รีวิว Blue Eye Samurai (Netflix) Kill Bill สุดโหดในยุคเอโดะที่สร้างโดยอเมริกันไม่ใช่ญี่ปุ่น
Blue Eye Samurai
Summary
โดยรวมเป็นแอนิเมชั่นซีรีส์อเมริกันที่เล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นในแบบฉบับของตัวเองแทรกลงไป โดยใช้ตัวเอกลูกครึ่งซามูไรผู้หญิงเป็นฮีโร่แบบหนัง Kill Bill ที่เต็มไปด้วยความแค้นตลอดเวลา แต่ก็เป็นฮีโร่ช่วยผู้หญิงถูกดขี่ในญี่ปุ่นสมัยเอโดะในระหว่างที่ไล่ตามหาตัวร้ายที่เป็นพ่อชาวตะวันตกของตัวเอง และก็มีตัวละครอื่นๆ ที่แปลกใหม่แบบอเมริกันนิยมเดินเรื่องร่วมกันไปด้วย ทำให้เรื่องดูสดใหม่และแตกต่างไปจากญี่ปุ่นทำเอง และเนื้อหาก็มีความรุนแรงกับฉากเรื่องเพศสูงมากจนติดเรต 18+ งานแอนิเมชั่นภาพเคลื่อนไหวลื่นไหลดีมาก แต่ข้อเสียหลักคือการดัดแปลงที่มากไป จนทำให้ประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นที่ใช้อ้างอิงผิดเพี้ยนไปมาก ซึ่งผู้ชมที่ติดตามชอบญี่ปุ่นมาก่อนก็อาจจะรู้สึกสะดุดกับสิ่งเหล่านี้จนดูแล้วตะขิดตะขวงใจตลอดเรื่อง และการที่ไม่จบในซีซั่นเดียวก็น่าเป็นห่วงเมื่อดูจากยอดผู้ชมทั่วโลกน้อยมากจนอาจจะไม่ได้ทำซีซั่น 2 ก็ได้ครับ
***อัพเดททาง Netflix ไฟเขียวอนุมัติให้ทำ SS2 แล้ว***
Overall
7/10User Review
( votes)Pros
- แอนิเมชั่นซีรีส์อเมริกันที่ดัดแปลงเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น
- ภาพความรุนแรงและเนื้อหาทางเพศสูงมาก
- ตัวละครที่โดดเด่น มีพัฒนาการที่สดใหม่
- งานภาพแอนิเมชั่นดีมาก
- มีพากย์ไทย
Cons
- นำประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นมาเล่าใหม่จนผิดเพี้ยนเกินจริงไปมาก
- ตัวเอกเป็นผู้หญิงที่ปลอมตัวไม่เนียนเลย แต่ไม่มีใครดูออก
- ตัวเอกเก่งกาจเกินจริงมาก
- ไม่จบในซีซั่นเดียว
Blue Eye Samurai ซามูไรตาฟ้า แอนิเมชั่น Netflix 8 ตอน เมื่อลูกครึ่งที่มีดวงตาสีฟ้ากลายเป็นที่รังเกียจในญี่ปุ่นยุคเอโดะ ซามูไรหญิงนอกรีตจึงมีความแค้นต่อผู้ให้กำเนิดเธอ ในขณะที่รัฐบาลปิดล็อกประเทศป้องกันคนขาวเข้าประเทศไว้ เธอต้องตามหาคนที่ทำให้เธอมีชะตากรรมเช่นนี้และสังหารเขาให้ได้
รีวิว Blue Eye Samurai ซามูไรตาฟ้า (ไม่มีสปอยล์)
