playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

[รีวิว]Dragons Rescue Riders Huttsgalor Holiday ก๊วนมังกรป่วนเทศกาลคริสต์มาสหรรษา

Dragons Rescue Riders Huttsgalor Holiday

สรุป

แฟน ๆ อภินิหารไวกิ้งพิชิตมังกร อาจจะไม่ถูกใจหนังเรื่องนี้ซักเท่าไหร่ เพราะเนื้อหาออกแบบมาให้เด็กดูโดยเฉพาะ แต่แกนเรื่องยังสามารถดูเพลิดเพลินสนุกไปกับเรื่องได้ และยังมีกิมมิคเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่โยงไปที่หนังหลักด้วย

Overall
6/10
6/10
Sending
User Review
5 (1 vote)

Pros

  • เนื้อหาย่อยง่ายสำหรับเด็กดู
  • แอนิเมชั่นคนจิ๋วน่ารัก
  • มังกรมีการออกแบบได้น่ารักมากกก
  • ดูแล้วหัวใจอบอุ่น

Cons

  • แฟน ๆ ดราก้อนซีรีส์หลักอาจจะผิดหวังเพราะทำมาให้เด็กดู
  • แอนิเมชั่นคุณภาพต่ำของดรีมเวิร์ค เทียบกับ ดราก้อน แล้วต่างกันมากเกินไปทั้งที่เป็นแฟรนไชส์เดียวกัน
  • เนื้อเรื่องไม่ค่อยมีอะไรมากภายในเรื่อง

ADBRO

Dragons Rescue Riders Huttsgalor Holiday เป็นหนังที่ทำแยกมาจากซีรีส์ Dragons Rescue Riders ทำออกมาสองซีซั่นแล้ว จากแฟรนไชส์เรื่อง Dragons: How to train your dragon หรือชื่อไทยคือ อภินิหารไวกิ้งพิชิตมังกร โดยหนังแยกของซีรีส์นี้ได้ทำออกมาแล้วถึงสามเรื่องเลยทีเดียวในปีนี้ ซึ่ง ทีมมังกรผู้พิทักษ์ วันหยุดฮัตส์เกเลอร์ นี้เป็นหนังแยกเรื่องสุดท้ายในปีนี้เกี่ยวกับเทศกาลวันคริสต์มาสของชาวไวกิ้ง เรื่องนี้ยังลงใน Netflix Kids เพื่อให้เด็กสามารถรับชมได้

 Dragons: Rescue Riders: Huttsgalor Holiday (2020) on IMDb

ตัวอย่าง Dragons Rescue Riders Huttsgalor Holiday

เรื่องราวของเหล่าทีมมังกรผู้พิทักษ์ที่ตื่นมาพบกับหิมะที่มีอยู่ทุกที่ และในวันนี้เองก็มีเทศกาล ฮัตส์เกเลอร์ เพื่อเฉลิมฉลองแด่โอดิน ด้วยการให้ของขวัญกันระหว่างชาวเมือง โดยงานจะจัดขึ้นทั้งหมด 3 วัน แต่เนื่องจากสภาพอากาศอันเลวร้าย และปัญหาที่แม็กนัสก่อเอาไว้ ทำให้เทศกาลนี้ล่มทันที ยิ่งไปกว่านั้นยังมีเหล่าลูก ๆ มังกรตัวป่วนต้องมาคอยดูแลอีก พวกเขาจะทำอย่างไรเมื่อปัญหามันเยอะกว่าที่พวกเขาจะคิดไว้

