Triple Threat
สรุป
ถ้าคุณเป็นคนชอบฉากบู๊ เรื่องนี้ถือว่าจัดมาให้เต็มๆ เนื้อเรื่องไม่ต้องพูดเยอะ เจ็บคอ เพราะไม่ค่อยมี
Overall
6.5/10User Review
( votes)Pros
ฉากบู๊สุดมันจากพระเอก 3 ประเทศ
Cons
- เนื้อเรื่องบางเบาเหมือนไม่มี
- นักแสดงยังแสดงในส่วนนอกเหนือบทบู๊ไม่ได้อารมณ์
Triple Threat หนังที่จับรวมสตั๊นท์แมนระดับแนวหน้าของเอเชียมาเล่นหนังเรื่องเดียวกันถึง 3 คน 3 สัญชาติ จะมันส์ดุเดือดแค่ไหนอ่าน รีวิว ด้านล่างได้เลย
จา พนม นักแสดงบู๊สัญชาติไทย ที่โด่งดังไปไกลถึงฮอลลีวูดจากภาพยนตร์เรื่อง องค์บากและต้มยำกุ้ง แถมได้เล่นหนังกระทบไหล่ดาราดังๆ มาแล้วก็หลายคน แต่ในเรื่องนี้
เขาจะได้กระทบไหล่ดาราสตั๊นท์ชั้นแนวหน้าของเอเชียคนอื่นๆ ด้วย อย่าง Iko Uwais (อินโดนีเซีย) ที่เป็นหนึ่งในตัวละครหลักในหนังเรื่อง Mile 22 เล่นประกบ Mark Wahlberg
รวมถึงนักแสดงสตั๊นท์จากจีน อย่าง Tiger Chen ที่ผ่านการร่วมงานกับฮอลลีวูดมาอย่างโชกโชน (The Matrix, Charlie’s Angels, Kill Bill)
และอีกคนที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้ ถ้าใครยังจำกันได้ น้อง จีจ้า ญาณิณ นักบู๊สาวของเรานั่นเองครับ เธอรับบทเป็นหนึ่งในทหารรับจ้างของฝั่งตัวร้ายที่คอยไล่ล่า 3 ตัวเอกของเรา
พล็อตเรื่องนี้คือเบาบางดั่งกระดาษ A4 แค่ 3 แผ่น ถ้าจะหวังพล็อตตื่นเต้นลึกน่าค้นหา คุณดูผิดเรื่องแล้วล่ะครับ เนื่องจากว่าตัวหนังถูกวางมาเน้นบทบู๊แอ็คชั่นมากกว่าสิ่งอื่นใด เอาเป็นว่าเนื้อหาหลักของหนังคือการแก้แค้นของ Jaka (Iko Uwais) และการพยายามกำจัดนักธุรกิจสาวชาวจีนที่ต้องการบริจาคเงินเพื่อช่วยต่อสู้คอรัปชั่นและดันไปขัดผลประโยชน์กับตัวโกงเลยโดนสั่งเก็บ ส่วนพระเอกของเราก็โดนหลอกใช้งานจนทำให้เกิดเรื่องวุ่นวายทั้งหมดขึ้น
[bs-quote quote=”เรื่องนี้ไม่เน้นบท แต่เน้นแอ็คชั่นเป็นหลัก ดาราแสดงไม่ถึงอารมณ์นัก แต่นะก็หนังบู๊นิ” style=”style-4″ align=”left” author_name=”NiCK” author_job=”Reviewer”][/bs-quote]
พล็อตก็มีเท่านี้ครับและมันก็เป็นข้อเสียใหญ่หลวงของ Triple Threat การเล่าเรื่องที่กระโดดไปกระโดดมา ดูแล้วขัดใจเป็นบางที แต่สิ่งที่ทำให้หนังไม่น่าเบื่อคงจะเป็นบทบู๊ๆของเหล่าตัวเอก 3 หน่อ ที่ลีลาการต่อสู้ของแต่ละคนก็มีความแตกต่างกัน โดยเฉพาะเฮีย จา ของเรา
ฉากบู๊ของ จา พนม ยังคงมีความคล้ายคลึงกับหนังอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นท่าพุ่งเข่าใส่ศัตรู ท่าตีลังกาฟาดหาง ท่าประจำตัวมาครบ ส่วนของนักบู๊คนอื่นก็ไม่น้อยหน้า ด้วยลีลาที่รวดเร็วดุเดือด หมัดมวยจีนที่โหดไม่แพ้กัน
ตัวหนังเลือกนักแสดงฝ่ายศัตรูโดยเน้นขนาดตัวที่ใหญ่กว่าตัวเอกของเราตามแบบฉบับหนังบู๊ที่ ถ้าไม่ฝีมือแพรวพราว ก็ต้องอึดเป็นรถถังถึงจะสู้กันมันหยด และหนังก็มีการจัดวางตัวละครได้กำลังดี เน้นเยอะ จากนั้นก็ค่อยๆกำจัดไปทีละคนจนถึงจุดไคลนแม็กซ์
จา พนม ดูเหมือนจะมีบทพูดค่อนข้างน้อย ซึ่งเอาจริงๆก็ไม่ค่อยต่างจากหนังอินเตอร์เรื่องอื่นๆที่เขาแสดงมาก่อนหน้านี้ ผมเองแอบหวังว่า จา จะได้บทบาทในส่วนของการแสดงนอกเหนือจากการบู๊มากกว่านี้ในหนังเรื่องอื่นๆในอนาคต
การถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้ถ่ายทำในประเทศไทย ฉากต่างๆก็จะคุ้นตาเราเป็นพิเศษนะครับ รวมถึงภาษาของตัวละครประกอบนอกเหนือนักแสดงหลักก็พูดภาษาไทย อย่างตำรวจเป็นต้น
การถ่ายทำหนังบู๊ก็จะมีฉากยิง เตะต่อย กระโดด ระเบิด กระสุนปลิวว่อน ครบเลย แต่สิ่งนึงที่รู้สึกได้คือหนังให้ความรู้สึกเป็นหนังเกรดบีโดยแท้ทรู ด้วยมุมกล้อง การเกรดสีและพร็อพที่ใช้ในหนังเรื่องนี้
หนังเหมาะกับแฟนๆหนังบู๊ที่ต้องการผ่อนคลาย ไม่ต้องคิดมากเวลาดู ด้วยฉากบู๊ที่ขนมาไม่ขาดสายตลอดเรื่องและการจับ 3 นักแสดงสตั๊นท์ระดับแนวหน้าของโลกมาเล่นด้วยกัน เรื่องนี้ยังไงก็ควรมีติดลิสหนังไว้ครับ ดูผ่านเน็ตฟลิกคลิกที่นี่ครับ
ตัวอย่างหนัง Triple Threat Netflix
- หวังว่า รีวิวนี้จะมีประโยชน์กับคอหนังไม่มากก็น้อยนะครับ คิดเห็นอย่างไรคุยกันได้ด้านล่างเลย
อ่านรีวิวหนังอื่นๆ คลิ๊กที่นี่