playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว Army of the Dead (Netflix) งานซอมบี้สไตล์ Zack ที่ไม่ได้แปลกใหม่อย่างที่คิด (ไม่มีสปอยล์)

สรุป

งานซอมบี้สไตล์ Zack Snyder ที่ดูเพลินๆ ฉากแอ็กชั่น โปรดักชั่นงานสร้างดูดี แต่ตัวเรื่องเดินตามสูตรหนังซอมบี้เป๊ะ แม้จะพยายามครีเอทซอมบี้แบบใหม่ขึ้นมา แต่ก็ไม่ได้มีคำอธิบายเหตุผลให้เข้าใจที่มาที่ไปได้หลายอย่าง รวมถึงเขียนบทให้ลูกสาวพระเอกเป็นตัวละคร “ต้องโง่” ประกอบเรื่องเพื่อให้บทเดินต่อได้ ก็เป็นอะไรที่ขัดใจมาก เมื่อเทียบกับการแสดงของ เดฟ บอติสตา ที่บทเปิดโอกาสให้มีดราม่าเจือปนอยู่ในเรื่อง และเขาก็ทำได้ดี แต่บทลูกสาวกลายเป็นตัวฉุดให้ส่วนนี้ดูด้อยลง และทำให้คนดูคงไม่อินกับฉากจบที่บิ้วมาตลอดเรื่องมาก (จบทิ้งไว้มีภาคต่อไปตามสูตร)

Overall
7/10
7/10
Sending
User Review
4 (2 votes)

Pros

  • ซอมบี้แนวใหม่มีอารมณ์มีชนชั้นเหมือนมนุษย์
  • เดฟ บอติสตา ที่ไม่ได้มาแค่ฉากบู๊
  • งานโปรดักชั่นอยู่ในระดับดีทั้งฉากลาสเวกัสและซอมบี้
  • ช่วงเปิดเรื่องสไตล์แซ็คเต็มๆ
  • ฉากสโลว์สวยๆ มีไม่มาก พอเหมาะพอดี ดีกว่างานเก่าๆ ที่แซ็คใส่มาจนล้น

 

Cons

  • บทลูกสาวพระเอกเป็นตัวละครที่พยายามทำอะไรโง่ๆ ตลอดเรื่อง
  • ตัวละครทีมเก่าของพระเอกไม่ค่อยได้มีฉากโชว์อะไรมากเท่ากับคนใหม่
  • ตัวเรื่องไม่อธิบายพฤติกรรมกับที่มาของซอมบี้แบบใหม่หลายอย่าง
  • ยังคงเดินตามสูตรหนังซอมบี้ตั้งแต่ต้นจนจบ
  • ฉากหลังดูเบลอตลอดเวลาจนดูน่ารำคาญมากกว่าสวย (เป็นการลดต้นทุนอีกทางด้วย)
  • ฉากแอ็กชั่นต่อสู้กับซอมบี้แบบใหม่มีแค่ช่วงหลังไม่มาก
  • ฉากบอสใหญ่แพ้แบบง่ายๆ ผิดกับที่เก่งเว่อร์มาทั้งเรื่อง

ADBRO

Army of the Dead แผนปล้นซอมบี้เดือด หนังซอมบี้ Original Netflix จากผู้กำกับ Zack Snyder เล่าเรื่องราวของกลุ่มทหารรับจ้างที่บุกเข้าลาสเวกัสที่เต็มไปด้วยซอมบี้ เพื่อชิงเงิน 200 ล้านเหรียญจากในเซฟ

 Army of the Dead (2021) on IMDb

ตัวอย่าง Army of the Dead แผนปล้นซอมบี้เดือด

 

