playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว Outside (Netflix) หนังซอมบี้ผสมจิตวิทยาปัญหาครอบครัวที่น่ากลัวยิ่งกว่า

Outside

Summary

หนังซอมบี้จากฟิลิปปินส์ที่ใช้ฉากโลกซอมบี้ระบาดโดยจำกัดวงไว้แคบๆ ได้อย่างสมเหตุผล แล้วหันไปเน้นการเล่าเรื่องพ่อที่ป่วยจิตพยายามยึดติดครอบครัวไว้ที่บ้านหลังเดียวในที่ห่างไกล จนกลายเป็นน่ากลัวมากกว่าซอมบี้เสียอีก แนะนำเลยนี่เป็นหนังซอมบี้แนวจิตวิทยาที่ใครชอบคิดเยอะจะถูกใจ แต่ถ้าต้องการฉากหนีฝูงซอมบี้หนังก็ยังพอมีให้ในจังหวะที่น้อยแต่ดีได้เหมือนกันครับ

Overall
7.5/10
7.5/10
Sending
User Review
5 (1 vote)

Pros

  • หนังซอมบี้ในวงแคบๆ
  • ปัญหาครอบครัวผสมจิตวิทยา
  • งานซอมบี้ทำออกมาดี
  • มีพากย์ไทย

Cons

  • การเล่าเรื่องช้าๆ เน้นดราม่าครอบครัว
  • ฉากซอมบี้สั้นๆ

 

ADBRO

Outside ภาพยนตร์ Original Netflix แนวซอมบี้จากฟิลิปปินส์ ครอบครัวหนึ่งต้องหนีตายไปอยู่ที่ฟาร์มห่างไกลในช่วงซอมบี้ระบาด แต่ปัญหาครอบครัวที่ฝังอยู่กลับถูกขุดขึ้นมาจนทำให้สถานการณ์เลวร้ายยิ่งกว่า
Outside (2024) on IMDb

 

รีวิว Outside

หนังซอมบี้ที่เล่าเรื่องซอมบี้ที่แตกต่างออกไปในโทนเอเชียผสมปัญหาครอบครัวได้อย่างแนบเนียน ด้วยการไม่เน้นฉากหนีหรือสู้ตายกับซอมบี้มากนัก แต่หันมาโฟกัสที่ปัญหาครอบครัวที่ซุกซ่อนอยู่ โดยการค่อยๆ เล่าเรื่องปัญหาในวัยเด็กของตัวละครสามีตั้งแต่ยังอยู่บ้านหลังนี้กับพ่อกับแม่และส่งผลมาถึงชีวิตเขาในปัจจุบัน จนกลายเป็นปัญหามากกว่าซอมบี้เสียอีก เมื่อสามีพยายามคิดว่าที่แห่งนี้คือที่ปลอดภัยไม่ต้องไปไหนอีกแล้ว แต่ฝ่ายภรรยาพยายามให้พาลูกๆ ไปหาแคมป์ทหารที่รอดตายที่อยู่ไม่ไกลจากนี้ หนังเล่าความขัดแย้งของทั้งคู่โดยมีสามีเป็นคนนำการตัดสินใจทำอะไรทุกครั้ง ซึ่งทั้งหมดก็มักจบลงด้วยการวนกลับมาที่ติดอยู่ในบ้านหลังนี้เสมอ ซึ่งเรื่องฉลาดในการค่อยๆ ใช้เหตุการณ์ที่สามีตัดสินใจทำอะไรแต่ละครั้งได้ค่อนข้างสมเหตุผลในทางร้ายๆ เพื่อให้ครอบครัวติดอยู่กับบ้านหลังนี้ โดยที่เรื่องราวเหล่านี้ก็กลมกลืนไปกับการเล่าเรื่องราวที่ค่อยๆ เดินหน้าลงลึกถึงปมในอดีตของเขาที่เผยขึ้นมาเรื่อยๆ การคลี่คลายปัญหาแต่ละครั้งเต็มไปด้วยความระทึกทั้งการเจอซอมบี้และการกระทำของเขาเองที่ดูประหลาดน่ากลัวขึ้นเรื่อยๆ จากปมทางจิตของสามีที่มีต่อภรรยาและลูกทั้งสองคน ซึ่งเขาพยายามใช้ลูกเป็นเครื่องมือทำให้ภรรยาไม่สามารถหาทางหนีออกไปจากเขาได้ โดยทั้งเรื่องเล่นกันหลักๆ แค่ 4 คน มีตัวละครคนอื่นเข้ามาแทรกบางช่วงสั้นๆ เท่านั้น แต่ก็ใช้ประโยชน์จากตัวละครจำกัดที่ตกอยู่ในบ้านที่พ่อป่วยจิตมีอำนาจกำกับควบคุมชีวิตทุกคนได้อย่างน่ากลัว โดยที่ซอมบี้เป็นแค่ตัวแปรเสริมในเหตุการณ์นี้เท่านั้นครับ

