รีวิว Reacher Amazon Prime ซีรีส์ แจ็ค รีชเชอร์ สร้างใหม่ให้ใกล้เคียงต้นฉบับของ Lee Child

Reacher Amazon Prime รีวิว ซีรีส์ แจ็ค รีชเชอร์ ที่ถูกนำมาสร้างใหม่ให้ใกล้เคียงกับนิยายต้นฉบับของ Lee Child มากที่สุด โดยในซีซันแรกจะดัดแปลงจากนิยายเล่มแรกของซีรีส์ชุดนี้คือ Killing Floor ถูกเขียนในปี ค.ศ.1997 และขายดีจนกลายเป็นจุดเริ่มต้นให้ออกนิยายเล่มอื่นตามมารวมแล้วกว่า 27 เล่ม โดยเล่มล่าสุดออกมาในปีนี้

ซีรีส์ในซีซันแรกมีทั้งหมด 8 ตอน รับชมได้เลยใน Amazon Prime ใครเป็นแฟนหนังสือหรือเป็นคนชอบแนวสืบสวนแอ็กชั่นทริลเลอร์แบบบ้าระห่ำ พระเอกเก่งเทพทั้งบุ๋นและบู๊ ไม่ควรพลาด

Reacher Amazon Prime ตัวอย่าง

Reacher เรื่องย่อ

เรื่องราวของ แจ็ค รีชเชอร์ อดีตสารวัตรทหาร ผู้เคยมีวีรกรรมโชกโชนในการไปร่วมในสนามรบและยังเคยทำคดีที่เกี่ยวกับทหารหนีทัพหรือทหารก่อคดีมาแล้วนับไม่ถ้วน หลังจากเขาเกษียณจากการทำหน้าที่ในกองทัพ เขาก็เลือกใช้วิถีชีวิตที่สุดขั้ว ออกการเดินทางเร่ร่อนไปทั่วสหรัฐอเมริกา นิยมใช้การเดินทางหลักด้วยรสบัสประจำทาง สลับกับการขอติดรถเพื่อข้ามรัฐต่างๆ สิ่งที่เขาพกติดตัวในการเดินทางมีเพียงแค่เงินสดเล็กน้อย กับเหรียญเชิดชูเกียรติยศ เสื้อผ้าที่ใส่เป็นแบบใช้แล้วทิ้งจากร้านสะดวกซื้อ เงินเลี้ยงชีพหลักมาจากเงินบำนาญที่กองทัพโอนเข้าบัญชีธนาคาร แต่นอกนั้นเขาแทบไม่มีอะไรติดตัวเลย ทั้งยังไม่มีประวัติการใช้บัตรเครดิต รวมถึงการยืนยันตัวตนอื่นๆ แล้วเนื่องจากเขามีรูปร่างสูงใหญ่ถึง 195 ซม. น้ำหนัก 130 กิโลกรัม ทั่วร่างของเขาเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อกำยำ นั่นทำให้เขามีรัศมีของการเป็นคนที่ “ไม่ควรเข้าไปหาเรื่องด้วย” แต่ในขณะเดียวกันด้วยรูปลักษณ์ภายนอกเช่นนี้ รวมถึงความเป็นคนเร่ร่อนไร้หลักแหล่ง มันเลยทำให้เขามักต้องไปตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากที่ทำให้ถูกเข้าใจผิดว่าเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ร้ายต่างๆ อยู่บ่อยครั้ง

