The Rain เดอะ เรน ซีซั่น 2 รีวิว
สรุป
อาจจะน่าเบื่อเป็นบางช่วง แต่เนื้อเรื่องน่าติดตาม เป็นซีซั่น 2 ที่ยังคงทำได้น่าติดตาม เพียงแต่ว่าการเล่าเรื่องอาจมีน่าเบื่อบ้างในช่วงกลางเรื่อง แต่ก็ไม่ได้แย่ถึงขั้นต้องปิด
Overall
8/10User Review
( votes)Pros
- เนื้อเรื่องน่าติดตาม
Cons
- ดำเนินเรื่องชวนง่วงในบางตอน
- ดราม่าเยอะเกินพอดี
The Rain ซีรีส์ผลิตโดย Netflix จากประเทศเดนมาร์คที่ได้รับความนิยมในซีซั่นแรก วันนี้กลับมาในซีซั่น 2 จะสนุกขนาดไหนมาดูกัน
จบซีซั่นแรกได้ตื่นเต้นแม้ว่าช่วงกลางเรื่องจะชวนหลับไปนิดสำหรับ เดอะ เรน ในซีซั่นที่ 2 ด้วยจำนวนตอนที่ลดลงเหลือเพียง 6 ตอนและแต่ละตอนเฉลี่ยอยู่ที่ราว 40-45 นาที เดอะ เรน เป็นซีรีส์ที่เกียวกับไวรัสประหลาดที่มากับฝนและฆ่าชีวิตคนไปเป็นจำนวนมาก สองพี่น้องตัวเอกของเรื่องก็หนีเอาชีวิตรอดมาหลบในบังเกอร์หนึ่งซึ่งถูกสร้างไว้เหมือนรู้มาก่อนว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น
พวกเขาหลบอยู่ในนั้นเป็นเวลานานโดยรอคอยการกลับมาของพ่อ แต่แล้วก็ไร้วีแวว พวกเขาจึงเริ่มออกเดินทางตามหาพ่อ และระหว่างทางก็ได้ค้นพบกับความจริงอันน่าโหดร้ายมากมาย รวมถึงมิตรภาพและความรักด้วยเช่นกัน
ในซีซั่นสองนั้น จะมีการดำเนินเนื้อเรื่องต่อเนื่องจากตอนจบของ ซีซั่นแรกเลย โดยจะไม่มีการพักหรือท้าวความกลับไป ใครที่จำไม่ได้แนะนำให้เปิดดูตอนจบของซีซั่นแรกก่อนนิดนึงเพื่อรื้อฟื้นความจำนะครับ ส่วนใครไม่สะดวกดู อ่านสปอยด์ด้านล่างเลย ผมสรุปให้พอจำได้นิดนึง
พวกของซิโมนไปที่ Apollon สำนักงานใหญ่และรามุสได้ถูกนำเข้าไปรักษาโดยพ่อของเขา
ซิโมนค้นพบความจริงว่า รามุสแท้จริงแล้วเป็นพาหะและสามารถทำร้ายทุกคนที่เขาสัมผัส ทำให้พ่อเขาต้องตัดสินใจกักราสมุสไว้ไม่ให้ออกไปจาก Apollon ได้
แต่ซิโมนก็ไม่ยอมแพ้ในตัวน้อง เธอจึงพยายามพารามุสหนี ในขณะที่พ่อของพวกเขากำลังพยายามกำจัด ราสมุสเพื่อป้องกันไม่ให้ไวรัสแพร่กระจาย แต่ซิโมนก็ช่วยไว้ทัน พวกเขาจึงขับรถหนีออกมาจาก Apollon และไปเจอด่านดักและเกิดการจับตัวประกันขึ้น
จุดนั้นเองพวกเขาได้ค้นพบความจริงว่า Apollon ให้พวกเขากินแค็ปซูลที่แฝงเครื่องส่งสัญญาณไว้ มีเพียงซิโมนและราสมุสที่ไม่มี ทำให้มาตินพยายามบอกให้ทั้งสองคนหนีไป พวกเขาจะอยู่ แต่ซิโมนปฏิเสธและพาทุกคนหนีออกไปพร้อมกัน
เนื้อเรื่องสำหรับซีซั่น 2 จะเกี่ยวกับการพยายามหาทางช่วยเหลือ ราสมุสให้หายขาดจากไวรัส โดยที่ทาง Apollon เองก็ไม่ลดละที่จะตามล่าเขา ต้องบอกว่าในซีซั่น 2 นี้ยังคงมีดราม่าต่อเนื่อง รวมถึงจุดหักมุมบ้างเล็กน้อย แต่โดยรวมเรื่องค่อนข้างดำเนินช้าไปหน่อย ขนาดว่าเหลือแค่ 6 ตอนแล้วเท่านั้น
ตัวซีรีส์ในส่วนของเนื้อเรื่องทำได้น่าติดตาม แต่ดำเนินเรื่องช้าและแอบน่าเบื่อบ้างในบางจุด ทำให้คนดูขาดความสนใจและเบื่อได้ในบางช่วง แถมตัวละครบางตัวก็ไม่จำเป็นต้องใส่มาก็ยังได้ เสียโอกาสในการเล่าเนื้อเรื่องในจุดอื่นๆที่ยังไม่เคลียร์
ในส่วนของโปรดักชั่นในซีซั่นนี้ทำได้ดีขึ้น โดยเฉพาะคอมพิวเตอร์กราฟฟิค บทนักแสดงดราม่ามากขึ้นและตัวนักแสดงเองก็เล่นได้ดี แม้ว่าหนังจะให้ความรู้สึกไม่สุดในแง่การถ่ายทำเมื่อนำไปเทียบชั้นกับซีรีส์ที่สร้างโดย Netflix เรื่องอื่น
เดอะ เรน ซีซั่น 2 ถือว่าเป็นอีกซีรีส์ที่ทำได้น่าติดตาม แม้ว่าจะมีหลาดจุดที่ขัดหูขัดตาผมไปบ้าง แต่หลักๆแล้วคอนเซ็ปต์และเนื้อหาคือสิ่งตัดสินความน่าดูของซีรีส์นี้ และผมอยากแนะนำให้ดูกันครับ โดยเฉพาะคนชอบแนวโลกล่มสลายกับไซไฟ
ตัวอย่าง The Rain