playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว เมอร์เด้อเหรอ ฆาตกรรมอิหยังวะ (The Murderer) ไอเดียจิกกัดสุดปั่น แต่บทฆาตกรรมไม่ลงตัว

Summary

โดยรวมนี่คือหนังไทยจากงานสร้าง Original Netflix ของผู้กำกับ  วิศิษฏ์ ศาสนเที่ยง ที่ดีกว่าเรื่องก่อนค่อนข้างมาก แต่มันก็ยังมีปัญหาเดิมๆ เรื่องบทแปลกๆ ไม่ลงตัวจนทำให้ไม่สามารถยกให้เป็นหนังดีได้เต็มปาก แต่ก็สนุกในการเล่าเรื่องที่แปลกกับไอเดียจิกกัดเขยฝรั่งของคนอีสานที่ยังไงคนไทยต้องฮาแน่นอน แนะนำให้ดูแต่อย่าคาดหวังมากเท่านั้นก็พอครับ!

Overall
6.5/10
6.5/10
Sending
User Review
3.67 (3 votes)

Pros

  • ไอเดียจิกกัดประเด็นเขยฝรั่งกับคนอีสาน
  • สีสันจัดจ้านตามสไตล์ของผู้กำกับ
  • นางเอกสวยน่ารักมากทุกฉาก
  • นักแสดงเล่นดีทุกคน

Cons

  • บทช่วงหลังแปลกๆ ไม่ลงตัว
  • ตอนจบที่พยายามให้ทึ่ง แต่กลับไม่สมเหตุผลเกินไป
  • เหตุผลการตายของทุกคนดูจับวางง่ายไป

ADBRO

เมอร์เด้อเหรอ ฆาตกรรมอิหยังวะ The Murderer หลังมีผู้เสียชีวิตหลายราย ณ ชุมชนเล็กๆ ในต่างจังหวัด เจ้าหน้าที่สืบสวนที่มุ่งมั่นก็พยายามหาตัวฆาตกร จนพุ่งเป้าไปที่ “เอิร์ล” ชาวอังกฤษซึ่งเป็นผู้ต้องสงสัยคนสำคัญ ร่วมสืบคดีปั่นไปพร้อมกัน กับสารวัตรมือพระกาฬแห่ง สภ.ดอนกระโทก รับบทโดย หม่ำ จ๊กม๊ก กำกับความปั่นภายใต้สีสันจัดจ้านโดย วิศิษฏ์ ศาสนเที่ยง
The Murderer (2023) on IMDb

รีวิว เมอร์เด้อเหรอ ฆาตกรรมอิหยังวะ (The Murderer)

หนังไทยสุดปั่นจริงๆ ที่ออกมาโดยผู้กำกับ  วิศิษฏ์ ศาสนเที่ยง ที่พักหลังไม่ค่อยประสบความสำเร็จกับโรงภาพยนตร์เลย จนหันมาทำลงสตรีมมิ่งเริ่มจากเขียนบท DEEP (เป็นเมนเทอร์ด้วย) ที่ผลงานออกมาแย่มาก ต่อ The Whole Truth ปริศนารูหลอน ที่ดีขึ้นมานิดหนึ่ง จนตอนนี้มาทำเรื่องนี้ที่เป็นแนวหนังตลกไทยไอเดียแปลกใหม่เข้าท่ามาก จนคิดว่าทำไมไม่ทำลงโรงภาพยนต์เก็บเงินค่าตั๋วไปน่าจะดีกว่า ซึ่งพอได้ดูก็พอเข้าใจว่าคงยากที่จะผ่านนายทุนด้วยไอเดียคอนเซ็ปต์หลายอย่างที่แปลกเกินไปจริงๆ

