รีวิว La Palma ซีรีส์เกรด B Netflix ที่มีดีแค่ฉากสึนามิสั้นๆ ตอนท้ายเท่านั้น…
La Palma
Summary
ซีรีส์ภูเขาไฟระเบิดแล้วตามด้วยสึนามิยักษ์ที่คุณภาพเหมือนหนังเกรด B โดยอิงจากเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงบนเกาะลาปัลมาในปี 2021 แต่ซีรีส์เดินเรื่องด้วยดราม่าชีวิตตัวละครเวิ่นเว้อนอกเรื่องไปมาก ทุกตัวละครมีฉากการตัดสินใจบ้งๆ ที่ไม่เมคเซนส์หลายครั้ง เรื่องมีดีแค่ช่วงสึนามิถล่มตอนท้ายสั้นๆ ที่ทำได้น่ากลัวดีเท่านั้น ซึ่งถ้าใครอยากดูไวๆ ก็กรอไปดูแค่ตอน 4 สุดท้ายเลยก็ได้ครับ
Overall
6/10User Review
( vote)Pros
- ฉากภูเขาไฟระเบิดแล้วตามด้วยสึนามิยักษ์ในตอน 4
- มีพากย์ไทย
Cons
- เนื้อเรื่องเน้นชีวิตส่วนตัวที่นอกเรื่องมากจนเกินไป
- การตัดสินใจตัวละครในช่วงท้ายไม่สมเหตุผล
La Palma ลิมิเต็ดซีรีส์ 4 ตอนจบ จากนอร์เวย์ ภูเขาไฟกุมเบรบีเอฆา บนเกาะลาปัลมา กลับมาระเบิดอีกครั้ง และส่งผลให้มีสึนามิใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์
รีวิวซีรีส์ La Palma (Netflix)
ซีรีส์ขนาดสั้น 4 ตอนจบ ความยาวรวม 181 นาที รวมเครดิต โดยเป็นเรื่องราวของครอบครัวชาวนอร์เวย์ที่ไปเที่ยวเกาะลาปัลมาที่เคยมีเหตุปะทุลาวาไหลลงมาท่วมพื้นที่ในปี 2021 ซึ่งเกาะนี้อยู่ที่สเปน แต่ทีมสร้างเรื่องนี้คือนอร์เวย์ ตัวละครในเรื่องที่สำคัญจึงเป็นคนนอร์เวย์ทั้งหมด โดยมีครอบครัวพ่อแม่ลูกชายลูกสาว กลุ่มนักธรณีวิทยาที่เชี่ยวชาญด้านภูเขาไฟ และหน่วยงานเตือนภัยของรัฐบาลนอร์เวย์มาเกี่ยวข้อง ซึ่งก็ต้องบอกว่าเนื้อเรื่องส่วนใหญ่คือแนวดราม่าชีวิตส่วนตัวที่ไม่ได้เกี่ยวกับภูเขาไฟระเบิดเลย อย่างลูกสาวที่เก็บซ่อนว่าตัวเองเป็นเลสเบี้ยนแล้วตกหลุมรักผู้หญิงที่มาท่องเที่ยวด้วยกัน พ่อกับแม่ที่ทะเลาะกันเรื่องชีวิตครอบครัว ลูกชายที่เป็นเหมือนเด็กออทิสติกที่พ่อแม่ต้องคอยดูอยู่ตลอด นักธรณีวิทยาก็มีปัญหาน้องชายที่มาหาพี่เพราะขาดที่พึ่ง ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นดราม่านอกเรื่องใน 3 ตอนแรกจนดูน่าเบื่อ แถมพอถึงช่วงวิกฤตบทของการเอาชีวิตรอดการตัดสินใจของแต่ละครก็ประหลาดๆ หลายครั้งจนทำให้บทดูแย่ขึ้นไปอีก อย่างเช่น ทิ้งเครื่องบินที่กำลังจะขึ้นเพื่อไปตามหาลูกที่หายตัวไปตามแฟน หรือพ่อที่ทิ้งที่นั่งในเรือไปหาครอบครัวเพื่อช่วยผู้หญิงอุ้มลูก นักวิทยาศาสตร์ที่เดินขึ้นภูเขาไฟเพื่อไปกินไวน์บนนั้นก่อนตาย ซึ่งหลายฉากไม่เมคเซนส์มากว่าทำไปเพื่ออะไร นอกจากต้องการแค่หาทางยัดฉากดราม่าแทรกในช่วงหายนะนี้เท่านั้น
เนื้อเรื่องที่มีเนื้อหนังจับต้องได้จริงๆ กับภูเขาไฟระเบิดก็คือ ช่วงของการตัดสินใจเตือนภัยที่แทรกมาเป็นช่วงๆ จากนักธรณีวิทยาที่ถกเถียงกันหาหลักฐานที่จะยืนยันให้ได้ โดยมีฉากที่ทำให้เห็นว่ารัฐบาลก็มีปัญหากับการตัดสินใจอพยพก่อนดีหรือไม่ เพราะถ้าผิดพลาดไปคือความรับผิดชอบการเมืองก็สูงตามมา แล้วก็มีฉากภูเขาไฟระเบิดจนทำให้เกาะส่วนหนึ่งถล่ม เกิดเป็นสึนามิสูงแพร่วงกว้างไปทั่ว ซึ่งก็คือตอน 4 สุดท้าย ซีรีส์สร้างฉากสึนามิได้น่ากลัวแบบหนังหายนะล้างโลก แต่ก็มีพื้นที่ให้ลุ้นไปหลบภัยได้กันตอนท้ายที่ทุกคนต่างมุ่งไป แต่ว่าตัวสึนามิเองก็ทำได้ไม่สมจริงตรงมีแค่ฉากถล่มตอนแรกสั้นๆ แต่ไม่มีฉากหายนะภายหลังที่ทุกอย่างจะถูกลากกลับลงทะเลไป ซึ่งช่วงนี้คือร้ายแรงยิ่งกว่าอีก แต่เรื่องทำเหมือนแค่คลื่นซัดมาแล้วก็แห้งจบในทันที ถือว่าทีมสร้างบกพร่องมากครับ
สรุป ซีรีส์ภูเขาไฟระเบิดแล้วตามด้วยสึนามิยักษ์ที่คุณภาพเหมือนหนังเกรด B โดยอิงจากเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงบนเกาะลาปัลมาในปี 2021 แต่ซีรีส์เดินเรื่องด้วยดราม่าชีวิตตัวละครเวิ่นเว้อนอกเรื่องไปมาก ทุกตัวละครมีฉากการตัดสินใจบ้งๆ ที่ไม่เมคเซนส์หลายครั้ง เรื่องมีดีแค่ช่วงสึนามิถล่มตอนท้ายสั้นๆ ที่ทำได้น่ากลัวดีเท่านั้น ซึ่งถ้าใครอยากดูไวๆ ก็กรอไปดูแค่ตอน 4 สุดท้ายเลยก็ได้ครับ