[รีวิว+สปอยล์] Castlevania SS1-3 ขอเชิญพบกับความดำมืดของจิตใจมนุษย์ที่เหนือกว่าเหล่าปีศาจ
Castlevania
สรุป
การที่เห็นเกมสมัยที่เป็น 8-Bit ได้กลับมาโลดแล่นอีกครั้งในรูปแบบอนิเมชั่นอีกครั้ง เป็นความรู้สึกที่ดีใจมาก ๆ ที่ได้เห็นตัวละครเก่ากลับมาพร้อมเนื้อเรื่องที่เข้มข้นขึ้น ถ้าเป็นสาวก Castlevania ก็ไม่ควรพลาดซีรีส์นี้
Overall
8/10User Review
( votes)Pros
- เนื้อเรื่องดิบเถื่อนเหมาะสำหรับคนชอบความสมจริง
- ดัดแปลงจากเกมได้อย่างดีเยี่ยม
- ตัวละครฝั่งร้ายน่าติดตามอย่างมาก
- มีหลักปรัชญาให้น่าคิดตาม
Cons
- การเคลื่อนไหวของภาพที่ไม่ลื่นไหลและน้ำหนักที่เบาบาง
- เสียงประกอบ Effect ต่าง ๆ ไม่ค่อยดีเท่าที่ควร
- ธีมและการเล่นประเด็นค่อนข้างจำเจไปซักหน่อย
Castlevania ซีรีส์เกมตระกูลแส้ในตำนานที่หลายคนคงรู้จักดี ตอนนี้ได้ถูก Netflix ดัดแปลงเป็นซีรีส์อนิเมชั่นแล้ว ด้วยความร่วมมือระหว่าง Netflix และ Konami เจ้าของแฟรนไชส์ผู้สร้างแคสเซิลวาเนีย ที่มีจุดเริ่มต้นที่ Castlevania III Dracula’s Curse ซึ่งเป็นเหตุการณ์ก่อนภาค Symphony of Night ที่ตัวเอกเป็น Trevor Belmont โดยสตูดิโอที่ได้รับงานนี้ก็มีหลากหลายผลงานมากมายในอเมริกาอย่าง Frederator Studios, Mua Flim สองสตูดิโอที่มีผลงานจากช่อง Cartoon network และในตอนนี้ Netflix ซีซั่นเริ่มฉายผ่าน Netflix แล้วสามารถคลิ๊กรับชมได้ที่นี้
ชมตัวอย่าง Castlevania ได้ที่นี้
เรื่องย่อ มีหญิงสาวคนหนึ่งเดินทางมาถึงปราสาทแห่งหนึ่ง เพื่อต้องการเทคโนโลยีและความรู้ใหม่ ๆ เพื่อมารักษาคนในหมู่บ้านของเธอ เธอจึงพบกับแดร็กคิวล่าผู้ที่ครอบครองเทคโนโลยีและศาสตร์มืด แต่ว่าการพบพาครั้งนี้จึงทำให้เกิดโศกนาฏกรรมครั้งยิ่งใหญ่เกิดขึ้น เมื่อหญิงสาวคนนั้นถูกประหารเพราะเกี่ยวข้องกับศาสตร์มืด จึงทำให้แดร็กคิวล่าเกิดคลั่งไล่ฆ่าประชาชนทั่วไปและหวังจะทำให้มนุษย์สูญพันธ์ จึงเป็นหน้าที่ตระกูลนักล่าแวมไพร์อย่าง Belmont ที่จะต้องมาไล่ล่ากำจัดแดร็กคิวล่าอีกครั้ง
รีวิวซีซั่น 1+2 รวมพลถล่มปราสาทแดร๊กคิวล่า
ถ้าคุณเป็นสาวก แคสเซิลวาเนีย อนิเมชั่นเรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่เอาใจแฟน ๆ ได้เป็นอย่างดี การดัดแปลงเนื้อหาให้มีความสมจริงมากขึ้นจากในเกมที่เนื้อเรื่องมีแค่กำจัดแวมไพร์แค่นั้น อนิเมชั่นอาร์ตสไตล์ที่ออกแบบได้มาอย่างดี จะเสียอย่างตรงที่การปูเนื้อเรื่องในซีซั่นแรกที่นานไปหน่อยและจำนวนตอนที่น้อยเกินไป ที่ออกมาเพียง 4 ตอนเท่านั้นและต้องเว้นห่างจากซีซั่น 2 ถึง 1 ปี เรียกได้ว่าอารมณ์ค้างกันเลยทีเดียว เพราะซีซั่นแรกพึ่งจะได้ปาร์ตี้ไปตบปราสาทแดร็กคิวล่าเอง
