playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว Home Before Dark นักข่าววัยเยาว์ และปริศนาลักพาตัว

สรุป

ถ้าหากจะเทียบ Home Before Dark กับซีรีย์ที่เกี่ยวกับความอยากรู้อยากเห็นของเด็กทั่วไป Home Before Dark ก็จัดได้ว่าเป็นซีรีย์แนวเด็กอยากรู้อยากเห็นในแบบที่ไม่เป็นพิษภัยกับครอบครัว เหมาะที่จะนั่งดูด้วยกันพ่อแม่ลูก หรือจะดูคนเดียวก็ได้ โดยเนื้อหาส่วนใหญ่แทบจะไม่มีเรื่องของความรุนแรง และการแสดงออกในเชิงก้าวร้าวแบบงี่เง่าของเด็กเหมือนกับซีรีย์เรื่องอื่นๆ แต่จะออกไปในเชิงบวก โชว์ความเป็นเด็กน่ารักและฉลาดของตัวเอง ที่มีเพื่อนและครอบครัวคอยสนับสนุน ถึงแม้ว่าประเด็นของเนื้อเรื่องจะอ่อนจนไม่น่าจะมีภาคต่อได้ก็ตาม แต่ก็ไม่น่าเชื่อว่าอาจจะมี และก็ทำให้ยังอยากที่จะติดตามเพื่อที่จะได้คลายปมให้กระจ่างให้ได้

Overall
7/10
7/10
Sending
User Review
0 (0 votes)
Comments Rating 0 (0 reviews)

Pros

  • เพลงประกอบตอนจบหลายๆ ตอนค่อนข้างเพราะ
  • นักแสดงเด็กที่เป็นตัวเอกน่ารักมีเสน่ห์ รวมถึงเพื่อนๆ ของเธอ
  • เนื้อเรื่องชวนติดตาม
  • โลเคชั่นค่อนข้างสวย

Cons

  • เสียดายเพลงประกอบตอนจบที่เอามา Cover ใหม่ค่อนข้างเพราะ แต่กลับไม่ให้ความสำคัญ
  • ประเด็นและปมการสืบสวนดูเบาไปหน่อย
  • หนังออกแนวหนักไปทางสืบสวนคดีเดียว มากกว่าการขายความเป็นนักข่าวเด็ก

กลับบ้านก่อนมืดหรือ Home before dark เป็นคำพูดที่เด็กๆ ทุกคนต่างต้องเคยได้ยินจากผู้ปกครองที่มักจะแสดงความเป็นห่วงเราอยู่เสมอ แต่สำหรับหนูน้อยฮิลดี้ ผู้ไม่เคยอยู่ภายใต้กฎเกณฑ์ใดๆ คำพูดนี้จึงเข้าหูซ้ายทะลุหูขวาของเธอจนเป็นเรื่องธรรมดา Home before dark เป็นซีรีย์ที่ได้รับแรงบัลดาลใจจากเรื่องจริง ของหนูน้อยวัย 9 ขวบที่รักการเป็นนักข่าวเธอชื่อว่า ฮิลดี้ ลีชัค ในชีวิตจริงเธอเป็นเจ้าของเพจ Orange Street News และเว็บไซต์ข่าว orangestreetnews.com ซึ่งเปิดให้ผู้ที่สมัครสมาชิกทั้งแบบออนไลน์รายปี และแบบตีพิมพ์ ได้ติดตามข่าวสารที่เธอนำเสนอ

 Home Before Dark (2020) on IMDb
คะแนนเฉลี่ย IMDB

ตัวอย่าง Home Before Dark

การค้นหาความจริง คือสิ่งที่ทำให้ทุกอย่างถูกต้อง

เรื่องย่อ

หลังจากที่พ่อของ ฮิลดี้ ตัดสินใจลาออกจากการเป็นนักข่าวหนังสือพิมพ์ นิวยอร์ค เซนติเนล นั่นจึงทำให้รายได้ของครอบครัวไม่พอต่อค่าเช่าบ้าน เลยต้องตัดสินใจย้ายออกจากนิวยอร์ค มายังเมืองอิรีฮาร์เบอร์ ซึ่งเป็นเมืองที่พ่อของฮิลดี้ เกิดและเติบโตมาในวัยเด็ก ดูผิวเผินอิรีฮาร์เบอร์ เหมือนจะเป็นเมืองเล็กๆ ที่เงียบสงบและไม่เคยมีอาชญากรรมใดๆ เกิดขึ้นเลย ยกเว้นเรื่องที่เคยเกิดขึ้นเมื่อ 31 ปีก่อน คดีของริชชี่ ไฟฟ์ ลูกชายของนายกเทศมนตรี ที่ถูกลักพาตัวไปแล้วไม่มีใครเคยได้พบเขาอีกเลย ถึงแม้ว่าจะสามารถจับตัวคนร้ายได้ก็ตาม

