รีวิว The Rings of Power SS2 บทของตัวร้ายเซารอนทำได้ดี แต่บทของตัวละครอื่นยังไม่ดีพอ

 

รีวิว The Rings of Power SS2

รีวิว The Lord of the Rings: The Rings of Power งานสร้างอลังการที่ยังช่วยให้คงอารมณ์ลอร์ดออฟเดอะริงไว้ได้อยู่ (รีวิวจบ 8 ตอน)

 

ซีซั่น 2 ที่เรื่องราวยังแยกออกหลายทางตามตัวละครแต่ละเผ่า โดยมีเรื่องราวของตัวละครใหม่ก็คือเซารอนที่เฉลยไปในตอนจบก่อนนี้ โดยซีซั่นนี้เป็นการเล่าที่มากำเนิดย้อนรอยเซารอนตั้งแต่ถูกชิงอำนาจจากมอดอร์ก่อนพบกาลาเดรียลในครั้งแรกในเหตุการณ์ซีซั่นแรก และก็ตัดมาพบกับเคเลบริมบอร์ เอลฟ์ผู้สร้างแหวนทั้งหมด (ยกเว้นวงสุดท้ายแหวนเอกที่เซารอนสร้างเอง) ซึ่งก็คือซีซั่นนี้เป็นเรื่องราวของเซารอนเป็นหลัก โดยเป็นการเผยให้เห็นว่าเขาล่อลวงให้ช่างเอลฟ์สร้างแหวนที่เหลือให้คนแคระและมนุษย์ได้ยังไง ทั้งๆ ที่กษัตริย์เอลฟ์ กิล กาลัด สั่งห้ามไม่ให้ทำแหวนเพิ่ม หลังจากที่รู้ตัวตนของเซารอนที่กาลาเดรียลปกปิดไว้ ซึ่งเรื่องราวทั้งหมดก็เกิดในเมืองเอริกิอนของเคเลบริมบอร์ทั้งหมด โดยมีตัวละครจากคนแคระ เอลฟ์ และออร์ค เข้ามาเกี่ยวข้องที่เมืองนี้ในท้ายที่สุดตอนจบของซีซั่น

เซารอนในภาคนี้คือนักแสดงคนเดิม แต่มาในรูปโฉมใหม่เป็นอลฟ์เปลี่ยนชื่อเป็น อันนาทาร์ ตัวเรื่องยังเป็นการเล่าด้วยเรื่องราวการใช้เล่ห์กลของเซารอน ใช้วาจากับพลังมายาหลอกล่อให้ฝ่ายตรงข้ามทั้งเมืองหลงกลว่าเขาคือผู้มาช่วยเหลือในการสร้างแหวนที่จะปัดเป่าภัยร้ายทั้งมิลเดิลเอิร์ธไป ซึ่งฉากทั้งหมดวนเวียนอยู่กับห้องสร้างแหวนของเคเลบริมบอร์ แต่ก็สนุกที่ได้เห็นอีกด้านของตัวร้ายในตำนานเรื่องนี้ บทเขียนให้ผู้ชมเอาใจช่วยให้เซารอนหลอกล่อให้เคเลบริมบอร์สร้างแหวนได้เหมือนตัวเอกคนดีจอมปลอมเลย ตัวเคเลบริมบอร์เองก็ระมัดระวังตัวอยู่ตลอด เรื่องทำเหมือนเรากำลังดูการทำงานมิจฉาชีพว่ากำลังตกเหยื่อได้ยังไง หลอกล่อยังไงถึงทำให้เชื่อได้ เพราะหลายครั้งเคเลบริมบอร์ก็สงสัยและมั่นใจว่าความคิดตัวเองถูก ด้วยบุคลิกอัจฉริยะผู้สร้างเอลฟ์ที่เชื่อมั่นในตัวเองสูง แต่บทก็เขียนบีบคั้นให้ถึงจุดที่ตัวเคเลบริมบอร์เองก็รู้สึกขึ้นมาว่าต้องสร้างแหวนคนแคระ 7 วงด้วยตนเองไม่ใช่เพราะอันนาทาร์ขอ แล้วก็ต่อด้วยของมนุษย์อีก 9 วงซึ่งยากกว่าเพราะเอลฟ์ก็ไม่ไว้ใจมนุษย์ให้ครอบครองพลังพวกนี้ได้ อย่างความอมตะที่มนุษย์โหยหามากที่สุดเมื่อเทียบกับเผ่าอื่นที่มีอายุยืนยาวกว่า ซึ่งซีรีส์เล่าเรื่องทั้งหมดด้วยบทพูดเป็นหลัก ไม่มีฉากแสดงพลังของเซารอนอะไรมาก นอกจากพวกมายาบังตาบางอย่างเท่านั้น แต่ก็ทำให้สองตัวละคนนี้โดดเด่นและเป็นแกนหลักของซีซั่นนี้ครับ

