รีวิว Run Rabbit Run Netflix หนังสยองขวัญที่ดูแล้วน่ารำคาญมากกว่าน่ากลัว
Run Rabbit Run
Summary
หนังสยองขวัญที่พยายามทำให้เหมือนหนังผี ด้วยการเล่นกับตัวละครเด็กในแบบที่ดูหลอนๆ แต่กลับเล่นแต่ฉากแนวเดิมๆ จนดูซ้ำซาก ดูแล้วน่ารำคาญแทนความน่ากลัว แต่ตอนจบเฉลยความลับของเรื่องถือว่ามีดีปิดท้ายได้พอสมควร ทำให้ความน่าเบื่อของทั้งเรื่องดูสมเหตุผลขึ้นมา โดยรวมก็ไม่แย่นักถ้าจะลองรับชมดูครับ
Overall
6/10User Review
( vote)Pros
- หนังสยองขวัญที่พยายามทำเหมือนหนังผี
- มีพากย์ไทย
Cons
- เล่าเรื่องไม่สนุก
- ไม่มีฉากน่ากลัวพอให้สะดุ้งตกใจได้
Run Rabbit Run หนังสยองขวัญจาก Australia ของ Netflix เรื่องราวของแม่เลี้ยงเดี่ยวที่เริ่มหวาดผวากับความผิดปกติของลูกสาวตัวน้อย ที่เกี่ยวพันไปถึงความทรงจำเลวร้ายในอดีตของครอบครัว
รีวิว Run Rabbit Run (ไม่มีสปอยล์)
หนังจาก Daina Reid ผู้กำกับสายซีรีส์เป็นหลัก ที่มีผลงานกำกับอย่าง The Handmaid’s Tale, Shining Girls และอีกหลายๆ เรื่อง ซึ่งถือว่าเป็นเครดิตที่ดีเลย แต่ว่า Hannah Kent ตัวผู้เขียนบทเป็นมือใหม่เรื่องแรก ซึ่งไอเดียความลับของเรื่องนี้ก็คงไปโดนใจผู้กำกับเข้าถึงถูกนำมาสร้างเป็นหนังเรื่องนี้ได้ แต่ก็ต้องบอกกันตรงๆ เลยว่านี่เป็นหนัง Original Netflix ทุนต่ำที่ดูไม่สนุกอีกเรื่อง ด้วยบทที่ยืดเยื้อ วกวนไปกับเรื่องราวซ้ำๆ ของเด็กน้อยที่พยายามทำให้เหมือนหนังผี ด้วยการเลียนแบบตัวตนในอดีตของน้องสาวแม่ที่ตายไปอย่างปริศนา ซึ่งเป็นเมนหลักไอเดียของเรื่องที่พยายามหลอกล่อคนดูว่า นี่มันคือหนังผีจริงๆ หรือไม่ แต่การทำซ้ำวนแต่เรื่องนี้ในแบบเดิมๆ ยกตัวอย่าง เด็กชอบพูดว่าตัวเองเป็นอลิซกับชอบใส่หน้ากากกระต่าย ก็จะมีฉากแบบนี้ซ้ำๆ กันทั้งเรื่องจนบทของตัวเด็กดูน่ารำคาญ ซึ่งมันอาจจะดูหลอนในบางครั้ง แต่มันขาดความระทึกในแบบหนังผีจริงๆ แล้วก็ไม่มีฉากไหนที่รู้สึกว่าทำให้สะดุ้งตกใจได้เลย มันก็เลยกลายเป็นการดูหนังสยองขวัญ ที่พยายามทำตัวเป็นหนังผีปลอมๆ แบบน่าเบื่อมากตลอดทั้งเรื่อง แม้จะมีความรู้สึกว่ามีอะไรที่พอให้น่าติดตามอยู่บ้างก็ตามที
แต่เมื่อเรื่องเฉลยความจริงทั้งหมด ซึ่งก็คือไอเดียหลักความลับของเรื่อง ก็ถือว่าหนังมีส่วนดีปิดท้ายเรื่อง ช่วยกระชากให้คะแนนรวมของเรื่องดูดีขึ้น เมื่อสิ่งที่ดูมาทั้งเรื่องก็มีคำอธิบายที่พอเป็นเหตุผลลงตัว แม้จะไม่แปลกใหม่นักกับไอเดียนี้ก็ตามครับ ซึ่งจริงๆ ตลอดทั้งเรื่องก็มีความพยายามใส่คำใบ้นี้ไว้ตลอด โดยเฉพาะตัวนักแสดง Sarah Snook ที่เล่นเป็นแม่ ทั้งเรื่องเธอทำหน้าตาตื่นตระหนกวิตกกังวลอยู่ตลอดเวลา ก็คือคำใบ้ที่เฉลยความลับของเรื่องมากที่สุดแล้ว
โดยรวมอาจจะไม่ใช่เป็นหนังที่ดูสนุก หรือทำได้ดีในแนวหนังสยองขวัญ แต่ตอนจบของเรื่องก็ช่วยทำให้หนังเรื่องนี้มีดีพอสมควร ไม่แย่นักที่จะลองรับชมดูครับ