เนื้อเรื่อง

เรื่องราวที่เกิดขึ้นหลังเกิดโรคระบาดที่เปลี่ยนคนเป็นซอมบี้จนทำให้ลาสเวกัสพังพินาศและถูกตัดขาดจากส่วนอื่นๆ ของโลก สก็อตต์ วอร์ด (เดฟ บอติสตา) อดีตวีรบุรุษสงครามซอมบี้ซึ่งเป็นชาวเวกัสที่ต้องซัดเซพเนจรไปตั้งรกรากใหม่โดยทำงานย่างเบอร์เกอร์อยู่แถบชานเมือง ได้รับสุดยอดข้อเสนอจากหัวหน้าบ่อนคาสิโนที่ชื่อบลาย ทานากะ (ฮิโรยูกิ ซานาดะ) ให้บุกเข้าไปในเขตกักกันซอมบี้เพื่อฉกเงินจำนวน 200 ล้านเหรียญจากห้องนิรภัยใต้ย่านสตริป ก่อนที่รัฐบาลจะระเบิดถล่มเมืองในอีก 32 ชั่วโมงข้างหน้า เมื่อไม่มีอะไรจะเสีย สก็อตต์ตกลงรับข้อเสนอและรวบรวมสมัครพรรคพวกผู้เชี่ยวชาญเพื่อออกปล้นด้วยกัน ขณะที่ความกดดันถาโถมเข้ามาทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นเวลาที่เหลือน้อยลงทุกที ห้องนิรภัยที่ได้ชื่อว่ามีระบบป้องกันแน่นหนา และฝูงอัลฟ่าซอมบี้ที่ทั้งเร็วและฉลาดกว่าเดิม สิ่งเดียวที่ทุกคนรู้ดีก็คือในการปล้นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมานี้ ผู้รอดชีวิตจะได้เงินทั้งหมดไป

 

รีวิว Army of the Dead แผนปล้นซอมบี้เดือด

หนังซอมบี้ทุนสร้าง 70 ล้านเหรียญของ Netflix ที่โปรเจ็กต์เกิดจากผู้กำกับ Zack Snyder และเขาก็เป็นคนคุมงานเองทุกส่วน  ต่างจากปัญหาตอนที่ทำอยู่วอร์เนอร์กับจัสติกลีคจนมีปัญหาหลายอย่างถึงได้ทำเวอร์ชั่น ZACK SNYDER’S JUSTICE LEAGUE ของตัวเองขึ้นมา ซึ่งผลงานเรื่องนี้ก็เป็นการย้อนกลับไปทำหนังซอมบี้อีกครั้งหลังจากที่เคยทำ Dawn of the Dead (2004) ที่คอหนังซอมบี้คงรู้จักกันดีว่าเป็นหนังซอมบี้ขึ้นหิ้งเรื่องหนึ่ง

ซึ่งการได้กลับมาทำแนวนี้อีกครั้ง และไม่ได้อยู่ภายใต้ปัญหาแรงกดดันจากผู้บริหารของค่าย ยอดตั๋วหนัง นี่จึงถือว่าเป็นงานพิสูจน์ฝีมือที่แท้จริงของ Zack Snyder เลย จากที่ผ่านมาเขาอาจจะทำหนังดีมาหลายเรื่อง แต่รายรับก็ไม่เข้าเป้าเท่าไหร่ แถมดูลุ่มๆ ดอนๆ กับงาน ผู้ชมจำนวนไม่น้อยที่ไม่ชอบสไตล์งานของเขาก็ด้วย จากแนวดาร์คๆ สุดขั้วอย่าง Watchmen หรือการที่แซ็คเองก็ชอบใช้ภาพสโลวพร่ำเพรื่อยืดยาวจนกลายเป็นลายเซ็นต์ของเขาอย่างหนึ่งในทุกเรื่อง ที่มีทั้งคนชอบและไม่ชอบ พอมาในเรื่องนี้ลายเซ็นต์อะไรหลายๆ อย่างของเขายังอยู่ครบถ้วน และก็เหมือนแซ็คเองก็ปรับปรุงหลายๆ อย่างในงานของเขาใหม่ ให้มีทิศทางที่ดูตอบรับเข้ากับผู้ชมวงกว้างได้มากกว่าที่ผ่านมาแบบเห็นได้ชัด

