอียดเรื่องเล่าแต่ละบ้านสำคัญกับเรื่องราวทั้งหมด รวมไปถึงความสามารถในการฆาตกรรมของเธอก็ได้ประโยชน์จากอาชีพแม่บ้านทำความสะอาดที่โลวโปรไฟล์ดูเหมือนไร้ตัวตนจนไม่มีใครสงสัย บทเธอกับน้องสาวในวัยเด็กก็ค่อยๆ แฟลชแบ็คเล่าทีละนิดมาเรื่อยๆ แม้เราจะเดาได้แต่แรกแล้วฟัตมาถูกกระทำชำเราตอนเด็กจากคนในหมู่บ้าน แต่ในเรื่องเล่านี้กลับมีดีเทลที่ค่อยๆ เผยความเชื่อมโยงมาถึงฉากฆาตกรรมต่างๆ ในปัจจุบันของเธอได้อย่างน่าทึ่ง และเรื่องราวในตอนเด็กก็ยังสะท้อนสังคมความเชื่อประเพณีผิดๆ ในชนบทเรื่องการจับเด็กสาวแต่งงานไว จนกลายมาเป็นปมหนึ่งของบาดแผลทางใจที่ไม่ใช่แค่ฝ่ายหญิง แต่ฝ่ายชายเองก็ได้รับผลกระทบนี้ไปด้วย ซึ่งปมการตามหาสามีของเธอก็กลายเป็นประเด็นเชื่อมโยงสอดรับผลจากอดีตที่มาทำร้ายทั้งคู่ในปัจจุบัน และยังทำให้ลูกที่เกิดมาเป็นออทิสติกส์ได้รับผลกระทบนี้ตามไปด้วย นิทานของนางเอกที่เล่าให้ลูกฟังก็จำลองมาจากชีวิตจริงของตัวเธอเอง เป็นเรื่องเล่าที่ร้อยเรียงออกมาได้แสนเศร้าพร้อมกับอาชญากรรมช่วงท้ายที่นางก่อขึ้นเพื่อลูก ที่ดูก็รู้เลยว่าเธอสิ้นหวังและต้องการเผาผลาญทุกอย่างให้หมดไป ซึ่งรายละเอียดทั้งหมดถูกร้อยเรียงผูกเข้ากันได้อย่างแนบเนียน เป็นการเล่าเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ประกอบเรื่องแต่มีความสำคัญทั้งหมด ต้องยอมรับเลยว่าคนเขียนบทเรื่องนี้เก่งมากจริงๆ ที่ผูกเรื่องจากสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ให้กลายเป็นเรื่องราวสำคัญได้ทั้งหมดอย่างน่าทึ่ง

ฉากในเรื่องนี้คือเมืองอิสตันบูลเป็นส่วนใหญ่ ทุกฉากในเรื่องนี้ถ่ายออกมาสวยงาม มีมุมมองวิวทิวทัศน์ที่แปลกตา เมืองนี้เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของตุรกี ที่มีชนชั้นทางสังคมสูงสุดกับชนชั้นล่างสุดอย่างนางเอกอยู่รวมกัน ตัวเรื่องถ่ายทอดให้เห็นฉากความเป็นอยู่ที่เหลื่อมล้ำกันสุดๆ ตลอดเวลา ตัวนางเอกกับน้องสาวก็มีฐานะต่างกันสุดขั้วในเรื่อง ซึ่งเป็นไปได้อย่างไรที่เด็กสาวจากชนบทพี่น้องกันถึงโตมาต่างฐานะกันได้ขนาดนี้ นี่เป็นความลับจุดหนึ่งของเรื่องที่ซ่อนไว้ และกลายมาเป็นปมสำคัญในตอนจบเรื่องอีกด้วย

จุดด้อยของเรื่องก็อาจจะเป็นความน่าเชื่อถือของเหตุการณ์ต่างๆ ในเรื่องที่ต่อเนื่องร้อยเรียงกันได้เหมาะเจาะบังเอิญมากไปหน่อย แต่ก็เหมือนผู้สร้างรู้จุดนี้ดี เลยสร้างตัวละครนักเขียนนิยายที่นางเอกไปทำงานด้วยที่หนึ่ง ให้เขาสังเกตุพฤติกรรมนางเอกและแต่งเรื่องของนางเอกเป็นนิยายฆาตกรรม โดยไม่รู้ว่านางเอกเป็นฆาตกรจริงๆ ขนาดที่นางเอกบางครั้งเผลอหลุดสารภาพไป แต่เขากลับคิดว่าเป็นจินตนาการของเธอ ซึ่งตัวนิยายนี้ก็ดำเนินคู่ไปกับเรื่องเรื่อยๆ แต่เป็นแค่เรื่องเล่าสั้นๆ เหมือนบรรยายแทนความรู้สึกนางเอกที่นักเขียนแอบดึงไปใช้เป็นวัตถุดิบ แต่ตอนเขียนจบไปเสนอสำนักพิมพ์กลับถูกหาว่าแต่งเรื่องเกินความเป็นไปได้มากไปจนนิยายไม่ผ่าน ซึ่งก็เป็นความตั้งใจใส่มาเสียดสีบทในเรื่องนี้เองด้วย

ซีรีส์มีแค่ 6 ตอนจบ ตอนละ 30-40 นาทีไม่ยาวมาก ตอนจบของซีซั่นค่อนข้างทิ้งไว้แบบปลายเปิดหน่อยๆ หรือจะจบในตัวเลยก็ได้ เพราะเรื่องหาทางลงให้นางเอกที่ได้ลงตัวสมเหตุผลดีแล้ว จึงเป็นฉากจบที่สมบูรณ์ในตัว ไม่มีค้างคาใจอะไร แต่ถ้าจะเล่าต่อก็ยังมีทางไปได้อีกเช่นกันครับ (ส่วนตัวคิดว่าทีมงานทำต่อแน่ๆ เพราะฟีดแบ็คผลตอบรับน่าจะดีมาก) ใครที่มองหาซีรีส์นอกกระแสแต่ดีงาม ไม่ควรพลาดเรื่องนี้ด้วยประการทั้งปวงครับ

อ่านรีวิวหนังซีรีส์ Netflix ในเว็บไซต์เพิ่มเติมคลิกที่นี่