นอกจากนี้ยังมีเรื่องอีกด้านที่เคียงคู่กันไปและน่าติดตามไม่แพ้กันคือเผ่าออร์ค ผ่านตัวละคร อดาร์ ซึ่งก็คือคนที่ทรยศเซารอนและสังหารไป อดาร์รู้ว่าเขากำลังกลับมาจึงหาทางจัดการเซารอนอีกรอบให้สิ้นซากไปจริงๆ โดยมีกาลาเดรียลเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยเพราะแหวนที่เธอใส่มีอำนาจช่วยจัดการเซารอนได้ เรื่องราวของอดาร์กับกาลาเดรียลจะเดินคู่ไปกับการทำศึกสุดท้ายที่เอริกิออนตอนท้ายซีซั่น ซึ่งเรื่องมีมิติมากกว่าแค่กองทัพออร์คที่อดาร์ควบคุมอยู่ บทถูกเขียนให้ทั้งอดาร์กับกาลาเดรียลดูไม่ไว้ใจกัน แต่ต้องร่วมมือกันเพื่อเป้าหมายกำจัดเซารอน ซึ่งเรื่องคลุมเครือให้ผู้ชมสงสัยว่าใครที่คิดถูกไม่หลงกลและมองแผนของเซอรอนออก และยังมีมิติความสัมพันธ์พ่อลูกของอดาร์ที่แม้จะดูแปลกประหลาดแบบดิบๆ เถื่อนๆ เป็นฉากดราม่าที่ไม่ซึ้ง แต่ก็ทำให้เรื่องดูสะเทือนใจไม่น้อยเมื่อมีเซารอนเจ้าแห่งการล่อลวงเข้ามาทำลายความสัมพันธ์นี้ลงไปอย่างโหดเหี้ยม ในจุดที่อดาร์ไม่ได้เป็นตัวร้ายเหมือนอย่างตอนแรก บทส่งให้ตัวละครอดาร์มีซีนที่ดีและลึกกว่าทุกคนในเรื่องนี้อีกครับ 

ตัวเรื่องคนแคระค่อนข้างเรียบง่ายไม่ลึกมาก มีเพียงแค่ตัวราชาใส่แหวนแล้วก็ละโมบมากกว่าเดิม พยายามขุดเจาะแร่ในภูเขาที่อยู่ลึกลงไปเรื่อยๆ ซึ่งมีบัลล็อกเป็นบอสเล็กๆ ตอนท้าย ซึ่งก็ทำได้น่ากลัวเหมือนฉบับภาพยนตร์ แต่ก็สั้นๆ เท่านั้น ตัวละครดูรินในเรื่องก็มีบทเพียงแค่พยายามให้พ่อถอดแหวนออกอยู่ทั้งเรื่อง ซึ่งบทของราชาดูมีความเด่นมากกว่าเมื่อความละโมบที่แหวนไปเพิ่มพูนให้ทำให้ราชากลายเป็นคนที่เจ้าเล่ห์วางแผนลึกกว่านิสัยปกติของตัวเขาเอง   

ส่วนเรื่องของมนุษย์ในเมืองนูเมนอร์จะเกี่ยวข้องกับการแย่งชิงอำนาจกัน โดยฟาราโซนก้าวเข้ามามีอำนาจทางการเมืองแทนราชินี มีการทรยศหักหลังกัน แต่บทอ่อนมาก เนื้อเรื่องธรรมดาจนไม่มีความตื่นเต้นอะไร แม้แต่ฉากที่ราชินีต้องถูกลงโทษโดยให้ทดสอบว่าสามารถจะรอดตายจากสัตว์ประหลาดในมหาสมุทรได้หรือไม่ ซึ่งน่าจะเป็นไฮไลท์ของเนื้อเรื่องส่วนนี้ ก็ทำออกมาสั้นและน่าผิดหวังมาก จนเป็นช่วงที่เนื้อเรื่องน่าเบื่อที่สุดของซีซั่นนี้แล้ว รวมถึงอิซิลดูร์ที่ต้องไปเจอกับเอลฟ์คนดำก็ดูไม่ค่อยลงตัวที่เอาปัญหาลูกเลี้ยงจากแฟนของเขาภาคก่อนที่ตายไป โดยตัวเด็กเข้ามาเกี่ยวข้องกับทั้งคู่ว่าใครมีความน่าเคารพมากกว่ากันระหว่างเอล์ฟกับมนุษย์ และยังมีความพยายามให้เรื่องของอิซิลดูร์เป็นแนวรักโรแมนติกกับสาวชาวบ้าน ซึ่งถูกแต่งเติมเข้ามาแต่ก็ไม่ได้มีน้ำหนักมากพอกับเส้นเรื่องหลักที่เขาต้องกลายเป็นคนที่ตัดนิ้วเซารอนในตอนหลังเลย (ไม่รู้ว่าใส่มาทำไมเพื่อไปต่อในซีซั่น 3)  

