playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว The Helicopter Heist ปล้นทะลุฮอ (Netflix) ฉากปล้นละเอียดลึกพร้อมโชว์ลองเทคสุดระทึก!

The Helicopter Heist

Summary

ซีรีส์ปล้นโดยใช้เฮลิคอปเตอร์ที่มาจากเรื่องจริงของคดีใหญ่ในประวัติศาสตร์สวีเดน แต่แต่งเติมปูมหลังตัวละครเพิ่มเข้าไป ทำให้เรื่องมีรายละเอียดลึกมากขึ้นไปอีก ช่วง 3 ตอนแรกอาจจะธรรมดาดูน่าเบื่อไปหน่อย แต่พอหลังตอน 4 ไปเรื่องจุดติดด้วยความสมจริงของฉากปล้นที่กลุ่มโจรวางแผนไว้อย่างละเอียด แต่หน้างานกลับมีแต่เรื่องผิดแผนปรากฏขึ้นเต็มไปหมด โดยช่วงนี้ถูกถ่ายทำผ่านฉากลองเทคยาว 30 กว่านาทีแสดงให้เห็นแรงกดดันหน้างานที่ระทึกสมจริงแบบที่เรื่องอื่นไม่เคยทำมาก่อน ซีรีส์ทำฉากนี้ได้น่าทึ่งมากจนถึงช่วงการหนีและตำรวจตามสืบไล่ล่าช่วงหลังก็มีขั้นตอนที่ลึกละเอียดน่าติดตาม ตบท้ายด้วยดราม่าตอนจบที่สะเทือนใจพร้อมฉากจบที่คดีปิดตามจริง ซึ่งยังมีเรื่องที่คาดไม่ถึงตบท้ายได้อีกครับ แนะนำเลยว่าเรื่องนี้ทำได้แตกต่างและคุ้มค่ามากครับ

 

Overall
7.5/10
7.5/10
Sending
User Review
0 (0 votes)

Pros

  • คดีปล้นครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์สวีเดน
  • ฉากปล้นลองเทคสมจริงมาก
  • เรื่องลึกในรายละเอียดการปล้นมากทั้งฝ่ายตำรวจและโจร
  • มีพากย์ไทย

Cons

  • ช่วง 3 ตอนแรกปูเรื่องก่อนปล้นธรรมดาไป
  • ดราม่าแรงจูงใจโจรตามสูตรมากไปหน่อย

 

ADBRO

The Helicopter Heist ปล้นทะลุฮอ ซีรีส์ Original Netflix 8 ตอนจบ มีพากย์ไทย สร้างจากเรื่องจริงของคดีปล้นเงินครั้งใหญ่สุดของสวีเดน เรื่องราวเบื้องหลังของแก๊งโจรที่วางแผนปล้นที่เก็บเงินบนตึกสูง โดยใช้เฮลิคอปเตอร์เป็นพาหนะเข้าปล้นและหลบหนีไปโดยไม่มีการยิงแม้แต่นัดเดียว

The Helicopter Heist (2024) on IMDb

รีวิว The Helicopter Heist ปล้นทะลุฮอ

ดูภายนอกนี่เหมือนซีรีส์ปล้นที่เป็นแนวยอดนิยมของ Netflix ธรรมดา ซึ่งช่วงหลังมีหลายเรื่องมาก โดยส่วนใหญ่เป็นเรื่องแต่งขึ้นมาให้มีฉากตื่นเต้นหวาดเสียวไปกับการปล้น แต่กับเรื่องนี้ต่างออกไปเมื่อมันเป็นเรื่องจริงของคดีปล้นที่น่าทึ่งที่สุดในประวัติศาสตร์สวีเดนปี 2009 โดยผู้เขียนเรื่องนี้เอาโครงเรื่องจริงของการปล้นมาทั้งหมดแล้วเติมแต่งรายละเอียดเบื้องหลังแรงจูงใจของตัวละครเพิ่มเข้าไป ทำให้เรื่องราวในซีรีส์นี้ลึกละเอียดซับซ้อนสมจริงยิ่งกว่าพวกเรื่องแต่งมากขึ้นไปอีกครับ

