รีวิว Devotion เกมสยองขวัญที่ทุกคนเข้าถึงได้

Devotion เกมสยองขวัญจากประเทศไต้หวันโดยทีมผู้พัฒนาเกมอินดี้ที่คอเกมผีต้องรู้จักอย่าง Detention ที่โด่งดังและได้รับความนิยมไปทั่วโลกเมื่อช่วงปี 2017 กลับมารอบนี้ RedCandleGames ยังคงพาความสยองในแบบฉบับไต้หวันมาให้เราได้สัมผัสกันในแบบ 3D อีกรอบ และรอบนี้จะสยองแค่ไหน ติดตามได้เลยครับ

 

เคยเป็นกันไหมครับ กลัวผีแต่อยากเล่นเกมผี? นั่นแหละตัวผมเลย มันเป็นอารมณ์ตื่นเต้นที่บอกไม่ถูก ดูหนังผีน่ะไม่เท่าไหร่ แต่เล่นเกมมันเข้าไปถึงข้างในมากกว่านั้นน่ะสิ เกมผีล่าสุดที่ผมเล่นแล้วหลอนไปหลายวันก็คือ Visage และในเมื่อ Devotion อยู่ใน wishlist ผม จะไม่ให้เล่นได้ยังไงล่ะ รีวิวอันนี้ขอเป็นแบบเล่าแล้วกันนะครับ จะได้อ่านสบายๆ และจะพยายามไม่สปอย

สำหรับเนื้อเรื่องนั้นจะเกี่ยวกับครอบครัวครอบครัวหนึ่งที่ภรรยาเป็นดาราที่กำลังรุ่ง แต่สุดท้ายยอมทิ้งทุกอย่างเพื่อมาดูแลสามีที่เป็นนักเขียนบทที่มีแต่ความล้มเหลว รวมถึงลูกสาวที่อยู่ๆก็เป็นโรคประหลาดขึ้นมา เราจะได้เล่นเป็น Feng Yu ผู้เป็นพ่อ และดำเนินเรื่องค้นพบปัญหาชีวิตของเขาและอื่นๆอีกมากมายผ่านการนำเสนอสุดสยองของเกมนี้

 

เป็นเกม 3D เกมแรกของ RedCandleGames และทำออกมาดีมาก โดยที่ตัวเกมจะมีเนื้อเรื่องอยู่ในช่วงยุค 1980s และเกิดขึ้นในประเทศใต้หวัน การออกแบบฉากต่างๆทำออกมาได้ดีเลยครับ มันเข้ากับยุคสมัยดีนะ และผมเองโตมากับการดูหนังซีรีส์ใต้หวันสมัยก่อนกับยาย ภาพบรรยากาศเหล่านี้มันเลยคุ้นตา

โดยเฉพาะฉากมืดๆที่มีการใช้ไฟสีแดงมาเพิ่มอารมณ์ให้เรากลัว เห็นแล้วมันย้อนวันวานไปถึงช่วงที่นั่งดูหนังผีใต้หวันตอนเด็กๆ แสงเงาและฉากโดยรวมรายละเอียดของในฉากทำออกมาให้เราอินไปกับยุคได้ดีมากๆเลย

ทีเด็ดของ Devotion เลยคือการออกแบบเสียงครับ โดยเฉพาะเสียงรอบตัวเรา อย่างพายุฝนฟ้าคะนอง ฝนตกกระทบกระจกหน้าต่าง เสียงหมาเห่าในตรอก เสียงรถบีบแตร และเสียงแปลกๆตอนที่บรรยากาศกำลังสยองๆ รวมถึงเสียงผี (แหละมั้ง) ใครเล่นเกมนี้พร้อมหูฟังก็ระวังตกเก้าอี้กันไว้ด้วย เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน

 

 ในยุคที่เกมแนว walking simulation (เดินสำรวจเพื่อเดินเนื้อเรื่อง) เกลื่อน steam ไปหมด โดยเฉพาะแนวสยองขวัญ แม้ว่าเกมนี้จะคล้าย PT และ Layers of Fear ในลักษณะของการนำเสนอ แต่ว่า Devotion มีการบอกเล่าเนื้อเรื่องที่แตกต่างออกไป รวมถึงการสอดแทรกความเชื่อและวัฒนธรรมที่แตกต่างจากเกมฝั่งตะวันตกที่เราเคยเล่นกันมา มันเลยทำให้ความสนุกของเกมสำหรับผมมันไม่ใช่แค่ภาพที่สวยหรือเสียงที่ดี

แต่มันเป็นการเสพวัฒนธรรมที่แตกต่างจากที่เราได้เคยสัมผัสมา เหมือนที่ต่างชาติได้เล่นเกม Home Sweet Home ของไทยเราแล้วชอบ อะไรประมาณนั้น

[bs-quote quote=”มันคือเกมสยองขวัญที่ทุกคนจับต้องได้” style=”style-2″ align=”left” color=”#ff2626″ author_name=”NiCK” author_job=”Author”][/bs-quote]

ถ้าให้ผมพูดถึงความน่ากลัวของเกมนี้ จะบอกว่าเลเวลของความสยองนี่ถือว่าเด็กน้อยมากครับ โอเคมันอาจจะมีแบบทำให้เราตกใจเป็นระยะบ้าง แต่มันไม่ใช่เกมที่อยากทำให้ผมต้องปิดเกมพักเบรค คือเล่นไปได้เรื่อยๆ มันน่ากลัวแบบมีศิลปะ