เหมือนเช่นครั้งนี้ที่เขานั่งรถบัสมาแวะลงที่เมืองมาร์เกรฟ เพื่อตามรอยนักร้องเพลงบลูที่เขาชื่นชอบว่าเสียชีวิตลงที่นี่ แต่ทันทีที่มาถึงเขากลับพบว่าตัวเองได้กลายเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีฆาตกรรมไปซะได้ แล้วที่ร้ายยิ่งกว่านั้นก็คือ หนึ่งในเหยื่อฆาตกรรมกลับกลายเป็น โจ รีชเชอร์ พี่ชายของเขาที่ไม่ได้คุยกันมานานหลายปี ทำให้เขาตัดสินใจร่วมมือกับสารวัตรจากบอสตันที่ถูกโดยนมาประจำที่มาร์เกรฟแล้วก็ไม่ได้ไว้ใจเขาเท่าไหร่ กับตำรวจสืบสวนหญิงสุดสวยสุดแกร่งที่รักความยุติธรรม เพื่อหาทางสืบสวนว่าใครกันที่อยู่เบื้องหลังคดีฆาตกรรมครั้งนี้ แล้วเขายังมีเป้าหมายอีกอย่างคือ แก้แค้นให้กับพี่ชายด้วยการเตรียมฆ่าคนที่เกี่ยวข้องกับการฆาตกรรมครั้งนี้ด้วย

Reacher รีวิว

สำหรับเรื่อง แจ็ค รีชเชอร์ เป็นผลงานหนังสือชุดแนวสืบสวนแอ็กชั่นทริลเลอร์ชื่อดังของ Lee Child ซึ่งในปัจจุบันผลงานชุดนี้ของเขาเป็นหนึ่งในแนวสืบสวนแอ็กชั่นชื่อดังที่มียอดขายติดอันดับท็อปอยู่บ่อยครั้งในสหรัฐอเมริกาในระดับ Best Sller ของ Newyork Time โดยเรื่องชุดรีชเชอร์ มีผลงานออกมาแล้วร่วม 27 เล่ม (เล่มล่าสุดจะออกมาในปี 2022)

ส่วนซีรีส์ในซีซันแรกเลือกดัดแปลงจากนิยายเล่มแรกของชุดรีชเชอร์ ในชื่อตอน Killing Floor ที่ตีพิมพ์ออกมาในปี 1997 แล้วก็กลายเป็นนิยายขายดีอย่างรวดเร็ว ในประเทศไทยมีลิขสิทธ์ฉบับแปลโดยอมรินทร์ ใช้ชื่อว่า ลานละเลงเลือด

ที่จริงก่อนหน้านี้เรื่องของรีชเชอร์มีการนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์มาแล้ว นำแสดงโดย ทอม ครูส โดยสร้างออกมาทั้งหมด 2 ภาค ดัดแปลงจากหนังสือ 2 เล่มคือ One Shot และ Never Go Back โดยหนังภาคแรกเป็นหนังแอ็กชั่นสืบสวนทุนต่ำที่จัดว่าได้รับคำวิจารณ์ค่อนข้างดีและกลายเป็นหนังทำเงินได้ แม้ว่าตัว ทอม ครูส จะโดนวิจารณ์ว่าตัวเตี้ยเกินไปสำหรับบทรีชเชอร์ที่หนังสือบรรยายว่าเป็นคนรูปร่างใหญ่ ส่วนหนังภาคสองแม้ว่าจะได้ทุนสร้างมากขึ้นแต่กลับล้มเหลวในแง่รายได้และวิจารณ์ ทำให้ไม่ได้สร้างภาคต่อ แต่ก็ถือว่าการได้ดาราดังอย่าง ทอม ครูส มาเล่น ก็ช่วยทำให้คนดูทั่วโลกได้รู้จักชื่อของรีชเชอร์มากขึ้น เพราะต้องยอมรับว่าหากเป็นนอกสหรัฐแล้ว นิยายชุดรีชเชอร์ยังไม่เป็นที่รู้จักมากนักในเวลานั้น

ดังนั้นการดัดแปลงลงสตรีมเป็นซีรีส์ในครั้งนี้ของ Amazon Prime จึงมีการตีโจทย์ใหม่จากทีมผู้สร้าง ด้วยการเลือแคสติ้งนักแสดงที่มีรูปร่างสูงใหญ่กล้ามเนื้อกำยำให้ใกล้เคียงกับภาพลักษณ์ของรีชเชอร์ในต้นฉบับหนังสือมากที่สุด ซึ่งก็ได้นักแสดงรูปร่างสูงใหญ่อย่าง อลัน ริชสัน ซึ่งเคยมีผลงานมาก่อนบ้างแล้วจากซีรีส์ Titan DC ในบท ฮอว์ค ตั้งแต่แคสติ้งนักแสดงคนนี้ออกมาก็ปรากฏว่าบรรดาแฟนหนังสือดูเหมือนจะถูกใจกันมาก