หนังเริ่มมาด้วยฉากที่เหมือนฆาตกรรม 7 ศพในคืนเดียวทันที แต่ใช้วิธีการเล่าเรื่องผ่านการสืบสวนของสารวัตรหม่ำ จ๊กมก ที่มีอคติเกลียดเขยฝรั่งแต่งงานกับคนอีสานเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ซึ่งการเล่าเรื่องวิธีนี้ทำให้เรื่องไปได้อย่างรวดเร็วมาก โดยใช้ขั้นตอนการสืบสวน พยานแต่ละคน หลักฐาน และอีกสารพัดที่เจอมาทำเป็นตัวคั่นฉาก แล้วก็เล่าเรื่องแบบไม่เป็นไปตามลำดับ ย้อนกลับไปกลับมาในการสอบสวน โดยทุกคนจะมีซีนของตัวเอง และบางครั้งก็ตัดฉากเล่าเรื่องให้เข้าใจนี่เป็นเหตุการณ์สมมุติ แต่ใครจะเชื่อก็ช่าง (ฮา) หนังไม่มีการบอกว่าอันไหนเรื่องจริงต้องพิจารณากันเอาเอง ซึ่งทั้งหมดนี้คือกลวิธีการเล่าเรื่องที่แปลกใหม่ของหนังไทย แต่ไม่ได้ใหม่มากสำหรับคนที่ชอบดูพวกหนังสืบสวนฝรั่งแนวสืบสวนติดตลกแบบนี้ แต่ถึงเรื่องนี้จะทำซ้ำในรูปแบบนี้ แต่ด้วยความที่เป็นหนังไทยที่พูดอีสานเป็นหลัก ฝรั่งเป็นรอง ภาษากลางมีบ้าง พร้อมเหตุการณ์วุ่นวายแบบอีสานบ้านนา+ฆาตกรรม 7 ศพ ก็ทำให้เรื่องราวที่เล่ามาทั้งหมดดูน่าติดตามไปโดยปริยาย 

ความน่าดูของเรื่องนี้พุ่งปรี๊ดตั้งแต่แรกด้วยไอเดียเสียดสีตลกอีสานไทยๆ ที่ไม่เคยมีมาก่อน ซึ่งใครที่ดูช่วงแรกนี่ยังไงก็ต้องฮาแทบทุกมุกที่เรื่องหยิบจับมาใช้ อย่าง รอยสักฆวยไทยจากฝรั่งชอบมวยไทย การแดกอึ่งอย่างเอร็ดอร่อย หรือแม้แต่มุกจิกกัดเขยฝรั่งสารพัดด้วยเรื่องเงินๆ ทองๆ หนังก็หยิบจับเอามาใช้จนหมด และคนไทยที่ดูก็ต้องรู้ทันทุกมุกแน่นอนด้วย เพราะไอเดียจิกกัดพวกนี้ในสังคมปกติเองก็มีให้เห็นกันอยู่แล้ว เพียงแค่เรื่องนี้หยิบจับมาใช้เล่ากระแทกกระทั้นกันตรงๆ เท่านั้น

แต่ปัญหาของเรื่องก็คือการเร่งใช้มุกพวกนี้อย่างมากมายจนหมดก็อกในช่วงแรก ตัวเรื่องยิ่งดำเนินไปเสียงตลกฮายิ่งจางหายไปเรื่อยๆๆ จนแทบจะหมดไปในช่วงท้าย แต่ถ้าตัดความฮาไป คิดว่ามาดูหนังสืบสวนฆาตกรรมก็พอจะรับได้อยู่ เพราะหนังก็ยังมีปมที่ทำให้ผู้ชมสงสัยอย่างหนักว่า 7 ศพนี่ตายได้ยังไง และใครคือฆาตกรกันแน่ แต่ประเด็นคือหนังเหมือนคิดไอเดียว้าวๆ ได้ตอนแรก แต่กลับเฉลยปมต่างๆ แทบไม่ว้าวอะไรเลย อารมณ์กลับเป็น “อิหยังวะ” ซะมากกว่า ด้วยเหตุผลที่เหลือเชื่อเกินว่าตายด้วยวิธีแบบนั้น แม้แรกๆ จะพอรับได้ แต่ศพหลังๆ ยิ่งต้องใช้ท่ายากมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ความอิหยังวะทบทวีคูณมากขึ้นไปอีก ก่อนจะจบลงด้วยการเล่ายาวเหมือนหนังอยากเฉลยแล้วก็ปล่อยพรวดกันตรงๆ โดยที่มีขยักทิ้งท้ายกะให้ผู้ชมต้อง “อึ้ง ทึ่ง ว้าว” กันแน่ๆ อีกรอบ ซึ่งจุดนี้เองคือท่ายากสุดของเรื่องนี้ที่เป็นไม้ตายก้นหีบของผู้เขียน Abishek J. Bajaj แต่ผลลัพธ์ที่ได้เชื่อเลยว่าเสียงแตก เพราะไม่ใช่เรื่องแรกที่เฉลยออกมาแบบนี้แล้วได้คะแนนบวกไป หลายคนก็ไม่ชอบกับการพลิกสุดขั้วแบบนี้เหมือนกันครับ แถมยังทำให้เรื่องไม่สมเหตุผลมากขึ้นไปอีก เหมือนหนังอินเดียที่พลิกตอนจบแบบไม่สมเหตุผลทั้งปวง


