playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว Love Stuck รักวนลูป (Prime) งานรีเมคที่ยังคงเนื้อหาที่ดีไว้และเพิ่มความเป็นไทยมากขึ้น

Love Stuck รักวนลูป

Summary

หนังที่รีเมคดัดแปลงมาจากเรื่อง  The Map of Tiny Perfect Things ได้ดีไม่แพ้กัน แต่ต้นฉบับจะดูสดใสน่ารักกว่าเพราะช่วงอายุตัวละครเป็นวัยรุ่นต่างจากของไทยที่เริ่มก้าวเข้าวัยทำงาน แต่ลุคโทนของไทยก็มีพาร์ทดราม่าครอบครัวที่มากขึ้นได้อารมณ์ฟีลกู๊ดแบบไทยๆ แต่โดยรวมก็ยังคงเนื้อเรื่องเดียวกันแทบทั้งหมด ซึ่งส่วนนี้ดีตั้งแต่ต้นฉบับแล้ว ส่วนนักแสดงของไทยก็ยังเล่นได้ดีมีเสน่ห์  เจมส์เฮ้วๆ กวนๆ เหมือนต้นฉบับเลย แต่จูเน่จะดูขรึมๆ กว่าต้นฉบับ แต่ก็มีเสน่ห์แตกต่างไปอีกครับ ถ้าชอบเวอร์ชั่นไหนมาก่อนก็แนะนำให้ดูทั้งสองเวอร์ชั่นเลยครับ  

Overall
7/10
7/10
Sending
User Review
0 (0 votes)

Pros

  • รีเมคดัดแปลงมาจาก The Map of Tiny Perfect Things โดยคงเนื้อหาหลักไว้ทั้งหมด
  • จังหวะโมเมนต์สวยๆ ในกรุงเทพ
  • นักแสดงเจมส์กับจูเน่ที่มีเสน่ห์เข้าคู่กันลงตัว
  • เพิ่มพาร์ทเนื้อหาครอบครัวที่มีมากขึ้น

Cons

  • ส่วนจังหวะโมเมนต์ดีๆ ของไทยน้อยกว่าต้นฉบับ

ADBRO

‘Love Stuck รักวนลูป’ ภาพยนตร์ไทย Amazon Original เรื่องแรก ดัดแปลงจาก The Map of Tiny Perfect Things เรื่องราวของ ‘ทอย’ หนุ่มสุดกวนที่พบว่าตัวเองติดอยู่ในลูปเวลาและตื่นขึ้นในเช้าวันที่ 31 ธันวาคมซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทอยได้พบกับ ‘วี’ หญิงสาวลึกลับที่ติดอยู่ในลูปเวลาเดียวกัน ทั้งคู่จึงได้ใช้เวลาร่วมกันตามหาช่วงเวลาสมบูรณ์แบบที่อยู่รอบตัวพวกเขา เพื่อหาทางออกจากลูปนี้

รีวิว ‘Love Stuck รักวนลูป’

**รีวิวนี้เขียนแค่พวกความแตกต่างของทั้งสองเวอร์ชั่น ถ้าต้องการอ่านเนื้อหาอ่านจากรีวิว The Map of Tiny Perfect Things ได้เลยเพราะเนื้อเรื่องไม่แตกต่างกันมาก****

รีวิว The Map of Tiny Perfect Things

รีวิว The Map of Tiny Perfect Things แนววัยรุ่นวนลูปเวลาที่น่ารักโรแมนติกมากๆ

 

หนังที่รีเมคจากต้นฉบับที่ทำได้ดีมากอยู่แล้วของ Prime อเมริกา ปี 2021 โดยผู้กำกับหนังยาวเรื่องแรก จงดล สุกุลวรภัทร ซึ่งเขาก็หยิบเรื่องนี้มารีเมค ได้นักแสดง เจมส์-ธีรดนย์ กับ จูเน่-เพลินพิชญา มาเป็นนักแสดงนำที่มีเสน่ห์ดึงดูดผู้ชมได้เต็มๆ ซึ่งตัวนักแสดงของไทยเองก็เล่นในแนวทางเดียวกับต้นฉบับ แต่มีอายุที่มากขึ้นกว่าเด็กวัยรุ่นเป็นวัยเริ่มต้นทำงาน แต่ตัวพระเอกก็ยังคงลุควัยรุ่นเฮ้วๆ กวนๆ แบบของเจมส์ที่เคยเห็นกันมาบทพระรองบ่อยๆ แต่รอบนี้เขาคือพระเอก โดยมีจูเน่ในบทสาวบุคลิกขรึมเงียบๆ แต่มีเสน่ห์ ซึ่งลุคของนางเอกต้นฉบับดูสดใสกว่ามาก แต่ก็แค่ต่างสไตล์กันในส่วนปลีกย่อยซึ่งดูเป็นข้อดีมากกว่าจะเล่นให้เหมือนต้นฉบับครับ