ด้านเนื้อเรื่องไม่ค่อยมีอะไรแปลกใหม่สักเท่าไหร่เลยสำหรับยุคนี้ เนื้อหาค่อนข้างวนอยู่กับที่ในช่วงแรกเกี่ยวกับความมืดในจิตใจมนุษย์และความโหดเหี้ยมของศาสนจักร ใครที่ถูกศาสนจักรตีตราว่าเป็นคนชั่ว คนทั่วไปก็จะเชื่อตาม คนรวยที่มีอิทธิพลต่อบ้านเมือง ทาส และความเห็นแก่ตัว เรียกได้ว่าเป็นพล็อตที่เราอาจจะเจอในหนังหรือมังงะในสมัยได้ตามปกติเลย แต่พอช่วงซีซั่นสองเราจะได้เห็นการขยายจักรวาลของเรื่องนี้ต่อมันทำให้เรื่องนี้มีความน่าติดตามมากขึ้นถ้าเทียบกับซีซั่นแรก ฝั่งแดร็กคิวล่าไม่ใช่ว่าจะมีแต่แดร็กคิวล่าคนเดียวที่เป็นตัวละครหลัก แต่มีตัวละครหลักเยอะมากถ้าเทียบกับฝั่งตัวเอกที่มีอยู่กันไม่กี่คนโดยเฉพาะการเล่าอดีตความเป็นมายิ่งทำให้ยิ่งเชียร์ฝั่งแดร็กมากกว่าตัวเอกซะอีก ถ้าไม่ติดว่าเป็น Alucard คงเชียร์ฝั่งร้ายไปแล้ว 5555 นี้จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมฝั่งแดร็กคิวล่ามีความน่าติดตามมากว่าฝั่งตัวเอกอย่างมาก ทั้งหมดนี้ถือว่าเป็นการเอาเนื้อเรื่องจากเกมมาต่อยอดได้อย่างประทับใจอย่างมากเมื่อเทียบกับเนื้อเรื่องเพียงแค่สองบรรทัดหลัก ๆ ในเกม
อนิเมชั่นดีไซน์ยอดเยี่ยมแต่ฉากต่อสู้ยังไม่ค่อยโดนใจซักเท่าไหร่ เรื่องนี้ก็เป็นอีกเรื่องที่ภาพสวยสไตล์อนิเมชั่นของอเมริกาแต่ว่า มีฉากที่เฟรมวาดนั้นไม่สม่ำเสมอโดยเฉพาะฉากต่อสู้ จึงทำให้บางครั้งรู้สึกหงุดหงิดไปบ้าง และรู้สึกไร้เรี่ยวแรงมากในการต่อสู้แต่ละครั้ง
โดยรวมเรื่องนี้ถ้าใครเป็นสาวกตระกูลแส้ ไม่ควรพลาดอย่างยิ่งเพราะเนื้อหาและจักรวาลที่ทำมาออกมาได้ดี มีการปูบทถัดไปได้อย่างน่าสนใจ ไม่แน่ว่าอาจจะทำเป็น Timeline ต่อมาเรื่อย ๆ จนถึงยุคปัจจุบันเลยก็ว่าได้ เพราะตัวเกมเองก็เล่าเนื้อเรื่องต่อมาเรื่อย ๆ จนถึงยุคปัจจุบันเลยทีเดียวอย่างภาค Dawn of Sorrow ที่มี Alucard มาร่วมแจมด้วยในญี่ปุ่น
สปอยเนื้อหาส่วนซีซั่น 1
สำหรับใครที่ขี้เกียจดูซีซั่นแรกหรือการปูบทเราก็มีสรุปย่อ ๆ เนื้อหาทั้งหมดของซีซั่นหนึ่งไว้แล้วเชิญอ่านนกันได้เลยครับ
