playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว The Platform 2 (Netflix) ภาคต่อที่เฉลยภาคแรก แต่ก็ยังเต็มไปด้วยปริศนามากมายอยู่ดี

Summary

หนังคุกแนวตั้งภาคต่อที่ทำมาเพื่อเติมเต็มบางส่วนที่ภาคแรกไม่ได้เฉลยไว้ โดยเฉพาะตอนจบที่ต่อกันสนิท แต่ก็อย่าหวังว่าหนังจะเฉลยอะไรหมดเพราะยังเต็มไปด้วยปริศนาผ่านสัญญะหลายอย่างเหมือนเดิม มีการใช้แนวคิดคอมมิวนิสต์เข้ามาในครึ่งแรกเพื่อสร้างความอยู่รอดแบบเท่าเทียม แต่ก็มีปัญหาสะดุดหลายอย่างจากรูปแบบกฏที่เข้มงวดจนแทบบ้าคลั่ง ก่อนที่ครึ่งหลังเปลี่ยนเป็นเสรีนิยมอิสระทางความคิดและการกระทำ ซึ่งก็ทำให้หนังย้อนกลับไปแนวทางภาคแรกอย่างตั้งใจ ซึ่งสุดท้ายแล้วผู้ชมที่ยังงงอยู่เน็ตฟลิกซ์ก็แนะนำให้กลับไปดูภาคแรกซ้ำอีกรอบเลยครับ แต่ถ้าใครปวดหัวกับการตีความสัญญะต่างๆ ในเรื่องก็ผ่านเลยดีกว่าครับ  

Overall
7/10
7/10
Sending
User Review
5 (1 vote)

Pros

  • หนังสะท้อนระบบแนวคิดคอมมิวนิสต์กับเสรีนิยม
  • มีการเฉลยปริศนาภาคแรกเพิ่ม
  • บทของตัวละครลึก
  • มีตัวละครจากภาคแรกกลับมา
  • มีพากย์ไทย

Cons

  • ยังเต็มไปด้วยปริศนามากมายจนเกินไป

 

The Platform 2 หนัง Original Netflix แนวดราม่าทริลเลอร์ เรื่องราวภาคต่อของคุกปริศนาจากภาคแรกที่จะเฉลยหลายอย่างเพิ่ม แต่ก็สร้างปริศนามากมายขึ้นเช่นกัน 

The Platform 1 รีวิว

รีวิว The Platform สยองขวัญกับโลกชนชั้นแนวดิ่ง

 

The Platform 2 รีวิว (มีสปอยล์บางส่วน)

หนังที่สเปนที่รอบก่อน Netflix ซื้อมา แต่รอบนี้สร้างเองหลังได้รับความนิยมอย่างมาก โดยผู้สร้างทีมเดิมทั้งหมด ซึ่งหนังภาคแรกนั้นเต็มไปด้วยปริศนาของคุกแนวตั้งที่ส่งอาหารผ่านช่องลิฟต์ตรงกลางแล้วแย่งกันกิน ใครอยู่ชั้นสูงคือมีโอกาสรอด ใครอยู่ชั้นล่างคือยิ่งลำบาก ทุกเดือนมีการสลับชั้นใหม่แบบสุ่ม ซึ่งหนังแทบไม่ได้ไขปริศนาอะไรเลยนอกจากการเน้นเรื่องการเอาตัวรอดในคุกแห่งนี้ไปให้ได้ แล้วก็ใส่พวกสัญญะไว้มากมายให้ผู้ชมตีความกันเอง โดยเสียดสีระบบทุนนิยมในสังคมกลายๆ แต่ก็ไม่ได้ชี้ชัดอะไรแม้กระทั่งตอนจบก็เป็นสัญญะให้ผู้ชมงงกันเข้าไปอีก  ส่วนตัวผู้เขียนชอบพล็อตแนวทางการเล่าวิธีเอาชีวิตรอดของตัวละคร แต่ไม่ชอบช่วงหลังที่หนังเหมือนหาทางจบไม่ได้ ซึ่งภาคนี้มีแนวทางต่างออกไปคือการเฉลยหลายอย่างในภาคแรกที่ทิ้งไว้ครับ

หนังเริ่มด้วยตัวละครใหม่ แต่ก็ไม่เล่าลงลึกเรื่องที่ผู้ชมรู้จากภาคแรกแล้ว อย่างจำนวนชั้น การแย่งอาหาร การสุ่มห้องใหม่ แต่เริ่มมาคือการตั้งกฏการแบ่งอาหารกันในรูปแบบแนวคิดระบอบคอมมิวนิสต์ ก็คือทุกคนได้กินอาหารของตัวเองเท่านั้น หรือแลกกันกับคนอื่น ถ้าใครกินอาหารเกินก็จะโดนคน 2 ชั้นบนก่อนหน้าไปลงโทษด้วยความรุนแรง ซึ่งกฏพวกนี้ถูกตั้งโดยศาสดาที่มีตำนานเรื่องเล่าสืบทอดต่อกันมาในคุก ซึ่งหนังก็สร้างความสดใหม่ได้ตั้งแต่แรกเพราะเหมือนเป็นการทำเนื้อเรื่องต่อที่ขยายให้มีรูปแบบการปกครองชัดเจน ต่างจากภาคแรกที่ไม่มีตัวใครตัวมัน ภาคนี้ดูเอื้อเฟื้อและมีน้ำใจกว่ามาก ทำให้โทนหนังที่ดูแหวะกับการกินอาหารแบบเละเทะหายหายไปเกือบหมดเลย ซึ่งหนังก็ใช้เวลาในช่วงครึ่งเรื่องไปกับการเล่นกับกฏหมาย การกำจัดคนที่ละเมิด การค้นหาผู้นำสาวกว่าเป็นใคร ซึ่งสนุกแตกต่างไปอีกแบบ ก่อนที่ช่วงครึ่งหลังหนังจะพลิกกลายเป็นอีกรูปแบบ