ธีมซอมบี้ในเรื่องนี้ไม่ได้เป็นแนวสยองขวัญตามปกติ แต่เป็นกึ่งตลกร้าย ซึ่งการเลือกสถานที่อย่างลาสเวกัสให้เป็นแหล่งดงซอมบี้ที่พวกตัวเอกต้องบุกเข้าไปก็เป็นอะไรที่เหมาะเจาะมากๆ กับการใส่มุกแนวตลกร้ายลงไปแบบไม่ต้องดัดแปลงอะไรมาก ซึ่งเปิดเรื่องมาเราก็จะได้เห็นฉากกำเนิดลาสเวกัสซอมบี้ ที่อลม่านชวนฮาแบบเลือดสาด เมื่อผู้คนกำลังแจ็คพ็อตกับคาสิโนแต่โดนซอมบี้บุก ฉากเปิดนี้ถือว่าเป็นไฮไลท์สำคัญของเรื่องที่บอกเล่าผู้ชมทันทีว่า นี่เป็นธีมซอมบี้ติดตลกมากกว่าสยองขวัญตรงๆ ซึ่งหนังก็ใช้ช่วงนี้เล่าที่มาแบบรวบรัดของทีมพระเอกที่มีอยู่ก่อนแล้ว และหนีออกมาได้บางส่วน แต่ชีวิตหลังจากนั้นกลับตกต่ำ และยังลืมฝันร้ายที่เกิดขึ้นในนั้นไม่ลง ซึ่งส่วนนี้ต้องบอกเลยว่าเป็นฉากเปิดเรื่องสวยๆ สไตล์แซ็คที่มีครบทุกอย่าง ทั้งฉากเลือดสาด สโลวสวยๆ อาร์ทๆ ประกอบเพลงแบบที่แซ็คชอบทำ และเป็นช่วงที่ครีเอทออกมาดีที่สุดในหนังก็ว่าได้

เหตุที่ต้องบอกว่าฉากช่วงแรกคือฉากที่ครีเอทสุดก็เพราะหลังจากนั้นเรื่องไม่ได้กลับมาสไตล์นั้นแล้ว แม้ยังจะมีติดตลกอยู่บ้าง หนังเลือกเล่าอย่างไวว่าพระเอกรวมทีมกลับมาพร้อมสมาชิกใหม่ แต่การกลับมาครั้งนี้ซอมบี้ในลาสเวกัสเปลี่ยนไปอย่างมาก ซึ่งนี่คือส่วนที่แซ็คเองอยากขายไอเดียใหม่ๆ ให้กับซอมบี้ และก็รีบเปิดเนื้อหาส่วนนี้ตั้งแต่ก้าวแรกที่ทีมพระเอกย่างเข้าลาสเวกัส เมื่อซอมบี้ในลาสเวกัสมีระบบชนชั้น มีตัวราชา ราชินี มีรูปแบบการสร้างพวกพ้องแบบพิเศษให้กลายเป็นซอมบี้ที่มีความสามารถใหม่ๆ หลายอย่าง เช่น การหลบหลีกการโจมตีได้อย่างคล่องแคล่วว่องไว การมีสติรับคำสั่งจากตัวราชาได้ มีพิธีสังเวยเหยื่อ มีเสือซอมบี้ที่เป็นสัตว์เลี้ยงของตัวราชา ซอมบี้ขี่ม้าได้ ใส่หมวกเหล็กกันกระสุนได้ มีตึกที่เป็นเหมือนพระราชวังของราชา และบางอย่างก็เป็นความลับเบาๆ ของเรื่องนี้ที่ใส่มาค้างไว้ยังไม่มีต่อ แต่ก็ถือว่าเป็นไอเดียที่บรรเจิด และอยากเห็นว่าภาคต่อไปแซ็คจะหยิบมาใช้หรือไม่ หรือมีแค่นี้แล้วจบเลย

