รีวิว Sector 36 (Netflix) คดีฆาตกรต่อเนื่องฆ่าเด็กที่โหดวิปริตเกินมนุษย์และตีแผ่วงการตำรวจไปพร้อมกัน
Sector 36
Summary
หนังสร้างจากเค้าโครงเรื่องจริงของคดีฆาตกรรมเด็กต่อเนื่องในอินเดีย ตีแผ่การทำงานของตำรวจที่ละเลยการแจ้งความเด็กหายจนทำให้เกิดคดีสะเทือนขวัญสุดๆ โดยเพิ่มตัวละครตำรวจเลวที่กลับใจลงไปในเรื่องเป็นตัวเอกสืบสวนคดีนี้ เพื่อเล่าเรื่องให้แตกต่างมีบทที่ซับซ้อนสนุกขึ้น และยังย้อนกลับไปตีแผ่วงจรการเกิดขึ้นของปัญหาในวงการตำรวจได้อย่างน่าทึ่งและดาร์คมากๆ ในตอนจบ โดยมีตัวฆาตกรที่โหดวิปริตอำมหิตเกินมนุษย์ที่นักแสดงเล่นได้ดีมาก จนเป็นฉากคำสารภาพที่ยอดเยี่ยมและขนลุกมากกับความวิปริตของเรื่องจริงที่เกิดขึ้นครับ
Overall
8.5/10User Review
( votes)Pros
- สร้างจากคดีที่เกิดขึ้นจริง
- ตีแผ่การเกิดวงจรทุจริตในวงการตำรวจ
- นักแสดงตัวฆาตกรเล่นได้ยอดเยี่ยมมาก
- มีฉากฆ่าโหดไม่เซ็นเซอร์
- มีพากย์ไทย
Cons
- หนังมีความเป็นอินเดียมาก ฉากซ้อมกักขังคนนอกระบบอาจจะดูเกินจริง
Sector 36 ภาพยนตร์ Original Netflix แนวสืบสวนฆาตกรรม สร้างจากเค้าโครงเรื่องจริงในอินเดีย เมื่อตำรวจฉ้อฉลต่อการสืบหาเด็กหายต่อเนื่องในเขตเซกเตอร์ 36 ที่เป็นเขตผู้อพยพไร้ที่พึ่งพิง สุดท้ายเขากลับได้รับบทเรียนนี้เองเมื่อลูกสาวของเขาโดนลักพาตัวไปเช่นกัน
รีวิว Sector 36 (ไม่สปอยล์)
หนังอินเดียที่สร้างจากเค้าโครงเรื่องจริงของคดี 2006 Noida serial murders เมื่อเด็กผู้อพยพหายตัวไปติดต่อกันจำนวนมากโดยไม่มีการสืบหา สุดท้ายกลายเป็นคดีฆาตกรรมต่อเนื่องที่ขุดลึกลงไปถึงระบบทุจริตของวงการตำรวจและนักธุรกิจ ซึ่งเรื่องนี้ได้ดัดแปลงใส่ตัวละครตำรวจฉ้อฉล ราม จรัณ ปันเดย์ (เล่นโดย Deepak Dobriyal)เข้าไปเพื่อทำให้เห็นเรื่องฉาวๆ ของวงการตำรวจอินเดีย ซึ่งโดยปกติหนังอินเดียตำรวจก็มักจะเป็นแบบนั้นอยู่แล้วแทบทุกเรื่อง แต่เรื่องนี้เขาคือตัวเอกหลักของเรื่องที่เป็นตำรวจเลวให้เห็นกันตั้งแต่แรกว่ารับสินบน ไม่สนใจทำคดีเด็กหาย จนกระทั่งโดนเข้ากับตัวเอง กลายเป็นตัวละครที่เปลี่ยนทัศคติกลับตัวกลับใจมาเป็นตำรวจดีมุ่งมั่นทำคดีนี้ให้สำเร็จ แม้จะโดนสกัดแค่ไหนเขาก็ไม่ย่อท้อพยายามสืบต่อแม้โดนถอดออกจากคดี ซึ่งถือว่าหนังนำเสนอได้แปลกแตกต่าง และก็ทำได้ค่อนข้างสำเร็จเมื่อเรารู้สึกว่าควรเอาใจช่วยเขาให้สืบคดีได้สำเร็จ โดยมีการตีแผ่ปัญหาวงจรความเน่าเหม็นในวงการตำรวจที่เกิดขึ้นซ้ำๆ แทรกอยู่ตลอดเรื่อง แล้วก็ตบท้ายด้วยตอนจบที่ต้องอึ้งกันแน่นอน
นอกจากหนังจะเด่นเรื่องการตีแผ่วงการตำรวจแล้ว ในส่วนของการจำลองฆาตกรก็ทำออกมาได้ยอดเยี่ยมมาก นักแสดงอย่าง Vikrant Massey ที่ก่อนนี้เล่นเป็นพระเอกในเรื่อง กุหลาบมรณะ (Haseen Dillruba) ซึ่งก็ทำได้ยอดเยี่ยมต่อเนื่องมาถึงเรื่องนี้เลย เมื่อเขาเล่นเป็นฆาตกรที่วิปริตผิดแผกจากปกติมากขึ้นไปอีกเพราะทั้งฆ่า ข่มขืน กินเนื้อมนุษย์ ขายอวัยวะเด็ก ซึ่งหนังไม่ได้ปกปิดตัวละครนี้ว่าเป็นฆาตกรตั้งแต่ฉากแรก แล้วก็ไม่ได้ทำเป็นแนวฆาตกรฉลาดที่พยายามหลบหนีตำรวจได้ แต่เขามีที่พึ่งคือเจ้านายนักธุรกิจใหญ่คุ้มครองให้ ทำให้มีตัวเองหลงผิดคิดว่ามีอำนาจในแบบผิดปกติ ซึ่งฉากเฉลยเรื่องราวการฆ่าต่อหน้าตำรวจนี่คือ ซีนยอดเยี่ยมที่สุดของเรื่องแล้ว รับรองว่าต้องอึ้งทึ่งกับการแสดงของเขาแน่นอนครับ
สรุป หนังสร้างจากเค้าโครงเรื่องจริงของคดีฆาตกรรมเด็กต่อเนื่องในอินเดีย ตีแผ่การทำงานของตำรวจที่ละเลยการแจ้งความเด็กหายจนทำให้เกิดคดีสะเทือนขวัญสุดๆ โดยเพิ่มตัวละครตำรวจเลวที่กลับใจลงไปในเรื่องเป็นตัวเอกสืบสวนคดีนี้ เพื่อเล่าเรื่องให้แตกต่างมีบทที่ซับซ้อนสนุกขึ้น และยังย้อนกลับไปตีแผ่วงจรการเกิดขึ้นของปัญหาในวงการตำรวจได้อย่างน่าทึ่งและดาร์คมากๆ ในตอนจบ โดยมีตัวฆาตกรที่โหดวิปริตอำมหิตเกินมนุษย์ที่นักแสดงเล่นได้ดีมาก จนเป็นฉากคำสารภาพที่ยอดเยี่ยมและขนลุกมากกับความวิปริตของเรื่องจริงที่เกิดขึ้นครับ