playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว Apple Cider Vinegar (Netflix) ชีวิตนักต้มตุ๋นดังที่อ้างว่ารอดจากโรคมะเร็งด้วยอาหารชีวจิต

Apple Cider Vinegar

Summary

ซีรีส์ที่นำเสนอเรื่องราวจริงของอินฟลูเอนเซอร์ปลอมด้านโรคมะเร็ง 2 คน ผ่านมุมมองที่ชวนให้ตระหนักถึงอันตรายของการแอบอ้างเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ รูปแบบการเล่าเรื่องมีความเหมือนซีรีส์  Inventing Anna แอนนา มายา ลวง หลายอย่าง แต่มีข้อจำกัดมากกว่าทำให้ไม่เว่อร์วังได้ขนาดนั้น ซึ่งถึงจะไม่สนุกเร้าใจเท่าแอนนาแต่ก็สามารถสะท้อนประเด็นสำคัญเกี่ยวกับการหลอกลวงในโลกโซเชียลมีเดียและผลกระทบต่อผู้ป่วยจริงได้อย่างน่าสนใจครับ

Overall
6.5/10
6.5/10
Sending
User Review
0 (0 votes)

Pros

  • การถ่ายทอดตัวละครอย่างลึกซึ้งของ Kaitlyn Dever
  • สะท้อนความจริงของพวกอินฟลูลวงโลก
  • เทคนิคการใช้ภาพอิโมจิที่สื่อถึงการหมกมุ่นในโลกโซเชียล
  • การนำเสนอผลกระทบของอินฟลูเอนเซอร์ปลอมที่ส่งผลต่อชีวิตผู้ป่วยจริง โดยเฉพาะในแง่ของการละทิ้งการรักษาทางการแพทย์
  • มีพากย์ไทย

Cons

  • โครงเรื่องค่อนข้างวนเวียนอยู่กับประเด็นการโกหกเรื่องมะเร็ง ไม่ได้พัฒนาไปไกลกว่านั้น
  • การเล่าเรื่องสลับไปมาระหว่างช่วงเวลาต่างๆ อาจทำให้ผู้ชมสับสน

ADBRO

Apple Cider Vinegar ไอดอลแอปเปิลไซเดอร์ ซีรีส์ Original Netflix 6 ตอนจบสร้างจากชีวิตของเบลล์ กิบสัน อินฟลูเอนเซอร์ด้านสุขภาพชาวออสเตรเลียที่โด่งดังในช่วงปี 2010 ด้วยการหลอกลวงว่าเธอเป็นมะเร็งและรักษาได้ด้วยอาหารเพื่อสุขภาพที่เธอคิดขึ้นมาเอง

Apple Cider Vinegar (2025) on IMDb

ซีรีส์แนวเล่าเรื่องแต่งเสมือนจริงของพวกนักต้มตุ๋นที่โด่งดังแบบเดียวกับซีรีส์ Inventing Anna แอนนา มายา ลวง ของเน็ตฟลิกซ์อเมริกา แต่เรื่องนี้เกิดขึ้นในออสเตรเลีย เป็นเรื่องของ เบลล์ กิบสัน ที่โดนศาลตัดสินคดีไปแล้วว่าผิดจริง แต่ตัวจริงไม่ได้ให้เล่าเรื่องของเธอให้ทีมงานนี้ทำ ซีรีส์จึงเลี่ยงไปใช้คำว่า เรื่องแต่งจากความจริงในแบบเดียวกับแอนนาเป๊ะๆ จนเหมือนซีรีส์ลอกเลียนแบบการนำเสนอทุกอย่างมาเหมือนกันหมด แต่ว่าเรื่องนี้มีตัวละครหลักเพิ่มเข้ามาอีกคนคือ ‘มิลล่า’ ผู้หญิงที่เป็นต้นแบบการใช้ชีวิตอินฟลูเอนเซอร์มะเร็งอีกคนให้เบลล์ และเสริมด้วยเรื่องราวผู้ป่วยจริงที่หลงเชื่อพวกนี้ทำให้เห็นว่าอินฟลูพวกนี้ส่งผลร้ายแก่ผู้ป่วยจริงมากแค่ไหน

เบลล์ กิบสันตัวจริง

ซีรีส์เล่าเรื่องด้วยการกำนิดของเบลล์กับมิลล่าไปพร้อมกัน โดยเล่าเรื่องทั้งคู่สลับไปมาตลอดเวลา และไม่ได้เรียงตามลำดับเวลา มีทั้งก่อนและหลังสลับปนเปกันไปเรื่อยๆ ซึ่งชวนให้งงไม่น้อยเพราะตัวนักแสดงคนเดิมไม่ได้มีการเปลี่ยนหน้าตาทำอายุให้แก่ลง (ยกเว้นเบลล์ตอนเด็ก) โดยซีรีส์เริ่มต้นที่ช่วงเวลาท้ายๆ ของชีวิตทั้งคู่แล้วในงานเปิดตัวหนังสือของเบลล์ และทำให้เห็นว่ามิลล่าเกลียดเบล์แค่ไหน ก่อนที่จะให้เพื่อนรักช่วยทำลายเธอด้วยการไปแฉกับสื่อ ซึ่งซีรีส์ก็นำส่วนนี้มานำเสนอเป็นการลำดับเรื่องราวสืบค้นชีวิตของเบลล์ไปยังไทม์ไลน์ต่างๆ โดยอิงกับข้อมูลที่มีลงไว้ในอินเตอร์เน็ต เพราะเบลล์ใช้โซเชียลมีเดียกับเว็บบล็อกเล่าเรื่องราวของเธอ ก่อนที่จะยกระดับไปเป็นแอปแนะนำอาหารให้ผู้ป่วยมะเร็งจนมีชื่อเสียงมากขึ้นเรื่อยๆ ถึงขั้นแอปเปิลเชิญเธอไปร่วมงานเปิดตัวด้วยเลย