แอนิเมชั่นที่ดูเป็นญี่ปุ่นมากทั้งลายเส้น เรื่องราว แต่นี่ไม่ใช่ผลงานของญี่ปุ่นโดยตรง แต่เป็นจากฝั่งผู้สร้างอเมริกา Michael Green ที่เป็นผู้ร่วมเขียนบท LOGAN กับเบลดรันเนอร์ 2049 กับอีกคน Amber Noizumi เป็นลูกครึ่งญี่ปุ่น ทีมพากย์ทั้งเรื่องก็คือคนสัญชาติอเมริกันทั้งหมด นั่นทำให้รายละเอียดเนื้อหาในเรื่องนี้ไม่ได้เป็นสไตล์ญี่ปุ่นแท้ๆ แต่เป็นเหมือนมุมมองของต่างชาติที่พยายามดัดแปลงเรื่องราวประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นไปในแบบของเขา โดยเอาจุดเริ่มการล็อคประเทศป้องกันอิทธิพลตะวันตกเข้ามาใช้เป็นจุดเริ่ม และสร้างให้ตัวละครคนขาวในเรื่องมี 4 คนเท่านั้น โดยเป็นเหมือนบอสใหญ่ของเรื่อง 4 คน ที่มีพฤติกรรมชั่วร้ายค้าฝิ่น ข่มขืน ติดสินบน และมีปืน ที่เป็นอาวุธล้ำสมัยในตอนนั้น (ในยุคนั้นญี่ปุ่นยังใช้แค่ธนู) และพวกเขาทั้ง 4 ก็ข่มขืนผู้หญิงญี่ปุ่นจนให้กำเนิดลูกครึ่งที่ถูกสังคมรังเกียจขึ้นมา ซึ่งเธอก็คือ “มิสึ” ตัวเอกผู้หญิงที่โตมาแบบชีวิตอาภัพ แม่บังคับให้ทำตัวเป็นผู้ชายเพื่อให้มีชีวิตรอด จนกระทั่งได้อาจารย์ตีดาบช่วยเลี้ยงดูแลไว้ จึงตั้งใจฝึกวิชาดาบและตามหาผู้ให้กำเนิดที่ไม่รู้ว่าเป็นใครใน 4 คนนั้นเพื่อฆ่า!
เนื้อเรื่องเป็นแนวการเดินทางล้างแค้นเต็มที่ตั้งแต่ต้นจนจบ แต่ให้มิสึเป็นซามูไรนอกรีตลึกลับที่กลายมาเป็นฮีโร่ เมื่อเธอเดินทางไปเจอความอยุติธรรมในสมัยนั้น และช่วยกู้สถานการณ์ร้ายแรงไว้ได้ ซึ่งแทบทั้งหมดคือปัญหาสังคมผู้ชายเป็นใหญ่กดขี่ผู้หญิงไว้ อย่างปัญหาโสเภณี การคลุมถุงชน แม่ที่ขายลูกสาว ซึ่งผู้สร้างก็เป็นผู้หญิงลูกครึ่งญี่ปุ่นด้วย เนื้อเรื่องจึงเป็นเหมือนการนำประเด็นที่เฟมินิสต์เรียกร้องในปัจจุบันกลับไปใส่ไว้ในยุคอดีต จนดูเหมือน WOKE ซึ่งก็อาจจะดูน่าอึดอัดหน่อยสำหรับคนที่ติดตามรับรู้ประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นมาก่อน เพราะซามูไรผู้หญิงลูกครึ่งไม่มีจริงนั้นไม่มีในประวัติศาสตร์ แม้จะมีซามูไรผู้หญิงจริงในประวัติศาสตร์แต่ก็อยู่ในชนชั้นขุนนางถึงเป็นได้ เนื้อเรื่องก็สร้างให้ตัวเอกเก่งกาจจนเกินจริงไปมาก อย่างหลบกระสุนได้ สู้คนพร้อมกันได้เป็นสิบหรือคนเดียวฆ่าได้ทั้งกองทัพ และไม่มีใครรู้เลยว่าเธอคือผู้หญิง แต่ผู้ชมดูก็รู้ตั้งแต่แรกเป็นการปลอมตัวที่ไม่เนียนเลย จึงดูแล้วรู้สึกแปลกๆ กับสิ่งนี้อยู่ตลอดเวลา แต่ถ้าผู้ชมมองข้ามไปได้เนื้อหารายละเอียดในเรื่องก็ถูกวางไว้น่าสนใจมาก
