รีวิว Black Summer ปฏิบัติการนรกเดือด ซีรีส์ซอมบี้ใหม่โดย Netflix
Black Summer ปฏิบัติการนรกเดือด ซีรีส์ซอมบี้ใหม่โดย Netflix
สรุป
ซีรีส์ซอมบี้เกรดบี ไม่เพอร์เฟ็คแต่สนุก ถ้าคุณเป็นแฟนซีรีส์และหนังซอมบี้อย่าง The Walking Dead, 28 Days Later และ World War Z ยังไงคงต้องดู แต่เตรียมใจเจอมุมกล้องสุดเวียนหัวและตัวละครบางตัวที่เล่นได้น่าถีบ
Overall
7.5/10User Review
( votes)Pros
- แอ็คชั่นเยอะ พูดน้อย
- ไม่ยืดเยื้อ
- มีฉากให้ลุ้นเยอะดี
Cons
- ความยาวบางตอนที่สั้่นเกินไปหน่อย ไม่ค่อยพอดีโดยรวม
- มุมกล้องชวนอ้วก
- ตัวละครมีความไม่สมเหตุสมผลและเล่นได้แข็ง
สงกรานต์นี้ถ้าไม่ไปไหน มาอ่าน รีวิว Black Summer ซีรีส์ใหม่จาก Netflix ชื่อไทยว่า ปฏิบัติการนรกเดือด กันดีกว่าครับ ถึงแม้ชื่อไทยมันจะดูไม่ค่อยเข้ากันนัก แต่ซีรีส์นี้ก็สนุกไม่หยอก
ใจคอจะไม่ให้มีเวลานอนกันเลยหรือไงครับ Netflix หลังจากส่ง The Silence มาเมื่อวาน วันนี้เปิดตัวซีรีส์ใหม่ 8 ตอนรวด Black Summer ซีรีส์ซอมบี้เกรดบีที่เต็มไปด้วยนักแสดงที่ไม่คุ้นหน้า แม้ว่าบางคนจะผ่านการเล่นหนังมีชื่อมาบ้างอย่างนางเอก Jaime King (Sin City, White Chicks)
สำหรับ Black Summer เป็นการเล่าถึงการเดินทางฝ่าฟันอันตรายของนางเอก โรส (Jaime King) เพื่อไปหาลูกสาวที่เกิดต้องพรากกันในตอนต้นเรื่องที่สนามกีฬา ซึ่งว่ากันว่าเป็นค่ายอพยพที่ทหารตั้งขึ้นเพื่อรองรับผู้รอดชีวิต
Black Summer ถือเป็นซีรีส์ที่สร้างโดย Netflix ที่เกี่ยวกับซอมบี้อีกเรื่องและผมคิดว่ามันสนุกใช้ได้เลยทีเดียวครับ แม้ว่าในความเป็นจริงไม่มีคอนเซ็ปต์อะไรใหม่เลย ถ้าคุณเป็นแฟนหนังซอมบี้และดูมาเยอะ ปฏิบัติการนรกเดือด นี้นำเอาไอเดียจากหนังซอมบี้หลายๆเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น 28 Days Later, The Walking Dead และ World War Z แถมมีกลิ่นอายของ Fear the Walking Dead อยู่ด้วย
[bs-quote quote=”ซีรีส์เกรดบีที่สนุก กดดัน และไม่สมเหตุสมผลในหลายๆอย่าง แต่ผมอยากแนะนำให้ดูสำหรับแฟนซอมบี้” style=”default” align=”left” author_name=”NiCK” author_job=”Reviewer”][/bs-quote]