หากอิงตามต้นฉบับหนังสือในซีรีส์ชุดนี้ แจ็ค รีชเชอร์ ไม่ได้มีดีแค่เป็นอดีตนายทหารรูปร่างสูงใหญ่ที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้ออย่างเดียว แต่จุดเด่นหลักที่ทำให้เขาเป็นสารวัตรทหารมากฝีมือที่สามารถแก้ไขคดีได้มากมายก็คือไหวพริบและทักษะในการวิเคราะห์เชื่อมโยงเหตุการณ์ต่างๆเข้าด้วยกัน โดยเขาสามารถใช้ศาสตร์ของการอนุมาน (เป็นศาสตร์ในการสืบสวนที่คล้ายกับ เชอร์ล็อกโฮล์ม) เพื่อวิเคราะห์ลักษณะของผู้คนที่พบเจอ ไปจนถึงสิ่งแวดล้อมต่างๆออกมาได้อย่างน่าทึ่ง เรียกว่าเป็นตัวเอกที่มีความเก่งกาจรอบด้านครบเครื่องทั้งบุ๋นและบู๊

ที่สำคัญในแง่ของการลงมือต่อสู้หรือสืบคดี เขาเป็นตัวละครเอกที่ไม่มีความลังเลเลยในการที่จะลงมือจัดการหรือถึงขั้นฆ่าศัตรูให้ตาย เพราะส่วนใหญ่ศัตรูที่รีชเชอร์ต้องเจอในเรื่อง หากไม่นับพวกนักเลงกระจอกข้างถนนหรือคนติดคุก ก็จะเป็นระดับมืออาชีพ ทหารรับจ้าง หรืออดีตทหาร ซึ่งคนเหล่านี้ก็มีฝีมือและทักษะในการต่อสู้ไม่ได้ด้อยไปกว่ารีชเชอร์เลย ดังนั้นเรื่องนี้จึงเป็นแนวสืบสวนแอ็กชั่นที่จะมีการแทรกฉากต่อสู้ในระดับละเลงเลือดอยู่ตลอด บทจะฆ่าก็คือฆ่า ไม่มีกั๊กกัน เพราะตัวรีชเชอร์ถือว่าตนเองเป็นคนเร่ร่อนที่ไม่มีอะไรจะเสียอยู่แล้ว อย่างมากเขาก็แค่ชิ่งหายไป แล้วใครก็ตามเขาลำบาก ถ้าไม่ใช่เพราะเขาอยากคลี่คลายคดีเหล่านั้นจริงๆ

แต่ถึงแม้ว่าเรื่องจะเซตติ้งให้รีชเชอร์ดูเก่งเวอร์แบบนี้ เรื่องก็ยังใส่ความเป็นสุภาพบุรุษและฮีโร่ผู้รักความยุติธรรมถึงขีดสุดตามแบบฉบับทหารอเมริกันที่สื่อของสหรัฐแทบจะทุกด้านได้สร้างภาพเอาไว้ ในเรื่องนี้ก็ยังมีการแทรกอยู่ตลอดว่า พวกที่เป็นอดีตทหารหรือนาวิกในกองทัพ แม้จะมีพวกแตกแถว นอกรอยอยู่บ้าง แต่คนดีๆ ที่ต้องการปกป้องประชาชนและทำความดีเพื่อสังคมก็ยังมีอยู่อีกเยอะ อีกจุดหนึ่งที่ทำให้เรื่องไม่ถึงกับเสียบาลานซ์ไปก็คือพวกศัตรูของรีชเชอร์เองที่ก็เป็นระดับพวกมีฝีมือ ไม่ใช่พวกเจ้าพ่อห่วยๆ หรือข้าราชการทุจริตทั่วไป แต่เป็นพวกที่มีเบื้องหลังระดับธุรกิจค้ายา ทำผิดกฎหมายข้ามชาติ ที่ยากจะแตะต้องได้ง่ายๆ ที่สำคัญคือคนพวกนี้มักมีหน้าตาอยู่ในสังคมปกติอีกต่างหาก