ซีรีส์เล่าเรื่องโดยแยกเป็น 2 ส่วน ครึ่งแรก 4 ตอนเป็นจุดเริ่มของความคิดในการปล้นที่มีกลุ่มโจรมืออาชีพที่มีปัญหาส่วนตัวและต้องการเงินก้อนใหญ่ ส่วนอีกด้านทางตำรวจก็ได้รับเบาะแสว่าจะมีการลงมือปล้นครั้งใหญ่จึงตามสืบแกะรอยเพื่อหยุดยั้งโจรกลุ่มนี้ เนื้อเรื่องในช่วงนี้จึงเป็นเหมือนแค่จุดเริ่มที่ค่อนข้างธรรมดากับการปูแรงจูงใจของตัวละครเอกอย่าง ‘รามี่’ อดีตโจรมืออาชีพที่มีครอบครัวแล้วถูกกดดันจากสังคมจนตัดสินใจกลับมาลงมืออีกครั้งเพื่อครอบครัว โดยมี ‘มิเชล’ เพื่อนคู่หูในอดีตที่ยังวนเวียนอยู่กับวงการเทาๆ เป็นคนวางแผนนี้ ส่วนฝ่ายตำรวจก็คือ ‘เลโอนี’ ตำรวจหญิงที่มีกำลังมีปัญหาถูกสอบสวนจากการทำเกินหน้าที่ในการปฏิบัติงาน แต่กลับได้รับคดีสืบหากลุ่มโจรพวกนี้ ซึ่งเรื่องราวในช่วงนี้ค่อนข้างอืดและดูเป็นเรื่องแต่งขึ้นมาตามปกติทั่วไปมาก มีช่วงที่ดูสมจริงแค่สั้นๆ กับขั้นตอนการวางแผนของโจรที่ต้องเตรียมความพร้อมทุกอย่าง แม้แต่การเทสต์ระเบิดดาดฟ้าตึกต้องลองกับตึกเหมือนจริง ขั้นตอนฝ่ายตำรวจที่กำลังแกะรอยคนร้ายกลุ่มนี้ได้ยังไง ซึ่งก็สนุกแค่สั้นๆ บางฉาก จนเรื่องเริ่มมาเข้มข้นขึ้นในตอน 4 ที่กลุ่มโจรพร้อมลงมือแล้ว

หลังจากตอน 4 ไปเรื่องเดินหน้าลุยแบบเต็มสูบไม่มีอืดอีกแล้ว เป็นฉากปฏิบัติการปล้นแบบสมจริงที่ถูกฉายภาพให้เห็นว่าแม้โจรจะวางแผนรัดกุมแค่ไหน แต่หน้างานจริงๆ กลับมีแต่เรื่องทำให้หลุดแผนอยู่เต็มไปหมด ซึ่งซีรีส์บอกเล่าทุกรายละเอียดความผิดพลาดนี้ออกมาจริงตามรายงานของคดีที่เกิดขึ้นจริง ถึงโจรที่ถูกจับได้ตอนหลังจะไม่เปิดปาก แต่หลักฐานต่างๆ กับไทม์ไลน์ที่ตำรวจสืบมาก็เชื่อมโยงทำให้ย้อนกลับไปเห็นรายละเอียดที่โจรทำผิดพลาดไว้ทั้งหมด ตั้งแต่จุดเริ่มก่อนปล้นที่ทุกคนวางแผนหายตัวกลมกลืนไปกับชีวิตปกติที่เตรียมไว้มาตลอด จนมาถึงนักบินที่เป็นช่องโหว่ใหญ่สุดของแผนเพราะเขาไม่ใช่อาชญากรมาก่อน แต่ร้อนเงินจนต้องรับงานนี้และทำให้เขาเกิดอาการแพนิคจนหลุดทิ้งรายละเอียดไว้มากมายไม่เป็นไปตามแผนที่โจรคิดไว้ ซึ่งซีรีส์ทำให้เห็นปัญหาที่เกิดขึ้นแบบละเอียดยิบว่าเขาคิดยังไงในระหว่างการปล้นและเกิดอะไรขึ้นกับช่องโหว่ที่เขาทำผิดพลาดนอกแผนเองโดยที่ฝ่ายโจรก็ไม่รู้ตัวด้วยเช่นกัน

แต่จุดที่ซีรีส์ทำได้โดดเด่นมากๆ ก็คือฉากบุกเข้าไปในตึกจากเฮลิคอปเตอร์โดยใช้การถ่ายทำแบบลองเทค ฉากนี้ตามแผนของโจรคือ 15 นาทีจบแบบชิลๆ แต่ว่าพอถึงหน้างานจริงหลายอย่างกลับไม่เป็นไปตามแผน ซีรีส์ใช้การถ่ายลองเทคตั้งแต่การพูดคุยกันในฮอ แล้วก็ลงมือปฏิบัติการบุกเข้าไปโดยใช้กล้องจับภาพยาวๆ ต่อเนื่องทำให้เห็นทุกรายละเอียดขั้นตอนการเข้าปล้นจริงๆ ที่โจรต้องพลิกแพลงเปลี่ยนแผนกันสดๆ เวลาเจอปัญหาหน้างาน แต่ยังไงก็ต้องเจาะเข้าไปให้ได้ ซึ่งช่วงนี้คือตำรวจก็รู้ตัวแล้วและมาล้อมตึกไว้ ซีรีส์ถ่ายลองเทคได้กดดันมากทีละจุดๆ ตั้งแต่การลงไปในตึก ทุบกระจกนิรภัยที่ทนทานมาก การระบิดประตูห้องนิรภัย บทสนทนาที่เต็มไปด้วยการถกเถียงก่นด่ากันในกลุ่มโจรเพราะเจอแต่เรื่องผิดแผนที่วางไว้ (บางช่วงคิดว่าด้นสดพูดออกมาด้วย) จนถึงการสื่อการกับนักบินเฮลิคอปเตอร์ที่บินลอยอยู่เหนือตึกด้วยอาการหวาดวิตกจะหนีไปอยู่ตลอดเวลาเพราะนำ้มันใกล้หมด แสดงให้เห็นความระทึกที่ถูกถ่ายทอดกันออกมาทุกวินาทีเลย อีกทั้งมีการตัดผ่านลองเทคจากโจรไปยังฝั่งตัวประกันที่อยู่ด้านในห้องนิรภัยด้วย โดยที่ก็ยังใช้ลองเทคถ่ายทอดออกมาให้เห็นว่าพวกเขาตื่นตกใจแค่ไหนเมื่อมีโจรบุกมาระเบิดประตูที่ทำงานกันสดๆ ซึ่งซีรีส์ทำฉากปล้นลองเทคนี้ได้ลุ้นระทึกสุดๆ นักแสดงต้องซ้อมคิวกันเหมือนปล้นจริง คิดว่าตัวเองเป็นโจรจริงๆ ทำตามลำดับกันจนถึงขั้นตอนการขนเงินหนีซึ่งยาวมากกว่า 30 นาที ยอมรัยเลยว่านี่เป็นการครีเอทฉากปล้นที่สมจริงมากที่สุดที่เคยดูหนังซีรีส์มาเลยครับ