จุดที่ผมชอบคือความกดดันของการนำเสนอที่แทบไม่ให้เราพักหายใจ ตรงนี้ทำให้ซีรีส์มีแค่ 8 ตอนเพราะตัดความยืดเยื้อออกไป แถมบางตอนสั้นแค่ 20 นาทีและสิ่งที่ทำให้ผมงุนงงคือ บางตอนควรจับมารวมกันแทนที่จะแยก เพราะว่าในช่วงเริ่มแรกนั้น ตอนนึงจะยาวประมาณ 35-40 นาทีครับ เป็นไปได้ว่าโดนตัดลงเพื่อให้กระชับ
ซีรีส์ใช้มุมกล้องตามหลังนักแสดงในหลายๆฉากและมีการเคลื่อนไหวของกล้องเยอะและไว ตรงนี้อาจจะทำให้บางคนเวียนหัวได้นะครับ ยิ่งถ้าใครดูบนรถด้วยไม่ควรอย่างยิ่ง มุมกล้องแบบนี้ช่วยเพิ่มอารมณ์ความตื่นเต้นและด้วยความที่ซีรีส์มีฉากแอ็คชั่นเยอะ เราจะได้เห็นมุมกล้องแบบนี้ค่อนข้างบ่อย
ซอมบี้มีความดุดเดือดและค่อนข้างฉลาดกว่าซอมบี้เรื่องอื่นๆ ที่สำคัญพวกมันวิ่งไวมากแถมตามกัดไม่เลิกด้วยนี่สิ แถมกลายร่างไวมาก เรียกว่าไม่ทันตั้งตัว (คุ้นๆไหมครับ) ส่วนสิ่งที่ต่างกับซอมบี้ที่เราคุ้นเคยคือความเละ ซอมบี้ใน Black Summer จะดูไม่เละแหวะมากนักแต่อาจจะเป็นเพราะเป็นแค่ช่วงเริ่มต้นเกิดเรื่อง
หนัง/ซีรีส์ซอมบี้ ขาดไม่ได้เลยคือความไม่ฉลาดของตัวละคร แต่เรื่องนี้ส่วนเหล่านั้นถูกตัดตอนออกไปค่อนข้างเยอะ นั่นแปลว่าเราจะไม่ค่อยได้หงุดหงิดกับตัวละครมากนัก แต่สิ่งที่เราจะหงุดหงิดคือการแสดงของตัวละครบางตัวที่แสดงได้แข็งและบทบาทไม่สมเหตุสมผลเลย
อย่างเช่นตัวละครรองที่เป็นคนเกาหลี ที่นางพูดภาษาอังกฤษไม่ได้เลยพูดแต่ภาษาเกาหลีทั้งเรื่อง แต่ซีรีส์กลับทำให้ตัวละครอื่นๆในเรื่องเหมือนฟังเจ๊แกออก แถมซับก็ไม่ใส่มาให้เราด้วย ใครดูจะพลาดรายละเอียดตรงจุดนี้ไปเยอะครับ เว้นแต่เราจะฟังเกาหลีออก แถมนางแสดงได้แข็งและแอ็คติ้งเวอร์กว่าความเป็นจริงมากๆ ดูแล้วหงุดหงิดใจมากกว่าอะไรทั้งปวง
โดยรวมผมยกให้ซีรีส์นี้เป็นอีกเรื่องจาก Netflix ที่แฟนซอมบี้ไม่ควรพลาดครับ แม้ว่าในซีซั่นแรกจะมีการนำเสนอที่อาจจะน่าหงุดหงิดไปนิด เพราะกระโดดไปกระโดดมา เพื่อเป็นการแนะนำตัวละครและพยายามช่วยเราปะติดปะต่อเรื่อง แต่ผมรู้สึกว่ามันกระโดดถี่เกินไปนิด น่าจะตัดทอนให้มันดูต่อเนื่องมากกว่านี้
นอกนั้นในแง่ของความกดดันทำออกมาได้ดีเลยทีเดียว ถ้าคุณมองข้ามความไม่สมเหตุสมผลของมันไปได้ ซีรีส์นี้ก็ดูเพลินไม่น้อยเลยแหละครับ
- หวังว่า รีวิว Black Summer ปฏิบัติการนรกเดือด จะมีประโยชน์กับผู้อ่านในการตัดสินใจดูนะครับ ใครดูแล้วคิดเห็นยังไงคอมเม้นต์มาคุยกันได้เลย