รีวิวซีรีส์ ดาหลา บุปผา ฆาตกรรม (Netflix) ความงามที่ซ่อนปริศนาหลายชั้นได้อย่างแยบยล
ดาหลา บุปผา ฆาตกรรม
Summary
ซีรีส์แนวสืบสวนฆาตกรรมที่นำเสนอ “ญาญ่า” ในบทบาทอันโดดเด่นเป็นนักจัดดอกไม้อัจฉริยะผู้ผันตัวมาเป็นนักสืบ โดยคงความสง่างามราวกับนางแบบบนรันเวย์ ด้วยเครื่องแต่งกายแฟชั่นที่ประณีตงดงามตลอดทั้งเรื่อง แม้จะมีจุดไม่ลงตัวในด้านการแสดงและบทสนทนาที่หลายครั้งขาดความเป็นธรรมชาติ แต่การถักทอปมเรื่องราวระหว่างสองตระกูลใหญ่กลับทำได้อย่างน่าประทับใจ ด้วยฝีมือของผู้เขียนบทจาก “เลือดข้นคนจาง” การันตีความซับซ้อนของตัวละครที่เชื่อมโยงกันอย่างแยบยล ซึ่งค่อยๆ คลี่คลายและเฉลยออกมาได้อย่างลงตัว การหยิบศาสตร์การจัดดอกไม้มาผูกกับการคลี่คลายคดีก็ทำได้อย่างสร้างสรรค์และน่าสนใจ แม้จะมีข้อกังขาบางประการแต่ก็สามารถมองข้ามได้ นอกจากนี้จุดเด่นสำคัญคืองานโปรดักชั่นคุณภาพสูง ทั้งการจัดแสงที่สวยงาม และการใช้ CG สร้างฉากอินโทรที่แตกต่างกันในแต่ละตอน ซึ่งช่วยยกระดับซีรีส์ไทยเรื่องนี้ให้มีมาตรฐานระดับสากลได้อย่างน่าชื่นชม
Overall
7/10User Review
( vote)Pros
- ภาพสวย โปรดักชั่นคุณภาพระดับสากล
- คาแรคเตอร์นางเอก (ญาญ่า) มีเสน่ห์และโดดเด่นด้านแฟชั่น
- พล็อตสืบสวนซับซ้อนเชื่อมโยงกันดี หักมุมพอเหมาะ
- ใช้ศาสตร์จัดดอกไม้คลี่คลายคดีอย่างสร้างสรรค์
Cons
- การแสดงบางจุดไม่เป็นธรรมชาติ ขาดมิติทางอารมณ์
- บทเฉลยบางช่วงดูยัดเยียดและง่ายเกินไป
- ฉากรักแทรกมาแบบไม่จำเป็น ทำให้เสียจังหวะ
- ช่วงต้นเรื่องดำเนินช้าและติดขัด อาจทำให้คนดูบางส่วนเทก่อน
ADBRO
ดาหลา บุปผา ฆาตกรรม ซีรีส์ไทย Original Netflix 6 ตอนจบ แนวสืบสวนฆาตกรรม เมื่อลูกค้าต้องมาตายก่อนจะได้ลั่นระฆังวิวาห์ สาวนักจัดดอกไม้จึงต้องตามหาตัวฆาตกร และเปิดโปงความลับอันเลวร้ายในวงสังคมชั้นสูง… ขณะที่ต้องหาทางปกปิดความลับของตัวเอง
รีวิว ดาหลา บุปผา ฆาตกรรม (ไม่สปอยล์)
ซีรีส์ไทยที่นำ ‘ญาญ่า’ มารับบทนักสืบในคราบนักจัดดอกไม้นั้น โดดเด่นด้วยภาพลักษณ์ที่งดงามราวกับหลุดออกมาจากแคตวอล์ก ทั้งการแต่งกายและท่วงท่าที่แสดงออกถึงความเป็นอัจฉริยะในศาสตร์การจัดดอกไม้ ผสานกับการวางตัวแบบนักสืบในนวนิยายตะวันตกที่มีความสามารถในการสังเกตเหนือคนทั่วไป ทำให้ตัวละครนี้มีเสน่ห์ชวนติดตามอย่างเป็นธรรมชาติ
