รีวิว Inspector Koo (Netflix) นักสืบประกันภัย VS. ฆาตกรสาวนักศึกษา (อัพเดทจบ 12 ตอน)
Inspector Koo
สรุป
ซีรีส์แนวสืบสวนชิงไหวพริบระหว่างสาวนักสืบอัจฉริยะกับฆาตกรต่อเนื่องสาวในคราบนักศึกษาวิทยาลัยผู้สดใส ตัวเรื่องมีความเข้มข้นสนุกต่อเนื่อง แต่ก็มีความโอเว่อร์เกินจริงอยู่มากไปเหมือนกัน โดยเฉพาะช่วงหลังที่เว่อร์แบบไม่สมเหตุผลบ่อยมาก จนทำให้เรื่องช่วงหลังบทอ่อนมากเมื่อเทียบกับช่วงแรกที่เปิดมาดี
Overall
7/10User Review
( votes)Pros
- สืบสวนชิงไหวพริบเข้มข้นตลอดเวลา
- ตัวละครคาแรกเตอร์ติดตลกทุกตัว
- เนื้อเรื่องซับซ้อนทั้งอดีตกับปัจจุบัน
- เน้นฉากแผนการของฆาตกรละเอียดยิบ
Cons
- ฉากฆาตกรรมมีความโอเวอร์จนไม่สมเหตุผลแทรกอยู่มาก
- ตอนจบไม่เคลียร์เรื่องปมในอดีตของสามีนางเอกที่ตายไป
- ช่วงหลังพยายามเล่นคดีใหญ่โตเกินเรื่องราวในตอนแรกมากจนดูไม่เข้ากับแนวเรื่องเริ่มต้น
Inspector Koo ซีรีส์เกาหลีแนวสืบสวนของ Netflix เรื่องราวของนักสืบอัจฉริยะ อดีตตำรวจผู้สันโดษกลับมาอีกครั้งในฐานะนักสืบประกันภัย ไล่ล่าฆาตกรต่อเนื่องที่ซ่อนตัวอยู่ในที่แจ้งในคราบนักศึกษาวิทยาลัยผู้สดใส
ตัวอย่าง Inspector Koo นักสืบอัจฉริยะ
ซีรีส์เกาหลีแนวสืบสวนคดีฆาตกรรมต่อเนื่องที่ไม่ธรรมดา เป็นเรื่องราวของ คูคยองอี หรือนักสืบคู สาวนักสืบประกันภัยที่ต้องมาตามล่าฆาตกรต่อเนื่องอัจฉริยะที่ซ่อนตัวอย่างแยบยลในสังคม ซึ่งคูได้ตามสืบคดีลูกค้าประกันภัยที่หายตัวไป ก่อนกลายมาเป็นคดีฆาตกรรมจุดแรกเริ่มที่ทำให้เธอรู้ว่ามีฆาตกรต่อเนื่องชักใยอยู่เบื้องหลังให้ดูเหมือนการหายตัวไปนั้นเป็นการฆ่าตัวตาย เธอจึงเริ่มตามติดคดีที่ผ่านมาในอดีตเพื่อสืบหาร่องรอยในปัจจุบัน โดยอดีตของเธอเองก็บังเอิญไปเกี่ยวพันกับต้นกำเนิดของฆาตกรคนนี้ด้วย
จุดเด่นของเรื่องนี้ที่ต่างจากแนวสืบสวนเรื่องอื่นคือ เป็นการเผชิญหน้าของตัวเอกกับตัวร้ายที่เปิดเผยไว้เลยแต่แรกว่าเป็นใคร ซึ่งเป็นตัวละครหญิงสาวน่ารักชื่อ “ซงอีคยอง” หรือ K นามสมมุติที่นักสืบคูตั้งไว้เรียกชื่อฆาตกรลึกลับ ซึ่งเธอปรากฎตัวออกมาตั้งแต่ตอนแรก ตัวเรื่องจะนำเสนอคดีฆาตกรรมในอดีตจุดเริ่มของการพบกันของ คู กับ K ที่สมัยนั้นยังเรียนมัธยมปลายอยู่และวางแผนฆาตกรรมภารโรง โดยมีคูเข้ามาสืบคดี และสามีของคูเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาชมรมการละครที่ K เข้าร่วมอยู่ ซึ่งคดีในอดีตแม้ตัวเรื่องจะเปิดเผยว่า K เป็นฆาตกร แต่ก็มีความซับซ้อนต่อเนื่องเกี่ยวพันมาถึงปัจจุบัน ซึ่งจุดเชื่อมโยงคือการตายของสามีของคูที่ทำให้เธอลาออกจากราชการและกลายมาเป็นคนที่มีอาการทางจิตหลอน หมกหมุ่นติดเกม แต่ก็ยังคงมีความสามารถสืบคดีแบบอัจฉริยะติดตัวอยู่ และทีมงานประกันภัยจ้างเธอไว้สืบคดีเคลมประกัน จนทำให้เธอกับ K กลับมาพบกันอีกครั้ง แม้เธอจะรู้สึกเอะใจกับการปรากฎตัวของนักเรียนสาวในอดีต แต่ก็ยังไม่มีหลักฐานเอาผิด “ซงอีคยอง” ในฐานะฆาตกรต่อเนื่องได้ ทำให้ตัวเรื่องเป็นลักษณะการสืบคดีในปัจจุบันที่ K ก่อไว้ต่อเนื่องมาเรื่อยๆ สลับการเล่าความเชื่อมโยงในอดีตที่ทั้งสองคนเกี่ยวพันกันโดยบังเอิญกันจนถึงปัจจุบัน
