รีวิว แก๊งหิมะเดือด Frozen Hot Boys (Netflix) 4 King เวอร์ชั่นสดใส แกะสลักโอกาสด้วยหัวใจ
แก๊งหิมะเดือด
Summary
“แก๊งหิมะเดือด” นำเสนอเรื่องราวที่ผสมผสานความสดใสและความจริงจังได้อย่างลงตัว โดยไม่หลบเลี่ยงประเด็นหนักในชีวิตของเยาวชนผู้กระทำผิด ขณะเดียวกันก็ไม่ทำให้ภาพยนตร์หดหู่จนเกินไป ความโดดเด่นของเรื่องอยู่ที่การใช้การแข่งขันแกะสลักหิมะเป็นสะพานเชื่อมโลกภายนอกกับเยาวชนที่สังคมมองข้าม แม้จะมีการสอดแทรกมุขตลกและฉากเบาสมองมากมายจนดูเบียวแบบตั้งใจให้เห็นชัดเจน แต่ภาพยนตร์ก็ยังคงรักษาแก่นของเรื่องที่ว่าด้วยการให้โอกาสและการเริ่มต้นใหม่ได้อย่างแนบเนียน โดยไม่ทิ้งความบันเทิงที่ผู้ชมคาดหวังไว้ด้วย ซึ่งนับว่าหาได้ยากอยู่เหมือนกันโดยเฉพาะในสตรีมมิ่งแบบนี้ด้วย แนะนำครับ!
Overall
7.5/10User Review
( votes)Pros
- ผสมผสานระหว่างดราม่าและความสดใสได้อย่างลงตัว
- นำเสนอประเด็นสังคมเรื่องเยาวชนกระทำผิดอย่างตรงไปตรงมา
- ใช้การแข่งขันแกะสลักหิมะเป็นสื่อกลางในการสร้างโอกาส
- ถ่ายทำที่ซัปโปโรจริง
- นักแสดงเด็กมีเสน่ห์
- มีมุกตลกได้ขำกันเป็นระยะๆ
Cons
- เส้นเรื่องการแข่งขันแกะสลักหิมะกลับดูเป็นรอง ขาดความลึกซึ้งในการนำเสนอ
ADBRO
“แก๊งหิมะเดือด” หรือ “Frozen Hot Boys” ภาพยนตร์ไทย Original Netflix นำเสนอเรื่องราวของครูสาวประจำศูนย์ฝึกเยาวชนผู้มีความหวังจะได้พบพ่อที่ญี่ปุ่นอีกครั้ง เธอจึงชักชวนกลุ่มวัยรุ่นนอกกรอบให้เข้าร่วมการแข่งขันแกะสลักหิมะระดับนานาชาติที่เมืองซัปโปโร
รีวิว “แก๊งหิมะเดือด” Frozen Hot Boys
ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากเหตุการณ์จริงที่เยาวชนไทยสามารถคว้าชัยชนะจากการแข่งขันแกะสลักหิมะในต่างแดนได้อย่างน่าประหลาดใจ ผู้กำกับหน้าใหม่ของ Netflix ได้นำแนวคิดนี้มาผสมผสานกับเรื่องราวของเยาวชนที่กระทำความผิดในศูนย์ฝึกฯ ได้อย่างลงตัว
แม้จะตั้งอยู่ในบริบทของศูนย์ฝึกเยาวชนที่เต็มไปด้วยตัวละครเด็กทำความผิดคล้ายภาพยนตร์เรื่อง “4 Kings” และตัวหนังก็มีฉากต่อยตีกันจนเลือดออกในช่วงแรก แต่ผู้กำกับเลือกนำเสนอในรูปแบบที่เบากว่า สดใสกว่า ด้วยโทนเรื่องที่มอบความหวังและกำลังใจในการกลับคืนสู่สังคม ผ่านการแข่งขันแกะสลักหิมะที่เป็นแกนหลักของเรื่อง โดยสอดแทรกปมชีวิตของตัวละครแต่ละคนอย่างพอเหมาะ เสมือนอุปสรรคที่พวกเขาต้องเอาชนะ ซีนเหล่านี้แม้จะเป็นเพียงฉากสั้นๆ แต่สามารถสร้างความประทับใจได้ทุกครั้ง