จุดเริ่มต้นเมื่อลิซ่าชาวบ้านแสนธรรมดาจากหมู่บ้านลูปูได้เดินทางมาที่ปราสาทแดร็กคิวล่าเพื่อหาวิทยาการใหม่ในการรักษาคน เมื่อเธอเจอกับแดร็กคิวล่าเธอไม่มีท่าทีที่จะกลัวเขาเลย แต่กลับแสดงท่าทีความอยากรู้อยากเห็นและแนะนำให้เขาออกไปเดินทางรอบโลกเพื่อรู้จักสิ่งใหม่ ๆ จนทำให้แดร็กคิวล่าสนใจในตัวลิซ่าและแต่งงานด้วยกัน
หลายปีถัดไป ลิซ่าได้ถูกศาสนจักรจับตัวนำไปประหารเผาทั้งเป็นเพราะเกี่ยวข้องกับศาสตร์มืด ในขณะที่แดร็กคิวล่าพึ่งเดินทางมาถึงบ้านของตน เขาได้พบว่าบ้านของตนถูกเผาไปแล้ว และลิซ่าได้ถูกประหารไปแล้วจากคำบอกเล่าของคนไข้ของลิซ่าที่เดินทางมาเพื่อไว้อาลัย ทำให้แดร็กคิวล่าหลั่งน้ำตาเป็นสายเลือด และเริ่มใช้มนตร์ดำประกาศเตือนชาววอลลาเซียว่า อีกหนึ่งปีให้หลังจงสร้างสันติและลบร่องรอยแห่งการกระทำนี้ทั้งหมด หลังจากนั้นแดร็กคิวล่าจะรวบรวมกองทัพมากำจัดเมืองวอลลาเซียให้สิ้นซาก และแล้วก็ผ่านไปหนึ่งปีวอลลาเซียก็พังพินาศตามคำกล่าวของแดร็กคิวล่า
ปัจจุบัน Trevor Belmont สายเลือดตระกูล Belmont คนสุดท้ายได้เดินทางเร่ร่อนไปทั่วเพราะบ้านตระกูลหลักถูกเผาทำลายไปแล้ว จนกระทั่งเขาเดินทางมาถึงเมืองกรีสิตและพบกับกลุ่มผู้สื่อสารวิญญาณพเนจรที่กำลังโดนกลุ่มนักบวชรุมทำร้ายอยู่ และหลังจากที่ช่วยเหลือเสร็จ ผู้สื่อสารวิญญาณได้คำบอกเล่าว่าที่ใต้ดินมีทหารที่หลับไหลอยู่ข้างล่าง และหลานสาวของเขาก็ลงไปเข้าไปทางใต้ดินและไม่ได้กลับมาอีกเลย จึงขอร้องให้เทรเวอร์ลงไปช่วยกู้ศพหลานสาวของเขา
เทรเวอร์เข้าไปที่ทางลับใต้ดิน เขาได้พบเข้ากับไซคอร์ปที่ปกป้องทางลับนี้อยู่ จึงได้ปะทะกับไซคอร์ปและสังหารได้สำเร็จ เมื่อสังหารได้สำเร็จก็พบว่ารูปปั้นได้ถูกแปรเปลี่ยนเป็นผู้หญิง ผู้หญิงคนนั้นชื่อ Sypha Belnades หลานสาวของผู้สื่อสารวิญญาณ เหตุผลที่เธอลงมาข้างล่างนี้เพราะมีคำกล่าวของทหารผู้ช่วยกำจัดแดร็กคิวล่าอยู่ข้างล่าง ณ ที่แห่งนี้ แต่เทรเวอร์บอกให้เธอกลับขึ้นไปหาปู่ของเธอก่อน
หลังจากที่ขึ้นไปแล้วก็มีเหตุการณ์เหล่าปีศาจบุกเข้ามาที่เมืองจึงทำให้เทรเวอร์และเหล่าผู้สื่อสารวิญญาณทำการต่อสู้กับเหล่าอสูรกาย จนกระทั้งพื้นของเมืองได้พังทลายลงทั้ง เทรเวอร์และไซฟาตกลงมาที่ใต้ดินนี้และพบเข้ากับโลงศพที่ตั้งอยู่ใจกลางห้อง เมื่อทั้งสองเปิดดูก็พบเข้ากับ Alucard ลูกครึ่งแวมไพร์ ลูกชายของแดร็กคิวล่าที่นอนรักษาบาดแผลที่พ่อของเขาทำต่อเขา เมื่อ Trevor พบ Alucard จึงทำการยั่วให้ Alucard โมโห จึงทำให้ทั้งสองต่อสู้กัน และผลที่ได้คือเสมอ ทั้งสองปรับความเข้าใจกันได้และมีเป้าหมายเดียวกันคือสังหารแดร็กคิวล่า จบซีซั่นแรก….
