รีวิว The Diamond Heist (Netflix) สารคดีอาชญากรรมที่ถูกปรุงแต่งในแนว กาย ริตชี!

“The Diamond Heist” โจรกรรมเพชรแห่งศตวรรษ ซีรีส์สารคดีสั้น Original Netflix  3 ตอนจบ นำเสนอเรื่องราวการปล้นเพชรครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์อังกฤษ ผ่านมุมมองของทั้งฝั่งแก๊งโจรผู้ลงมือและตำรวจผู้ไล่ล่า โดยมี กาย ริตชี รับหน้าที่อำนวยการสร้าง

รีวิว “The Diamond Heist” โจรกรรมเพชรแห่งศตวรรษ

เรื่องราวเกิดขึ้นในปี 2000 เมื่อกลุ่มอาชญากรจากเซาท์อีสต์ลอนดอนวางแผนปล้นที่อุกอาจที่สุดเท่าที่เคยมีมา พวกเขาตั้งใจจะขับรถแทรกเตอร์พุ่งชนเข้าอาคาร Millennium Dome กลางวันแสกๆ เพื่อขโมยเพชรหายากมูลค่ามหาศาลกว่า 350 ล้านปอนด์ แล้วหลบหนีด้วยเรือสปีดโบ๊ทผ่านแม่น้ำเทมส์ แต่สิ่งที่พวกเขาไม่รู้คือ หน่วยปราบปรามอาชญากรรมพิเศษ Flying Squad กำลังจับตาดูความเคลื่อนไหวของพวกเขาอยู่ทุกฝีก้าว

สารคดีชุดนี้ถ่ายทอดเรื่องราวด้วยเทคนิคการเล่าเรื่องแบบภาพยนตร์สไตล์ กาย ริตชี อย่างเต็มรูปแบบ จนแทบไม่เหมือนสารคดีทั่วไป ด้วยการตัดต่อที่กระชับ ฉับไว มีชั้นเชิงการเล่าเรื่องที่แยบยล แม้ผู้ชมอาจพอเดาได้ว่าแผนการปล้นต้องล้มเหลวและโจรต้องถูกจับ แต่เสน่ห์ของสารคดีนี้อยู่ที่การได้ฟังเรื่องราวจากปากของตัวโจรจริงๆ

น่าสนใจว่าสารคดีมาในรูปแบบที่ดูเหมือนจะชื่นชมอาชญากรรม ซึ่งปัจจุบันกลายเป็นสูตรสำเร็จให้อาชญากรชื่อดังหลายคนหาทางออกจากคุกมาขายเรื่องราวให้เน็ตฟลิกซ์ คุณอาจรู้สึกว่าเน็ตฟลิกซ์กำลังสนับสนุนค่านิยมผิดๆ ที่ยกย่องให้อาชญากรมีชื่อเสียง แต่อย่าเพิ่งด่วนตัดสิน เพราะตอนจบของสารคดีนี้มีการเฉลยหักมุมที่เจ็บแสบรอคุณอยู่ และโจรที่คุณได้เห็นตลอดทั้งเรื่องอาจไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิดก็เป็นได้

สารคดีแบ่งเป็น 3 ตอน ความยาวตอนละประมาณ 40 นาที:

ตอนที่ 1 นำเสนอเรื่องราวของโจรและที่มาของแผนการปล้นเพชรในงานโชว์สินค้าขนาดใหญ่ของอังกฤษ ซึ่งน่าทึ่งตรงที่นี่ไม่ใช่แผนการใหญ่ครั้งแรกของพวกเขา แต่เคยทำมาก่อนกับเป้าหมายอื่น เพียงแต่ไม่สำเร็จและหนีรอดมาได้ สารคดีให้ตัวผู้วางแผนจริงมาเล่าเบื้องลึกวิธีคิดของเขา ตั้งแต่การเริ่มเป็นโจรตั้งแต่เด็ก จนกระทั่งโตมีลูกสาวเล็กๆ สองคนก็ยังคงเป็นโจรต่อ โดยมีลูกสาวของเขามาร่วมให้ความเห็นต่อสิ่งที่พ่อทำด้วย เรื่องราวสนุกราวกับหนังวางแผนปล้น มีการรวมทีมอาชญากรผู้เชี่ยวชาญแต่ละด้าน ซึ่งไม่ได้เป็นอัจฉริยะอย่างในหนัง แต่เป็นคนใจกล้าและช่ำชองมากกว่า แผนปล้นนี้มีโอกาสสำเร็จได้จริงๆ แต่เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต้องรอดูในตอนที่ 3