เฉลยตอนจบสุดปั่น

ฆาตกรกลายเป็นเด็กผู้หญิงโดยใช้เห็ดขี้ควายใส่ไปในอาหารให้กินจนจิตปั่นป่วนทุกคน

เมอร์เด้อเหรอ ฆาตกรรมอิหยังวะ
เมอร์เด้อเหรอ ฆาตกรรมอิหยังวะ (The Murderer)

แต่ทั้งนี้ก็ต้องชมในภาพรวมของเหล่าดาราในเรื่องที่เล่นได้ผ่านมากกว่าทุกเรื่องที่เคยดูมาเลยใน Netflix ดาราในเรื่องตัวเอกอย่าง James Laver นี่บอกตรงๆ ว่าจำไม่ได้เลย แต่พอดูเครดิตคือเขาเล่นใน Netflix และของโลกมาหลายเรื่องแล้ว ก็มาเป็นเขยอีสานใสๆ อยากช่วยพ่อแม่แฟน แต่ตัวเองดันไม่รวยเลยเจอตั้งแง่อคติตลอดทั้งเรื่อง หม่ำนี่ก็เล่นเป็นตำรวจสุดอคติได้สมบูรณ์แบบ ผู้ชมจะได้ฮากับรอยแผลเป็นตรงปากทุกครั้งที่หนังหยิบมาเล่น แต่เสียตรงบทของเขากลับไม่มากอย่างที่เข้าใจ (เพราะเรื่องเล่าหลายตัวละครย้อนอดีต) แต่ที่เด่นสุดคือนางเอก ที่แสดงโดย อิษยา ฮอสุวรรณ (เกรซจากหนังฉลาด เกม โกง) ที่สวยน่ารักทุกฉาก และบทที่ได้ก็ยังซื่อๆ ทั้งเรื่องเข้ากับรูปร่างหน้าตาของเธอเข้าไปอีก ซึ่งเธอคนนี้คือตัวดึงช่วยผู้ชมให้ติดตามทั้งเรื่องมากกว่าฝรั่งเขยอีสานตัวเอกซะอีกครับ

 

โดยรวมนี่คือหนังไทยจากงานสร้าง Original Netflix ของผู้กำกับ  วิศิษฏ์ ศาสนเที่ยง ที่ดีกว่าเรื่องก่อนค่อนข้างมาก แต่มันก็ยังมีปัญหาเดิมๆ เรื่องบทแปลกๆ ไม่ลงตัวจนทำให้ไม่สามารถยกให้เป็นหนังดีได้เต็มปาก แต่ก็สนุกในการเล่าเรื่องที่แปลกกับไอเดียจิกกัดเขยฝรั่งของคนอีสานที่ยังไงคนไทยต้องฮาแน่นอน แนะนำให้ดูแต่อย่าคาดหวังมากเท่านั้นก็พอครับ!

 

including other English reviews

The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!