ซีซั่นสามจุดเริ่มต้นแห่งความสิ้นหวังในจิตใจมนุษย์
หลังจากที่ปราสาทแดร๊กคิวล่าถูกทำลายไป ก็ผ่านมา 2-3 เดือนได้แล้วที่ Trevor และ Sypha ได้ออกเดินทางออกตามหาคาราวานของปู่ไซฟา จนมาถึงหมู่บ้านแห่งหนึ่งที่มีสิ่งปกติเกิดขึ้น พวกเขาทั้งสองจึงต้องอยู่สืบเรื่องราวที่เกิดขึ้นในหมู่บ้านแห่งนี้ ในขณะที่ Alucard มีแขกใหม่มาเยียมเยียมที่ปราสาทของเขา นี้เป็นมิตรหรือศัตรูกันแน่?
เรื่องราวของซีซั่นสามนี้จะกระจายบทไปที่ 4 เรื่องราวต่อ 1 ตอน โดยจะเป็นการเล่าส่วนของ Trevor, Alucard, Hector และ Issac ซึ่งแต่ละฝั่งจะมีธีมเนื้อเรื่องที่แตกต่างกันออกไป แต่สิ่งมีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันคือ ความต่ำต่มของมนุษย์ ในซีซั่นนี้จะค่อนข้างออกไปทางแนวปรัชญาชีวิตเป็นหลักเลยก็ว่าได้ ในทุก ๆ ตอนจะมีปรัชญาเข้ามาเสมอ บอกเลยว่าค่อนข้างแตกต่างจากซีซั่น 1 และ 2 พอสมควรเลย ที่เนื้อหาเริ่มจะหนักขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะตอนจบนี้พีคมาก ๆ
ความสนุกของซีซั่นนี้คงเป็นเนื้อเรื่องที่นุ่มลึกเล่าถึงจิตใจของมนุษย์ซะมากกว่า มุมมองของมนุษย์ต่อมนุษย์ด้วยกันเอง ความวิปลาส ความหวัง และการแก้แค้น มันทำให้ยิ่งรู้สึกว่ามนุษย์นั้นต่ำต่มมากแค่ไหน ส่วนฉากแอ็กชั่นมันส์ ๆ นี้แทบไม่มีเลย ถ้าคาดหวังฉากต่อสู้ละก็ให้เลิกหวังไปได้เลย ส่วนความดิบเถื่อนนี้ยังมีอยู่ครบและมีการเห็นฉากโป้เปลือยในเรื่องด้วย ถือว่าเป็นแฟนเซอร์วิส 1-2 นาที ที่มีค่าเลยก็ว่าได้ ได้เห็นฉากโป้เปลือยของ Lenore ก็คุ้มแล้วนางน่ารักมาก เสียงยุ่นก็ดีงามไม่แพ้กัน แต่พอหลังจากนั้นตับระเบิดระหว่างดูกันเลยทีเดียว
สิ่งที่ไม่คาดคิดว่าจะได้เห็นในซีซั่นสาม
บอกตามตรงผมเป็นแฟน Castlevania มานานแต่เจอฉากนี้ไปถึงกับอึ้งหลาย ๆ รอบเลยทีเดียว ถ้าใครไม่อยากรู้แนะนำให้ข้ามไปได้เลยเพราะเนื้อหามีสปอยล์ นั้นก็คือฉาก Alucard โดนเข้าประตูหลัง ในฉากนี้จะเห็นได้ในตอนที่ 9 ของซีซั่นที่สาม ในขณะที่ Alucard นอนหลับอยู่ Taka และ Sumi เข้ามาที่ห้องของ Alucard เพื่อมีอะไรด้วย
หลังจากที่มีอะไรเสร็จทั้ง Taka และ Sumi ก็เริ่มที่จะจัดการ Alucard ทันทีเพราะความไม่เชื่อใจในตัว Alucard แต่ทั้งสองก็พลาดท่าโดนฆ่าตายโดยดาบวิเศษของ Alucard จากเหตุการณ์นี้ทำให้อลูการ์ดเริ่มไม่เชื่อใจพวกมนุษย์เหมือนที่พ่อของเขาไม่เลิกศรัทธาในมนุษย์
