รีวิว Holland ฮอลแลนด์ (Prime) หักมุมแล้วพัง ระทึกขวัญที่ชวนสับสนจนดูไร้ทิศทาง
Holland
Summary
หนังที่เล่าเรื่องโดยใช้โทนภาพกับเรื่องราวย้อนยุค 90 ผสมกับพฤติกรรมแปลกๆ ของนางเอก หลอกล่อให้ผู้ชมสงสัยและติดตามอย่างได้ผลในช่วงแรก แต่ว่าพอเฉลยแบบหักมุมในช่วงหลังหนังกลับค่อยๆ พังลงไปเรื่อยๆ ด้วยความไม่สมเหตุผลมากมายของบทที่พังเละ และผู้กำกับก็ตั้งใจทำให้มันแย่ลงด้วยการไม่พยายามเคลียร์อะไรให้ชัด แม้แต่ตัวนางเอกก็ไม่ทำให้รู้สึกอยากช่วยให้รอด ซึ่งทำให้หนังช่วงท้ายกลายเป็นค้อนทุบทำลายทั้งเรื่องพังไปหมดอย่างน่าเสียดายจริงๆ ครับ
Overall
5.5/10User Review
( vote)Pros
- ใช้เทคนิคการเล่าเรื่องกับโทนภาพแบบย้อนยุคที่น่าสนใจ
- การสร้างความสงสัยและความตึงเครียดในช่วงแรกของหนัง
- การแสดงของนิโคล คิดแมน ที่ยังคงมีคุณภาพ
- มีพากย์ไทย
Cons
- การดำเนินเรื่องที่ขาดความสมเหตุสมผลในช่วงหลัง
- ตอนจบที่สับสนและไร้ทิศทาง
- การทำลายความน่าเชื่อถือของตัวละคร
- ขาดความชัดเจนในประเด็นที่ต้องการสื่อสาร
- ไม่สามารถสร้างความเห็นอกเห็นใจให้กับตัวละครหลัก
ADBRO
รีวิว Holland ฮอลแลนด์ (ไม่สปอยล์)
นิโคล คิดแมน รับบทเป็น แนนซี่ แวนเดอร์กรู้ท ครูและแม่บ้านนิสัยละเอียดลออที่มีชีวิตที่ดูสมบูรณ์แบบร่วมกับสามีผู้เป็นเสาหลักของชุมชนและลูกชายท่ามกลางทุ่งดอกทิวลิปในเมืองฮอลแลนด์ รัฐมิชิแกน แต่เมื่อเธอและเพื่อนร่วมงานเริ่มสงสัยความลับบางอย่าง มันนำพวกเขาไปสู่การเปลี่ยนชีวิตที่น่าสะพรึงกลัว
หนังเรื่องนี้ของผู้กำกับ Mimi Cave ดูเหมือนจะสานต่อแนวทางการเล่าเรื่องแนวระทึกขวัญทางจิตวิทยาที่เธอเคยสร้างในเรื่อง Fresh โดยมุ่งเน้นไปที่การเปิดเผยความลับอันมืดมิดภายใต้ผิวของชีวิตครอบครัวที่ดูเรียบร้อยสมบูรณ์แบบ โดยโครงเรื่องเริ่มจากชีวิตของแม่บ้านที่มีครอบครัวอบอุ่น มีสามีที่ดูแลเอาใจใส่ แต่เมื่อความสงสัยเริ่มก่อตัวขึ้น เธอจึงตัดสินใจสืบหาความจริงร่วมกับเพื่อนร่วมงาน ซึ่งนำไปสู่การค้นพบความลับที่คาดไม่ถึง และอาจส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อชีวิตของทั้งสอง
