รีวิว Master of the Universe Revelation ฮีแมนภาคใหม่ ชูเฟมินิสต์ ทีล่าและผองเพื่อน

Master of the Universe Revelation Netflix รีวิว ฮีแมน เจ้าจักรวาล ศึกชี้ชะตา ภาคใหม่ล่าสุดของฮีแมน ดัดแปลงจาก Comic ในชื่อตอนเดียวกัน บอกเล่าถึงเรื่องราวการต่อสู้ของฮีแมนกับสเกลเลทอร์ ที่ดำเนินมาถึงจุดแตกหักครั้งสำคัญ การเปิดเผยตัวตนของฮีแมน

แล้วที่สำคัญที่สุดคือ การเดินทางผจญภัยของทีล่า นางเอกของเรื่องนี้ในภาคนี้ได้รับบทเด่นเป็นตัวเอกในการเดินเรื่องที่จะต้องหาทางกอบกู้อีเธอร์เนียให้พ้นจากหายนะที่จะเกิดขึ้น ถือว่าเป็นการขยายเรื่องราวและหาทางเดินไปข้างหน้าของจักรวาลฮีแมนที่น่าสนใจและอาจจะเป็นการปิดตำนานของฮีแมนหลังจากนี้ด้วยเหมือนกัน

Netflix ฉายแล้วพาร์ทแรก มี 5 ตอน และมีพากย์ไทย

ตัวอย่าง Master of the Universe Revelation Trailer

ฮีแมน เจ้าจักรวาล ศึกชี้ชะตา เรื่องย่อ

อีเทอร์เนีย ดินแดนแห่งเวทมนต์และเป็นรากฐานของดินแดนอื่นๆในจักรวาล ที่มี เจ้าชายอดัม ที่สามารถแปลงร่างเป็น ฮีแมน นักรบผู้ได้รับพลังจากปราสาทเกรย์สกัล และการสนับสนุนจากแม่มดซอเซอเรส เพื่อต่อสู้กับเหล่าวายร้ายทีนำโดย สเกลเลทอร์ ปีศาจโครงกระดูกที่มีพลังเวทย์และสมุนร้ายกาจมากมาย ฮีแมนต่อสู้เรื่อยมายาวนานพร้อมกับเหล่าสหาย แล้วก็ได้ชัยชนะมาตลอด

แต่แล้วดินแดนอีเทอร์เนียก็กำลังพบกับหายนะครั้งใหม่ เมื่อแผนการร้ายครั้งล่าสุดของสเกลเลทอร์ทำให้ฮีแมนเพลี่ยงพล้ำ ในขณะที่ ทีล่า สหายและเพื่อนสาวคนสนิทของอดัมได้ล่วงรู้ตัวจริงของเขา และรับไม่ได้ที่เธอถูกปิดบังมาตลอด จึงเดินทางจากไปหลายปี กระทั่งทีล่าได้มีโอกาสพบกับซอเซอเรสอีกครั้ง แล้วพบว่าการต่อสู้ครั้งสุดท้ายของฮีแมนในอดีตได้ส่งผลต่อหายนะที่กำลังเกิดขึ้น เธอจึงต้องรับภารกิจปกป้องอีเทอร์เนียและจักรวาล รวมถึงการออกตามหาเหล่าเพื่อนเก่า รวมถึงเจ้าชายอดัม และการตามหาดาบวิเศษที่จะช่วยกอบกู้หายนะครั้งนี้

Master of the Universe Revelation พาร์ทแรก รีวิว

ต้องบอกก่อนว่า อนิเมชั่นซีรีส์เรื่องนี้สร้างขึ้นมาเพื่อแฟนๆของแฟรนไชส์ “ฮีแมน” โดยเฉพาะเลย ดังนั้นสำหรับคนที่ไม่เคยดูมาก่อนหรือไม่ได้รู้จักเรื่องราวของฮีแมนมาบ้าง อาจจะดูไม่รู้เรื่องเท่าไรนัก แต่ตัวอนิเมชั่นก็มีความพยายามอย่างยิ่งที่จะสร้างฐานแฟนและคนดูรุ่นใหม่ ซึ่งจะเห็นได้จากการที่เรื่องเลือกที่จะ “รื้อ” เซตติ้งตัวละครและแนวทางการเดินเรื่องแบบเดิมๆของฮีแมนในอดีตไปหมด แล้วทำการรีเซ็ตเรื่องราวขึ้นมาใหม่