สิ่งที่ดีมากของเรื่องคือการวางตัวละครที่แปลกใหม่มากๆ กับญี่ปุ่น ตัวละครในเรื่องนี้ทุกคนมีการพัฒนาตัวเองในด้านที่ญี่ปุ่นคงไม่ทำสิ่งนี้เท่าไหร่ อย่างเช่น เด็กน้อยที่เคยบูลลี่รังแกมิสึ แต่เติบโตมาเป็นซามูไรที่ดีหลังแพ้เธอและค่อยๆ กลายมาเป็นเพื่อนสนิทกัน เจ้าหญิงที่เชี่ยวชาญเรื่องกามและอยากมีอิสระเลือกคู่ครองได้เองและกระหายอำนาจ เด็กพิการมือด้วนสองข้างที่อยากเป็นคนมีชื่อเสียงจนยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มา หรือฝั่งตัวร้ายก็มีเนื้อเรื่องที่เกินจริงไปมากกว่าประวัติศาสตร์ อย่างคนขาวตัวร้ายที่วางแผนก่อรัฐประหารโชกุน จึงทำให้เนื้อเรื่องทั้งหมดสดใหม่มาก มีประเด็นน่าติดตามว่าตัวละครแต่ละตัวจะพัฒนาไปอย่างไร ซึ่งตัวเอกของเรื่องมิสึแทบจะมีพัฒนาการความเปลี่ยนแปลงน้อยกว่าด้วย เพราะเธอมีจิตใจที่เคียดแค้นตลอดเรื่อง แม้จะมีช่วงเวลาที่ผ่อนคลายให้เธอเหมือนคิดได้ โดยตัดสลับเล่าเรื่องอดีตของเธอเป็นระยะๆ แต่ก็เป็นแค่อารมณ์ชั่วคราวเท่านั้น ซึ่งก็เข้าใจได้เพราะว่าแอนิเมชั่นเรื่องนี้ไม่จบในซีซั่นเดียว ประเด็นความแค้นของเธอจึงต้องยึดไว้เป็นหลักเพื่อเล่าพัฒนาการตัวละครต่อไป
ด้วยเรต 18+ และเป็นผลงานอเมริกาสร้างเองจึงมีฉากโหดรุนแรงสูงมากตลอดทั้งเรื่อง ฉากทางเพศก็มากมายตามไปด้วย ในระดับที่เห็นหมดทั้งชายและหญิง เป็นภาพอนาจารที่โจ่งแจ้ง รวมถึงเนื้อหาที่ล่อแหลมมากเกินกว่าปกติ จึงไม่ใช่งานที่เหมาะกับผู้ชมอายุน้อยเลย
งานด้านภาพในเรื่องถือว่าดีมาก ตัวละครและสภาพแวดล้อมต่างๆ ทำได้ดี มีลายเส้นที่สวยสไตล์ญี่ปุ่น การเคลื่อนไหวลื่นไหลมาก ไม่มีการกระโดดของเฟรมภาพให้เห็นชัดแบบงานของญี่ปุ่น เป็นผลงานที่มีคุณภาพสูงมาก
โดยรวมเป็นแอนิเมชั่นซีรีส์อเมริกันที่เล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นในแบบฉบับของตัวเองแทรกลงไป โดยใช้ตัวเอกลูกครึ่งซามูไรผู้หญิงเป็นฮีโร่แบบหนัง Kill Bill ที่เต็มไปด้วยความแค้นตลอดเวลา แต่ก็เป็นฮีโร่ช่วยผู้หญิงถูกดขี่ในญี่ปุ่นสมัยเอโดะในระหว่างที่ไล่ตามหาตัวร้ายที่เป็นพ่อชาวตะวันตกของตัวเอง และก็มีตัวละครอื่นๆ ที่แปลกใหม่แบบอเมริกันนิยมเดินเรื่องร่วมกันไปด้วย ทำให้เรื่องดูสดใหม่และแตกต่างไปจากญี่ปุ่นทำเอง และเนื้อหาก็มีความรุนแรงกับฉากเรื่องเพศสูงมากจนติดเรต 18+ งานแอนิเมชั่นภาพเคลื่อนไหวลื่นไหลดีมาก แต่ข้อเสียหลักคือการดัดแปลงที่มากไป จนทำให้ประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นที่ใช้อ้างอิงผิดเพี้ยนไปมาก ซึ่งผู้ชมที่ติดตามชอบญี่ปุ่นมาก่อนก็อาจจะรู้สึกสะดุดกับสิ่งเหล่านี้จนดูแล้วตะขิดตะขวงใจตลอดเรื่อง และการที่ไม่จบในซีซั่นเดียวก็น่าเป็นห่วงเมื่อดูจากยอดผู้ชมทั่วโลกน้อยมากจนอาจจะไม่ได้ทำซีซั่น 2 ก็ได้ครับ (อัพเดททาง Netflix ไฟเขียวอนุมัติให้ทำ SS2 แล้ว)