playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิวอนิเมะ T・P BON SS2 (Netflix) อัพเกรดเนื้อเรื่องและตัวละครใหม่สานต่อให้จบต่อจากมังงะได้ดี

Summary

ซีซั่น 2 อัพเกรดขึ้นมาทุกอย่างทั้งเนื้อเรื่องที่เข้มข้นลงลึกในประวัติศาสตร์กับปัญหาภายในของตำรวจกาลเวลาเอง ตัวละครใหม่ยูมิโกะก็ออกมาดีและมีเคมีที่เข้ากันกับบอนมากกว่ารีมซะอีก และซีซั่นนี้เป็นเหมือนตอนจบของเรื่องนี้ที่ต่อจากต้นฉบับมังงะด้วย ถ้าคนดูซีซั่นแรกมาแล้วก็แนะนำว่าควรดูต่อให้จบครับ 

Overall
7/10
7/10
Sending
User Review
5 (1 vote)

Pros

  • อัพเกรดเนื้อเรื่องและตัวละครให้ดีขึ้นมาก
  • ตัวละครใหม่ยูมิโกะเคมีของตัวละครลงตัวกว่า
  • มีเนื้อเรื่องใหม่ต่อจากมังงะในตอนจบ

 

Cons

  • บทหลุดพล็อตโฮลแบบเดิมยังมีอยู่

ADBRO

รีวิวอนิเมะ T・P BON SS2 (Netflix)

ซีซั่น 2 ของอนิเมะ Netflix จากผลงานเก่าแก่ของผู้เขียนโดราเอมอนที่พึ่งออกฉายเดือนพฤษภาคม 2024 นี้เอง ตอนนี้ก็ออกมาภาคต่อมาในความยาว 12 ตอนเหมือนซีซั่นแรก ซึ่งก็น่าจะเป็นการทำสำเร็จแล้วค่อยปล่อยฉายตามมา โดยเนื้อเรื่องในภาคนี้ก็มีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นภาคจบ เพราะเนื้อเรื่องในฉบับมังงะก็จบลงที่ตรงนี้เพราะผู้เขียนเสียชีวิตไปก่อน แต่มี 2 ตอนสุดท้ายที่ผู้สร้างอนิเมะทำเพิ่มขึ้นมาจากเค้าโครงที่อาจารย์ผู้เขียนน่าจะส่งไว้ให้ในสมัยที่สร้างอนิเมะยุคแรก (ข้อมูลจากวงใน แต่ไม่ได้มียืนยัน) ซึ่งก็คือเรื่องราวของรีม รุ่นพี่ที่พาบอนเข้ามาทำงานนี้และหันไปรับงานแผนกสืบสวนเพื่อตามหาพี่สาวที่หายไปในห้วงมิติเวลาในตอนจบซีซั่นแรก โดยก่อนจะมาถึงจุดนี้ 10 ตอนแรกก็คือเรื่องราวของบอนกับตัวเอกหญิงคนใหม่ ‘ยูมิโกะ’ นักเรียนในโรงเรียนเดียวกันที่บังเอิญมารู้ความลับของบอน จนทำให้ต้องรับเธอมาเป็นผู้ช่วย ซึ่งก็คือการเดินทางครั้งใหม่ที่บอนกลายเป็นรุ่นพี่เหมือนรีม และต้องฝึกสอนเธอให้กลายมาเป็นตำรวจกาลเวลา แต่กลายเป็นว่ายูมิโกะกลับเรียนรู้ไวและกลายเป็นคนหาทางออกให้บอนได้ตั้งแต่แรกๆ ซีซั่นนี้ก็เลยเป็นการแข่งกันขบคิดวิธีแก้ปัญหาของทั้งคู่ที่ต้องทำงานร่วมกันและเป็นคนในยุคเดียวกัน โดยเป็นมุมมองการแก้ปัญหาที่ต่างกัน ของบอนจะเป็นผู้ชายมีความใจร้อน ของยูมิโกะจะสุขุมกว่า แต่เรื่องก็ไม่ได้ทำให้สองตัวละครนี้ถึงกับแตกหักกัน แต่เป็นการแข่งกันทำงานแก้ปัญหาให้ได้ดีที่สุดเท่านั้น ซึ่งการเล่าเรื่องแบบนี้ก็ทำให้เรื่องดูสนุกและแตกต่างจากซีซั่นแรกมากพอสมควร เรียกว่าอัพเกรดขึ้นมาน่าจะถูก เพราะชุดของตัวละครก็ถูกปรับเปลี่ยนให้ทันสมัยขึ้นตั้งแต่แรกด้วย

