รีวิว Maoyu: Archenemy & Hero การ์ตูนผู้กล้าที่ทำให้คนดูฉลาดที่สุดมาแล้ว
Maoyu: Archenemy & Hero
สรุป
การตูนแฟนตาซีเนื้อเรื่องดีและฉลาด น่าติดตามแต่น่าเสียดายที่คนทำตั้งใจทำให้จบแบบค้างคาเล็กน้อยไม่งั้นเป็นเรื่องที่สุดยอดยิ่งกว่านี้
Overall
7.5/10User Review
( votes)Pros
- โครงเรื่องน่าสนใจเอาประเด็นทางสังคมมาเล่นได้น่าสนใจ
- ตัวละครมีเอกลักษณ์, มิติ, และฉลาด
- ทุกคนไม่มีชื่อแต่ก็ยังสามารถนำเสนอและสร้างความต่างได้อย่างแยบยล
Cons
- สั้นและตัดจบซะเฉยๆ (ซึ่งไม่น่าจะมีภาคต่อ)
- บางช่วงของเรื่องอธิบายน้อยไปอาจทำให้คนดูสับสนกับเรื่องที่บางที่ไปเร็วมาก
- การตูนไม่อธิบายตัวละครให้ดีทำให้บางตัวละครจำยากทั้งๆที่มีบทบาทสำคัญ
รีวิว Maoyu: Archenemy & Hero (ชื่อไทย จับคู่กู้โลก) การ์ตูนเรื่องนี้ที่จริงก็ออกฉายในญี่ปุ่นอยู่นานแล้วตั้งแต่ปี 2556 พึ่งจะเอามาลง Netflix ในช่วงที่ผ่านมา (ดูผ่านทาง Netflix ที่นี่) แต่เป็นเรื่องที่ผมชอบตั้งแต่เป็นนิยาย Light Novel ผลงานของ อาจารย์โทโนะ มามาเระ 橙乃 ままれ (ซึ่งนิยายก็มีแปลไทยแล้วโดยสำนักพิมพ์ Dex Press) (รายละเอียดนิยาย) ที่เป็นนิยายสั้นๆ แค่ 5 เล่มซึ่งเพราะสนุกและขายดีจนได้การเอามาทำเป็นอนิเมะซึ่งจะดีมั้ยลองมาดูกัน
นี่เป็นเรื่องราวของโลกที่มีเผ่าพันธ์มนุษย์และปีศาจต่อสู้กันเป็นเวลานาน ผู้กล้าคนปัจจุบันที่ตัดสินใจเดินทางมาถึงปราสาทจอมมารเพียงคนเดียวเพื่อที่มาปราบจอมมารแต่มาพบว่าเป็นจอมมารหญิง และยังปีศาจสาวแสนฉลาดที่มีความรู้รอบด้าน ซึ่งแทนที่จะได้สู้กัน เธอได้ชักชวนผู้กล้ามาร่วมมือกับเธอเพื่อทำให้โลกของทั้งสองฝ่ายสงบสุขโดยไม่ต้องต่อสู้ เพราะการต่อสู้กันให้ตายไปข้างไม่ได้ทำให้โลกสงบสุขเลย กลับทำให้ระบบเศรษฐกิจที่เฟื่องฟูเพราะเงินจากทางการรบต้องหยุดลง และทำให้ประเทศชายแดนที่ยากจนต้องล่มสลายทันที และยังมีปัญหาเรื่องการค้าทาสและเชลยศึก แต่เธอจะใช้ความรู้ที่มีทั้งทางเศรษฐศาสตร์, ทางการเกษตร, การแพทย์, ฯลฯ เพื่อเปลี่ยนแปลงโลกช้าๆแต่ยั่งยืน ผู้กล้าจึงตกลงร่วมมือ โดยที่ทั้งสองเริ่มเปลี่ยนจากหมู่บ้านเล็กๆ ที่โลกมนุษย์ ทั้งให้ความรู้และทำการเกษตรซึ่งเมื่อเริ่มเห็นผลก็ทำให้ศาสนจักรไม่พอใจเพราะเริ่มสูญเสียอำนาจ ทำให้เป็นจุดเริ่มต้น และชนวนไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของโลกนี้
