playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว Lupin ss3 ลูแปงที่เล่าเรื่องราวใหม่ โม้น้อยลง แต่ยังสนุกในรูปแบบเดิมๆ

Summary

สรุปเป็นซีรีส์ที่ขึ้นเนื้อเรื่องใหม่ มีตัวละครใหม่ มีบอสคนใหม่ที่เป็นปริศนา แต่ก็ยังคงเล่าเรื่องในรูปแบบเดิมตัดสลับปัจจุบันกับอดีต ฉากปล้นใหญ่มีแค่ 2 ตอนแรก จากนั้นก็เป็นสเกลเล็กลงแบบปล้นย่อยๆ คั่นเรื่อง ก็ทำให้เรื่องดูโม้น้อยลงเป็นระดับเล็กๆ แต่พระเอกก็ยังเอาตัวรอดได้ง่ายๆ เช่นเดิม เนื้อเรื่องหันมาเน้นที่ความสัมพันธ์ของครอบครัวมากขึ้น และก็เคลียร์ปมปัญหาเรื่องคดีที่ติดตัวให้หมดไป โดยขยายจำนวนตอนมากขึ้นเป็น 7 ตอนจบในซีซั่นเลย ก็ทำให้มีเวลาเล่าเรื่องได้ลงตัวกว่าการทิ้งเรื่องค้างไว้แบบ 2 ซีซั่นที่ผ่านมาครับ (แต่ก็ยังมีแง้มตอนจบไว้ทำภาคต่อด้วย) โดยรวมใครที่ดูมาแล้วชอบก็แนะนำให้ดูต่อได้เลย ยังสนุกในรูปแบบเดิมทุกอย่างครับ

Overall
7/10
7/10
Sending
User Review
0 (0 votes)

Pros

  • เล่าเนื้อเรื่องใหม่หมดทั้งอดีตกับปัจจุบัน
  • ตัวละครใหม่ในครอบครัวตัวเอก
  • เล่าเรื่องความรักมากขึ้น

Cons

  • ยังมีความโม้เกินจริง ทำให้เนื้อเรื่องดูอ่อนเหตุผลอยู่แบบเดิม

ADBRO

Lupin ss3 จอมโจรลูแปง Netflix เรื่องราวการผจญภัยครั้งใหม่ของอัสซาน จอมโจรที่ชื่นชอบนิยายลูแปงและเลียนแบบตาม ในภาคนี้เป็นการขึ้นต้นเนื้อเรื่องใหม่ มี 7 ตอนจบในซีซั่นเลย

อ่านรีวิว 2 ภาคแรกคลิกที่นี่

Lupin ss3 รีวิว (ไม่สปอยล์)

เนื้อเรื่องของภาคนี้คือจุดเริ่มต้นเนื้อเรื่องใหม่ที่ไม่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับ Ss1-2 โดยตรง นอกจากส่วนของภรรยากับลูกที่เขาทิ้งมาและพยายามกลับไปหาเพื่อพาหนีไปด้วยกัน แต่ก็ถูกปฏิเสธเนื่องจากคดีที่ติดตัวเขาอยู่ จนทำให้เขาต้องคิดแผนการปล้นครั้งใหญ่ของประเทศ นั่นคือ “ไข่มุกดำ” เพื่อทิ้งทวนให้คนจดจำ โดยประกาศล่วงหน้าให้คนทั้งประเทศติดตามในเวลาที่กำหนด โดยมีตำรวจคุ้มกันไข่มุกดำอย่างเต็มกำลัง ซึ่งนี่ก็คือเรื่องราวเปิดตัวภาคนี้ใน 2 ตอนแรก โดยเป็นภารกิจที่ดูแล้วแทบเป็นไปไม่ได้ แต่พอเนื้อเรื่องเฉลยวิธีการปล้นกลับง่ายดายมาก แต่เนื้อเรื่องไม่ได้จบตรงนั้น เพราะภารกิจนี้มีความลับซ่อนอยู่อีกชั้น เมื่อสิ่งที่ลูแปงต้องการกลับไม่ใช่ไข่มุกดำโดยตรง แต่เป็นการหาทางปลดปล่อยปัญหาคดีที่ติดตัวเพื่อให้ภรรยากับลูกได้หลุดพ้นไปด้วย ซึ่งไอเดียนี้ก็มาจากในนิยายต้นฉบับที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวละครลูแปงด้วยเช่นกัน 