นอกจากนี้เนื้อเรื่องในแต่ละตอนก็มีความเข้มข้นทางประวัติศาสตร์ล่มสลายใหญ่ๆ มากขึ้น อย่างการลุกลามของโรคไข้ดำหรือกาฬโรคในยุโรป สงครามทรอย ภูเขาไฟวิซูเวียสที่ระเบิดจนกลบเมืองปอมเปอีและเฮอร์คิวเลเนียม โดยตัวบอนกับยูมิโกะได้เข้าไปเกี่ยวข้องเสี่ยงมีอันตรายถึงแก่ชีวิตโดยตรง มีฉากคนถูกฆ่าหรือตายมากมายกว่าซีซั่นแรก เรื่องจึงดูเข้มข้นกว่ามาก และเรื่องก็ยังนำเสนอประวัติศาสตร์ที่มีความน่าสนใจมากกว่า อย่างการประดิษฐ์อักษรขึ้นครั้งแรกในโลกผ่านการแกะรอยทิ้งไว้บนดินเหนียว แล้วก็แต่งเติมเรื่องให้ดูสนุกขึ้นโดยมีหมาป่าคอยส่งสารดินเหนียวข้ามหมู่บ้านกันไปมากลายเป็นการติดต่อทางไกลครั้งแรก หรืออย่างการมีตัวร้ายที่เป็นตำรวจกาลเวลาเหมือนแต่มีอุดมการณ์ต้องการช่วยปลาวาฬที่ถูกชาติตะวันตกนำโครงกระดูกบางส่วนไปทำโครงกระโปรงซุ้มสวยๆ จนทำให้ปลาวาฬสูญพันธ์ ทำให้เรื่องมีความขัดแย้งทางหน้าที่ที่ต้องห้ามไปยุ่งกับการเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์กับความดีที่เหล่าตำรวจกาลเวลาก็ต้องยึดถือไว้เช่นกัน ซึ่งตอนนี้ทำออกมาได้ดีในการถกเถียงแง่มุมลึกลงไปเหล่านี้ แล้วก็หาทางออกได้ดีในแบบที่ลงตัว

แต่ปัญหาของเรื่องก็ยังคล้ายๆ เดิมคือพอเล่นกับการย้อนเวลาก็มีการหลุดบางอย่างแปลกๆ อย่างการปลอมตัวตนกลืนไปกับชาวบ้าน แต่หน้าตา เสื้อผ้าก็ไม่เหมือนพวกเขา หรือพวกกฎของเวลาที่พอคิดดีๆ มันก็ไม่สมเหตุผลหลายครั้ง แต่ว่าถ้าคุณดูมาถึงซีซั่นนี้แล้วและเข้าใจได้ว่านี่เป็นมังงะเก่าแก่ที่ถูกนำมาปรับปรุงโดยยึดถือต้นฉบับยุคนั้นไว้มากก็คงพอมองข้ามข้อบกพร่องพวกนี้ไปได้ครับ อย่างผู้เขียนที่ตำหนิซีซั่นแรกไว้เยอะพอมาดูซีซั่น 2 ก็ปล่อยจอยมองข้ามพวกนี้ไปเลยเช่นกัน แม้จะจับผิดได้เต็มๆ ระหว่างดูก็ตามครับ

 

 สรุป ซีซั่น 2 อัพเกรดขึ้นมาทุกอย่างทั้งเนื้อเรื่องที่เข้มข้นลงลึกในประวัติศาสตร์กับปัญหาภายในของตำรวจกาลเวลาเอง ตัวละครใหม่ยูมิโกะก็ออกมาดีและมีเคมีที่เข้ากันกับบอนมากกว่ารีมซะอีก และซีซั่นนี้เป็นเหมือนตอนจบของเรื่องนี้ที่ต่อจากต้นฉบับมังงะด้วย ถ้าคนดูซีซั่นแรกมาแล้วก็แนะนำว่าควรดูต่อให้จบครับ 

 

รีวิวอนิเมะ T・P BON SS1 (Netflix)

รีวิวอนิเมะ T・P BON (Netflix) ปัดฝุ่นนำมาสร้างใหม่ แต่แทบไม่ต่างจากโดราเอมอน

 

The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!