ส่วนเผ่าฮาร์ฟุต การเดินทางของโนริกับคนแปลกหน้าดูเหมือนจะมีอะไรน่าติดตามที่สุดเพราะเป็นตัวละครที่ใช้เวทย์ได้ ซึ่งเรื่องก็โชว์พลังเวทย์ของชายลึกลับได้น่าตื่นตาดี แต่เรื่องก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าแค่การตามหาไม้เท้าประจำตัวของเขา เพื่อหวังจะคืนความจำที่หายไปกลับมา ซึ่งตอนท้ายซีซั่นก็จะได้รู้ว่าเขาคือใครกันแน่ ใช่แกนดาล์ฟหรือไม่ มีการพบตัวละครที่ลึกลับสุดของลอร์ดออฟเดอะริง ทอม บอมบาดิล ซึ่งเนื้อเรื่องส่วนนี้คือทางผู้สร้างแต่งเติมเข้ามาใหม่หลายอย่างมากกว่าโครงต้นฉบับที่มีอยู่ จนน่าจะเป็นส่วนที่ขัดใจแฟนๆ ต้นฉบับจนแทบจะด่ายับเลยก็ได้ (แต่ผู้เขียนไม่ใช่แฟนขนาดนั้นก็ดูแล้วเฉยๆ เข้าใจจุดประสงค์ผู้สร้างว่าต้องการทำแฟนฟิคเชื่อมต่อส่วนที่ขาดไปเอง)

ส่วนงานสร้างโปรดักชั่น CG ยังสวยงามตระการตรามาก ไม่ต่างจากซีซั่นแรก ซึ่งส่วนนี้คือตัวดึงให้ผู้ชมยังติดอยู่กับซีรีส์นี้ได้มากกว่าเนื้อเรื่องจริงๆ ทุกอย่างถูกเก็บรายละเอียดเนี๊ยบมากด้วยเวลาสร้างแค่ไม่ถึง 2 ปี ซึ่งก็ทำให้ทุนสร้างมหาศาลตามไปด้วยครับ

 

สรุป ซีรีส์ยังคงมีงานสร้างที่สวยงามยิ่งใหญ่อลังการที่สุดในโลกตอนนี้เป็นตัวดึงให้ผู้ชมยังคงติดตามดูได้อยู่ แต่ก็มีจุดบอดเนื้อเรื่องที่เติมเต็มเขามายังไม่ดีมากพอและออกนอกต้นฉบับไปไกล ที่ดีสุดคือเรื่องของเซารอนที่มาล่อลวงเอลฟ์สร้างแหวนกับคู่ปรับอดาร์ที่ทรยศและตามล่าเซารอนคู่กับกาลาเดรียล เนื้อเรื่องสนุกที่ได้เห็นเรื่องราวตัวร้ายทั้งคู่ที่มีมิติลึกลงไปในใจมากกว่าแค่ตัวร้ายชั่วเลวตามปกติ แต่ส่วนของตัวละครอื่นๆ เนื้อเรื่องไม่ค่อยแข็งแรงพอ มีแค่โครงเรื่องสั้นๆ เพื่อเล่าไปให้ถึงจุดหมายที่ผู้ชมก็รู้อยู่แล้วแต่ก็ยืดเยื้อมาก และก็ไม่ใช่เส้นเรื่องหลักของเรื่องราวเซารอนที่จะไปจบที่ฉากสงครามเมืองเอริกิออนหลังทำแหวนเสร็จครบหมดยกเว้นวงแหวนเอกวงสุดท้ายที่จะไปต่อซีซั่น 3 ครับ (ยังไม่ประกาศ แต่น่าจะได้ทำต่อ)

อ่านรีวิวหนังซีรีส์ Amazon Prime VIDEO เพิ่มคลิกที่นี่