playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว The Remarkable Life of Ibelin (Netflix) หนังสารคดีที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังใจจากเกมเมอร์ในโลก World of Warcraft

The Remarkable Life of Ibelin

Summary

หนังสารคดีที่เล่าเรื่องโดยใช้โลกในเกมเป็นภาพออกมาให้เสมือนเรื่องราวจริงที่เต็มเปี่ยมด้วยพลังและแรงใจเกินคาดมาก จากเกมเมอร์ที่ป่วยด้วยโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงนับรอวันตายแบบไม่รู้ตัว ตัวตนของเขาในเกม World of Warcraft กลับช่วยผู้คนในชีวิตจริงไว้มากมายจนเป็นแรงบันดาลใจส่งต่อให้ทุกคนต่อไปได้แม้เขาจะเสียชีวิตไปแล้วก็ตาม และยังมีเรื่องราวจากมุมมองของคนที่ป่วยเป็นโรคนี้ที่สะเทือนใจไม่น้อยเมื่อไม่มีใครเข้าใจจิตใจของเขา แม้แต่ครอบครัวก็พึ่งมารู้เรื่องนี้หลังจากลูกชายเสียชีวิต แนะนำเลยว่าควรค่าแก่การดูมาก โดยเฉพาะเกมเมอร์ทั้งหลายไม่ว่าผู้ใหญ่หรือเด็กครับ

Overall
8/10
8/10
Sending
User Review
5 (1 vote)

Pros

  • หนังสารคดีจากเรื่องจริงของเกมเมอร์ที่ช่วยผู้คนไว้มากมายในชีวิตจริง
  • ได้ 2 รางวัลจากเทศกาลซันแดนซ์
  • เล่าเรื่องโดยใช้โลกในเกมเล่นให้เหมือนเป็นเหตุการณ์จริง
  • เรื่องราวจากมุมมองจริงๆ ของคนเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง

Cons

  • เคสในเรื่องมีน้อยไป (เพราะเป็นแค่หนังสั้นๆ)

ADBRO

The Remarkable Life of Ibelin  อีเบลิน สุดยอดชีวิตเกมเมอร์ หนังสารคดีจากนอร์เวย์ เรื่องราวชีวิตลับๆ ของเกมเมอร์คนหนึ่งที่ถูกเปิดเผยออกมาหลังเขาเสียชีวิตด้วยโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงที่เขาปกปิดคนในเกมมาตลอด
The Remarkable Life of Ibelin (2024) on IMDb

รีวิว The Remarkable Life of Ibelin

หนังสารคดีที่ได้รางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยมกับรางวัลขวัญใจจากผู้ชมในงานซันแดนซ์ เทศกาลภาพยนตร์หนังนอกกระแสที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา ทำให้หนังสารคดีเรื่องนี้มีดีจนเน็ตฟลิกซ์ซื้อมาไว้เป็นของตัวเอง ด้วยเรื่องราวของ Mats Steen เกมเมอร์ชาวนอร์เวย์เสียชีวิตด้วยโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงดูเชนน์ (Duchenne muscular dystrophy) เมื่ออายุ 25 ปี พ่อแม่ของเขาเศร้าโศก คิดว่าลูกชายไม่เคยมีชีวิตแบบคนอื่นๆ ในสังคมปกติเพราะมัวแต่เล่นเกมอย่างโดดเดี่ยว แต่หลังจากนั้นพวกเขาเริ่มได้รับข้อความจากเพื่อนในเกมออนไลน์ World of Warcraft ทั่วโลก จึงทำให้ครอบครัวได้รับรู้ถึงพลังของโลกดิจิตอลที่ช่วยเยียวยาจิตใจผู้คนได้มากกว่าสิ่งที่พวกเขาเคยเชื่อตลอดมา

หนังเน้นเล่าเรื่องราวจากฟุตเตจจริงที่มีถ่ายไว้ของครอบครัวนี้สั้นๆ ว่าแมตส์ป่วยด้วยโรคนี้มาตั้งแต่เด็ก และอาการก็ค่อยๆ แย่ลงจนต้องนั่งรถเข็น นั่นทำให้พวกเขาซื้อเกมบอยมาให้เล่นเนื่องจากเข้ากิจกรรมทางสังคมแบบเด็กคนอื่นๆ ไม่ได้ และก็ตามมาด้วยเกมออนไลน์ World of Warcraft ที่ลูกหมกหมุ่นใช้เวลามากกว่าเดิม แต่พวกเขาก็ไม่ได้คิดจะว่าอะไรเพราะเป็นสิ่งเดียวที่ลูกมีส่วนร่วมได้ จนกระทั่งเขาเสียชีวิตลง และครอบครัวคิดว่าจะต้องส่งข้อความบอกไปยังพวกคนในเกมที่ลูกชายเล่นด้วย จึงเขียนลงบล็อกของลูกชายไว้สั้นๆ แต่กลายเป็นว่าพวกเขาได้รับอีเมล์จำนวนมากส่งกำลังใจกลับมาและเล่าเรื่องของนักสืบ ‘อีเบลิน’ ตัวละครแบบโรลเพลย์ที่เขาเล่นและช่วยคนมาตลอดให้พวกเขาฟัง นั่นคือจุดเริ่มของการสร้างสารคดีนี้ขึ้นมาผ่านตัวละครในเกมแทนเหมือนเหตุการณ์จริงๆ ทื้เกิดขึ้นเวลานั้น โดยมีสตอรี่พวกนี้เป็นเหมือนบทให้ทางสารคดีได้ใช้มาเชื่อมต่อประกอบเล่าเรื่องชีวิตของแมตส์ในเกมนี้ให้ทุกคนได้เห็นว่าเขาได้ช่วยคนไว้มากมายแค่ไหนครับ

