รีวิว Delicious โอชะ (Netflix) ดราม่าระทึกขวัญที่ไร้รสชาติมาก

Delicious โอชะ ภาพยนตร์ Original Netflix แนวดราม่าทริลเลอร์ ครอบครัวชาวเยอรมันที่มาพักร้อนในวิลล่าที่ฝรั่งเศส ได้พบกับหญิงลึกลับที่ได้รับบาดเจ็บ และตัดสินใจให้ความช่วยเหลือ โดยไม่รู้เลยว่าสิ่งนี้จะนำไปสู่เหตุการณ์ที่คาดไม่ถึง

รีวิว Delicious โอชะ (ไม่สปอยล์)

ภาพยนตร์ดรามาระทึกขวัญเรื่องนี้พยายามนำเสนอเรื่องราวของสาวรับใช้ปริศนาที่แทรกซึมเข้าสู่ครอบครัวหนึ่ง ก่อนเผยโฉมเป็นตัวร้ายที่มุ่งทำลายทุกชีวิต โดยมีการผูกโยงกับ “รสชาติอาหารสุดพิเศษ” ซึ่งแทบไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อเรื่องเลย นอกจากในฉากเฉลยตอนจบอันพิลึกพิลั่น

จุดเริ่มต้นของเรื่องคือกลุ่มวัยรุ่นพนักงานโรงแรมที่จับตาครอบครัวชาวเยอรมันผู้เข้าพักในวิลล่าหรู พวกเขาส่งสาวสวยในกลุ่มเข้าไปเป็นเหยื่อล่อ จนได้กลายเป็นคนรับใช้ประจำครอบครัว หลังจากนั้นเรื่องราวก็ดำเนินไปอย่างคาดเดาได้ ด้วยโครงเรื่องซ้ำซากจำเจ หญิงสาวค่อยๆ บ่อนทำลายความสัมพันธ์ในครอบครัว ล่อแม่ให้นอกใจสามี ยั่วยวนพ่อให้หลงใหลในเสน่ห์ของเธอ ทำให้ลูกชายคนโตตกหลุมรัก และหลอกล่อลูกสาวคนเล็กให้เป็นพวก แม้เด็กหญิงจะพยายามต่อต้านในตอนแรกก็ตาม 

การดำเนินเรื่องแบบนี้ขาดความแปลกใหม่อย่างสิ้นเชิง ทั้งยังเล่าเรื่องอย่างจำเจ มีแต่แนวดราม่าไปเรื่อยๆ โดยเหตุการณ์ต่างๆ ขาดความสมเหตุสมผล เช่น แม่ที่มีลูกสองคนนอกใจสามีไปกับชายหนุ่มเพียงเพราะต้องการย้อนวัยอีกครั้ง ภาพยนตร์พยายามค่อยๆ สุมไฟความขัดแย้งในครอบครัว แต่กลับรู้สึกจืดชืด ปราศจากความตื่นเต้นหรืออารมณ์สะเทือนใจ

เรื่องราวดำเนินไปในแนวดราม่าปั่นหัวให้ครอบครัวแตกแยกธรรมดายาวทั้งเรื่องจนกระทั่ง 15 นาทีสุดท้าย จึงเผยความหมายที่แท้จริงของชื่อเรื่องด้วยการพลิกโฉมเป็นหนังสยองขวัญสั้นๆ แม้จะมีการใบ้ไว้บ้างระหว่างทาง แต่ฉากสยองขวัญกลับไม่น่ากลัว เพราะแทบไม่ให้เห็นฉากเลือดสาดอะไรเลย ใช้การตัดฉากปิดบังไม่ให้เห็นทั้งหมด จนเป็นภาพยนตร์อินดี้ทุนต่ำที่ดูจบแล้วรู้สึกเสียเวลามาก

สปอยล์ตอนจบ

แม้แต่ตัวนักแสดงสาวรับใช้ที่ควรจะเป็นตัวดึงดูด (แสดงโดย Carla Díaz) หรือมีมิติของตัวละครทำให้เห็นว่าทำไมเธอถึงกลายมาเป็นคนแบบนี้ แต่ก็ไม่มี ตัวละครชนชั้นล่างพวกนี้แทบกลวงโบ๋ เหมือนเป็นแค่กลุ่มวัยรุ่นแว้นโรคจิตที่รวมตัวกันเท่านั้น แล้วการก่ออาชญากรรมมาก่อนหน้านี้แล้วรอดตัวไปได้ยังไง ตัวเรื่องก็ไม่ได้สนใจจะอธิบายอะไรเลย ทิ้งไว้แบบหนังอินดี้กันแบบทื่อๆ เลย (ทำเป็นหนังสยองขวัญเกรดบียังดีซะกว่า)

สรุป หนังที่พยายามนำเสนอแนวคิดวิพากษ์ความเหลื่อมล้ำทางชนชั้น แต่ล้มเหลวในการดำเนินเรื่องสุดๆ  เนื่องจากใช้โครงเรื่องธรรมดาที่คาดเดาได้และไม่มีความสดใหม่ ดำเนินไปแนวดราม่าธรรมดายาวเกือบทั้งเรื่องเพื่อเฉลยชื่อเรื่องด้วยฉากสยองขวัญตอนท้ายเพียงนิดเดียวเท่านั้น แต่ก็เป็นฉากสยองขวัญที่แทบไม่เห็นอะไรเลยเพราะตัดฉากเลือดสาดทิ้งไปหมด ถือหนังอินดี้ทุนต่ำที่ไม่คุ้มค่ากับเวลาที่เสียไปเลยสักนิด หรือใครอยากดูก็กรอไปดูแค่ 15 นาทีท้ายเรื่องก็ได้ครับ

อ่านรีวิวหนัง Netflix ในเว็บไซต์เพิ่มเติมคลิกที่นี่