เส้นเรื่องของตอนนี้อยู่ในช่วงหลังจากตอนจบของซีซั่นที่ 2 ไปแล้ว โดยเทศกาล ฮัตส์เกเลอร์ ได้จัดขึ้นทั้งหมดสามวัน วันที่หนึ่งการจัดแต่งของ วันที่สอง การเต้นรอบเมือง วันที่สามวันแห่งการให้ ถ้าสังเกตุดูให้ดีจะพบว่านี้มันก็วันคริสต์มาสดี ๆ นี้เอง แต่เนื่องจากเหล่ามังกรผู้พิทักษ์ไม่รู้จักเทศกาลนี้ จึงทำให้พวกเขานั้นรู้สึกตื่นเต้นกับเทศกาลมาก ๆ โดยครึ่งแรกจะเป็นการแนะนำตัวละครไปก่อน ให้คนที่ไม่เคยดูได้ทำความรู้จักตัวละครภายในเรื่องบ้าง แต่พอจบช่วงนี้ไป ก็จะเป็นเนื้อเรื่องหลักของเรื่องแล้ว ที่เราจะได้พบกับลูกมังกรน้ำแข็งสุดน่ารัก ตาโต ซึ่งการผจญภัยในช่วงนี้ไม่ค่อยตื่นเต้นซักเท่าไหร่ แต่ชอบความน่ารักของเหล่าน้อง ๆ ซึ่งมันทำให้เรารู้สึกว่ามันผ่อนคลายมาก ๆ ที่เห็นน้องได้เล่นกัน แต่ช่วงท้ายไม่ค่อยมีอะไรให้สนใจเท่าไหร่ เพราะปัญหาของหมู่บ้านมันไม่ค่อยมีอะไรน่าตื่นตาตื่นใจ และปัญหาก็ถูกแก้โดยง่าย โดยที่ไม่มีอุปสรรคยาก ๆ เลย ทำให้การที่เราต้องมาเชียร์ลุ้นกับเหล่าตัวเอกนั้นไม่มีเลย แต่สิ่งที่ชอบอย่างหนึ่งของเรื่องนี้คือ การที่ทำให้เห็นว่าทุกคนก็คือครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นใครมาจากไหน นิสัยแย่ไปบ้าง แต่ทุกคนก็อยู่กันอย่างสงบสุข ไม่มีการเกลียดใคร มันอาจจะเป็นข้อดีของแอนิเมชั่นเด็กเลยก็ว่าได้ ที่เราโตไป แล้วไม่ได้พบเจอกับเรื่องที่เกิดขึ้นในเรื่องนี้ แล้วได้รับความอบอุ่นจากการดูเรื่องนี้มา ทำให้เด็ก ๆ ที่ดูได้รับการปลุกฝังว่าครอบครัวต้องรักกัน และช่วยกันแก้ปัญหาเหมือนอย่างเรื่องนี้ ซึ่งถือว่าเป็นประเด็นที่ดีที่จะให้เด็กเรียนรู้

สำหรับเรื่อง Dragons Rescue ใครที่ยังไม่เคยดูซีรีส์หลักสามารถดูเรื่องนี้ได้เลยครับ ส่วนถ้ายังไม่ได้ดู อาจจะงงตัวละครบ้างเล็กน้อย แต่มีการอธิบายบ้างจึงทำให้สามารถดูเข้าใจได้ และเนื้อหาภายในเรื่องไม่มีการกล่าวถึงเรื่องหลักจากซีรีส์ ส่วนงานแอนิเมชั่นให้ระดับเดียวกันกับ ซีรีส์ คุณภาพคงที่ไม่มีการเพิ่มรายละเอียดในตัวหนังเพิ่มเติม ถ้าใครไม่ชอบโมเดลหุ่นตัวละครผู้ใหญ่อย่างกับเด็ก เราขอแนะนำให้ผ่านไปได้เลย เรื่องโมเดลนี้ผมก็ไม่ค่อยชอบเหมือนกัน เพราะต่างจาก How to train your dragon มากเกินไป

