รีวิว The Sand Castle (Netflix) สวยแค่งานภาพ การเล่าเรื่องอินดี้เกินไป
The Sand Castle
Summary
หนังจากเลบานอนที่ถ่ายทำจัดฉากองค์ประกอบภาพได้สวย มีความจริงผสมจินตนาการกึ่งแฟนตาซีนิดๆ แต่การเล่าเรื่องกลับเป็นแนวหนังอินดี้มากไป ไม่ใช่หนังแนวติดเกาะเอาชีวิตรอดจริง โดยพยายามใส่ปริศนาครอบครัวบนเกาะร้างที่มีสิ่งของเครื่องใช้แม้แต่ที่พักพร้อมสรรพ ปนไปกับเหตุการณ์แปลกที่มาเรื่อยๆ แต่กลับไม่มีคำใบ้อธิบายให้ผู้ชมทั่วไปคิดตามทันได้เลย จนกระทั่งตอนจบสุดท้ายถึงเฉลยคำตอบออกมา แต่ก็ไม่ได้แปลกใหม่เพราะมีหลายเรื่องทำออกมาแล้ว ถึงมันอาจจะดูเข้ากันดีกับสถานการณ์ของประเทศต้นทาง แต่สำหรับผู้ชมทั่วไปมันก็ยากเกินกว่าจะเข้าใจในระหว่างดูได้จริงๆ ครับ ผ่านได้ผ่านเลย ยกเว้นอยากดูงานภาพสวยๆ ก็แนะนำให้ลองรับชมได้อยู่ครับ
Overall
5.5/10User Review
( votes)Pros
- งานภาพสวย
Cons
- การเล่าเรื่องอินดี้มากเกินไป
- ไม่ใช่แนวหนังติดเกาะเอาชีวิตรอด
- ไม่มีพากย์ไทย
The Sand Castle ปราสาททราย ภาพยนตร์ Original Netflix แนวดราม่าจากเลบานอน สมาชิกในครอบครัว 4 คน ต้องติดอยู่บนเกาะร้างโดดเดี่ยว ในขณะที่มีเหตุการณ์ประหลาดมากมายค่อยๆ เกิดขึ้นบนเกาะ
รีวิว The Sand Castle ปราสาททราย (ไม่สปอยล์)
หนังจากเลบานอนพูดภาษาอาหรับเรื่องนี้เป็นหนังอินดี้ที่ฉายไปปี 2024 ก่อนที่เน็ตฟลิกซ์จะซื้อมาฉายวงกว้างทั่วโลก หลักๆ เลยก็คงเพราะองค์ประกอบความโดดเด่นด้านภาพ ซึ่งมันโดดเด่นมากจนเหมือนหนังที่ตั้งใจขายงานศิลป์มากกว่าถ่ายทอดเรื่องราวจริงๆ ฉากในเรื่องบนเกาะดูอ้างว้างโดดเดี่ยว แต่มีสีสันจากสิ่งของต่างๆ ตัดกับความโดดเดี่ยวนั้น รวมถึงจินตนาการของเด็กในเรื่องบางครั้งที่สร้างฉากสวยแปลกๆ ขึ้นมาแบบเดียวกับหนังเรื่อง Pan’s Labyrinth แค่ไม่ได้เป็นแฟนตาซีสุดทางแบบนั้น แต่ก็มีความเหนือจริงอยู่เช่นกัน ซึ่งถ้าใครชอบเสพงานด้านภาพหนังเรื่องนี้ตอบสนองได้ดีพอตัวเลย