ทุกคนในอิรีฮาร์เบอร์พยายามที่จะลืมเรื่องนั้นและทำเหมือนว่ามันไม่เคยเกิดขึ้น รวมถึงพ่อของฮิลดี้เองก็เช่นกัน เพราะริชชี่คือหนึ่งในเพื่อนรักของเขา ที่ถูกกระชากขึ้นรถตู้ไปแบบต่อหน้าต่อตาขณะปั่นจักรยานด้วยกัน แต่ทันทีที่ครอบครัวของ ฮิลดี้ ย้ายเข้ามาอยู่เมืองนี้ ก็มีการตายเกิดขึ้น ซึ่งก็คือเพนนี กิลลิส พี่สาวของแซม กิลลิส ที่ตำรวจบอกว่าเค้าคือผู้ลักพาตัว ริชชี่ ไฟฟ์ไป โดยมีพยานรู้เห็นคือลูกชายนายอำเภอของเมืองนี้ และปัจจุบันเขาก็ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยนายอำเภอเช่นกัน

ถึงแม้คนของสำนักงานนายอำเภอจะบอกว่าการตายของ เพนนี กิลลิส เป็นเพียงอุบัติเหตุ แต่ฮิลดี้กลับไม่รู้สึกเช่นนั้น ก่อนตายเพนนี ได้มอบม้วนวิดีโอเทปที่บันทึกภาพเหตุการณ์วันที่ริชชี่ถูกลักพาตัวไปให้กับครูใหญ่ของโรงเรียนที่ฮิลดี้เรียนอยู่เก็บไว้ เมื่อฮิลดี้ได้ดูคลิปเหตุการณ์ในวิดีโอนั้นโดยบังเอิญ นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นของเธอในการค้นหาความจริงว่าการตายของเพนนีเป็นเพียงอุบัติเหตุจริงหรือไม่ และใครกันแน่ที่เป็นคนลักพาตัวริชชี่ ไฟฟ์ไป

 

รีวิว Home before dark

นักแสดงเด็ก Brooklynn Prince ปัจจุบันเธออายุ 10 ปี มีผลงานเป็นที่รู้จักในตอนที่เธออายุ 7 ขวบ เรื่อง The Florida Project ด้วยหน้าตาที่น่ารักและดูเป็นเด็กฉลาด การรับบทเป็น ฮิลดี้ หนูน้อยที่มีหัวใจรักในการค้นหาความจริง และการเป็นนักข่าว จึงดูไม่ขัดเขินนัก นอกจากเนื้อเรื่องที่ชวนให้ติดตามแล้ว ความน่ารักของน้อง ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ดึงดูดให้อยากเอาใจช่วยเธอเช่นกัน อีกทั้งสองผู้ช่วยอย่าง สปูน และดอนนี่ ซึ่งถึงแม้จะช่วย ฮิลดี้ได้ไม่มากเท่าไหร่ แต่ก็ถือว่าซีรีย์เรื่องนี้คัดเลือกนักแสดงเด็กมาได้ค่อนข้างดี โดยเฉพาะสปูน เพื่อนสาวของฮิลดี้ ที่บางครั้งก็ดูเหมือนเด็กผู้ชาย ส่วนดอนนี่ก็เป็นเด็กผิวสีที่คอยหยอดอารมรณ์ขันด้วยมาดกวนๆ จนทำให้น้องสาวคนเล็กของฮิลดี้ แทบจะดูเป็นแค่ตัวประกอบไปเลย มีบทให้หยอดมุกแบบเด็กๆ ตอนละนิดหน่อย แต่ตัวละครที่ทำให้รู้สึกขัดใจผมเล็กน้อย คือตัวละครที่รับบทเป็นพี่สาววัยทีนของฮิลดี้ ซึ่งโดยปกติแล้วน่าจะเลือกเด็กสาววัยรุ่นที่ดูสวยเซ็กซี่ หรือมีบุคลิกที่โดนเด่นสักหน่อย เพราะแค่มาเรียนวันแรกเธอก็เป็นที่เตะตาของหนุ่มหล่อในโรเรียนเลย

 

เป็นซีรีย์ที่พยายามซอฟท์

ในความรู้สึกที่ดูซีรีย์ชุดนี้แต่ละตอน ไม่ว่าจะเป็นเนื้อเรื่อง หรือบทบาทของตัวละครในเรื่อง ค่อนข้างดำเนินไปในทางที่ซอฟท์มากๆ ในเหตุการณ์แบบเดียวกันที่เราเคยเห็นในซีรีย์หรือหนังเรื่องอื่นๆ อาจพาไปถึงจุดที่เป็นความรุนแรงได้หมดทุกตัวละคร แต่ในซีรีย์ชุดนี้กับไม่พีคขนาดนั้น อย่างเช่นพี่สาวของฮิลดี้ที่ก็ไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่น้องสาวตัวเองทำ ในเรื่องการนำเสนอข่าว เพราะมันทำพี่สาวของฮิลดี้ไม่สามารถเข้ากับเพื่อนได้ แต่ไม่ว่าจะไม่พอใจยังไง สุดท้ายเธอก็ยังแสดงความเป็นห่วงฮิลดี้เสมอ หรือแม้แต่บทนายอำเภอที่กำลังถูกฮิลดี้ ขุดคุ้ยหาความจริงเกี่ยวกับคดีที่เขาเคยปิดเมื่อ 31 ปีก่อน ก็ดูเหมือนไม่ได้ทุกข์ร้อนอะไรมากนัก คนที่ร้อนรนกับเป็นลูกชายของเขาซึ่งเป็นเพื่อนในวัยเด็กกับพ่อของฮิลดี้เสียมากกว่า