อีกจุดที่ตัวเรื่องทำได้น่าติดตามคือวิธีการฆาตกรรมของ K ที่วางแผนฆาตกรรมอำพรางแบบเปอร์เฟ็กต์ให้เหมือนเหยื่อตายโดยอุบัติเหตุ ฆ่าตัวตาย ไม่ได้ถูกฆาตกรรม ทำให้ K ไม่เคยถูกตามรอยได้ ซึ่งตัวเรื่องลงรายละเอียดแผนฆาตกรรมของ K ไว้แบบละเอียดยิบ ให้คนดูได้ติดตามแบบตั้งคำถามว่าเหยื่อแต่ละคนจะตายได้ยังไง ซึ่ง K ก็ไม่ได้ทำคนเดียวแต่มีผู้ช่วยคู่หูผู้ชายที่คอยเป็นมือไม้ให้เธอ และยังมีทีมงานที่เป็นคนธรรมดาที่ถูก K วางแผนหลอกล่อให้มาร่วมด้วยโดยไม่รู้ตัว ซึ่งทุกตอนจะนำเสนอฉากแผนการเหล่านี้เป็นเรื่องหลัก ซึ่งทำได้น่าติดตามมาก แต่ตัวเรื่องส่วนนี้ก็มีปัญหาในตัวด้วยจากที่ K เป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ แต่แผนฆาตกรรมบางครั้งใหญ่เกินตัว มีความโอเว่อร์เหลือเชื่อมาก โดยไม่มีช่วงอธิบายว่า K ทำได้ยังไงแทรกอยู่ด้วย
ถึงตัวเรื่องจะเป็นแนวสืบสวนฆาตกรรมโดยตรง แต่เรื่องก็ไม่ได้เป็นแนวดาร์คหรือเครียด เพราะคาแรกเตอร์ตัวละครที่วางไว้ในเรื่องออกแนวติดตลกอยู่ด้วยทุกตัวละคร เริ่มจากนักสืบคู (รับบทโดย Lee Young-Ae) ที่คาแรกเตอร์เป็นคนติดเกม ทรงผมกระเซอะกระเซิง หิวหาของกินตลอดเวลา แต่เวลาสืบคดีก็เปลี่ยนโหมดมาจริงจังได้ทันที “ซานต้า” เด็กฝึกงานลูกมือของคู (รับบทโดย Baek Sung-Chul) ที่มีคาแรกเตอร์หนุ่มน้อยหน้าใสที่ไม่เคยพูดอะไรออกมาเลย แต่ใช้แอปแปลง Text ที่พิมพ์ไปให้เปล่งเสียงออกมาแทนเสียงเจ้าตัว ทำให้ตัวเรื่องตลกในตัวเองตลอดเวลา หรือ K เองก็ติดคาแรกเตอร์ทีเล่นทีจริงตลอดเวลา
รีวิวเนื้อเรื่องครึ่งหลัง (มีสปอยล์)
เนื้อเรื่องครึ่งหลังตัวเรื่องเปลี่ยนจากการไล่ตามดคีของ K กลายมาเป็นเรื่องราวของผู้มีอิทธิพลใหญ่ในคราบคุณป้า ที่มีอำนาจมหาศาล มีลูกชายที่กำลังเข้าสู่เส้นทางการเมือง ซึ่งป้าเป็นคนจ้างทีมนักสืบประกันภัยให้ตามหาตัว K แต่แรก แล้วก็มาหักมุมว่าเป็นคนร้ายตัวใหญ่สุดของเรื่องเอง ซึ่งแนวเรื่องก็เปลี่ยนไปเป็น คูกับ K ร่วมมือกันจัดการป้านี้ให้ได้ในแบบของตัวเอง เป็นการเชือดเฉือนในแนววางแผนดักกันไปดักกันมาไปจนถึงตอนสุดท้ายเลย
แต่ปัญหาของเรื่องหลักๆ ก็มาโผล่ช่วงนี้ด้วย จากการที่เรื่องพยายามเล่นใหญ่โตมากขึ้นเรื่อยๆ เรียกว่าแนวการสืบสวนคดีฆาตกรรมเปอร์เฟ็ตก์ของ K ในตอนแรกถูกทิ้งไปเลย กลายเป็น K ก็ฆ่าคนแบบมักง่ายเฉยๆ โดยอ้างว่าเหนื่อยกับการวางแผนคิดแล้ว กลายเป็นตัวร้ายแบบดาดๆ นึกจะทิ้งเอกลักษณ์ของตัวก็ทิ้งไปทันที แถมบทยังเล่นง่ายแบบ K นึกจะทำอะไรก็ทำได้ง่ายๆ ไปหมด โดยไม่มีคนคอยช่วยแบบช่วงแรก ในส่วนของคูอาจจะยังดีอยู่ว่าเรื่องค่อนข้างวางแผนซ้อนแผนจัดการ K ได้อย่างน่าทึ่งในตอนจบ แต่ก็ยังทิ้งปริศนาคดีที่สามีของเธอตายไว้อยู่ดี ทั้งๆ ทีก่อนหน้าเหมือนจะเคลียร์ปมได้ แต่แล้วก็กลายเป็นปล่อยให้คนงงว่าเกิดอะไรขึ้นในอดีต กลายเป็นเรื่องไม่เคลียร์ให้จบสมบูรณ์ทั้งๆ ที่เปิดเรื่องนี้มาเองแท้ๆ
ซีรีส์ฉายทุกวันเสาร์-อาทิตย์ หลัง 4 ทุ่มครึ่งไป มีทั้งหมด 12 ตอนจบ
อ่านรีวิวซีรีส์เกาหลี Original Netflix เรื่องอื่นคลิกที่นี่