สปอยล์ความสามารถลับของซอมบี้แบบใหม่

ซอมบี้ตั้งท้องมีลูกได้

แต่แซ็คเองก็ไม่ได้โฟกัสไปที่ซอมบี้แบบใหม่ล้วนๆ ในเรื่องก็ยังคงต้องเจอกับซอมบี้รูปแบบเก่า พวกที่ไม่ได้อยู่ในระบบชนชั้น เป็นซอมบี้ที่จำศีลในลาสเวกัส จนเมื่อทีมพระเอกไปปลุกมันขึ้นมาก็กลายเป็นฉากแอ็กชั่นระห่ำกลางเรื่อง แต่บทไม่ได้ตกอยู่กับ เดฟ บอติสตา เพียงคนเดียว ตัวเรื่องกระจายให้สมาชิกในทีมมีฉากต่อสู้ที่ดูมีเนื้อมีหนังเต็มๆ อย่างคู่หูสายโซเชียลที่มาเพื่อปั้มยอดวิว ที่เป็นสีสันของเรื่อง แต่ก็ได้ฉากบู้ระห่ำเต็มๆ ยาวอยู่เหมือนกัน แต่ด้วยความที่ตัวละครมีเยอะ บางอย่างที่คนดูคาดว่าจะเห็นอย่างทหารผิวดำคู่หูพระเอกที่ใช้เลื่อยยนต์เป็นอาวุธสังหารในตอนแรก มาตอนนี้กลับไม่ได้เห็นอะไรอย่างนั้น ทั้งๆ ที่มีฉากที่ไปขุดเลื่อยกลับมา แต่กลับใช้แต่ปืน ซึ่งตัวละครในทีมพระเอกเก่ากลับไม่ค่อยได้บทบาทอะไรมากอย่างที่คิด ตัวสำคัญกลับเป็นคนใหม่ที่พึ่งเข้ามาแทบทั้งนั้น อย่างนักเจาะตู้เซฟ ซึ่งดูเหมือนอ่อนแอ แต่ก็กลายเป็นตัวละครที่มีสีสันมากคนหนึ่ง คนนำทางที่กลายมาเป็นตัวละครสำคัญกุมความลับของเรื่องไว้ แต่ก็ไม่ได้ถึงกับเซอร์ไพรส์มาก เพราะหนังแนวซอมบี้เคยมีไอเดียแนวๆ นี้ให้เห็นมาตลอดอยู่แล้ว

สปอยล์ความลับของเรื่อง

คนจ้างทีมพระเอกไม่ได้ต้องการเงิน แต่ต้องการหัวของซอมบี้รุ่นใหม่เอาเซลล์กลับมา เพื่อหวังสร้างกองทัพซอมบี้ที่ควบคุมได้

นอกจากซอมบี้แล้ว ตัวเรื่องเจือปนดราม่าพ่อลูกที่มีปมมาจากแม่ที่เป็นซอมบี้ถูกพ่อจำใจฆ่ามาตลอดทาง ซึ่งทำให้บท Scott Ward ที่ เดฟ บอติสตา เล่นได้มีโอกาสแสดงฝีมือการแสดงนอกจากฉากแอ็กชั่นขายหุ่นหมียักษ์ของเขา และก็ไม่ได้ทำให้ผิดหวังเลยเมื่อเดฟสามารถเล่นบทพ่อที่มีความฝันเล็กๆ อยากเปิดร้านอาหารมีความสุขกับลูก และพยายามคิดอยู่ตลอดเวลาว่าจะทำให้สำเร็จได้ยังไง ซึ่งก็เป็นเหตุผลที่ทำให้เขากลับมารับงานนี้อีกครั้ง เดฟเล่นได้ไม่มาก ไม่น้อย ออกมากำลังดีพอทำให้อินเล็กๆ แต่ต้องบอกว่าตัวลูกสาวเองกลับเป็นส่วนที่ทำให้เรื่องดูน่ารำคาญจากความไม่สมเหตุผล เป็นตัวละครแนว “ต้องโง่” ที่หนังประเภทนี้ชอบใส่มาเป็นสูตรสำเร็จ ถ้าฉลาดเดี๋ยวไม่มีเรื่องให้ไปต่อได้ทำนองนั้น ซึ่งการที่ตัวลูกสาวต้องรับบทนี้ เลยทำให้ดราม่าที่เดฟพยายามส่งตลอดเรื่องดูไม่สุด จนถึงฉากสุดท้ายที่เราต้องอินกับดราม่าจุดจบนี้ กลับกลายเป็นความรู้สึกเสียดายตัวละครมากกว่าจะอินไปกับดราม่าที่เกิดขึ้น