ตัวเรื่องเล่าโดยใช้ภาพมุมมองจากโลกในเกม 70-80% ทำให้เป็นเหมือนหนัง เป็นการเล่าโดยมีเสียงพากย์คนที่เหมือนตัวจริงของตัวละครนั้นมาแทน ซึ่งทุกคนเล่นแบบโรลเพลย์คือการสมมุติบทบาท ‘อีเบลิน’ เป็นนักสืบ มีนามบัตรแจก แต่จริงๆ เขากลับเป็นเหมือนนักจิตวิทยาบำบัดมากกว่า เพราะสารคดีนำเสนอเคสที่เขาช่วยเหลือก็คือผู้หญิงที่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้าและเป็นรักแรกของเขา ซึ่งก็คือความรักจริงๆ ในเกมที่ผ่านบทบาทสมมุติ ซึ่งตัวละครนี้สารคดีจะพาไปพบตัวจริงและเล่าเรื่องราวอีกด้านให้ฟัง ซึ่งมันจะช่วยยืนยันบางอย่างที่หนังเปิดเผยมาตอนแรก และเป็นเรื่องราวซึ้งๆ ของความรักบริสุทธิ์ที่แมตส์ไม่ยอมเปิดเผยว่าตัวเองก็ป่วยด้วยเลยแม้แต่น้อย 

 

เคสต่อมาก็คือแม่ที่มีลูกเป็นออทิสติกทำให้สื่อสารกันไม่ได้ ลูกชายไม่ยอมออกจากห้องไปเรียนมา 4 ปี ซึ่งแมตส์หาวิธีให้แม่พาลูกชายเข้ามาเล่นเกมด้วยกันได้ แล้วก็กลายเป็นการสื่อสารแม่กับลูกในเกมที่พัฒนาไปจนทำให้ชีวิตทั้งคู่เข้าหากันได้จริงๆ ซึ่ง 2 คนนี้คือคนที่แมตส์ยอมเปิดใจเผยว่าตัวเองป่วยเป็นคนแรกหลังเก็บเงียบมาตลอดเกือบสิบปี 

หนังยังสะท้อนให้เห็นว่าแมตส์ก็เหมือนคนปกติธรรมดาที่มีความผิดพลาดได้ทางอารมณ์ มีความรู้สึกโกรธเคือง หาเรื่องทำตัวไม่ดีในเกมหลังจากที่คนในกิลด์พบปะกันจริงๆ ยกเว้นเขาที่ไม่ไปร่วมงานด้วย ซึ่งแต่ละคนต้องบินข้ามประเทศมาเจอกันเลย ซึ่งทำให้เขารู้สึกแปลกแยกแต่ก็ไม่กล้าบอกใครว่าเพราะอะไร จนทำให้เขาถึงกับคิดว่าโลกในเกมก็ไม่ใช่ทางออกของเขาแล้วเหมือนกัน แต่เขาก็ได้ค้นพบว่าจริงๆ แล้วเขาหนีตัวเองมากกว่า และยอมเปิดเผยตัวเองในที่สุด ซึ่งก็ทำให้เขาได้สิ่งดีๆ กลับมาในโลกจริงเช่นกัน

 

สรุป หนังสารคดีที่เล่าเรื่องโดยใช้โลกในเกมเป็นภาพออกมาให้เสมือนเรื่องราวจริงที่เต็มเปี่ยมด้วยพลังและแรงใจเกินคาดมาก จากเกมเมอร์ที่ป่วยด้วยโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงนับรอวันตายแบบไม่รู้ตัว ตัวตนของเขาในเกม World of Warcraft กลับช่วยผู้คนในชีวิตจริงไว้มากมายจนเป็นแรงบันดาลใจส่งต่อให้ทุกคนต่อไปได้แม้เขาจะเสียชีวิตไปแล้วก็ตาม และยังมีเรื่องราวจากมุมมองของคนที่ป่วยเป็นโรคนี้ที่สะเทือนใจไม่น้อยเมื่อไม่มีใครเข้าใจจิตใจของเขา แม้แต่ครอบครัวก็พึ่งมารู้เรื่องนี้หลังจากลูกชายเสียชีวิต แนะนำเลยว่าควรค่าแก่การดูมาก โดยเฉพาะเกมเมอร์ทั้งหลายไม่ว่าผู้ใหญ่หรือเด็กครับ

รวมรีวิว Netflix คลิกที่นี่

 

The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!