แต่ทางด้านเนื้อเรื่องหนังแทบจะสอบตกไปกับการเล่าเรื่องที่เต็มไปด้วยปริศนาแบบเล่าด้านเดียวไม่เฉลยออกมาเลยในระหว่างทาง เมื่อเรื่องราวเปิดมาเป็น 4 คน พ่อแม่ลูกต่างมาติดเกาะโดยไม่เล่าต้นสายปลายเหตุ มีเพียงแค่เสียงข่าวจากวิทยุว่ามีเรือล่ม แต่นั่นก็ทำให้เกิดคำถามขึ้นมาทันทีว่าแล้วสิ่งของเครื่องต่างๆ บนเกาะมาได้อย่างไร อย่างวิทยุ วอล์คแมน มีกระท่อมกับประภาคารปั่นไฟได้ ภายในบ้านก็มีที่นอน มีจานชามช้อน แม้แต่กาแฟก็ยังมีให้ชงกิน แถมสภาพครอบครัวก็ดูไม่เหมือนคนติดเกาะมานาน ทุกอย่างดูชิลๆ เด็กหญิงก่อปราสาททรายไว้ริมทะเล ตัวละครทุกดูเฉยๆ ไม่ได้มีความพยายามเอาชีวิตรอดมากแบบหนังติดเกาะ แต่ก็พยายามหาทางไปจากเกาะอยู่ตลอดเวลาโดยมีวิทยุติดต่อไปยังภายนอกได้ แค่ยังไม่มีการตอบรับกลับมาเท่านั้น ตัวเด็กก็มักเจอเรื่องประหลาดฝันถึงคนนอนนิ่งๆ จำนวนมากในยามค่ำคื่น ก่อนที่เรื่องค่อยๆ งวดขึ้นมาเมื่อพ่อก็บาดเจ็บ แม่ก็มีปัญหาตามมาเหลือเด็กเพียงสองคนในสถานการณ์น้ำกำลังท่วมเกาะ ซึ่งเรื่องราวทั้งหมดมีแต่การสร้างคำถามขึ้นในหัวผู้ชม โดยไม่มีคำใบ้หรือคำตอบเฉลยออกมาเลย จนกระทั่งตอนจบเรื่องขึ้นเครดิตถึงเฉลย ซึ่งมันอาจจะดูเข้ากันกับสถานการณ์ของประเทศต้นทาง แต่สำหรับผู้ชมทั่วไปมันก็ยากเกินกว่าจะเข้าใจในระหว่างดูได้ครับ ซึ่งถ้าใครอินกับประเด็นในเรื่องนี้มาก็อาจจะชอบ แต่สำหรับผู้เขียนรู้สึกว่ามีหนังที่เล่าเรื่องแบบเดียวกันได้ดีกว่าเยอะครับ (มีหลายเรื่องและแอบสปอยล์ไว้แล้วในตอนต้น)
สรุป หนังจากเลบานอนที่ถ่ายทำจัดฉากองค์ประกอบภาพได้สวย มีความจริงผสมจินตนาการกึ่งแฟนตาซีนิดๆ แต่การเล่าเรื่องกลับเป็นแนวหนังอินดี้มากไป ไม่ใช่หนังแนวติดเกาะเอาชีวิตรอดจริง โดยพยายามใส่ปริศนาครอบครัวบนเกาะร้างที่มีสิ่งของเครื่องใช้แม้แต่ที่พักพร้อมสรรพ ปนไปกับเหตุการณ์แปลกที่มาเรื่อยๆ แต่กลับไม่มีคำใบ้อธิบายให้ผู้ชมทั่วไปคิดตามทันได้เลย จนกระทั่งตอนจบสุดท้ายถึงเฉลยคำตอบออกมา แต่ก็ไม่ได้แปลกใหม่เพราะมีหลายเรื่องทำออกมาแล้ว ถึงมันอาจจะดูเข้ากันดีกับสถานการณ์ของประเทศต้นทาง แต่สำหรับผู้ชมทั่วไปมันก็ยากเกินกว่าจะเข้าใจในระหว่างดูได้จริงๆ ครับ ผ่านได้ผ่านเลย ยกเว้นอยากดูงานภาพสวยๆ ก็แนะนำให้ลองรับชมได้อยู่ครับ