หนังยังเล่าเรื่องของภรรยาที่เหมือนเป็นคนอ่อนแอต้องพึ่งพิงสามี แต่ก็ค่อยๆ ทำให้เธอกล้าลุกขึ้นมาสู้มากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเห็นว่าการติดอยู่ที่นี่กับสามีเลวร้ายกว่าโลกด้านนอกที่มีซอมบี้เสียอีก เรื่อยค่อยๆ ยกระดับให้ตัวละครนี้ค่อยๆ กล้าหาญขึ้น แต่ก็ไม่ใช่การลุกขึ้นมาสู้กับสามีได้ตรงๆ เพราะเธอเองก็มีปมปัญหาชีวิตบางอย่างซ่อนไว้ ซึ่งสามีกุมความลับนั้นไว้ทำให้เธอไปไหนไม่ได้ และมันก็เชื่อมต่อส่งผลกับปมทางจิตของตัวสามีทำให้เขากลายมาเป็นคนรักครอบครัวแบบป่วยจิตอ่อนๆ มาก่อน แล้วโดนเหตุการณ์ซอมบี้ระบาดยกระดับทำให้ปัญหานี้หนักขึ้นมา ซึ่งหนังเล่าเรื่องพวกนี้โดยไม่ต้องอธิบายออกมาตรงๆ แต่เป็นบทพูดสนทนาอ้อมๆ ที่ทำให้ผู้ชมคิดต่อติดเรื่องพวกนี้เข้ากันได้เองครับ

ในส่วนของซอมบี้เอง ตัวเรื่องมีฉากซอมบี้ไม่เยอะ แต่ก็ไม่ใช่น้อยจนเหือดแห้ง แต่หนังใช้ประโยชน์จากซอมบี้ในเวลาต้องการใช้จริงๆ ถึงโผล่ออกมาเท่านั้น ซึ่งในแต่ละครั้งที่ซอมบี้ออกมาก็เป็นฉากระทึกเข้าสู่โหมดหนังซอมบี้เต็มๆ มีทั้งฝูงซอมบี้ที่วิ่งได้ ซอมบี้ล้อมบ้าน ซอมบี้ที่เป็นคนรู้จักมาก่อน หนังจัดซอมบี้แบบที่เคยเห็นกันมาทุกแบบ โดยไม่ได้เล่าถึงเหตุผลที่โลกนี้มีซอมบี้ระบาดเลย เพราะไม่มีความจำเป็นใดๆ กับเรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่ก็มีการแต่งเติมความสามารถพิเศษให้ซอมบี้ในเรื่องนี้ต้องติดการพูดประโยคหนึ่งซ้ำๆ แตกต่างกันไปในแต่ละคน  และมันส่งผลให้น่ากลัวขึ้นไปอีกเพราะเหมือนผีที่ติดในวังวนไม่ไปผุดไปเกิดครับ  

 

จุดด้อยของเรื่องที่เห็นหลักๆ ก็มีแค่การเล่าเรื่องที่เน้นดราม่าปมปัญหานี้มากกว่าซอมบี้ จนเรื่องอาจจะดูเอื่อยๆ ไม่เร้าใจ ฉากซอมบี้ก็สั้นไม่ได้ยาว แต่ก็เป็นธีมที่เรื่องนี้ต้องการสื่อถึงปัญหาครอบครัวในช่วงโลกล่มสลายว่ายังเกาะเกี่ยวกันไว้มั้ย และนี่เป็นโอกาสเริ่มชีวิตใหม่จริงหรือเปล่า ซึ่งคนปกติดีๆ ก็คงไม่คิดแบบนี้ แต่ในเรื่องสร้างให้พ่อที่ป่วยทางจิตคิด ซึ่งทำให้คนที่ชอบหนังซอมบี้แบบคิดเยอะน่าจะถูกใจมากกว่าครับ 

 

สรุป หนังซอมบี้จากฟิลิปปินส์ที่ใช้ฉากโลกซอมบี้ระบาดโดยจำกัดวงไว้แคบๆ ได้อย่างสมเหตุผล แล้วหันไปเน้นการเล่าเรื่องพ่อที่ป่วยจิตพยายามยึดติดครอบครัวไว้ที่บ้านหลังเดียวในที่ห่างไกล จนกลายเป็นน่ากลัวมากกว่าซอมบี้เสียอีก แนะนำเลยนี่เป็นหนังซอมบี้แนวจิตวิทยาที่ใครชอบคิดเยอะจะถูกใจ แต่ถ้าต้องการฉากหนีฝูงซอมบี้หนังก็ยังพอมีให้ในจังหวะที่น้อยแต่ดีได้เหมือนกันครับ

 

รวมรีวิว Netflix คลิกที่นี่

The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!