หากจะมีจุดด้อยก็ถือว่ามีอยู่บ้าง เพราะเรื่องนี้เสมือนเป็นการเอาพระเอกอย่างรีชเชอร์ที่เป็นทหารเก่าบ้าพลังแต่ฉลาดเป็นกรดมาไล่ตบผู้ร้ายให้เราดู แถมการลงมือของเขาแต่ละอย่างค่อนข้างจะไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรมเท่าไรนัก แต่ในเรื่องก็พยายามหาเหตุผลรองรับไว้ว่าทำไมเขาจึงรอดตัวได้ อีกจุดที่อาจจะเป็นข้อด้อยก็คือ การเฉลยตัวผู้ร้ายแท้จริงในคดี รวมถึงเหล่าผู้สมรู้ร่วมคิด ที่เอาเข้าจริงก็เดาง่ายมาก ไม่จำเป็นต้องทำให้ลึกลับซับซ้อนซ่อนเงื่อนมากแต่แรกก็ได้ ตรงนี้ถ้าใครอ่านนิยายมาจะเข้าใจ คือให้คิดซะว่าตัวละครต่างๆ ที่ออกมาในแต่ละคดี ถ้าไม่ใช่คนที่รีชเชอร์ต้องคอยช่วยเหลือหรือมีบทต้องร่วมมือกับรีชเชอร์จริงจังแต่แรก ส่วนใหญ่จะมีเอี่ยวกับตัวร้ายประจำเล่มทั้งนั้น

อีกจุดหนึ่งที่เป็นข้อด้อยไปบ้างก็คือเรื่องพยายามลากให้มีความซับซ้อนในการสืบคดีมากเกินไปนิด เข้าใจว่าต้องการทำแบบนั้นเพื่อให้เรื่องได้แอร์ไทม์ยาวที่สุด แต่ก็ถือว่าทำออกมาแล้วเรื่องไม่ค่อยยืดหรือเนือยเท่าไหร่หากเทียบกับแนวสืบสวนทริลเลอร์ส่วนใหญ่ในตลาด

ด้านโปรดักชั่นก็จัดว่าทำได้ดีเลย คุณภาพแทบจะระดับภาพยนตร์เข้าฉายในโรง ถึงแม้จะรู้สึกว่าฉากแอ็กชั่นแนวยิงกันยังไม่สุดเท่าไหร่ แต่ฉากสู้ประชิดตัวด้วยมือเปล่าและอาวุธต่างๆทำได้สะใจดีครับ นักแสดง อลัน ริชสัน เข้ากับบทบาทแจ็ค รีชเชอร์ สุดๆ เพียงแต่ถ้าเอาในแง่ความสามารถในการแสดงและออร่าสตาร์ยังสู้ ทอม ครูส ไม่ได้ แต่พอทำออกมาเป็นซีรีส์แบบนี้ที่ไม่ได้ต้องการนักแสดงระดับซุปเปอร์สตาร์ ก็ถือว่าเป็นการตอบโจทย์ที่ดีครับ น่าจะกลายเป็นเรือธงใหม่ของ Amazon Prime หลังจากนี้ได้เลย

Reacher สนุกและดีไหม

สนุกมากครับ และดีด้วย ใครชอบแนวสืบสวนปนแอ็กชั่น ไม่ควรพลาด แล้วก็เรื่องจะออกแนวเรต 18+ ตัวละครมีฉากต่อสู้ดุดเดือดเลือดสาด ฆ่าได้เป็นฆ่าตลอดเรื่อง

 

มีซีซันสองไหม

แม้จะยังไม่ได้มีการประกาศซีซันสอง แต่เชื่อว่างานออกมาดี และคำวิจารณ์ต่างๆไปในแง่บวกแบบนี้ รับรองว่ามีแน่นอน แค่เมื่อไหร่เท่านั้นเอง

ติดตามบทความทั้งหมดของผู้เขียนคลิกที่นี่

Reference

https://www.imdb.com/title/tt9288030/