อีกเรื่องก็คือฉากมีอะไรกันระหว่าง Hector และ Lenore ที่เด็ดไม่แพ้กันทำให้ Hector เผลอติดกับทำสัญญาทาสกับ Lenore โดยทันที ถ้าไม่ติดว่ามีฉากประตูหลัง Alucard จะดีมาก ๆ
หลังจากที่ Trevor ได้พบเจอห้องลับของผู้พิพากษาก็ได้พบความจริงว่างานอดิเรกของเขาคือการฆ่าเด็กในหมู่บ้านโดยการสร้างหลุมพรางใต้ต้นแอ็ปเปิลที่เขาปลูกไว้ เพื่อหาความบรรเทิงเล็ก ๆ น้อย ๆ จากหมู่บ้านแห่งนี้ ฉากนี้ทำผมตกใจเลยทีเดียวเพราะตอนแรกผู้พิพากษาเหมือนจะเป็นคนดีมาก แต่ความจริงข้างในของเขามันวิปริตมาก
อีสเตอร์เอ้ก
ลิซ่าภรรยาของแดร็กคิวล่าและยังเป็นแม่ของ Alucard เป็นอีกหนึ่งตัวละครที่กล่าวถึงใน Castlevania Symphony of night ในฉากการตายของเธอนั้นมีคำพูดที่คล้ายครึงกับในเกมในตอนจบที่ Alucard เป็นคนพูดคือ “อย่าทำร้ายคนเหล่านั้น พวกเขาไม่เข้าใจ” เป็นการสื่อว่าผู้คนที่เหล่านั้นไม่รู้เพราะกลัวในสิ่งที่ตนไม่รู้จักจึงต้องกำจัดก่อนที่จะทำความรู้จักกับมัน
Moring Star อาวุธอัพเกรดขั้นสูงสุดเลยก็ว่าได้สำหรับเกือบทุกภาคของเกม โดยรูปแบบของ Morning Star จะเปลี่ยนไปตามตัวเอกแต่ละภาค เป็นกระทั่งค้อน แส้ และ ไม้พลอง แต่สำหรับซีรีส์นี้จะเป็นแส้ที่ถูกสืบทอดในตระกูล Belmont ที่ต้นตระกูลอย่าง Simon Belmont เป็นผู้ถือครองคนแรก
Hector ก็เป็นอีกตัวละครหลักในภาค Curse of Darkness ที่ต้องการล้างแค้นที่ภรรยาถูกเผาเพราะ Issac ใส่ร้าย จึงเดินทางทั่วโลกเพื่อล้างแค้นจนมาเจอ Trevor Belmont แต่ในซีซั่น 3 นี้ Hector ถูก Lenore หลอกล่อด้วยสิ่งต่าง ๆ จน Hector โดนหลอกทำพันธสัญญาทาสเพื่อที่จะให้ Hector สร้างกองกำลังให้ Camilla
ปราสาทเคลื่อนที่ เป็นอีกหนึ่งอีสเตอร์เอ้กที่น่าสนใจมาก เพราะในเกมปราสาทแดรกคิวล่ามีการปรากฎตัวตามทั่วโลกทั่วไปได้ แต่ไม่มีใครรู้ว่าทำไมถึงเกิดขึ้นได้ อนิเมชั่นจึงนำเสนอว่าทำไมปราสาทถึงปรากฎตามที่ต่าง ๆ ได้
วิทยาการของแดร็กคิวล่าใช่ว่าจะมีแต่ศาสตร์มืดเสมอไป หลาย ๆ ครั้งถ้าเราลองสังเกตุในเกม Castlevania ภาคต่าง ๆ ดูจะพบว่าจะมีห้องวิทยาศาสตร์อยู่เสมอ และสิ่งที่อนิเมชั่นเสริมขึ้นมาคือปราสาทแห่งอนาคตที่วิทยาการของมนุษย์ในสมัยนั้นยังเข้าไม่ถึง