 

การสืบและการทำข่าว

ฮิลดี้ เป็นเด็กที่ฉลาด ช่างสังเกตุ และมีความจำดี ซึ่งเป็นทั้งคุณสมบัติที่ดีของนักสืบและนักข่าว นั่นจึงช่วยให้เธอปะติดปะต่อเรื่องราวต่างๆ เพื่อไขปมปริศนาและหาจุดเชื่อมในการแกะรอยใหม่ๆ ไปได้เรื่อยๆ ซึ่งการสืบคดีที่ผ่านมาแล้วถึง 31 ปี เธอจึงกลับไปเริ่มต้นที่หนังสือรุ่น โดยเธอไปคุยกับบุคคลต่างๆ ทั้งเพื่อนพ่อ และคุณครูของพ่อเธอในสมัยนั้น รวมถึงนักโทษที่ถูกจับในคดีเมื่อ 31 ปีก่อนด้วย อีกทั้งยังมีเจ้าหน้าที่สาวผิวสีในสำนักงานนายอำเภอที่คอยเป็นแหล่งข่าวนิรนามให้เธอ โดยหลังจากที่ทุกคนได้เห็นความพยายามในการหาความจริงของฮิลดี้ ก็ทำให้เธอมีแนวร่วมมากขึ้น ทั้งจากคนในครอบครัวและเพื่อนๆ ที่โรงเรียน

 

เรื่องขัดใจส่วนตัว

เหตุการณ์ของเนื้อเรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นในเมืองอิรีฮาร์เบอร์ ซึ่งชื่อก็บอกแล้วว่าน่าจะเป็นท่าเรือ ยอมรับว่าโลเคชั่นในหลายๆ ฉากเลือกได้ค่อนข้างสวย โดยเฉพาะฉากป่าที่พี่สาวกับแฟนไปเที่ยวกันก่อนที่จะเจอกระท่อมลับของพ่อและเพื่อนๆ ในวัยเด็ก รวมถึงบริเวณที่เป็นท่าเทียบเรือจำนวนมาก ที่แม่และน้องสาวของคนของฮิลดี้พลัดหลงกัน แต่ในความรู้สึกของผม ผมรู้สึกโลเคชั่นของสถานที่แต่ละแห่งดูไม่ค่อยสอดคล้องที่จะเป็นเมืองเดียวกันสักเท่าไหร่ ทั้งละแวกบ้าน ป่า และท่าเรือ ซึ่งต้องบอกว่าอันนี้เป็นความรู้สึกส่วนตัวที่ผุดขึ้นมาในขณะที่ดูเท่านั้น ไม่ได้มีผลต่อเนื้อเรื่องแต่อย่างใด

แล้วตกลงสนุกไหม

ชื่อในฐานะสื่อที่ฮิลดี้ใช้ในซีรีย์คือ The Magic Hour Chronicle ซึ่งเป็นการเขียนข่าวผ่าน เว็บคอมมูนิตี้ของโรงเรียน ซึ่งคนที่อ่านเว็บนั้นได้ก็มีทั้งนักเรียนในโรงเรียนและครอบครัวของพวกเขา ซึ่งนั่นก็หมายถึงคนทั้งเมือง ดังนั้นเวลาที่ฮิลดี้ โพสต์ข่าวอะไรคนทั้งเมืองก็จะเห็นข่าวนั้นด้วย เนื้อเรื่องอาจจะไม่มีความรุนแรง และในหลายๆ ในสถานการณ์ก็ไปไม่ถึงจุดพีค แต่ก็ถือว่าดำเนินเรื่องได้ไม่น่าเบื่อและมีความน่าติดตามอยู่พอสมควร ต้องยอมรับว่าน้องบรูคลินเล่นได้ดีมาก โดยเฉพาะฉากที่เธอไถสกูตเตอร์กลับบ้าน ด้วยอารมณ์ที่กำลังเสียใจแล้วมีจังหวะที่เสียหลัก คือฉากนั้นดูเรียลมากๆ ส่วนคนที่รับบทแมทพ่อของฮิลดี้ก็ถือว่าแสดงได้ดี โดยเฉพาะช่วงที่ทั้งคู่เริ่มสวมบท โฮล์ม และวัตสัน ช่วยกันสืบหาข้อมูล ทำให้ดูเป็นซีรีย์ครอบครัวที่สนุกแบบไม่มีพิษภัยจริงๆ

 

Leave a comment
The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!