แต่สิ่งที่เป็นเนื้อเรื่องหลักของภาคนี้จริงๆ คือต่อจากนั้น ก็คือการเปิดตัวคู่ปรับหรือบอสตัวร้ายของภาคนี้ โดยให้ตัวร้ายมาจากอดีตช่วงวัยเด็กของเขา โดยมีตัวละครใหม่คือแม่ของเขาที่เป็นผู้อพยพตามพ่อมาใช้ชีวิตที่ฝรั่งเศสไม่ได้ในตอนแรก และอัสซานก็เคยคิดว่าถูกแม่ทิ้งไป แต่เธอกลับถูกจับเป็นตัวประกัน ซึ่งเนื้อเรื่องก็ค่อยๆ ใช้วิธีการเล่าชีวิตวัยเด็กของเขาอีกครั้ง โดยเป็นช่วงที่เขาห่างเหินจากแคลร์ไปอยู่กับค่ายมวยที่รวมเด็กกำพร้าไว้ด้วยกัน โดยเปิดตัวเพื่อนวัยเด็กของเขาเพิ่มมาอีกคน และก็เป็นช่วงผิดใจกับแคลร์ ซึ่งก็เป็นการเล่าเรื่องย้อนอดีตทีละนิดแบบภาคก่อน โดยมีปมปริศนาว่าใครในอดีตคือบอสตัวร้ายในปัจจุบัน เนื้อเรื่องในอดีตมีการหลอกล่อคนดูไว้นิดหน่อย และก็นำมันมาเชื่อมกับเหตุการณ์ในปัจจุบันเป็นระยะ โดยมีการจารกรรมย่อยๆ อีก 2 ครั้งที่ทำได้น่าสนใจพอประมาณ เป็นการทำตามคำขู่ของบอสที่จับแม่ของเขาเป็นตัวประกัน ซึ่งบทแม่ก็ถูกทำให้เป็นปริศนาด้วยเช่นกันว่าเธอคือตัวจริงหรือไม่ 

เนื้อเรื่องยังแทรกช่วงเวลาความสัมพันธ์ของตัวละครในเรื่อง โดยอัสซานพยายามใกล้ชิดกับครอบครัวโดยการปลอมตัวเป็นโค้ชสอนบาสเก็ตบอลให้ลูก ซึ่งทำให้แคลร์เริ่มรู้สึกว่าเขาคนนี้มีความเหมือนอัสซานไม่น้อย ทำให้ค่อยๆ กลับมาเปิดใจอีกครั้ง และอีกคู่คือตำรวจ เกดิรากับโซเฟีย ซึ่งมีบทบาทมากขึ้นในการไล่ตามล่าอัสซานไปพร้อมกัน แต่แยกกันเดินคนละทาง และก็ค่อยๆ ทำให้เห็นว่าเกดิราหลงรักโซเฟียแต่ไม่กล้าบอก ซึ่งอัสซานเองได้เข้ามาช่วยเหลือความรักของคู่นี้ในแบบลับๆ ซึ่งออกมาเป็นช่วงเวลาที่น่ารักของเรื่องนี้มาก

เนื้อเรื่องโดยรวมยังดำเนินไปแบบเดิม ทั้งการเล่าเรื่องปัจจุบันตัดสลับอดีต ซึ่งอาจจะดูน่าหงุดหงิดกับการเล่าสั้นๆ ตลอดเรื่องอยู่บ้าง ความโม้ของตัวเอกที่ทำหลายสิ่งได้เกินจริงก็ยังคงอยู่ แต่ด้วยการที่ไม่มีฉากแอ็กชั่นใหญ่โตแบบภาคก่อนๆ ก็ทำให้เรื่องดูโม้น้อยลงเป็นระดับเล็กๆ ที่พอให้เชื่อตามไปได้บ้าง ซึ่งทำให้ภาคนี้ดูสนุกกว่าภาคก่อนนิดๆ ครับ

 

สรุปเป็นซีรีส์ที่ขึ้นเนื้อเรื่องใหม่ มีตัวละครใหม่ มีบอสคนใหม่ที่เป็นปริศนา แต่ก็ยังคงเล่าเรื่องในรูปแบบเดิมตัดสลับปัจจุบันกับอดีต ฉากปล้นใหญ่มีแค่ 2 ตอนแรก จากนั้นก็เป็นสเกลเล็กลงแบบปล้นย่อยๆ คั่นเรื่อง ก็ทำให้เรื่องดูโม้น้อยลงเป็นระดับเล็กๆ แต่พระเอกก็ยังเอาตัวรอดได้ง่ายๆ เช่นเดิม เนื้อเรื่องหันมาเน้นที่ความสัมพันธ์ของครอบครัวมากขึ้น และก็เคลียร์ปมปัญหาเรื่องคดีที่ติดตัวให้หมดไป โดยขยายจำนวนตอนมากขึ้นเป็น 7 ตอนจบในซีซั่นเลย ก็ทำให้มีเวลาเล่าเรื่องได้ลงตัวกว่าการทิ้งเรื่องค้างไว้แบบ 2 ซีซั่นที่ผ่านมาครับ (แต่ก็ยังมีแง้มตอนจบไว้ทำภาคต่อด้วย) โดยรวมใครที่ดูมาแล้วชอบก็แนะนำให้ดูต่อได้เลย ยังสนุกในรูปแบบเดิมทุกอย่างครับ

 

 

including other English reviews

The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!