อย่างไรก็ตาม ความงดงามภายนอกนั้นกลับเป็นเพียงเปลือกที่ห่อหุ้มข้อจำกัดในการแสดง บทสนทนาหลายฉากดูเป็นการปรุงแต่งมากเกินไปจนขาดความเป็นธรรมชาติ แม้ลักษณะความเป็นลูกครึ่งและหน้าตาของเธอจะสอดคล้องกับบทบาทที่ได้รับอย่างลงตัว แต่การแสดงอารมณ์ผ่านสีหน้าที่นิ่งกลับดูขัดแย้งและไม่กลมกลืนในหลายฉาก จนทำให้ยากที่จะเชื่อว่าเธอสามารถถ่ายทอดตัวละครนี้ได้อย่างสมบูรณ์ ทั้งนี้ ความบกพร่องดังกล่าวอาจถูกบดบังด้วยความสวยงามของภาพลักษณ์ภายนอกที่ถูกออกแบบมาอย่างประณีต จนทำให้ผู้ชมสามารถมองข้ามข้อด้อยในการแสดงไปได้เช่นกัน
ตัวเรื่องนั้นได้นักเขียนบทมีชื่อเสียงถึงสองคนมาร่วมงานกัน ได้แก่ อาทิชา ตันธนวิกรัย เจ้าของผลงาน “เด็กใหม่” และ ฤทัยวรรณ วงศ์สิรสวัสดิ์ จาก “เลือดข้นคนจาง” ซึ่งก็เหมือนเป็นการกลับไปสู่แนวทางที่พวกเขาคุ้นเคย โดยนำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับตระกูลใหญ่ที่ทรงอิทธิพลระหว่างไทยกับจีนที่เชื่อมโยงกันผ่านการแต่งงาน พร้อมเปิดฉากด้วยเหตุฆาตกรรมตั้งแต่ต้นเรื่อง ก่อนจะย้อนกลับไปค้นหาสาเหตุและปมปัญหาทั้งหมด แล้วตามล่าหาตัวฆาตกรตัวจริง โดยมีฉากรวมตัวของตัวละครทั้งหมดในตอนท้ายเพื่อเฉลยความเชื่อมโยงของทุกคน ซึ่งนับเป็นสูตรสำเร็จพื้นฐานของงานแนวสืบสวนสอบสวน
จุดเด่นที่ทำได้ดีมากคือการถักทอเรื่องราวทั้งหมดเข้าด้วยกันและเฉลยออกมาได้อย่างลงตัว จากคดีฆาตกรรมนักการเมืองที่กำลังจะได้เป็นนายกรัฐมนตรี ค่อยๆ พัฒนาเป็นคดีที่แฝงไปด้วยเรื่องส่วนตัวอื้อฉาวที่ถูกปกปิด และยังโยงใยไปถึงความผิดของตัวละครอื่นๆ อีกมากมาย ไม่เว้นแม้แต่ตัวเอกอย่างดาหลาที่แท้จริงแล้วกลับเป็นทั้งจุดเริ่มต้นและแกนกลางของปัญหา การเชื่อมโยงความสัมพันธ์ของตัวละครทุกตัวไปจนถึงฉากเฉลยตอนท้ายนั้นทำได้อย่างแยบยล โดยใช้สกิลความรู้วิทยาศาสตร์ในการจัดดอกไม้ของนางเอกมาช่วยคลี่คลายคดีได้อย่างน่าทึ่งไม่น้อย ถึงตอนปิดคดีจะมีจุดที่ไม่สมเหตุผลอยู่บ้างแต่ก็พอมองข้ามได้ ตัวเรื่องยังมีการพลิกผันหักมุมเป็นระยะๆ ทำให้ผู้ชมไม่สามารถคาดเดาเรื่องราวได้โดยง่าย แต่ก็ยังคงความพอดีไม่ซับซ้อนจนเข้าใจยาก
อย่างไรก็ตาม จุดอ่อนของเรื่องคือวิธีการเฉลยระหว่างทางที่หลายครั้งดูเหมือนถูกยัดเยียดเข้ามาอย่างไม่เป็นธรรมชาติ อาทิ ฉากขึ้นแท็กซี่แล้วบังเอิญเจอคนขับที่เล่าคดีเก่าในอดีตจนทำให้เกิดการเชื่อมโยง หรือพยานในเครือญาติที่อยู่ดีๆ ก็ไปให้ข้อมูลกับตำรวจเพื่อนำไปสู่ฉากย้อนอดีตเพื่อเฉลยปมบางอย่าง รวมถึงการเฉลยปมของนางเอกที่ทำได้ง่ายเกินไปด้วยการให้เธอมองกระจกแล้วนึกถึงความลับในอดีตขึ้นมาทันที วิธีการเฉลยเหล่านี้ยังทำได้ไม่ดีพอที่จะทำให้เรื่องราวลื่นไหลและน่าติดตาม โดยเฉพาะในช่วงสองตอนแรกที่ยังมีความตะกุกตะกักหลายจุดก่อนที่เรื่องจะเริ่มเข้าที่เข้าทางในเวลาต่อมา ซึ่งอาจจะทำให้ผู้ชมที่ไม่มีความอดทนพอเททิ้งเรื่องนี้ไปก่อนก็ได้