ภาพยนตร์ไม่ได้นำเสนอแนวคิดแบบโลกสวยว่าทุกอย่างแก้ไขได้ง่ายๆ แต่ยอมรับว่าตัวละครต่างมีความผิดพลาดในอดีต บางคนแบกรับคดีอุกฉกรรจ์ถึงขั้นคร่าชีวิตผู้อื่น อย่างไรก็ตาม เรื่องราวไม่ได้มุ่งเน้นที่จะตอกย้ำอดีตอันเจ็บปวด แต่เป็นการเดินหน้าสู่อนาคตของผู้ที่พร้อมจะกลับตัว แม้สังคมยังไม่เปิดใจยอมรับ การคลี่คลายปมในตอนท้ายของเรื่องทำได้อย่างสมจริง ไม่โลกสวยกับปัญหาที่พวกเขาก่อขึ้นมา แต่ยังคงมอบความสดใสที่พอเหมาะกับจุดจบที่น่าพึงพอใจ
ในขณะที่การแข่งขันแกะสลักหิมะที่ดูเหมือนจะเป็นประเด็นหลัก กลับทำหน้าที่เป็นเพียงสะพานเชื่อมโอกาสให้สังคมได้มองเห็นศักยภาพของเยาวชนเหล่านี้ ภาพยนตร์ไม่ได้เน้นฉากการฝึกซ้อมอย่างเข้มข้นแบบหนังกีฬาทั่วไป แต่ผสมผสานดราม่ากับความตลกขบขันอย่างลงตัว ตัวเอกอย่าง “แจ๊บ” มีพื้นฐานจากการแกะสลักเทียนพรรษาของครอบครัว ขณะที่ “โจ” คู่ปรับที่มาร่วมทีมด้วยทักษะการวาดรอยสัก ฉากการแข่งขันในประเทศไทยถูกนำเสนออย่างสนุกสนานไม่ซับซ้อน จนกระทั่งถึงการแข่งขันที่ซัปโปโร ซึ่งถ่ายทำในสถานที่จริง ทำให้ผู้ชมได้เห็นกฎกติกาของการแกะสลักหิมะที่แท้จริง พร้อมอุปสรรคที่สร้างความตื่นเต้นในแบบฉบับความตลกกึ่งจริงจังสไตล์มังงะญี่ปุ่น
นอกจากนี้ ยังมีเส้นเรื่องรองของครูสาวที่ตั้งความหวังในการพบพ่อที่ญี่ปุ่น ซึ่งปรากฏในช่วงที่คณะเดินทางไปแข่งขัน การพบกันของพ่อลูกหลังจากที่พ่อได้สร้างครอบครัวใหม่ แม้จะเป็นฉากสั้นๆ แต่กลับสร้างความสะเทือนใจด้วยจุดหักมุมเล็กๆ ที่ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อความรู้สึกของผู้ชม และยังเชื่อมโยงกับปัญหาที่ทีมต้องเผชิญในวันแรกของการเดินทาง เมื่อสมาชิกต่างพลัดหลงในดินแดนที่ไม่มีใครพูดภาษาไทย ฉากอลหม่านสั้นๆ นี้แม้จะชวนขำ แต่ก็มีความสำคัญต่อการดำเนินเรื่องต่อไป
สรุปโดยรวม “แก๊งหิมะเดือด” นำเสนอเรื่องราวที่ผสมผสานความสดใสและความจริงจังได้อย่างลงตัว โดยไม่หลบเลี่ยงประเด็นหนักในชีวิตของเยาวชนผู้กระทำผิด ขณะเดียวกันก็ไม่ทำให้ภาพยนตร์หดหู่จนเกินไป ความโดดเด่นของเรื่องอยู่ที่การใช้การแข่งขันแกะสลักหิมะเป็นสะพานเชื่อมโลกภายนอกกับเยาวชนที่สังคมมองข้าม แม้จะมีการสอดแทรกมุขตลกและฉากเบาสมองมากมายจนดูเบียวแบบตั้งใจให้เห็นชัดเจน แต่ภาพยนตร์ก็ยังคงรักษาแก่นของเรื่องที่ว่าด้วยการให้โอกาสและการเริ่มต้นใหม่ได้อย่างแนบเนียน โดยไม่ทิ้งความบันเทิงที่ผู้ชมคาดหวังไว้ด้วย ซึ่งนับว่าหาได้ยากอยู่เหมือนกันโดยเฉพาะในสตรีมมิ่งแบบนี้ด้วย แนะนำครับ!