แม้เรื่องจะดูสนุกเพลินๆ ดีตลอดเรื่อง แต่ก็ต้องบอกว่ามีหลายจุดที่เรื่องออกแนวพล็อตโฮล ขาดเหตุผลอธิบาย หรือใส่มาเพื่ออะไรอยู่หลายครั้ง โดยเฉพาะซอมบี้แบบใหม่ตัวราชาที่พูดก็ไม่ได้ แต่พยายามแสดงออกทางอารมณ์แบบมนุษย์ ซึ่งแม้เราจะเข้าใจสิ่งที่แซ็คพยายามครีเอทซอมบี้แบบใหม่เข้ามา แต่บางอย่างก็ดูใส่มาแบบล้นๆ อย่างความลับของตัวราชินี หรือการเก็บคนไว้ไม่กัด ก็ไม่มีเหตุอธิบายออกมาชัดเจน เรียกว่าอะไรหลายๆ อย่างที่นิวซอมบี้แสดงให้ดูแทบไม่มีคำอธิบายในเรื่องได้ชัดเจนเลย หรือแม้แต่ที่มาของเจ้าตัวนี้ก็ไม่มีอธิบาย มีแต่ฉากเปิดตัวที่มากับรถทหารในตอนแรกเท่านั้น ซึ่งโอเคหลายเรื่องในยุคนี้ก็มักจะข้ามเหตุผลที่มาของซอมบี้กันไปแล้ว แต่ว่าการที่ซอมบี้นี้เป็นรูปแบบใหม่ มันควรจะมีอะไรที่พอให้เข้าใจที่มาได้มากกว่านี้ เพื่อให้คนดูเก็ทกับสิ่งใหม่ได้มากขึ้น อย่างพฤติกรรมเหมือนมนุษย์ของเจ้าตัวนี้มาจากไหน ทำไมขี่ม้าแทนการวิ่งแบบเดิมๆ ซึ่งแอบดูตลกเรื่องซอมบี้ขี่ม้าอยู่เหมือนกัน ถ้าทำได้ขนาดนี้ไม่ขับรถไปเลยให้จบเรื่อง

ตัวเรื่องจบแบบตามสูตรเดิมๆ มาก ซึ่งแทบเป็นสูตรสำเร็จแนวซอมบี้เลยก็ว่าได้ แถมบอสใหญ่ก็ตายแบบง่ายๆ ไม่ได้มีลุ้นหรือวิธีการพิเศษอะไรเลย แต่ตัวเรื่องทิ้งปมไว้ว่ามีต่อ เป็นสถานที่ใหม่ แต่ก็ไม่รู้ว่าที่ภาคนี้ปูมาทั้งหมดเรื่องซอมบี้แบบใหม่จะไปต่อที่นั่นหรือเปล่า ถ้าไปต่อก็ต้องพยายามหาทางอธิบายกันเยอะเหมือนกันว่าจะยังไง เพราะจุดกำเนิดของเจ้าตัวราชาซอมบี้ก็ไม่ได้มีอธิบายไว้ ถ้ายังจะซ้ำแบบเดิมก็ต้องวนกลับมาตอบพวกนี้ให้เคลียร์หมดนั่นแหละครับ ซึ่งแซ็คเองอาจจะตั้งใจกั๊กไว้เพื่อใช้ทำต่อในภาคต่อไปก็เป็นได้ครับ

หนังจบแล้วยังมีเบื้องหลังเต็มๆ ให้ดูกันต่อเกือบครึ่งชั่วโมง ติดตามได้ที่นี่ คลิกเพื่อดูเบื้องหลังงานสร้าง Army of The Dead

ปล.ที่จริงซอมบี้แนวใหม่ที่มีชนชั้น มีสายบังคับบัญชามีมาก่อนแล้วในซีรีส์ Betaal ของเน็ตฟลิกซ์อินเดีย ซึ่งถ้าใครสนใจอ่านรีวิวได้ที่นี่ครับ

รีวิว Black Doves พิราบเงา (Netflix) ซีรีส์สายลับที่ตัวละครมีเสน่ห์ซับซ้อนคมคายสุดๆ