ในขณะที่ชีวิตอีกด้านของมิลล่าเธอป่วยเป็นมะเร็งและต้องตัดแขนทิ้งเพื่อรักษา แต่เธอไม่ยินยอมและหาทางรักษาเองจนได้พบอาหารที่เธอเชื่อว่าช่วยได้ และก็เผยแพร่มันจนกลายเป็นอินฟลูเอนเซอร์ จนทำให้เบลล์เตะตาอยากตามรอยเธอ จนกระทั่งการพบเจอกันของทั้งคู่ก็ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนของเรื่องราวนี้ ซึ่งซีรีส์ก็พยายามเล่าเรื่องว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างสองคนนี้ที่เหมือนเป็นคู่แข่ง แต่คนนึงป่วยจริงต่างกับอีกคนที่ปลอมมาแต่แรก ตัวปลอมกลับโด่งดังขึ้นเรื่อยๆ คนป่วยจริงกลับตกต่ำลง ก่อนค่อยๆ ฉายให้เห็นปัญหาเบื้องหลังของทั้งคู่ไปพร้อมๆ กันคนละด้าน โดยมีผู้ป่วยจริงอีกคนที่มาเกี่ยวข้องกับทั้งคู่และก็เชื่อว่าวิธีรักษาด้วยธรรมชาติคือดีที่สุด แต่ความจริงเป็นเช่นนั้นหรือไม่ นี่คือสิ่งที่ซีรีส์นี้ต้องการบอกเล่าความจริงของเรื่องผู้ป่วยมะเร็งที่หมดหวังในชีวิตและพยายามหาทุกอย่างเกาะเกี่ยวไว้ให้อยู่รอดต่อไป แม้สิ่งนั้นจะดูเป็นคำลวงมากแค่ไหนก็ตามครับ 

ซีรีส์ใช้เทคนิคพิเศษในการนำเสนอความหมกมุ่นในโลกโซเชียลมีเดียของเบลล์ ด้วยการแทรกภาพอิโมจิที่ลอยออกมาจากหน้าจอ สะท้อนให้เห็นถึงการหลงระเริงในตัวตนดิจิทัลและการแสวงหาความนิยมอย่างไม่มีที่สิ้นสุด โดยแทนภาพเหมือนเธอมีปัญหาทางจิตเป็นโรคหลงตัวเอง ทำทุกอย่างเพื่อหาผู้ติดตามเพื่อขยับสถานะเรื่องแต่งให้ใหญ่โตขึ้นหาเงินมากขึ้นเรื่อยๆ

จุดเด่นของซีรีส์อยู่ที่การแสดงของ Kaitlyn Dever ในบทเบลล์ ที่สามารถถ่ายทอดความซับซ้อนของตัวละครที่ต้องสวมหน้ากากหลอกลวงไปพร้อมกับความหวาดกลัวการถูกเปิดโปง ซีรีส์ยังนำเสนอแง่มุมชีวิตส่วนตัวของเธอในฐานะแม่เลี้ยงเดี่ยวที่ต้องดิ้นรนเพื่อลูกชายหลังแยกทางกับสามีไปและหาคนใหม่เป็นหนุ่มไอทีมาแทน ซึ่งสามีคนใหม่ก็รู้ว่าเธอโกหกแต่เพราะรักด้วยจึงยอมทนมาตลอด ซึ่งในมุมนี้บางครั้งซีรีส์ก็ทำให้เหมือนเธอเป็นคนดีขึ้นมาบ้าง เแม้จะไม่อาจลบล้างความผิดที่เธอก่อไว้ได้

เมื่อเทียบกับ Inventing Anna แม้เรื่องราวของเบลล์จะดูเล็กกว่าและวนเวียนอยู่กับการหลอกลวงเรื่องการป่วยเป็นมะเร็ง แต่ผลกระทบที่เกิดขึ้นกลับร้ายแรงกว่า เพราะเป็นการเล่นกับความหวังของผู้ป่วยจริง ซึ่งซีรีส์สามารถสะท้อนประเด็นนี้ได้อย่างชัดเจน จนทำให้ผู้ชมต้องตระหนักถึงอันตรายของอินฟลูเอนเซอร์ปลอมที่แพร่หลายในสังคมปัจจุบัน ที่มีในไทยมากเช่นกันครับ

 

รีวิว Inventing Anna แอนนา มายา ลวง เรื่องจริงของสาวนักต้มตุ๋นสุดเว่อร์วังอลังการ (ไม่สปอยล์)

 

สรุป ซีรีส์ที่นำเสนอเรื่องราวจริงของอินฟลูเอนเซอร์ปลอมด้านโรคมะเร็ง 2 คน ผ่านมุมมองที่ชวนให้ตระหนักถึงอันตรายของการแอบอ้างเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ รูปแบบการเล่าเรื่องมีความเหมือนซีรีส์  Inventing Anna แอนนา มายา ลวง หลายอย่าง แต่มีข้อจำกัดมากกว่าทำให้ไม่เว่อร์วังได้ขนาดนั้น ซึ่งถึงจะไม่สนุกเร้าใจเท่าแอนนาแต่ก็สามารถสะท้อนประเด็นสำคัญเกี่ยวกับการหลอกลวงในโลกโซเชียลมีเดียและผลกระทบต่อผู้ป่วยจริงได้อย่างน่าสนใจครับ

รีวิว Black Doves พิราบเงา (Netflix) ซีรีส์สายลับที่ตัวละครมีเสน่ห์ซับซ้อนคมคายสุดๆ