สำหรับหนังเรื่องนี้มันอยู่ในแฟรนไชส์เดียวกันกับ How to train your dragon แต่หลายคนอาจจะเข้าใจผิดได้ เรื่องนี้ไม่ได้อยู่ในจักรวาลเดียวกันกับ”How to train your dragon” นะ เหมือนแค่ยืมชื่อมาใส่ให้คนสนใจเรื่องเฉย ๆ แม้จะมีอีสเตอร์เอ้กบางอย่างที่ทำให้นึกถึงหนังบ้าง และก็ซีรีส์นี้อาจจะไม่ถูกใจหลาย ๆ คนที่เป็นแฟนหนังซักเท่าไหร่ เพราะตัวละครออกแบบมาได้เด็กมากต่างจากเรื่อง ดราก้อน ในหนังโรงที่มีความเป็นผู้ใหญ่ด้วย แค่ดีไซน์ก็ไม่ถูกใจแล้ว ยังมีทั้งเนื้อเรื่องที่สดใสเกินไป ต่างจากหนังที่มีความดาร์กปนไปบ้าง ซึ่งซีรีส์นี้ทำออกมาขายเด็กจริง ๆ เมื่อจากที่ดูมา แต่ยังมีสิ่งหนึ่งที่ยังทำให้คนชื่นชอบอยู่คือ การออกแบบมังกรที่ทำออกมาได้น่ารักเหมือนเจ้า”้เขี้ยวกุด” แต่เขี้ยวกุดก็น่ารักกว่าทุกตัวในเรื่องนี้อยู่ดี!! 

งานแอนิเมชั่นเรื่องนี้เมื่อเทียบกับซีรีส์เรื่องอื่น ๆ ในดรีมเวิร์คถือว่าเป็นแอนิเมชั่นคุณภาพต่ำมาก เมื่อเทียบกับซีรีส์อื่นที่มีลายละเอียดที่เยอะกว่าเรื่องนี้มาก ไม่ว่าเอฟเฟ็ค โมเดลตัวละคร ความลื่นไหล ทั้งหมดนี้ แอนิเมชั่นเรื่องนี้แพ้เรื่องอื่นหมดเลย รวมถึง อภินิหารไวกิ้งพิชิตมังกร เวอร์ชั่น ซีรีส์ ที่ฉายด้วย อาจจะทำให้หลายคนสงสัยว่านี้มันใช่งานดรีมเวิร์คแน่หรอ เพราะเราไม่ค่อยเห็นงานดรีมเวิร์คที่ทำโมเดลเด็กแบบนี้ซักเท่าไหร่ แต่กระแสก็ไม่คิดว่าจะดีเกินคาดจนทำถึงสามซีซั่น และหนังอีกสามเรื่องภายในหนึ่งปี ถือว่าผิดคาดมากเมื่อดูจากภาพเพียงแค่อย่างเดียว น่าจะเป็นที่ชื่นชอบของเด็กด้วย

โดยรวมแล้วเป็นซีรีส์ที่เข้าถึงได้ทุกคน แต่เนื้อหาอาจจะไม่ได้มีอะไรมากจึงทำให้ผู้ใหญ่ดูอาจจะเซ็งหรือเบื่อได้ถ้าผ่านแนวนี้มาบ่อยแล้ว แต่มังกรภายในเรื่องน่ารักมากจึงทำให้คนที่ชอบอะไรน่ารัก ๆ เพลินไปกับความน่ารักของเหล่ามังกรตัวน้อยได้ และยังได้รับความอบอุ่นที่ตัวละครมอบให้อีกด้วย จึงเป็นอีกเรื่องที่ฮีลอาการเหนื่อยล้าจากเรื่องอื่น ๆ ได้ ถึงแม้จะเป็นหนังสำหรับเด็กก็ตาม

 

ระยะเวลา: 45 นาที

เสียงพากย์: เสียงญี่ปุ่น/อังกฤษ/ไทย/จีน

บรรยาย: ไทย

ติดตามรีวิวหนัง Netflix เรื่องอื่นคลิกที่นี่

รีวิว Black Doves พิราบเงา (Netflix) ซีรีส์สายลับที่ตัวละครมีเสน่ห์ซับซ้อนคมคายสุดๆ