รีวิว Demon City (Netflix) ฉากแอ็กชั่นเยอะกระหน่ำ แต่ได้แค่ความบันเทิงที่กลวงโบ๋ไร้เหตุผล

Demon City เมืองอสูร ภาพยนตร์ญี่ปุ่น Original Netflix แนวแอ็กชั่น มีพากย์ไทย อดีตนักฆ่าที่ถูกทิ้งให้ตาย และกลายเป็นแพะรับบาปคดีฆ่าครอบครัวตัวเอง กลับมาสู้สุดตัว เพื่อล้างแค้นเหล่า “ปีศาจ” สวมหน้ากาก ที่แผ่อำนาจครอบงำเมืองแห่งนี้

รีวิว Demon City เมืองอสูร

หนัง Live Action จากมังงะที่ชื่อว่า Onigoroshi ไม่มีลิขสิทธิ์ในไทย เรื่องราวของ ซากาตะ ชูเฮย์ (แสดงโดย Tôma Ikuta) สุดยอดนักฆ่าที่ถูกหักหลังจากแก๊งนักฆ่าสวมหน้ากากปีศาจที่จัดฉากให้เขาฆ่าครอบครัวตัวเอง แล้วตั้งใจฆ่าเขาทิ้ง แต่เขาโคม่าแล้วรอดกลับมาได้ 12 ปีให้หลัง ตามมาล้างแค้นพวกนี้อย่างไม่คิดชีวิต 

หนังแอ็กชั่นฆ่าล้างโคตรแบบไม่มีหยุดพัก เต็มไปด้วยฉากตัวเอกไล่ฆ่าศัตรูนับร้อยคนอย่างดุเดือด โดยแทบไม่พึ่งปืนเหมือนหนังจอห์นวิค แต่ใช้ของรอบตัวกับดาบหัวตัดเป็นอาวุธหลัก แม้ศัตรูจะมีปืนเต็มไม้เต็มมือตั้งแต่ปืนเล็กยันปืนกล แต่ตัวเอกก็ปัดกระสุนได้หมด แน่นอนว่านี่คือหนังที่โม้สุดๆ ไร้ความสมเหตุสมผลอย่างสิ้นเชิง โม้ถึงขั้นโดนยิงหัวแล้วไม่ตาย ฟื้นจากโคม่า 12 ปีมาล้างแค้นได้ทันที ถ้าเป็นบทดั้งเดิมคงโดนถล่มยับ แต่เพราะดัดแปลงจากมังงะจึงพออภัยได้

แต่ถึงอย่างนั้นฉากแอ็กชั่นก็ไม่ได้สดใหม่พอจะทำให้ประทับใจ ดูเป็นแค่หนังยากูซ่าล้างแค้นธรรมดา ที่พยายามสร้างจุดเด่นด้วยการให้ตัวร้ายสวมหน้ากาก ซึ่งกลับทำให้เรื่องดูตลกประหลาด เพราะทุกคนพยายามหาเวลาสวมหน้ากากตลอดเวลาโดยไม่มีเหตุผล

ด้วยความที่หนังมุ่งเน้นฉากแอ็กชั่นเป็นหลัก ทำให้ขาดเนื้อหาเชิงลึกประวัติความเป็นมาของตัวเอกไม่มีการอธิบายถึงทักษะความสามารถเลยแม้แต่นิดเดียว (คงเพราะโม้ขนาดนี้ก็ยากจะอธิบายได้ด้วย) แม้แต่ช่วงเวลาที่แสดงถึงความสัมพันธ์ในครอบครัวก็มีเพียงเล็กน้อย ส่วนฝ่ายตัวร้ายก็ได้รับการพัฒนาตัวละครอย่างผิวเผิน เพียงแค่นำเสนอว่าเป็นกลุ่มอาชญากรผู้มีอิทธิพลในเมือง ไม่มีใครโดดเด่นอะไรมากกว่าหน้ากากที่ใส่อยู่ ซึ่งคงมาจากปัญหาการยุบต้นฉบับ 16 เล่มมาเป็นหนังชั่วโมงนิดๆ ด้วยเลยไม่มีเวลาพอปูตัวร้ายได้เลย นอกจากแสดงฉากชั่วๆ ของแต่ละคนเท่านั้น

หลังจากผ่านช่วงกลางเรื่อง หนังพยายามเสริมเนื้อเรื่องตัวเอกกับลูกสาว แต่บทบาทของเธอก็โผล่มาแบบง่ายๆ ขาดเรื่องราวที่ควรจะเล่าได้มากมายไปหมด นอกเหนือจากความสวยของนักแสดงสาว Ami Tôma ดูเหมือนว่าตัวละครนี้ถูกสร้างขึ้นเพียงเพื่อเพิ่มแรงจูงใจและความแค้นให้กับตัวเอกเท่านั้น ซึ่งมันน่าเสียดายมากที่มีบทบาทเพียงแค่นี้ครับ

สรุป หนังแอ็กชั่นไล่ฆ่าแหลกที่เน้นตัวเอกโม้โอเว่อร์สุดๆ ขนาดดาบไล่ปัดกระสุนปืนได้สบายๆ โดยไม่ต้องมีการเล่าที่มาที่ไปของตัวละครเลย ทำให้เรื่องเหลือแค่การนั่งดูฉากฆ่าไม่พัก ไม่หลับไม่นอนกันเลย ซึ่งก็คงดูสนุกๆ ได้ ถึงเนื้อเรื่องแทบจะกลวงโบ๋ว่างเปล่ามาก แต่ก็คงโทษคนสร้างมากไม่ได้เพราะนี่เป็นการยุบสร้างจากมังงะ 16 เล่มมาไว้ในหนังแค่ชั่วโมงกว่าเท่านั้นครับ

อ่านรีวิวหนัง Netflix ในเว็บไซต์เพิ่มเติมคลิกที่นี่