การตูนเรื่องนี้มีอยู่ 12 ตอนทำออกมาได้ถึงแค่ช่วงแรกๆ ของนิยาย ซึ่งจากที่ดูแล้วน่าจะทำมาเพื่อการโฆษนานิยายและการตูน เพราะหลังจากออกฉายปี 2556 ก็ไม่มีข่าวภาคใหม่เลย ซึ่งจบได้ค้างคามาก แต่ในตอนที่เอามาก็นำเสนอออกมาได้ดีอาจจะทำออกมาเบาลงและดูย่อยง่ายขึ้นเหมาะสำหรับคนที่อยากดูการตูนสบายๆ ภาพสวย แต่เนื้อหาแน่นเพราะบทนิยายดี เป็นการตีแผ่สังคมในยุคมั้ยเก่าที่มีความเหลื่อมล้ำทางสังคมและมีเรื่องการเมืองอีกด้วย แต่ด้วยความฉลาดของตัวละครและวิธีการต่างๆในเรื่องทุกด้านน่าสนใจ ทำให้เนื้อเรื่องน่าติดตามมีการอธิบายส่วนต่างๆ ให้เข้าใจง่าย คนที่ชอบการตูนฉลาดอารมย์คล้ายๆ Spice and Wolf น่าจะชอบได้ไม่ยาก
ที่ผมชอบที่สุดในเรื่องนี้คือชื่อตัวละคร ในการตูนเรื่องนี้จะไม่มีชื่อจริงหรือนามสกุลใดๆ ทุกคนในเรื่องพูดถึงคนอื่นด้วยตำแหน่งหรือหน้าที่เท่านั้นเช่นตัวเอกคือผู้กล้า นางเอกคือจอมมารก็มีชื่อแค่นั้นคุยกันก็เรียกกันแค่นั้น อาจมีฉายาหรือสมยาให้แยกตัวละครที่คลายๆกันออกได้ โดยรวมๆ ก็ถือว่าสนุกและประทับใจโดยเฉพาะการพูดถึงคุณค่าของคน และข้อคิดที่ว่าความรู้สำคัญมากสำหรับมนุษย์ทุกยุคทุกสมัยนำเสนอได้ตรงจุดและน่าสนใจมาก
ส่วนข้อติก็จะมี บางส่วนอาจจะอธิบายน้อยมากถ้าไม่ได้อ่านนิยายหรือดูการตูนเล่มมาก่อนอาจจะงงได้เพราะเรื่องบางช่วงก็ดำเนินเร็วไปนิด บางทีกลับไปกลับมาย้อนอดีตก็ไม่ได้บอกรายละเอียดเท่าไหร่ซึ่งอาจทำให้คนดูอาจจะสับสนได้ง่าย และที่จริงในการตูนชื่อตัวละครในภาคอนิเมะนี้อธิบายได้ไม่ดีนักทำให้ตัวละครบางตัวไม่รู้ว่าเป็นใครและดูน่าสับสนอยู่บ้าง เพราะในฉบับนิยายจะใช้ชื่อเรียกและแนะนำตัวละครทุกตัวแต่แรก ในนี้ใช้บทสนทนาที่ไม่มีการเรียกชื่อ อาจทำให้บทพูดดูเป็นธรรมชาติ แต่คนดูเห็นตัวละครบางตัวยังไม่รู้เลยว่าเป็นใคร จะมาอธิบายก็ตอนหลังจากคุยกันไปแล้วทำให้คนที่มาดูน่าจะสับสนพอสมควร
ถ้าเรื่องนี้ได้มีการทำโดยทีมที่ดีกว่านี้หรือ ทำเพื่อให้มีต่อจนจบเรื่องได้จะเป็นเรื่องที่ได้คะแนนมากกว่านี้ แต่พอทำแบบกั๊กๆ หน่อยเลยต้องหักคะแนนไปอย่างน่าเสียดาย แต่ถึงอย่างนั้นการตูนเรื่องนี้มีจุดนำเสนอของเรื่องที่ดีมาก ใครชอบการตูนที่บทสร้างสรรค์ต้องขอแนะนำให้ลองดูซักครั้งครับ เพราะไม่ยาว และอาจจะทำให้เราอยากไปหานิยายมาอ่านต่อก็เป็นได้ครับ