ถ้าว่ากันตามตรงมันผิดกับ Visage ที่ทำเอาผมต้องหยุดพักไปหลายรอบ เพื่อหนีไปตั้งหลักก่อน ตรงจุดนี้ส่วนตัวเลยคิดว่ามันเป็นข้อดีนะครับ เพราะมันจะเป็น เกมผีสำหรับทุกคน ได้เพราะเข้าถึงง่าย และไม่น่ากลัวจนเกินไป ซึ่งสำหรับคอเกมสยองแบบฮาร์ดคออาจจะไม่ชอบเกมนี้นัก มันไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด

อีกอย่างที่ผมชอบคือ พอเกมไม่ได้กดดันเราด้วยความกลัวมากเกินไป มันเลยเปิดช่องให้ผมเดินสำรวจรายละเอียดต่างๆในฉากได้มากขึ้น แทนที่จะต้องมาคอยหันไปมองหลังแบบหลายๆเกม หรือต้องวิ่งหนีผีหน้าตาตื่นอะไรแบบนี้ ตรงจุดนี้ผมจึงได้ซึมซับบรรยากาศฉากในเกมที่ผู้พัฒนาตั้งใจทำได้เต็มที่กว่าเดิม

ปริศนาในเกมก็เข้าใจค่อนข้างง่าย อาจจะต้องงมในช่วงแรกๆ แต่พอเข้าใจคอนเซ็ปต์แล้วเราก็จะไหลไปเองตามเกม มันจะพอจับต้นชนปลายได้

อ่านไปอ่านมาเหมือนผมจะชอบไปหมดเลย แล้วอะไรบ้างที่ไม่ชอบ? ถ้าว่ากันตามตรงก็คงเป็นระยะเวลาเล่นที่สั้นไปหน่อย และไม่มีการนำเสนออะไรที่แปลกใหม่จากเดิมในแง่ของเกมเพลย์ เอาเป็นว่าก็ลอกๆกันมา คือถ้าเห็นเกมแนวนี้แทบจะเดาได้เลยว่าเราต้องเจออะไรบ้าง สิ่งเดียวที่ดึงให้ผมเล่นจนจบและชอบมันได้ในท้ายที่สุดแล้วก็คงเป็นตัวเนื้อเรื่องนั่นแหละครับ

เลยอยากเตือนคนที่ผ่านเกมแนวนี้มาเยอะว่า อย่าตั้งความหวังไว้สูงว่าจะเจอะระบบการเล่นอะไรที่แปลกใหม่ แต่ให้โฟกัสไปที่เนื้อหา และใส่ใจในข้อมูลทุกอันที่เราพบเจอในเกม มันจะทำให้เราอินตั้งแต่ต้นจนจบ จะได้ไม่ต้องรู้สึกว่านี่เราเสียตังไปฟรีๆหรือเปล่าเนี่ยหลังจากเล่นเกมจบไปแล้ว

ภาพบางส่วนจากในเกม

---

ตัวอย่างเกมเพลย์ 15 นาทีแรกพร้อมซับไทย

---

จากที่คะแนนรีวิวกำลังไปได้ด้วยดี อยู่ๆทำไมถึงโดยกดคะแนนอย่างรวดเร็ว อันนี้คือสิ่งที่ผมเห็นล่าสุด เลยเข้าไปอ่านดูหน่อยใน Steam เลยพบว่า มีผู้เล่นจากจีนไปพบเจอภาพบนผนังที่พูดถึงประธานาธิบดีจีนในแง่ไม่ดีเลยทำให้คนจีนเข้ามารุมรีวิวในแง่ลบเป็นจำนวนมาก และด่าทีมพัฒนาว่าทำไมต้องเอามุมมองการเมืองมาใส่ในเกมด้วย

ประเด็นนี้ค่อนข้างร้อนแรง เนื่องจากผู้พัฒนานั้นมาจากประเทศไต้หวัน และอย่างที่เราทราบกันดีคือ ไต้หวันกับจีนนั้นมีความสัมพันธ์ที่ไม่ได้ดีต่อกันมากนัก จนทำให้ผู้พัฒนาต้องออกอัพเดทและทำการแก้ไขในส่วนของภาพดังกล่าว

ปัญหาที่เกิดขึ้นครั้งนี้ มันอาจจะลามไปเป็นเรื่องใหญ่โตถึงขั้นที่ Steam อาจจะถูกแบนโดยประเทศจีนไปเลยก็ได้ คงต้องรอดูกันว่ากระแสกดดันอันนี้จะหนักหน่วงแค่ไหน เพราะ รีวิว Devotion บน Steam เจอรีวิวลบเยอะมากๆ

ใครที่สนใจ Devotion สามารถดาวน์โหลดได้จากด้านล่างนะครับ ผมหวังว่า รีวิว Devotion นี้จะมีประโยชน์กับคนที่สนใจเกมนี้กันอยู่บ้าง ใครเล่นแล้วมาคุยกันได้เลย

 

อ่านรีวิวอื่นๆ คลิ๊กที่นี่