หนังเรื่องนี้นำเสนอเทคนิคการเล่าเรื่องที่น่าสนใจด้วยการใช้แนวย้อนยุค ก่อนยุคสมาร์ทโฟน เป็นช่วงที่โทรศัพท์มือถือปู่มกดเริ่มแพร่หลาย ซึ่งเป็นกลยุทธ์การสร้างบรรยากาศที่ฉลาด ด้วยการใช้โทนสีและแนวภาพแบบย้อนยุคทำหน้าที่มากกว่าการสร้างความสวยงาม แต่เป็นเครื่องมือดึงดูดความสงสัยของผู้ชม โดยสร้างความไม่แน่นอนและความคลุมเครือจากภาพที่เห็นเพื่อทำให้ผู้ชมสงสัยและรู้สึกอยากติดตามว่าหนังจะมาในรูปแบบไหนกันแน่ โดยมีการเล่าเรื่องที่น่าสนใจคือการสร้างความสงสัยอย่างเป็นขั้นเป็นตอน โดยใช้เวลาเกือบหนึ่งชั่วโมงแรกเป็นการติดตามเส้นทางการสืบหาความลับของนางเอกและเพื่อนร่วมงาน ซึ่งความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองก็มีมิติที่ซับซ้อนไปกว่าที่เห็นผิวเผิน ทำให้เรื่องดูลึกลับมากขึ้นไปอีก
แต่เมื่อหนังเฉลยความลับหลักของเรื่อง แน่นอนว่ามันหักมุมได้ดีเลยทำให้กลายเป็นหนังสยองขวัญทันที แต่หลังจากจุดพลิกนี้ กลับพบปัญหาสำคัญในการดำเนินเรื่องการกระทำของตัวละครในช่วงหลังดูขาดความสมเหตุสมผล ราวกับว่าผู้กำกับพยายามนำเสนอแนวเรื่องที่เน้นความไม่สมจริงมากเกินไป ซึ่งทำลายความน่าเชื่อถือของตัวละครและโครงเรื่องที่สร้างมาอย่างดีในช่วงแรก ทำให้เรื่องหลังจากนั้นไปยิ่งเดินถอยหลังลงเหวมากขึ้นเรื่อยๆ แม้กระทั่งตอนจบก็สับสนในตัวเองว่าจะบอกเล่าถึงอะไรในประเด็นไหน ไม่ชัดเจนสักอย่าง กลายเป็นจุดอ่อนสำคัญที่ทำลายหนังทั้งเรื่องไปเลย
แน่นอนว่าหนังใช้นิโคล คิดแมน มาดึงดูดให้เรื่องน่าสนใจ ซึ่งเธอก็ยังสวยและมีฝีมือการแสดงในบทภรรยาที่สับสนในตัวเองว่าต้องการอะไรได้ดีอยู่ แต่ว่าบทมันก็ไม่ได้พาเธอไปยังจุดที่เคลียร์ปมในตัวเองได้เลยสักนิด แต่กลับทำให้ผู้ชมไม่รู้ว่าจะสงสารหรือแช่งเธอดี เพราะเธอก็ทำความผิดใหญ่หลวงแก่สามีเช่นกัน จนทำให้ผู้ชมก็คงไม่เอาใจช่วยเธอ ซึ่งนี่ก็เป็นจุดผิดพลาดของแนวสยองขวัญที่ไม่ควรทำแบบนี้เลย
สรุป หนังที่เล่าเรื่องโดยใช้โทนภาพกับเรื่องราวย้อนยุค 90 ผสมกับพฤติกรรมแปลกๆ ของนางเอก หลอกล่อให้ผู้ชมสงสัยและติดตามอย่างได้ผลในช่วงแรก แต่ว่าพอเฉลยแบบหักมุมในช่วงหลังหนังกลับค่อยๆ พังลงไปเรื่อยๆ ด้วยความไม่สมเหตุผลมากมายของบทที่พังเละ และผู้กำกับก็ตั้งใจทำให้มันแย่ลงด้วยการไม่พยายามเคลียร์อะไรให้ชัด แม้แต่ตัวนางเอกก็ไม่ทำให้รู้สึกอยากช่วยให้รอด ซึ่งทำให้หนังช่วงท้ายกลายเป็นค้อนทุบทำลายทั้งเรื่องพังไปหมดอย่างน่าเสียดายจริงๆ ครับ
สปอยล์เนื้อหาช่วงหลัง
สามีที่ถูกเข้าใจว่ามีชู้กลับกลายเป็นฆาตกรต่อเนื่องที่หลอกฆ่าหญิงมาตลอดหลายปี