ครึ่งหลังนำเสนอรูปแบบความคิดของเสรีนิยม เมื่อตัวละครหลักในเรื่องเริ่มรู้สึกถึงการกดขี่จากกฏที่เข้มงวดเกินไป หนังก็กลายเป็นแบบภาคแรกอีกครั้ง แต่ส่วนที่ต่างออกไปคือ มีฉากการทำลายผู้คุมกฏที่เป็นเหมือนศาสดาในครึ่งแรกและเป็นเสาหลักกฏหมายของคุกนี้มาตลอด โดยเรื่องสร้างปูมหลังให้ตัวเอกในตอนแรกเปลี่ยนไปจากชีวิตในอดีตของเธอ และซ่อนประวัติตัวละครนี้ไว้แล้วค่อยๆ เฉลยจนกระทั่งถึงตอนจบสุดท้ายเอนเครดิต ซึ่งก็จะเป็นฉากที่เชื่อมต่อไปเฉลยตอนจบของภาคแรกอีกครั้ง ทำให้เรื่องนี้กลายมาเป็นหนังที่ดูภาค 2 แล้วต้องย้อนไปดูภาคแรกใหม่ (ขนาดเน็ตฟลิกซ์เขียนบอกไว้เลยถ้างงให้ดูภาคแรก) ซึ่งตัวเรื่องน่าจะจบลงที่ภาคนี้แล้ว แต่ก็ไม่แน่ว่าถ้ายอดดีก็อาจจะมีต่ออีกก็ได้เพราะหนังก็ยังทิ้งปริศนาว่าคุกนี้คืออะไรต่อไปอีก แม้จะมีการเฉลยเพิ่มมากขึ้นแล้ว อย่างช่วงเก็บกวาดทุกเดือนว่าทำได้ยังไง ซึ่งฉากนี้เป็นเซอร์ไพรส์ที่คาดไม่ถึงเหมือนกันครับ

 

ส่วนดีของเรื่องจริงๆ ผู้เขียนยกให้การเขียนบทตัวละครในช่วงครึ่งแรกที่ตัวละครชายอ้วนเทอะทะท่าทางน่ากลัว นิสัยก็ดูไม่ดี แต่หนังลงลึกให้เห็นว่าภายนอกกับภายในจริงๆ ของคนเราไม่เหมือนกัน ซึ่งตัวนางเอกของเรื่องเองก็เป็นแบบนี้เช่นกัน แต่บทมาสลับกันในช่วงหลัง จากดีไปร้ายทำลายกฏนั้นซะเอง  ซึ่งหนังมีการใช้ตัวละครเก่าจากภาคแรกกลับมาด้วยหลายคน ซึ่งตัวละครพวกนี้ก็ยังเล่นบทแบบเดิมในภาคแรกอยู่ แต่คราวนี้ผู้ชมจะได้เห็นการเชื่อมโยงกับภาคแรกมากขึ้นครับ

ส่วนข้อด้อยของหนังก็คือ นี่ยังเป็นหนังที่เน้นสัญญะมากมายโดยไม่เฉลยเหมือนภาคแรก หนังยังสร้างอะไรแปลกๆ เข้ามาให้ผู้ชมคิดเยอะเกินไป อย่างเด็กที่อยู่ๆ โผล่มาในเรื่องชั้นล่างสุดที่คราวนี้มีเยอะกว่าเดิมอีก ซึ่งแม้แต่การย้อนไปดูภาคแรกอีกรอบก็ไม่ได้ช่วยอะไรมาก ซึ่งผู้ชมที่ปวดหัวกับภาคแรกแล้วมาดูภาคนี้ก็ยิ่งเจอมากกว่าเดิมซะอีก ถ้าไม่ชอบภาคแรกมากก็ปล่อยผ่านไปเลยดีกว่าครับ 

 

สรุป หนังคุกแนวตั้งภาคต่อที่ทำมาเพื่อเติมเต็มบางส่วนที่ภาคแรกไม่ได้เฉลยไว้ โดยเฉพาะตอนจบที่ต่อกันสนิท แต่ก็อย่าหวังว่าหนังจะเฉลยอะไรหมดเพราะยังเต็มไปด้วยปริศนาผ่านสัญญะหลายอย่างเหมือนเดิม มีการใช้แนวคิดคอมมิวนิสต์เข้ามาในครึ่งแรกเพื่อสร้างความอยู่รอดแบบเท่าเทียม แต่ก็มีปัญหาสะดุดหลายอย่างจากรูปแบบกฏที่เข้มงวดจนแทบบ้าคลั่ง ก่อนที่ครึ่งหลังเปลี่ยนเป็นเสรีนิยมอิสระทางความคิดและการกระทำ ซึ่งก็ทำให้หนังย้อนกลับไปแนวทางภาคแรกอย่างตั้งใจ ซึ่งสุดท้ายแล้วผู้ชมที่ยังงงอยู่เน็ตฟลิกซ์ก็แนะนำให้กลับไปดูภาคแรกซ้ำอีกรอบเลยครับ แต่ถ้าใครปวดหัวกับการตีความสัญญะต่างๆ ในเรื่องก็ผ่านเลยดีกว่าครับ   

 

The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!