แต่หลังจากหลบหนีไปได้แล้ว เรื่องก็ยังมีความน่าติดตามต่อเนื่อง เมื่อทำให้เห็นว่าอาชญากรกำลังหาทางกลบร่องรอยความผิดพลาดที่ทิ้งไว้ยังไง ซึ่งไม่ใช่แค่นักบินที่ผิดพลาด แต่ยังมีคนอื่นอีกที่ทิ้งร่องรอยให้ตำรวจตามสืบกลับมาได้ ซึ่งตอนนี้คือช่วงของตำรวจหญิงเลโอนีในตอนแรกได้กลับมาทำหน้าที่คุมการสืบสวนทั้งหมด เรื่องราวด้านนี้เป็นการสืบสวนเชิงลึกที่ซีรีส์ก็ยังเข้มข้นเกาะติดว่าทุกรายละเอียดแบบเห็นทุกขั้นตอนที่หนังซีรีส์ทั่วไปก็มักไม่ได้ลงรายละเอียดไว้ และถึงแม้จะรู้ว่านักบินเป็นใคร แต่ก็ต้องมีหลักฐานยืนยันมากกว่านั้น รวมถึงต้องรวบโจรทั้งแก๊งทีเดียวหมดเพื่อไม่ให้คนที่เหลือหลบหนีไปได้  ซีรีส์ก็เลือกโฟกัสที่ตัวเอกโจรรามี่ในตอนแรก ดึงเรื่องราวดราม่าครอบครัวเขากลับมาเล่นอีกครั้ง จนเป็นตอนจบที่ผู้ชมก็ต้องแอบเอาใจช่วยเขาอยู่บ้างกับความรักครอบครัวแม้กระทั่งตอนหนี โดยเรื่องก็จบลงตามคดีจริงที่เกิดขึ้นและมีส่วนที่คาดไม่ถึงแตกต่างจากพวกหนังซีรีส์ที่แต่งขึ้นมาอีกด้วยครับ 


สรุป ซีรีส์ปล้นโดยใช้เฮลิคอปเตอร์ที่มาจากเรื่องจริงของคดีใหญ่ในประวัติศาสตร์สวีเดน แต่แต่งเติมปูมหลังตัวละครเพิ่มเข้าไป ทำให้เรื่องมีรายละเอียดลึกมากขึ้นไปอีก ช่วง 3 ตอนแรกอาจจะธรรมดาดูน่าเบื่อไปหน่อย แต่พอหลังตอน 4 ไปเรื่องจุดติดด้วยความสมจริงของฉากปล้นที่กลุ่มโจรวางแผนไว้อย่างละเอียด แต่หน้างานกลับมีแต่เรื่องผิดแผนปรากฏขึ้นเต็มไปหมด โดยช่วงนี้ถูกถ่ายทำผ่านฉากลองเทคยาว 30 กว่านาทีแสดงให้เห็นแรงกดดันหน้างานที่ระทึกสมจริงแบบที่เรื่องอื่นไม่เคยทำมาก่อน ซีรีส์ทำฉากนี้ได้น่าทึ่งมากจนถึงช่วงการหนีและตำรวจตามสืบไล่ล่าช่วงหลังก็มีขั้นตอนที่ลึกละเอียดน่าติดตาม ตบท้ายด้วยดราม่าตอนจบที่สะเทือนใจพร้อมฉากจบที่คดีปิดตามจริง ซึ่งยังมีเรื่องที่คาดไม่ถึงตบท้ายได้อีกครับ แนะนำเลยว่าเรื่องนี้ทำได้แตกต่างและคุ้มค่ามากครับ

 


 

รวมรีวิว Netflix คลิกที่นี่

The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!