ดังนั้นพล็อตเก่าที่เคยเป็นมุกหากินของเรื่องนี้จึงถูกโยนทิ้งไปเกือบทั้งหมดหลังจากตอนแรกจบลง ไม่ว่าจะเป็น การปกปิดตัวจริงของเจ้าชายอดัม พระเอกของเรื่อง ซึ่งจะแปลงร่างเป็นยอดมนุษย์ฮีแมน หรือการต่อสู้กับเหล่าวายร้ายประจำตอนที่มีสเกลเลทอร์ จอมเวทย์โครงกระดูกที่จะวางแผนการต่างๆและส่งลูกน้องของตนเองมาบุกโจมตี แนวทางการเดินเรื่องลักษณะนี้ถูกใช้ซ้ำไปมาในซีรีส์ฮีแมนที่เคยฉายในอดีตเมื่อยุค 80s ซึ่งการสร้างรอบนี้ก็เลือกที่จะโยนทุกอย่างทิ้งไปหมด ตรงนี้ถามว่าดีหรือไม่นั้น ส่วนตัวผู้รีวิวรู้สึกว่าเป็นการตัดสินใจที่กล้าและอาจจะทำถูกต้องก็ได้ หากต้องการที่จะให้แฟรนไชส์ฮีแมนสามารถอยู่รอดต่อไปในยุคนี้ ก็ต้องกล้าที่จะทิ้งของเดิมไปแล้วเลือกสร้างแนวทางเรื่องขึ้นใหม่ รวมถึงการเซตติ้งทีมฝ่ายตัวเอกขึ้นมาใหม่ด้วย

อีกจุดหนึ่งที่ดูเหมือนว่าทีมสร้างเรื่องนี้จงใจพอสมควรก็คือการเชิดชูพลังเฟมินิสต์ พลังหญิง เพราะกลุ่มตัวหลักที่จะเป็นตัวเดินเรื่องในฮีแมนภาคนี้ จะนำโดย ทีล่า เพื่อนสาวของอดัม ซึ่งในภาคหลักดั้งเดิมเธอก็มีบทเป็นนักรบสาวแกร่งอยู่แล้ว แต่เวอร์ชั่นนี้ได้ยกระดับบทของเธอขึ้นมาเป็นตัวเอกและตัวเดินเรื่องหลัก คือถ้าจะเรียกเรื่องนี้ว่า การผจญภัยของทีล่าและกลุ่มเพื่อนใหม่ ก็คงไม่เกินเลยไป เรียกว่าเป็นข้อด้อยอีกอย่างของเรื่องเลย เพราะถ้าเป็นคนดูที่คาดหวังจะได้ดูฮีแมนต่อสู้ คงต้องผิดหวัง

แต่สำหรับคนที่ไม่เคยรู้จักฮีแมนมาก่อน ก็ไม่ต้องกังวล เพราะเรื่องจะมีการแทรกแฟลชแบ็กให้เราเห็นตัวตนคาแรคเตอร์ของฮีแมน การต่อสู้ต่างๆ แต่สิ่งที่ทำได้ดีสำหรับเวอร์ชั่นนี้ก็คือ นี่น่าจะเป็นครั้งแรกของแฟรนไชส์นี้ที่เริ่มสำรวจตัวละครเจ้าชายอดัม ไม่ใช่ในฐานะฮีแมนผู้ทรงพลัง แต่เป็นเจ้าชายอดัมผู้อ่อนโยน ใจดี มีรูปร่างเล็ก ไม่เหมือนกับฮีแมนที่มีกล้ามเนื้อบึกบึนใหญ่โต แต่ตัวอดัมก็เป็นคนที่เฉลียวฉลาด มีไหวพริบ คิดถึงส่วนรวมและคนอื่นก่อนเสมอ รวมถึงการสำรวจไปยังตัวละครทีล่า ซึ่งในภาคดั้งเดิม ตัวละครนี้ไม่เคยถูกขยายบทในเชิงลึกมากนัก แต่ภาคนี้จะลงลึกไปถึงความคิดอ่านในใจของเธอในฐานะของคนใกล้ชิดอดัมที่ถูกปกปิดความจริงเรื่องตัวตนของฮีแมนมาตลอดในซีรีส์เก่า

สำหรับงานโปรดักชั่น CG กราฟฟิก ค่อนข้างอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานของยุคนี้สำหรับการ์ตูนเด็กจากอเมริกา แม้ว่าลายเส้นและงานภาพจะแข็งไปบ้าง แต่ก็อาจเพราะต้องการเก็บเอกลักษณ์ของซีรีส์นี้เอาไว้ ถือว่าทำได้ดีในระดับหนึ่ง ส่วนฉากต่อสู้ก็อยู่ในระดับกลางๆ แต่ยังไม่ได้จัดเต็มอะไรมาก เพราะพาร์ทแรกนี้เหมือนแค่ต้องการเกริ่นนำเรื่องเท่านั้น

ซึ่งในพาร์ทแรก มีทั้งหมด 5 ตอน ซึ่งก็เป็นการจบแบบปูเรื่องไปพาร์ทสองอย่างเต็มตัว ดังนั้นรอพาร์ทสองต่อไปครับ

ติดตามบทความทั้งหมดของผู้เขียนคลิกที่นี่

Reference Website

https://www.imdb.com/title/tt10826054/