นอกจากนั้น บทยังพยายามแทรกเรื่องความรักเข้าไปเป็นองค์ประกอบเล็กๆ ด้วยการสร้างตัวละครพระเอกที่เป็นบุคคลภายนอก พยายามเข้ามาทำความรู้จักและจีบดาหลา แม้เธอจะไม่ได้แสดงท่าทีสนใจตอบรับด้วยบุคลิกอันเย็นชาและความมุ่งมั่นในการไขคดี บทตรงนี้ดูเหมือนเป็นการเซอร์วิสผู้ชมให้ได้เห็นหนุ่มหน้าตาดีมาพยายามเอาใจและทำคะแนนกับสาวเย็นชาที่หลายคนหลงใหล
แม้จะไม่ใช่ส่วนที่แย่ของเรื่อง แต่องค์ประกอบความรักนี้กลับดูเป็นส่วนเกินที่ไม่จำเป็นต่อโครงเรื่องหลัก โดยเฉพาะเมื่อซีรีส์มีความยาวเพียง 6 ตอนเท่านั้น และเนื้อหาส่วนใหญ่ถูกอัดแน่นไปด้วยการสืบสวนสอบสวนที่เข้มข้น ทำให้ไม่มีพื้นที่เพียงพอที่จะพัฒนาความสัมพันธ์ให้ลึกซึ้งได้มากไปกว่าตอนจบที่นางเอกเพิ่งเริ่มเปิดใจให้พระเอกเท่านั้น
สิ่งที่ต้องชมเชยอย่างยิ่งคือคุณภาพงานโปรดักชั่นของซีรีส์เรื่องนี้ที่ทำได้อย่างยอดเยี่ยม ตั้งแต่การจัดแสงและเงาที่มีความสวยงามประณีต อีกทั้งยังมีการเล่นกับฉากอินโทรก่อนเข้าเรื่องหลักในทุกตอนด้วยการใช้ CG นำเสนอรายละเอียดของดอกไม้ที่มีลักษณะแตกต่างกันไป ซึ่งสอดคล้องกับธีมและเนื้อหาเฉพาะของแต่ละตอน การใส่ใจในรายละเอียดเหล่านี้ช่วยยกระดับงานโปรดักชั่นให้ดูมีความปราณีต มีมาตรฐานระดับสากล และสร้างเอกลักษณ์ที่โดดเด่นให้กับซีรีส์เรื่องนี้ได้อย่างน่าประทับใจ
สรุป ซีรีส์แนวสืบสวนฆาตกรรมที่นำเสนอ “ญาญ่า” ในบทบาทอันโดดเด่นเป็นนักจัดดอกไม้อัจฉริยะผู้ผันตัวมาเป็นนักสืบ โดยคงความสง่างามราวกับนางแบบบนรันเวย์ ด้วยเครื่องแต่งกายแฟชั่นที่ประณีตงดงามตลอดทั้งเรื่อง แม้จะมีจุดไม่ลงตัวในด้านการแสดงและบทสนทนาที่หลายครั้งขาดความเป็นธรรมชาติ แต่การถักทอปมเรื่องราวระหว่างสองตระกูลใหญ่กลับทำได้อย่างน่าประทับใจ ด้วยฝีมือของผู้เขียนบทจาก “เลือดข้นคนจาง” การันตีความซับซ้อนของตัวละครที่เชื่อมโยงกันอย่างแยบยล ซึ่งค่อยๆ คลี่คลายและเฉลยออกมาได้อย่างลงตัว การหยิบศาสตร์การจัดดอกไม้มาผูกกับการคลี่คลายคดีก็ทำได้อย่างสร้างสรรค์และน่าสนใจ แม้จะมีข้อกังขาบางประการแต่ก็สามารถมองข้ามได้ จุดเด่นสำคัญคืองานโปรดักชั่นคุณภาพสูง ทั้งการจัดแสงที่สวยงาม และการใช้ CG สร้างฉากอินโทรที่แตกต่างกันในแต่ละตอน ซึ่งช่วยยกระดับซีรีส์ไทยเรื่องนี้ให้มีมาตรฐานระดับสากลได้อย่างน่าชื่นชม