ตอนที่ 2 เผยเรื่องราวหักมุมว่า โจรที่กำลังวางแผนกันนั้นไม่รู้ตัวว่าถูกหน่วย Flying Squad จับตาดูอยู่ น่าสนใจว่าหน่วยนี้กำลังอยู่ในสถานะร่อแร่จากคดีทุจริตภายในและกำลังเสี่ยงถูกยุบ พวกเขาจึงมองหาคดีใหญ่เพื่อกอบกู้ชื่อเสียง และบังเอิญไปพบร่องรอยจากคดีก่อนๆ ของโจรกลุ่มนี้ จนทราบว่าพวกเขากำลังจะปล้นเพชรที่ Millennium Dome แต่ยังไม่รู้วิธีการและกำหนดการแน่ชัด ตอนนี้แสดงให้เห็นกระบวนการคิดของตำรวจที่ต้องวางแผนติดตามโจรอย่างยาวนาน และต้องจับให้ได้คาหนังคาเขา ซึ่งหมายความว่าต้องยอมเสี่ยงปล่อยให้โจรลงมือ ทั้งที่อาจเกิดอันตรายต่อผู้เข้าชมงาน ตอนนี้เหมือนจะเปิดเผยทุกอย่าง แต่ก็ยังมีบางส่วนที่ปิดบังไว้เพื่อเฉลยในตอนสุดท้าย

ตอนที่ 3 เผยฉากปล้นที่อาจทำให้ผู้ชมผิดคาด เพราะเรื่องจบลงภายใน 15 นาทีแรกเท่านั้น แต่มีเทคนิคการเล่าเรื่องที่น่าสนใจ โดยจำลองภาพความสำเร็จของโจรให้ดูก่อน แล้วค่อยเผยความจริงที่เกิดขึ้น เรื่องราวดำเนินต่อด้วยแผนการเอาตัวรอดจากคดี โดยพยายามลดข้อหาจาก “ชิงทรัพย์” ซึ่งมีโทษหนัก ให้เหลือเพียง “ลักทรัพย์” ที่มีโทษเบากว่ามาก จนแทบจะติดคุกเพียง 1 ปีเท่านั้น ก่อนที่เรื่องจะหักมุม โดยเปิดเผยสิ่งที่ซ่อนอยู่ในตอนแรกและตอนที่สอง มาเฉลยตอกหน้าโจร อีกทั้งยังมีเรื่องของผู้จัดงานที่ทำให้ผู้ชมต้องอึ้ง รวมถึงเรื่องราวของโจรหลังพ้นโทษ ที่แสดงให้เห็นว่าใครกลับตัวได้บ้าง และใครยังคงเป็นโจรอยู่ตลอดกาล ซึ่งช่วยทำให้สารคดีนี้ไม่ได้เป็นเพียงงานเชิดชูอาชญากรอย่างที่คิดในตอนแรก

สรุป: “The Diamond Heist” เป็นสารคดีการปล้นเพชรครั้งใหญ่ที่สุดของอังกฤษที่นำเสนอในรูปแบบหนังปล้นสนุกๆ โดยมีชื่อของ กาย ริตชี เป็นประกันคุณภาพ ผลงานออกมาสนุก กวนๆ มีสไตล์การตัดต่อฉับไวเป็นเอกลักษณ์ ที่พิเศษคือการใช้ตัวจริงทั้งโจรและตำรวจมาเล่าเรื่อง ช่วงการวางแผนปล้นสนุกยิ่งกว่าฉากปล้นจริงที่ทำออกมาสั้นมาก แต่นั่นเพราะเป็นไปตามเหตุการณ์จริง เรื่องราวดำเนินต่อไปถึงการต่อสู้ในชั้นศาลที่ยังคงสนุก พร้อมฉากหักมุมสุดเจ็บแสบ และเรื่องราวชีวิตของโจรในตอนท้ายที่ทำให้ผู้ชมเข้าใจว่า นี่ไม่ใช่สารคดีเชิดชูโจรอย่างที่อาจเข้าใจในตอนแรก แนะนำไม่ควรพลาดชมครับ!

อ่านรีวิวหนัง Netflix ในเว็บไซต์เพิ่มเติมคลิกที่นี่