ตัวเนื้อเรื่องมีความเหมือนกัน 70-80% ตั้งแต่ต้นจนจบ ซึ่งก็นับว่าเป็นข้อดีที่เรื่องราวหลักไม่มีการเปลี่ยนไป ของไทยเปลี่ยนแค่จังหวะเวลาเหตุการณ์เด่นๆ ของเมือง (เปอร์เฟ็กโมเมนต์) ในวันที่ 31 สิ้นปี ซึ่งต้นฉบับไมไ่ด้ระบุวันเวลาไว้ และพอเปลี่ยนจากอเมริกามาเป็นกรุงเทพ ก็ทำให้ได้เห็นมุมต่างๆ ของกรุงเทพที่สวยไปอีกแบบ แต่ของไทยจะเป็นฉากช่วงกลางคืนมากกว่า เสียแค่ว่าจังหวะเวลาพวกนี้ของไทยน้อยกว่าต้นฉบับสักหน่อยครับ แต่ฉากเด่นๆ ก็หยิบเอามาทำเหมือนกันอย่างรถปีกนางฟ้า เต่าที่คลานข้ามถนน หรือฉากที่ไทยทำได้ดีกว่าอย่างแผนที่เปอร์เฟ็กโมเมนต์ที่พระเอกในต้นฉบับวาดใส่กระดาษ แต่ของไทยทำเป็นสตรีทอาร์ทบนกำแพงซึ่งดูดีกว่า  รวมๆ แล้วก็ยังทำได้ดีไม่แพ้กันครับ

ส่วนที่ต่างกันเลยคือของไทยเน้นเรื่องปัญหาของตัวละครในครอบครัวมากกว่า โดยมีส่วนเนื้อเรื่องตรงนี้เพิ่มขึ้นมาทั้งน้องของพระเอกกับพ่อที่มีปมเล็กๆ ซ่อนอยู่และหนังก็ผลักดันส่วนนี้ให้มีความสำคัญมากขึ้น ซึ่งก็แทบจะคล้ายๆ กับสไตล์หนังไทยแบบ GDH แต่เป็นมุมเล็กๆ ในเรื่องที่ช่วยเติมพลังฟีลกู๊ดให้เรื่องได้มากขึ้นกว่าต้นฉบับ ส่วนของนางเอกแทบจะเหมือนกันหมดจนถึงปมสุดท้าย มีแค่ความฝันระหว่างทางที่ต่างกันออกไป เพราะไทยไม่ได้มีโครงการอวกาศแบบอเมริกาจึงทำไม่ได้ 

 

ดนตรีประกอบของเรื่องนี้ก็ยังทำได้เพราะๆ เหมือนต้นฉบับ แต่เป็นจังหวะดนตรีสากล และไม่มีเพลงไทยเลย ยกเว้นตอนจบเรื่องเท่านั้นครับ

 

สรุป หนังที่รีเมคดัดแปลงมาจากเรื่อง  The Map of Tiny Perfect Things ได้ดีไม่แพ้กัน แต่ต้นฉบับจะดูสดใสน่ารักกว่าเพราะช่วงอายุตัวละครเป็นวัยรุ่นต่างจากของไทยที่เริ่มก้าวเข้าวัยทำงาน แต่ลุคโทนของไทยก็มีพาร์ทดราม่าครอบครัวที่มากขึ้นได้อารมณ์ฟีลกู๊ดแบบไทยๆ แต่โดยรวมก็ยังคงเนื้อเรื่องเดียวกันแทบทั้งหมด ซึ่งส่วนนี้ดีตั้งแต่ต้นฉบับแล้ว ส่วนนักแสดงของไทยก็ยังเล่นได้ดีมีเสน่ห์  เจมส์เฮ้วๆ กวนๆ เหมือนต้นฉบับเลย แต่จูเน่จะดูขรึมๆ กว่าต้นฉบับ แต่ก็มีเสน่ห์แตกต่างไปอีกครับ ถ้าชอบเวอร์ชั่นไหนมาก่อนก็แนะนำให้ดูทั้งสองเวอร์ชั่นเลยครับ  

 

The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!